HappyFresh แอปบริการส่งสินค้าอุปโภค-บริโภคจากซูเปอร์มาร์เก็ต ประกาศยุติการให้บริการในประเทศไทย และมาเลเซีย มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หลังดำเนินการมา 7 ปี โดยให้สาเหตุจากวิกฤติทางเศรษฐกิจ

HappyFresh เป็นสตาร์ทอัพจากอินโดนีเซีย โดยก่อนหน้านี้ 1 วัน บริษัทเพิ่งกลับมาให้บริการต่อในอินโดนีเซีย หลังจากหยุดให้บริการชั่วคราวหลายสัปดาห์ ซึ่งมาพร้อมกับเงินจากนักลงทุนก้อนใหม่ ที่มีเงื่อนไขให้บริษัทปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยการพิจารณาปิดกิจการในไทยและมาเลเซีย เป็นหนึ่งในเงื่อนไขนี้ด้วย

บริษัทก่อตั้งในปี 2014 โดยมีโมเดลธุรกิจคล้ายกับ Instacart คือให้ผู้ใช้งานสั่งซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ต ผลจากการปรับโครงสร้างนี้ทำให้ HappyFresh กลับมาโฟกัสธุรกิจเฉพาะในอินโดนีเซียเพียงแห่งเดียว

HappyFresh แอปส่งสินค้าอุปโภค-บริโภค ประกาศรับเงินเพิ่มทุนซีรี่ส์ D 65 ล้านดอลลาร์ นำโดยกลุ่มนักลงทุนได้แก่ Naver Financial Corporation และ Gafina B.V. รวมทั้งนักลงทุนเดิม Mirae Asset-Naver Asia Growth และ Z Venture Capital

ก่อนหน้านี้ HappyFresh รับเงินทุนซีรี่ส์ C ไป 20 ล้านดอลลาร์ ในปี 2019

HappyFresh เป็นสตาร์ทอัพจากอินโดนีเซีย ปัจจุบันให้บริการใน 3 ประเทศคือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย บริษัทกล่าวว่าจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้ทราฟิกการใช้งานเพิ่มขึ้น 10-20 เท่าตัว เงินทุนใหม่นี้จะนำมาใช้ขยายส่วนการดำเนินงานต่าง ๆ

HappyFresh บริการส่งสินค้าอาหารของสดจากร้านค้าผ่านแอปที่ทำตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศรับเงินลงทุนซีรี่ส์ C อีก 20 ล้านดอลลาร์ นำโดยกองทุน Mirae Asset-Naver Asia Growth ที่ก่อตั้งร่วมกันโดยกลุ่มการเงิน Mirae และ Naver ของเกาหลีใต้ และยังมีเงินลงทุนรอบนี้จาก Line Ventures, Grab Ventures รวมทั้ง Singha Ventures ของไทยด้วย

Guillem Segarra ซีอีโอ HappyFresh บอกว่าเงินเพิ่มทุนรอบนี้ จะนำไปใช้ลงทุนด้านเทคโนโลยี ตลอดจนการปรับแต่งข้อมูลแนะนำสำหรับผู้ใช้แต่ละคน รวมทั้งปรับปรุงระบบการจัดส่งสินค้าด้วย

HappyFresh ปัจจุบันทำตลาดในอินโดนีเซีย ไทย และมาเลเซีย (HappyFresh เป็นสตาร์ทอัพจากอินโดนีเซีย)

Grab เปิดตัวบริการใหม่ล่าสุด GrabFresh บริการซื้อและจัดส่งสินค้าของสด-ของชำ โดยเป็นความร่วมมือกับ HappyFresh ที่ให้บริการด้านนี้อยู่แล้ว ซึ่งผู้ใช้งาน Grab สามารถกดสั่งสินค้าได้เลยผ่านตัวแอปของ Grab ทั้งนี้ GrabFresh จะให้บริการในสถานะเบต้าที่จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ก่อนเป็นแห่งแรก ตามด้วยไทย และมาเลเซีย ภายในปีนี้

Anthony Tan ซีอีโอของ Grab ยังเปิดเผยกลยุทธ์สำคัญของบริษัท โดยเรียกว่า GrabPlatform ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเปิด เพื่อให้พาร์ทเนอร์เข้ามาเชื่อมต่อบริการของตนผ่าน Grab ทำให้เข้าถึงบริการขนส่งและชำระเงิน (GrabPay) ทำให้ Grab กลายเป็นแอปเดียวที่รวมทุกบริการซึ่งจำเป็นในแต่ละวัน หรือที่เรียกกันว่า Superapp

HappyFresh บริการส่งสินค้าอาหารของสดผ่านแอพ เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ HappyReality เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้มากขึ้น

โดยทาง HappyFresh บอกว่าแม้การซื้อของผ่านแอพจะสะดวกสบาย แต่ก็ขาดประสบการณ์เดินช้อปปิ้งด้วยตนเอง จึงเป็นที่มาของ HappyReality ที่ให้ความสมจริงผ่าน Virtual Reality ทั้งภาพ เสียง สัมผัส เจอหนุ่มเหล่ ต่อคิว รถติด แบกถุง เสมือนออกไปซื้อของเองจริงๆ

ที่มา: HappyFresh