Florian Bogner นักวิจัยด้านความปลอดภัย รายงานช่องโหว่ AVGate ของโปรแกรมแอนตี้ไวรัสหลายตัว ที่ไวรัสสามารถเจาะผ่านแอนตี้ไวรัส เพื่อเข้าควบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ได้
ปกติแล้วแอนตี้ไวรัสจะนำไฟล์ต้องสงสัยไปเก็บในโฟลเดอร์ Quarantine เพื่อตรวจสอบพฤติกรรม แต่ถ้าแฮ็กเกอร์รู้ช่องโหว่ของระบบไฟล์ NTFS ก็สามารถนำไฟล์นั้นกลับไปใส่ไว้ในโฟลเดอร์สำคัญๆ อย่าง C:\Windows หรือ C:\Program Files ได้
ช่องโหว่นี้ช่วยให้ไวรัส-มัลแวร์สามารถเข้าถึงสิทธิผู้ดูแลระบบ ซึ่งระบบปฏิบัติการป้องกันเอาไว้ค่อนข้างดี แต่เมื่อแอนตี้ไวรัสรันที่สิทธิผู้ดูแลระบบ ก็ใช้วิธีการเจาะผ่านแอนตี้ไวรัสแทน
โปรแกรมที่พบช่องโหว่ลักษณะนี้มี 6 ตัวคือ Emisoft, Ikarus, Kaspersky, Malwarebytes, Trend Micro, ZoneAlarm ซึ่งทุกรายแพตช์แก้ปัญหาเรียบร้อยแล้ว หลังได้รับการติดต่อจาก Bogner แต่เขาก็บอกว่ามีอีก 7 โปรแกรมที่พบช่องโหว่แบบเดียวกัน และยังไม่เผยชื่อในตอนนี้
ที่มา - Florian Bogner, Ars Technica
Comments
อ่านถึงรายชื่อโปรแกรมแอนตี้ไวรัสโชคดีไม่มีชื่อโปรแกรมที่เราใช้อยู่ อ่านต่อมาอีกบรรทัดเอาเวรหรือโปรแกรมที่เราใช้อยู่ยังไม่ได้อัพเดทอุดให้
คิดเหมือนกันเป๊ะ สยองไปอี๊กกกก
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เรื่องสยองสองบรรทัดของแท้ -*-
เกิดอีก 7 โปรแกรมหวยออกเป็น Windows defensder นี่มีงานงอกแหงม
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
นั่นสิ
อ่านข่าวจบ เปิดโปรแกรมยี่ห้อ B* ขึ้นมาพบว่ามีอัพเดทที่ต้อง restart โหลดมารอล่วงหน้าอยู่แล้ว...
ESET NOD32 บังคับให้อัพเดตโดยด่วนเมื่อ 2 วันมานี้
หันไปดูว่าของเราโดนบ้างรึเปล่า
อ่าว ไม่ได้ลง Antivirus ไว้
Common Sense 2017