บริษัทคริปโต Crypto.com ประกาศปลดพนักงานออกราว 20% (แต่ไม่ระบุจำนวน) ถือเป็นการปลดรอบที่สอง หลังเคยปลดรอบแรกมาแล้วช่วงกลางปี 2022 ประมาณ 250 คน
เหตุผลในการปลดเป็นเรื่องภาพรวมตลาดคริปโตขาลงเช่นเคย โดยบอกว่าการปลดรอบแรกนั้นยังไม่เพียงพอต่อสภาพตลาดคริปโตหลัง FTX ล้มละลาย ที่ทำลายความเชื่อมั่นของวงการไปมาก
เมื่อไม่กี่วันมานี้ Coinbase คู่แข่งอีกรายของ Crypto.com เพิ่งปลดพนักงานออก 20%, Huobi ปลด 20% เท่ากัน และเมื่อเดือนธันวาคม Kraken ปลดออก 30%
แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโต Crypto.com ประกาศว่าบริษัทจะปลดพนักงานทั่วโลก 20% ซึ่งเป็นการปลดถัดจากที่ปลดพนักงาน 5% เมื่อกลางปีที่แล้ว
ซีอีโอ Kris Marszalek บอกว่าในปี 2022 บริษัทเริ่มต้นด้วยทิศทางการเติบโตที่ดี แม้ต่อมาพบปัญหาในภาพรวมเศรษฐกิจ บริษัทก็ได้ปลดพนักงานไปบางส่วนก่อนแล้ว แต่ถูกซ้ำเติมด้วยปัญหาของ FTX ที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นอย่างรุนแรงต่อธุรกิจในอุตสาหกรรม จึงจำเป็นต้องบริหารสถานะทางการเงินของบริษัทในตอนนี้ให้มั่นคง อย่างไรก็ตามเขายังมั่นใจในอนาคตระยะยาวของ Crypto.com ทั้งการปฏิบัติตามเงื่อนไขกำกับดูแล ระบบความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวผู้ใช้งาน
มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ @jconorgrogan ตรวจสอบการโอนเหรียญ Ethereum ล็อตใหญ่จำนวน 320,000 ETH (มูลค่าประมาณ 416 ล้านดอลลาร์) จาก Crypto.com ตลาดแลกเปลี่ยนคริปโตชื่อดัง ให้กับตลาดแลกเปลี่ยนอีกราย Gate.io เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมตั้งคำถามว่าทำไมต้องโอนเงินให้กันเยอะขนาดนี้
เว็บข่าวสายธุรกิจกีฬา SportBusiness รายงานข่าวว่าบริษัทคริปโต Crypto.com ถอนตัวจากการเป็นสปอนเซอร์การแข่งขันฟุตบอล UEFA Champions League แม้ตกลงเรื่องเงื่อนไขกับ UEFA เรียบร้อยแล้วก็ตาม
การแข่งขัน UEFA Champions League ปีนี้มีสปอนเซอร์เก่าหายไปหนึ่งรายคือ Gazprom บริษัทพลังงานของรัสเซีย จากปัจจัยสงครามยูเครน-รัสเซีย ทำให้ Crypto.com เข้ามาเสียบในที่ว่างนี้ และเจรจาสปอนเซอร์นาน 5 ปี มูลค่า 495 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม SportBusiness บอกว่า Crypto.com ตัดสินใจล้มดีล เพราะมีปัญหาด้านกฎหมายและกฎระเบียบกับหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศต่างๆ ของยุโรป
เจ้าหน้าที่ของ Crypto.com กรอกรายการโอนเงินให้ลูกค้าผิดพลาด โดยใส่เลขบัญชีลงในช่องจำนวนเงิน ทำให้ส่งเงินไปยังหญิงออสเตรเลียรายหนึ่งเป็นเงินถึง 10.5 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบๆ 400 ล้านบาท ทั้งที่จริงๆ ต้องโอนเพียง 100 ดอลลาร์เท่านั้น และบริษัทไม่รู้ตัวจนกระทั่งถึงช่วงตรวจสอบบัญชีช่วงปลายปีจึงรู้ตัวว่าเงินหายไป
หญิงออสเตรเลียนำเงินไปซื้อแมนชั่นไปแล้ว และตอนนี้ศาลสั่งขายแมนชั่นเพื่อส่งเงินคืนบริษัท
The Verge รายงานข่าวว่า Crypto.com บริษัทที่ทำตลาดซื้อขายคริปโต เพิ่งประกาศปลดพนักงานออก 260 คน (คิดเป็น 5% ของพนักงานทั้งหมด) เมื่อเดือนมิถุนายน และหลังจากนั้นก็ปลดพนักงานออกเงียบๆ เพิ่มอีก "หลายร้อยคน" (hundreds) โดยไม่ประกาศต่อสาธารณะ
The Verge บอกว่า Crypto.com ค่อนข้างปิดข่าวการปลดพนักงานรอบนี้ ทำให้ประเมินได้ยากว่าจำนวนที่แท้จริงมีทั้งหมดเท่าไร แต่พนักงานที่ยังเหลืออยู่ก็พบว่าเพื่อนร่วมงานหลายคนหายหน้าไปจากระบบ Slack ภายในแบบเงียบๆ และผู้บริหารเองก็เลี่ยงไม่ตอบคำถามในงานประชุมภายในว่าปลดออกไปเท่าไร
ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนถึงช่วงต้นปีนี้ เราเห็นข่าวบริษัทสายคริปโตหลายแห่งในต่างประเทศ ทุ่มทุนจ้างดารา-นักกีฬาดังๆ มาเป็นพรีเซนเตอร์โปรโมท และออกโฆษณาทางทีวีในช่วงการแข่ง Super Bowl ซึ่งมีค่าโฆษณาแพงที่สุด ตัวอย่างคือ Crypto.com ใช้ Matt Damon นักแสดงและ LeBron James นักบาสเกตบอลชื่อดัง, FTX ใช้นักแสดง Larry David และ Tom Brady ผู้เล่นอเมริกันฟุตบอล
อย่างไรก็ตาม หลังตลาดคริปโตแตกในระยะเวลาถัดมา เราเห็นข่าวบริษัทคริปโตหลายแห่งต้องปลดคน (เช่น Coinbase) และการลดค่าใช้จ่ายด้านการตลาดก็ต้องเกิดขึ้นตามไปด้วย
บริษัทเทรดคริปโต Crypto.com ประกาศเข้าเป็นสปอนเซอร์ของฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ช่วงปลายปีนี้ ถือเป็นครั้งแรกของบริษัทคริปโตที่ก้าวขึ้นมาเป็นสปอนเซอร์เทศกาลกีฬาใหญ่ระดับฟุตบอลโลก
ก่อนหน้านี้ไม่นาน Crypto.com เพิ่งเซ็นสัญญาเป็นสปอนเซอร์สนามแข่งบาสเก็ตบอล L.A. Lakers โดยซื้อสิทธิชื่อสนามเป็น Crypto.com Arena รวมถึงเป็นสปอนเซอร์กีฬาชนิดอื่นๆ อย่างรถแข่ง ฮอกกี้น้ำแข็งด้วย
Crypto.com จะเข้ามาเป็นแพลตฟอร์มเทรดคริปโตอย่างเป็นทางการของฟุตบอลโลก 2022 นอกจากการโชว์โลโก้ที่ข้างสนามแล้ว บริษัทยังระบุว่าจะมีกิจกรรมอื่นๆ สำหรับลูกค้าที่เทรดคริปโตบนแพลตฟอร์มด้วย
Crypto.com เว็บเทรดคริปโตออกแถลงการณ์รายละเอียดการโดนแฮก โดยทางเว็บไซต์ระบุว่าธุรกรรมอนุมัติโดยไม่ผ่านขั้นตอนการยืนยันตัวตนด้วย 2FA ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่ผิดปกติ เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทางเว็บไซต์จึงสั่งหยุดถอนเงิน 14 ชั่วโมงเพื่อตรวจสอบปัญหา
เว็บเทรดคริปโต Crypto.com ออกมายอมรับว่าระบบถูกแฮ็ก ส่งผลกระทบต่อบัญชีของผู้ใช้ประมาณ 400 คน
ตอนแรก Crypto.com ประกาศว่าระบบโดนบุกรุก แต่ไม่กระทบกับบัญชีคริปโตของผู้ใช้ โดยบริษัทระงับการถอนเงินออกชั่วคราว บังคับให้ผู้ใช้ทุกคนต้องล็อกอินบัญชีใหม่ และรีเซ็ต 2FA ใหม่
อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ The Block รายงานว่าการแฮ็กระบบครั้งนี้มีเหรียญคริปโตถูกถอนออกไปด้วย ตัวเลขความเสียหายที่ประเมินคือ 4,830 ETH (15 ล้านดอลลาร์) และ 444 BTC (18.5 ล้านดอลลาร์) ซึ่งภายหลัง Kris Marszalek ซีอีโอของ Crypto.com ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่ามีเหรียญถูกถอนออกไปจริง (เขาไม่ยืนยันมูลค่า) กระทบกับผู้ใช้ประมาณ 400 คน ซึ่งบริษัทชดเชยความเสียหายให้ทั้งหมด
ยุคคริปโตบูม ทำให้บริษัทคริปโตหลายแห่งร่ำรวยจนมีเงินไปจ่ายค่าสปอนเซอร์สโมสรกีฬาได้ (ตัวอย่าง Socios.com กับสโมสรอินเตอร์มิลาน)
ความเคลื่อนไหวล่าสุดมาจากฝั่งอเมริกาบ้าง โดยบริษัทกีฬา Anschutz Entertainment Group (AEG) เจ้าของสนามแข่ง Staples Center ในเมืองลอสแอนเจลิส ซึ่งเป็นสนามแข่งของสโมสรบาสเกตบอล Los Angeles Lakers และ LA Clippers รวมถึงสโมสรกีฬาประเภทอื่นๆ ในแอลเอ ประกาศเซ็นสัญญาสปอนเซอร์กับเว็บ Crypto.com ซึ่งจะเปลี่ยนชื่อสนามแห่งนี้เป็น Crypto.com Arena