เป็นที่ทราบกันดีถึงสเปคภายในของ Surface Book 2 รุ่นขนาดจอ 15 นิ้ว ไม่ว่าจะเป็น Core i7 รุ่นที่ 8 บวกกับ NVIDIA Geforce GTX 1060 แสดงถึงขุมพลังในการเล่นเกมได้อย่างดี
อย่างไรก็ตามด้วยสเปคที่โหดถึงเพียงนี้กลับย้อนมาทำร้ายตัวเองเสียแล้ว เพราะจากผลการทดลองเล่นเกมโหด ๆ อย่างเช่นเกม Destiny 2 ด้วยการตั้งค่าการใช้พลังงาน 'Best performance' ของวินโดวส์นั้นปรากฎว่าแบตเตอรี่ลดลงด้วยอัตรา 10% ต่อชั่วโมงเป็นอย่างน้อย แม้จะเสียบอะแดปเตอร์อยู่ก็ตาม
ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าอะแดปเตอร์ขนาด 95 วัตต์ ที่แถมมานั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภคพลังงานของตัวเครื่องเอง ผู้ใช้ต้องปรับสเปคของเกมที่เล่นลงมา หรือปรับโหมดการใช้พลังงานจาก 'Best performance' ลงมาเหลือแค่ 'Better performance' แต่ต้องแลกกับประสิทธิภาพของเกมที่ลดลงอย่างมากแทน
ผู้เขียนแปลกใจว่าทำไมถึงปล่อยให้อุปกรณ์มีการใช้ไฟเกินกว่าไฟที่จ่ายเข้าระบบ ทั้งที่เป็นระบบซึ่งถูกออกแบบมาเป็นชุดเดียวกันแล้วแท้ ๆ
Comments
เว้นวรรคหลัง comma ด้วยครับ แล้วก็ใช้ตัวเล็กใหญ่ตามชื่อต้นทางด้วยครับ
สเปค
รับทราบครับ
อีกนิดครับ
ะบบ -> ระบบ
ทำไมพลาดอะไรแบบนี้ได้เนี่ย เห็นคำนวณกันแล้วแค่ CPU + GPU สองอย่างก็กินพลังงานได้มากกว่าไปจ่ายเข้าแล้วยังไม่รวมหน้าจอเลย
แต่ลดชั่วโมงละ 10% นี่ก็ยังเรียกว่าเอาอยู่ได้อยู่นะ เพียงแต่มันไม่ควรพลาด หวังว่าจะแก้ด้วยการเปลี่ยน adapter ให้ใหม่ได้โดยไม่ติดขัดกับระบบภายใน
น่าห่วงว่าพอร์ต Surface Connect จะรับไฟได้มากเท่าไหร่
ตัวพอร์ตไม่น่ามีปัญหานะครับ (ผมเทียบเอาจากว่า USB-C ยังรับได้) แต่วงจรข้างในนี่ไม่แน่
ลดชั่วโมงละ 10% พอเข้าใจ แต่พอบอกว่าลด 10% ทั้งๆ ที่เสียบปลั๊กอยู่นี่... ไม่ใช่ละ
ใช่ครับมันไม่ควรเกิด ที่ผมว่าพอได้คือมันก็ยังพอเล่นเกมสบายสบายใจได้ว่าไม่ดับเร็วๆ นี้เฉยๆ
เสียบ usb c ชาร์จไฟเข้าไปพร้อมกันกับช่องปกติน่าจะเอาอยู่รึเปล่า
แต่แบตลดแบบนี้ผมก็ ok นะ ถ้าเล่นปรับ best performance แบบนั้น อย่างน้อย 9 ชั่วโมงมันก็ต้องมีพักมั่งล่ะ
ถ้ามันรับหลาย source ได้นะครับ
ใช่ครับลดไม่ถึงขั้นเลวร้ายแต่คือไม่น่าพลาด
เพิ่มเติมครับ - เสียบสอง source ไม่รองรับนะครับ เสียบสองทางจะใช้ไฟจากแค่ Surface Connect (ณ ตอนนี้)
จากที่หาๆ ข้อมูลมา มีคนบอกด้วยว่าถ้าเลือก USB-C เป็นหลักแบบแอปเปิลก็รอด แต่ไม่นะครับ ทางนั้นก็ได้แค่ 100W ออกมาสภาพก็ไม่ต่างกัน
ถ้าพอร์ตมันรองรับได้แค่นี้จริงๆ ทางแก้คงมีแค่ให้เสียบพร้อมกันสองอย่าง (gaming laptop บางตัวก็ต้องเสียบสองปลั๊กเหมือนกันนะ)
เห็นจาก windows central มาพักนึงล่ะครับ กับ source อื่น ๆ ส่วนตัวผมมองว่าเปลี่ยนช่องยังไงก็ไม่รอดอ่ะครับ บางที่ก็คำนวนมาเห็นว่า พีค ๆ แทบจะ 125W สายอะไรก็คงเอาไม่อยู่ นอกจากเสียบคู่
แล้วปัญหานี่ก็เหมือนจะเป็นแค่บนรุ่น 15 นิ้วซึ่งผมก็ไม่สนล่ะ ฮา ผมมอง ๆ ไว้แค่รุ่น 13 นิ้วแค่นั้น
จริงๆ สนรุ่น 13 นิ้วนะครับ แต่โดนตัดนู่นตัดนี่จน 15 แลจะคุ้มกว่า (คือมีเงื่อนไขว่าต้องแรม 16GB อยู่ ?)
ทำอะไรไม่ได้ครับ และเป็นสิ่งที่ MS รู้อยู่แล้ว (แต่ไม่ได้บอก)
หลักๆ Port ของ Surface ไม่ได้รองรับไฟขนาดนั้น ต่อให้เปลี่ยน power brick ก็ไม่ช่วยอะไร
spec ระดับนี้ peak รวมๆ อาจจะไปถึง 130-140W ได้เลย
สรุป spec แรง แต่ใช้งานหนักต่อเนื่องไม่ได้ เป็นการทำ spec ไว้ข่มชาวบ้านเฉยๆ
ขี้เกียจสั่งผลิต Adaptor ใหม่อีก lot หรือไงเนี่ย
Notebook เจ้าแรกในโลกเลยมั้งที่เป็นแบบนี้ (แต่มันเป็นปัญหาที่ไม่ควรเกิดขึ้นด้วยซ้ำ)
MacBook Pro ก็เคยเป็นครับ แต่ไม่ได้เป็นทุกเครื่อง รู้สึก Apple จะรับเครื่องคืนด้วยถ้าตรวจสอบว่าเป็นจริง
15” mid 2012 เป็นหมดครับ ไม่เคยเจอเครื่องที่ไม่เป็น ส่วน gen ล่าสุดไม่เคยลองงานเยอะไม่ค่อยมีเวลาเล่นเกมพวกนี้แล้ว
แอบลดต้นทุน
แบตน่าจะเสื่อมรัวๆ
เพราะอะไรหรอครับ
เพราะCycleแบตมันวิ่งตลอดไงครับ
ปกติเวลาต่อสาย คอมมันควรใช้ไฟจากอแดปเตอร์โดยตรง แต่ในกรณีนี้ไฟไม่พอ เลยต้องใช้ไฟจากแบตเพิ่ม ทำให้แบตมีการใช้งานอยู่ตลอดแทนที่จะได้พัก มันเลยเสื่อมไวขึ้นครับ
จริงหรอครับ พอมีแหล่งอ้างอิงข้อมูลไหม
https://support.apple.com/en-us/HT201585 อ่ะครับ เรื่อง charges cycle
สงสัยว่าถ้าเล่นเกมสี่ห้าชั่วโมงมันน่าจะชาร์จหลังเล่นเสร็จหรือเปล่าครับ มันไม่น่าเปลือง cycle ขนาดนั้น เพราะถ้าชาร์จไปใช้ไป ทั้งเอาไปใช้ยังไม่พอเลยไม่น่าจะพอชาร์จแบต ต่อให้เอาไปเล่นเกมทุกวันก็ไม่น่าจะต่างจากใช้ประจำวันเท่าไหร่ แต่ระบบจ่ายไฟก็จ่ายไฟได้น้อยเกินอาจจะเพราะความร้อนกับข้อจำกัดความบางอย่างของเครื่อง...
ก็ไม่น่าพลาดกับเรื่องง่ายๆนะ
หาใช้ตัวอื่นครับ
HW MS ทุกตัวมีปัญหาทุกปีจริมๆ
อาการแบบนี้ นินเทนโดสวิตช์ก็เป็นครับ ...สเป็คมันกินไฟหนักกว่า input
ใช่เหรอ.. switch ต่อ dock เสียบไปเล่นไปนานแค่ไหนยังไงแบตมันก็ไม่ลดจนดับหรอก
เอาจริง ๆ ไม่น่าใช่ปัญหาใหญ่อะไรสำหรับผมนะ ผมคิดว่า MS ก็คิดเหมือนกัน คือ Surface Book มันไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเล่นเกมเป็นหลัก Gaming notebook ดี ๆ สแปกแรงกว่าราคาถูกกว่า ระบายความร้อนดีกว่า เลยไม่ได้เผื่อแดปเตอร์เอาไว้ให้จ่ายไฟเท่ากับ Peak load ของตัวมันเพราะใช้งานทั่วไปยังไงก็ไม่ถึง ลดวัตลงมาเพื่อให้อแดปเตอร์เบาลงพกพาง่ายกว่าน่าจะตอบโจทย์คนซื้อ Surface Book มากกว่า ส่วนคนเอา Surface book มาเล่นเกมนาน ๆ ทีก็ไม่น่าจะมีปัญหาเท่าไรกับตรงนี้
ส่วนคนที่เล่นเกมทุกวันด้วยแลบทอป ซื้อ Gaming laptop เถอะครับ สเปกนี้ราคาครึ่งเกียวของ Surface book มั้ง
ผมว่าเคสนี้ MS ผิดนะครับ
เพราะว่า Geforce ถูก design มาสำหรับทำงานด้านเล่นเกมอยู่แล้ว ถ้าจะ Design ให้เล่นเกมได้ต้องคำนึงถึงเรื่องพลังงานที่จะใช้ด้วย ถ้าต้องการให้ใช้งานอื่นๆ น่าจะยัด Quadro รุ่นเล็กๆมาแทนมากกว่า
เห็นด้วยครับ ถ้าคิดงั้นจริงแล้ว Quadro ยังแพงไปก็น่าจะยัด 1050 Ti หรือแม้แต่ 1050 มาแทนไปเลย
ไม่นะครับ เดี๋ยวนี้กราฟฟิคการ์ดไม่ใช่ไว้เล่นเกมอย่างเดียวนะครับ ตั้งแต่มี CUDA เรนเดอร์งาน Premier หรือทำโมเดล 3 มิติก็ใช้การ์ดจอนะครับ Quadro รุ่นเล็ก ๆ ประสิทธิภาพการทำงานสู้ GTX 1050 หรือ 1060 ไม่ได้นะครับ ต่อให้เป็นการทำงานก็ตาม
หรือบางคนเอามาขุดเหมืองยังมีเลย แต่อันนั้นใช้ไฟมหาศาลมากกว่า 555
ใช่แล้ว gtx บ้านๆ เรนเดอร์งานไวกว่า Quadro เห็นๆ
ขุดเหมืองนี่ต้อง Desktop อย่างเดียวมั้งครัฟ
ขืน Laptop นี่มีหวังอายุขัยร่วงแน่ LOL
ปัญหาคือเจ้าอื่นเค้าให้มาพอกับอัตราการใช้พลังงานสูงสุดของ laptop แต่ MS ไม่ให้ อย่าง laptop เครื่องเก่าของผม ASUS K43TA ถ้าบังคับให้มันใช้พลังงานสูงสุดเท่าที่มันจะทำได้ มันจะชาร์จแบตฯ ได้แค่ 3% ต่อชั่วโมงเองครับ
บัญหาคือมันดันติดโฆษณาไว้ว่าเล่นเกมได้ด้วยนี่สิครับ
ผมว่าผมมีอุปกรณ์แบบนี้อยู่หลายชิ้นเหมือนกัน ผมมีแม้กระทั่งอุปกรณ์ที่จะไม่ชาร์จไฟถ้าเครื่องเปิดอยู่ด้วยซ้ำ (เช่น
ลำโพง Bluetooth ของ Sony) ซึ่งอุปกรณ์พวกนี้จะใช้ไฟจากแบทเท่านั้นด้วยครับ
จริง ๆ มือถือนี่บ่อยเหมือนกันนะครับ Skype Video Call ผ่าน 4G (สมัย 4G มาใหม่ ๆ)
นี่ชาร์จไฟไม่ทันเหมือนกัน อาจจะเพราะเครื่องมันร้อนจนแบตชาร์จไม่ค่อยเข้าหรือเปล่าไม่แน่ใจนะครับ
แต่ทุกวันนี้ไม่มีปัญหาแล้วครับ เพราะเลิกใช้ Skype ไปแล้ว