TSMC ประกาศเพิ่มการลงทุนโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐอเมริกาอีก 100,000 ล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันมีแผนการลงทุนอยู่แล้ว 65,000 ล้านดอลลาร์ โดยการลงทุนนี้จะเป็นระยะเวลาต่อเนื่องหลายปี ผ่านการสร้างโรงงานเพิ่มเติมในรัฐแอริโซนาอีก 3 แห่ง เป็นโรงงานชิปแพ็คเกจจิ้ง 2 แห่ง และอีกแห่งเป็นศูนย์วิจัยพัฒนา ถือเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ที่สุดจากบริษัทต่างประเทศในสหรัฐอเมริกาโครงการหนึ่ง
C.C. Wei ซีอีโอ TSMC แถลงแผนการลงทุนนี้ที่ทำเนียบขาวร่วมกับประธานาธิบดี Donald Trump โดยเขาบอกว่า การสร้างโรงงานชิปในอเมริกานั้นมาจากวิสัยทัศน์ของ Trump ตั้งแต่ปี 2020 ตอนนี้ทุกอย่างเป็นจริงแล้ว ส่วน Trump บอกว่าเซมิคอนดักเตอร์เป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจในศตวรรษที่ 21 มีบทบาทตั้งแต่ AI ไปจนถึงยานยนต์ ไปจนถึงอุตสาหกรรมการผลิตขั้นสูง ชิปที่จำเป็นนี้ต้องถูกผลิตจากโรงงานในอเมริกา ด้วยทักษะและแรงงานในอเมริกา นั่นคือสิ่งที่เขากำลังทำอยู่
TikTok ประกาศลงทุนในประเทศไทยกว่า 3 แสนล้านบาท (ประมาณ 8.8 พันล้านดอลลาร์ฯ) ภายใน 5 ปี ตั้งศูนย์ Data Hosting เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูล เพิ่มความปลอดภัยด้านไซเบอร์ และรองรับการขยายตัวของแพลตฟอร์มในภูมิภาค
TikTok เตรียมลงทุนในเทคโนโลยี AI, การวิเคราะห์ข้อมูล, และการผลิตเนื้อหาดิจิทัล และพัฒนาทักษะแรงงานไทย เพื่อแข่งขันในตลาดแรงงานดิจิทัลระดับโลก พร้อมร่วมมือกับสถาบันการศึกษา และภาครัฐ
นอกจากนี้ ยังเตรียมส่งเสริมธุรกิจไทย โดยเฉพาะการสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก (SMEs) และผู้ประกอบการไทยสร้างรายได้จากคอนเทนต์และการขายสินค้า และจะช่วยสนับสนุนการแก้ปัญหาข่าวปลอม และการหลอกลวงออนไลน์ ให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับภัยออนไลน์ เพื่อช่วยให้คนไทยใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยด้วย
มีรายงานจาก The Information อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า Meta มีแผนก่อสร้างศูนย์ข้อมูลเพื่อรองรับการประมวลผล AI เพิ่มเติม วงเงินสูงถึง 2 แสนล้านดอลลาร์ โดยอยู่ในขั้นตอนหารือกับผู้รับเหมา เพื่อพิจารณาพื้นที่สร้างอาคารศูนย์ข้อมูลซึ่งมีทั้งในรัฐลุยเซียนา, รัฐไวโอมิง และรัฐเท็กซัส
ตัวเลขนี้เป็นข้อมูลแผนงานเบื้องต้นและไม่ได้ระบุว่าเป็นระยะเวลากี่ปีจึงจะแล้วเสร็จ ทั้งนี้ตัวแทนของ Meta ได้ปฏิเสธรายงานนี้ โดยบอกว่าบริษัทเปิดเผยแผนการลงทุนศูนย์ข้อมูลในรายงานประจำปีอยู่แล้ว หากมีอะไรที่นอกเหนือจากนั้นถือเป็นข่าวลือคาดเดาทั้งหมด
แอปเปิลประกาศแผนการลงทุนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งระดับแอปเปิลก็จัดชุดใหญ่บนวงเงิน 5 แสนล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลา 4 ปีข้างหน้า โดยแอปเปิลบอกว่าเพื่อรองรับนวัตกรรมใหม่ที่คิดค้นจากอเมริกา โรงงานการผลิตขั้นสูง และโอกาสใหม่ที่มาจากปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ซึ่งต้องการแรงงานทักษะฝีมือจำนวนมาก
แผนการลงทุนมูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์ของแอปเปิลนี้ มีทั้งการสร้างโรงงานการผลิตขั้นสูงในเมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส เพื่อผลิตเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้กับ Apple Intelligence แอปเปิลยังเพิ่มเงินสนับสนุในกองทุนการผลิตขั้นสูง สำหรับสถาบันผลิตบุคลากรรุ่นใหม่ที่ตั้งอยู่ในเมืองมิชิแกน รวมทั้งเพิ่มการลงทุนในการวิจัยพัฒนาเพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่รวมทั้งวิศวกรรมซิลิคอน
Alibaba ประกาศแผนลงทุนด้านคลาวด์และโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ AI ด้วยวงเงินอย่างน้อย 3.8 แสนล้านหยวน (1.75 ล้านล้านบาท หรือ 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์) ในอีก 3 ปีข้างหน้า เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมทางเทคโนโลยีในระยะยาว
Alibaba บอกว่าวงเงินที่ลงทุนนี้มากกว่าเงินที่ Alibaba ลงทุนด้านคลาวด์และ AI ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา สะท้อนว่าบริษัทจริงจังและมุ่งมั่นสร้างการเติบโตด้วยการเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำของโลก
Eddie Wu ซีอีโอกลุ่ม Alibaba บอกกับนักลงทุนในการแถลงผลประกอบการไตรมาสที่ผ่านมาว่า AI คือโอกาสสำคัญระดับมีครั้งเดียวในช่วงอายุคน เพราะสามารถทดแทนการทำงานของคน เปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรม และมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจหลายมิติ
Bloomberg ประเมินข้อมูลจากรายงานของบริษัทที่เกี่ยวข้อง เช่น Fidelity หรือ T. Rowe Price พบว่าผู้ลงทุนใน ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ได้ประเมินมูลค่ากิจการบริษัทนี้ล่าสุดไว้ที่ประมาณ 4.1-4.5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากปลายปีที่แล้ว 3 แสนล้านดอลลาร์ แม้บริษัทจะเผชิญปัญหาการให้บริการ TikTok ในอเมริกาอยู่
SoftBank ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ลงทุนใน ByteDance เช่นกัน ประเมินมูลค่ากิจการที่ประมาณ 4 แสนล้านดอลลาร์ โดยตอนนี้ให้มูลค่าธุรกิจ TikTok ในอเมริกาที่ศูนย์ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่อาจต้องปิดบริการ ตัวเลขโดยรวมจึงสามารถเพิ่มขึ้นได้หาก TikTok กลับมาให้บริการได้ตามปกติ
NVIDIA ยื่นรายงาน 13F-HR กับ SEC เพื่อเปิดเผยข้อมูลการลงทุนในบริษัทอื่น โดยมีรายละเอียดดังนี้
NVIDIA กับ Arm นั้นมีความสัมพันธ์มานานแล้ว เพราะเคยมีข่าวว่า NVIDIA สนใจซื้อกิจการทั้งหมดแต่ดีลล่มไป ซึ่งต่อมา NVIDIA ก็ได้ซื้อหุ้นไอพีโอของ Arm ในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์
David Faber ผู้สื่อข่าวของ CNBC รายงานข้อมูลจากแหล่งข่าวเกี่ยวกับแผนการลงทุนใน OpenAI รอบใหม่ของ SoftBank วงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ ที่มีข่าวก่อนหน้านี้ ว่ามูลค่ากิจการได้ข้อสรุปที่ 2.6 แสนล้านดอลลาร์
ตัวเลขนี้ลดลงจากที่รายงานก่อนหน้าว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ และหากอ้างตัวเลขแรกที่คุยกันรอบแรกอยู่ที่ 3.4 แสนล้านดอลลาร์
เงินลงทุนใหม่นี้ส่วนหนึ่ง OpenAI จะนำมาใช้ลงทุนกับโครงการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ในอเมริกา Stargate (ที่ SoftBank ก็ร่วมลงทุนด้วย)
The Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องบอกว่า OpenAI กำลังเจรจาเพื่อรับเงินลงทุนรอบใหม่สูงถึง 40,000 ล้านดอลลาร์ ที่มูลค่ากิจการประมาณ 300,000 ล้านดอลลาร์ โดยมี SoftBank เป็นแกนนำในการลงทุนรอบนี้
ตัวเลขเบื้องต้นส่วนที่ SoftBank จะลงทุนอยู่ที่ราว 15,000-25,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งแหล่งข่าวบอกว่าตัวเลขมูลค่ากิจการที่คุยกันครั้งแรกนั้นอยู่ที่ 340,000 ล้านดอลลาร์ แต่มีการปรับลดลงมา
มูลค่ากิจการปัจจุบันของ OpenAI อยู่ที่ 157,000 ล้านดอลลาร์ จากการรับเงินลงทุนเมื่อเดือนตุลาคม 6,600 ล้านดอลลาร์ ซึ่ง SoftBank ก็ร่วมลงทุนด้วยเช่นกัน
บอร์ดบีโอไออนุมัติการลงทุน 3 โครงการสำคัญ มูลค่ารวมกว่า 1.7 แสนล้านบาท ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล และ AI ในไทย เพื่อพัฒนาไทยสู่การเป็น Digital Hub ของภูมิภาค และขึ้นแท่นอุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลก
สำหรับ 3 โครงการลงทุนใหม่มีดังต่อไปนี้:
HongShan Capital Group หรือ HSG ประกาศบรรลุข้อตกลงซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของ Marshall Group บริษัทผู้พัฒนาสินค้าเทคโนโลยีอุปกรณ์เครื่องเสียง โดย Telia บริษัทด้านโทรคมนาคมของสวีเดนจะขายหุ้น 9.6% ใน Marshall ให้ HongShan เป็นมูลค่าประมาณ 105 ล้านดอลลาร์ ที่มูลค่ากิจการ 1.15 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่หุ้นส่วนรายใหญ่อื่นก็จะขายหุ้นให้กับ HongShan ด้วยเช่นกัน
หลังการซื้อขายหุ้นเสร็จสิ้น ตระกูล Marshall ที่เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทจะยังคงถือหุ้นอยู่ประมาณ 20%
Taro Niggemann ผู้จัดการกองทุนของ HongShan ในยุโรปบอกว่าบริษัทจะร่วมมือกับครอบครัว Marshall เพื่อขยายสินค้าไปยังลูกค้าทั่วโลกให้มากขึ้น จากปัจจุบันมีการทำตลาดใน 90 ประเทศ
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta โพสต์ใน Facebook ว่าบริษัทมีแผนการลงทุนในปีนี้ประมาณ 6-6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งการลงทุนหลักคือศูนย์ข้อมูลรองรับการเติบโตด้าน AI เพิ่มขึ้นตัวเลขปีที่แล้วประมาณ 3.8-4 หมื่นล้านดอลลาร์
เขาบอกว่าเป้าหมายคือ Meta จะเป็นผู้นำด้านการพัฒนาผู้ช่วย AI ที่มีผู้ใช้งานกว่าพันล้านคน Llama 4 ที่จะออกมาในปีนี้ จะเป็นโมเดลปัญญาประดิษฐ์ความสามารถสูง บริษัทยังเพิ่มทีมวิศวกรด้าน AI เพื่อวิจัยและพัฒนาในโครงการที่เกี่ยวข้องนี้
Databricks บริษัทพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับจัดการข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ ประกาศปิดการรับเงินลงทุนในซีรีส์ J หลังจากประกาศแผนไปก่อนหน้านี้ โดยได้เงินลงทุนรวม 1 หมื่นล้านดอลลาร์ จากทั้งนักลงทุนปัจจุบันเช่น QIA, กองทุนความมั่งคั่งของกาตาร์ และมีผู้ลงทุนใหม่เช่น Temasek และ Macquarie Capital รวมถึงมี Meta ที่เป็นผู้ร่วมลงทุนเชิงกลยุทธ์
ผลจากเงินลงทุนนี้ทำให้ Databricks มีมูลค่ากิจการ 6.2 หมื่นล้านดอลลาร์
มีรายงานจาก FT ว่ากูเกิลได้ตกลงที่จะลงทุนใน Anthropic เพิ่มอีกมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ จากตัวเลขที่ตกลงว่าจะลงทุนใน Anthropic ก่อนหน้านี้ที่ 2 พันล้านดอลลาร์
เมื่อต้นเดือนมีข่าวว่า Anthropic กำลังเจรจากับนักลงทุนเพื่อเพิ่มทุนรอบใหม่ 2 พันล้านดอลลาร์ นำโดยบริษัทการลงทุน Lightspeed Venture Partners ซึ่ง FT บอกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ของกูเกิลเป็นเงินอีกส่วนไม่เกี่ยวกับรอบลงทุนของ Lightspeed
ประธานาธิบดี Donald Trump ประกาศโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน AI ของภาคเอกชน โดยการก่อสร้างจะเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาผ่านบริษัทร่วมทุนซึ่งเรียกชื่อว่า Stargate
บริษัทร่วมทุนนี้มีบริษัทใหญ่เข้าร่วม 3 รายคือ Oracle, SoftBank และ OpenAI ซึ่งซีอีโอของทั้งสามบริษัทคือ Larry Ellison, Masayoshi Son และ Sam Altman ก็เข้าร่วมการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวด้วย มูลค่าการลงทุนรวม 5 แสนล้านดอลลาร์ ในระยะเวลา 4 ปี โดยยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะมีบริษัทอื่นเข้าร่วมด้วยเช่นกัน
Trump บอกว่าการลงทุนนี้ถือเป็นเรื่องฉุกเฉินของอเมริกา โครงสร้างพื้นฐาน AI ต้องถูกสร้างขึ้นมา มีการใช้ไฟฟ้าจำนวนมากจึงต้องมีการสร้างสิ่งต่าง ๆ มารองรับ คาดว่าจะเพิ่มการจ้างงานได้กว่า 1 แสนตำแหน่ง
ไมโครซอฟท์จัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นบริษัทประจำปีไปเมื่อวานนี้ และวาระหนึ่งที่ให้ผู้ถือหุ้นลงมติ คือข้อเสนอจากกลุ่มผู้ถือหุ้นให้บริษัทนำเงินบางส่วนไปซื้อบิตคอยน์ หรือสินทรัพย์เงินคริปโตอื่นเพื่อกระจายความเสี่ยง ด้วยเหตุผลได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งบอร์ดไมโครซอฟท์ก็ให้ความเห็นคัดค้านแนวทางนี้ บอกว่าบริษัทมีการบริหารสินทรัพย์ให้ผลตอบแทนดีกว่าเงินเฟ้ออยู่แล้ว
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติไม่รับรองข้อเสนอนี้ ทำให้บริษัทไม่ต้องกระจายสินทรัพย์ไปลงทุนในบิตคอยน์
CNBC รายงานการซื้อหุ้น OpenAI เพิ่มเติมของ SoftBank เป็นมูลค่ารวมประมาณ 1,500 ล้านดอลลาร์ ผ่านการให้ข้อเสนอกับพนักงาน OpenAI นำหุ้นบริษัทที่ได้รับจัดสรรมาขายเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินสด โดยพนักงานมีเวลาตัดสินใจถึงวันที่ 24 ธันวาคมนี้
ปัจจุบัน SoftBank ลงทุนใน OpenAI อยู่แล้วเป็นมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ ผ่านการเพิ่มทุนรอบล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม
สมัชชาแห่งชาติเวียดนามกำลังพิจารณาลดขั้นตอนการลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอุตสาหกรรมอื่นๆ เพื่อดึงดูดบริษัทต่างชาติให้เข้ามาลงทุน
Nguyen Chi Dung รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุน ระบุว่า จะเปลี่ยนวิธีคิดจากตรวจสอบก่อน (pre-screening) เป็นการตรวจสอบหลัง (post-screening) สำหรับการลงทุนในอุตสาหกรรมไฮเทค
ไมโครซอฟท์เปิดเผยจำนวนเงินที่ลงทุนใน OpenAI อย่างเป็นทางการครั้งแรก ในรายงาน 10-Q ที่ส่งให้กับ SEC หลังจากบริษัทประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสที่ผ่านมา ระบุว่าได้ลงทุนใน OpenAI และให้คำมั่นเป็นเงินทุนรวม 13,000 ล้านดอลลาร์
ไมโครซอฟท์เตรียมจัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ซึ่งผู้ถือหุ้นสามารถยื่นข้อเสนอเพื่อขอมติจากที่ประชุมได้ โดยมีประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือเรื่องบิตคอยน์
กลุ่มนักลงทุนได้ยื่นข้อเสนอ ให้ไมโครซอฟท์นำเงินของบริษัทบางส่วน กระจายความเสี่ยงไปลงทุนในบิตคอยน์ หรือเงินคริปโตอื่น โดยให้เหตุผลว่าที่ผ่านมาไมโครซอฟท์มักนำเงินสดไปลงทุนในตราสารหนี้หรือหุ้นกู้เอกชน ซึ่งให้ผลตอบแทนน้อยกว่าอัตราเงินเฟ้อ ถึงแม้การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนี้จะมีความเสี่ยงสูง และมีความผันผวนในระยะสั้น แต่จะช่วยให้สินทรัพย์ของไมโครซอฟท์เอาชนะเงินเฟ้อได้ ข้อเสนอคือให้ลงทุนไม่เกิน 1% ของเงินสดบริษัท
ต่อเนื่องจากข่าวว่าความสัมพันธ์ระหว่าง OpenAI และไมโครซอฟท์ ที่เป็นผู้ลงทุนรายสำคัญ เริ่มมีปัญหาขัดแย้งกันมากขึ้น The Wall Street Journal มีรายงานพิเศษเกี่ยวกับการเจรจาต่อรองระหว่างสองบริษัท เรื่องจำนวนหุ้นและผลตอบแทนใหม่เมื่อ OpenAI ปรับโครงสร้างองค์กรสำเร็จ
เรื่องนี้ต้องย้อนไปตั้งแต่แรกเมื่อก่อตั้ง OpenAI ซึ่งเป็นบริษัทไม่แสวงหากำไร (Non-Profit) ใช้เงินนักลงทุนเพื่อเป้าหมายการสร้าง AGI หรือปัญญาประดิษฐ์ที่ทำได้ทุกอย่าง แต่ต่อมาพบว่าต้องใช้เงินอีกมาก เลยตั้งบริษัทลูกสำหรับแสวงหากำไร (For-Profit) แบบจำกัดผลตอบแทนให้นักลงทุน แล้วรับเงินใหม่จากนักลงทุนรวมทั้งไมโครซอฟท์ผ่านบริษัทนี้ ทั้งหมดทำให้โครงสร้าง OpenAI เลยไม่เหมือนใคร
สำนักข่าว Kyodo News ของญี่ปุ่น มีบทสัมภาษณ์เจ้าชาย Faisal bin Bandar bin Sultan Al-Saud รองประธานกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ Public Investment Fund (PIF) ของซาอุดีอาระเบีย ในงาน Tokyo Game Show 2024
มีประเด็นน่าสนใจจากการประกาศรับเงินลงทุนรอบล่าสุดของ OpenAI ที่สูงถึง 6,600 ล้านดอลลาร์ บนมูลค่ากิจการ 1.57 แสนล้านดอลลาร์ โดย OpenAI ได้แจ้งกับผู้ลงทุนรอบนี้ ว่าบริษัทไม่ต้องการให้พวกเขา ไปลงทุนในบริษัท AI คู่แข่ง
Reuters อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องบอกว่า OpenAI ระบุรายชื่อ 5 บริษัท ที่มองว่าเป็นคู่แข่งสำคัญในการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ ได้แก่ Anthropic, xAI ของ Elon Musk ที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI, Safe Superintelligence ของ Ilya Sutskever ผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI, Perplexity และ Glean
OpenAI ประกาศรายละเอียดเพิ่มทุนรอบใหม่ตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้ โดยได้เงินจากนักลงทุนรวม 6.7 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2.2 แสนล้านบาท ที่มูลค่ากิจการ 1.57 แสนล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 5.16 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มทุนรอบล่าสุดที่ 8.6 หมื่นล้านดอลลาร์ เกือบเท่าตัว
OpenAI บอกว่าเงินทุนก้อนใหม่นี้ จะนำมาใช้เพิ่มจำนวนพลังการประมวลผล และสร้างเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อช่วยผู้คนแก้ปัญหาที่มีความยาก ทำให้บริษัทยังคงความเป็นผู้นำด้านงานวิจัย AI
OpenAI ปิดรอบการรับเงินลงทุนรอบใหม่ด้วยเงินลงทุน 6,600 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 220,000 ล้านบาท มูลค่าบริษัทล่าสุดอยู่ที่ 157 พันล้านดอลลาร์หรือประมาณ 5.2 ล้านล้านบาท
ผู้ลงทุนเดิมอย่างไมโครซอฟท์และ NVIDIA ยังคงเพิ่มเงินลงทุนในรอบนี้ รวมถึงกองทุน venture capitals อย่าง Thrive Capital ที่ลงทุนก่อนหน้านี้แล้ว ขณะที่กองใหม่เข้ามาเพิ่มเติม เช่น SoftBank, Fidelity ที่หายไปคือแอปเปิลที่เคยแสดงความสนใจจะลงทุน โดยเงินลงทุนรอบนี้เป็นการลงทุนแบบตราสารหนี้แปลงสภาพ และจะแปลงกลายเป็นหุ้นต่อเมื่อบริษัทแปลงร่างให้กลายเป็นบริษัทแสวงหากำไรเต็มตัวสำเร็จ ไม่ถูกอั้นกำไรและถูกควบคุมโดยฝั่งมูลนิธิตามโครงสร้างเดิมอีกต่อไป