Match Group บริษัทแม่ของ Tinder กำลังปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ภายใต้การบริหารของซีอีโอคนใหม่ Spencer Rascoff เพื่อพยายามพลิกฟื้นธุรกิจท่ามกลางยอดการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานที่ลดลง และแรงกดดันจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมแอปหาคู่

บริษัทประกาศเลิกจ้างพนักงาน 13% หรือประมาณ 325 คน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับกระบวนการทำงาน ลดระดับการจัดการ รวมฟังก์ชันหลักของธุรกิจ เช่น การดูแลลูกค้า การควบคุมเนื้อหา และการตลาดระหว่างประเทศ และปิดรับสมัครพนักงานใหม่ด้วย โดยคาดว่า ทั้งหมดนี้จะช่วยให้บริษัทประหยัดเงินได้ปีละกว่า 100 ล้านดอลลาร์ฯ และประมาณ 45 ล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2025

CrowdStrike เปิดเผยว่าบริษัทเตรียมปลดพนักงานประมาณ 500 ตำแหน่ง คิดเป็น 5% ของจำนวนพนักงานทั่วโลก เพื่อปรับปรุงประสิทธิทางธุรกิจ

บริษัทบอกว่าฝ่ายที่ได้รับผลกระทบเกิดขึ้นในบางตำแหน่งของเฉพาะฝ่าย แต่บริษัทยังคงรับพนักงานเพิ่มในส่วนที่ดูแลลูกค้าและฝ่ายวิศวกรรม

ซีอีโอ George Kurtz ส่งอีเมลแจ้งพนักงานว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ CrowdStrike เดินไปข้างหน้าได้เร็วมากขึ้น มีประสิทธิภาพ และยังรักษาความเป็นผู้นำในตลาดความปลอดภัยทางไซเบอร์

เว็บข่าวเกม Polygon ที่เคยเป็นเว็บพี่น้องกับ The Verge ปลดพนักงานออกเป็นจำนวนมาก ซึ่งรวมถึง Chris Plante ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าบรรณาธิการของเว็บด้วย

Polygon ก่อตั้งในปี 2012 เดิมทีเป็นเว็บในเครือ Vox Media เช่นเดียวกับ The Verge แต่เพิ่งเปลี่ยนเจ้าของเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2025 นี้เอง โดย Vox Media ขายต่อให้กับ Valnet Gaming Group ซึ่งเป็นเจ้าของเว็บข่าวเกมชื่อดังหลายราย เช่น Game Rant, DualShockers, TheGamer รวมถึงเว็บรวมคะแนนรีวิว OpenCritic

Jason Schreier นักข่าวสายเกมของ Bloomberg รายงานข่าวว่า EA ปลดพนักงานออกราว 300-400 คน และยกเลิกโครงการเกม Titanfall ภาคใหม่ที่กำลังพัฒนาอยู่ (โดนอีกแล้ว)

แหล่งข่าวของ Schreier บอกว่าสตูดิโอ Respawn โดนผลกระทบไปราว 100 คน โครงการเกม Titanfall ที่ว่าใช้โค้ดเนมภายในว่า R7 เป็นเกมยิงแนว extraction shooter ในจักรวาลเดียวกับ Titanfall แต่สถานะของเกมยังห่างไกลกับการวางขายได้จริง

โฆษกของ EA ยืนยันข่าวการปลดพนักงาน แต่ไม่ยืนยันตัวเลข ส่วน Respawn โพสต์ในบัญชีโซเชียลว่าปิดโครงการเกม early-stage ไปสองโครงการ (ไม่บอกว่าเกมอะไร) และปรับลดพนักงานในทีม Apex Legends กับ Star Wars Jedi ออกบางส่วน

Bloomberg รายงานว่า Meta ปลดพนักงานฝ่าย Reality Labs ที่พัฒนาแว่น VR และแว่นตาติดกล้อง ประมาณ 100 กว่าคน ตามข่าวบอกว่ากระทบต่อทีมทั้งด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ โดยฝั่งซอฟต์แวร์มีผลต่อทีมแอพฟิตเนส Supernatural ที่ Meta ซื้อกิจการมาในปี 2021 ด้วย

โฆษกของ Meta ยอมรับว่ามีการปลดพนักงานทีม Oculus Studios ที่พัฒนาซอฟต์แวร์-เกมสำหรับแว่น แต่ไม่ยืนยันจำนวน

ที่มา - Bloomberg, The Verge

Bloomberg อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่าอินเทลเตรียมประกาศปลดพนักงานประมาณ 20% ของจำนวนพนักงานทั่วโลก คิดเป็นจำนวนประมาณ 21,000 คน

รายงานบอกว่า Lip-Bu Tan ซีอีโอคนใหม่ของอินเทล ต้องการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการ และใช้วิศวกรรมนำหน้าในการพัฒนาสินค้า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเขาได้ประกาศปรับให้ผู้บริหารฝ่ายเทคนิคหลายคนขึ้นรายงานกับเขา และลดลำดับขั้นฝ่ายบริหาร

อินเทลรายงานจำนวนพนักงานเมื่อสิ้นปี 2024 ที่ประมาณ 108,900 คน หลังจากปลดพนักงาน 15% เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว

เว็บไซต์ The Information รายงานว่ากูเกิลปลดพนักงานออกเป็นหลักร้อยคน (hundreds) ในทีม Android และ Pixel ซึ่งเป็นความต่อเนื่องจากข่าว กูเกิลเปิดโครงการพนักงานสมัครใจลาออก หลังรวมทีม Pixel, Android, Chrome เข้าด้วยกัน เมื่อเดือนมกราคม 2025

ทีมที่เป็นข่าวปลดพนักงาน เกิดจากการปรับโครงสร้างในปี 2024 ที่รวมทีม Pixel, Android, Chrome เข้าด้วยกันในชื่อ Platforms and Devices หลังจากรวมทีมมีพนักงานที่ซ้ำซ้อนกัน จึงเปิดให้สมัครใจลาออก และนำมาสู่การปลดออกในที่สุด

ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าพนักงานที่ถูกปลดออกมีทั้งหมดกี่คน และมีทีมย่อยไหนที่ได้รับผลกระทบบ้าง

Matt Mullenweg ซีอีโอของ Automattic บริษัทแม่ของ WordPress, Tumblr, Woocommerce ประกาศปลดพนักงานออก 16% เพื่อลดค่าใช้จ่าย (ตัวเลขยังไม่ยืนยันทางการ แต่ประมาณ 280 คน จากพนักงานทั้งหมด 1,744 คน)

Matt บอกว่ารายได้ของบริษัทยังเติบโต แต่ค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้นสูงด้วย รวมถึงการมีพนักงานมากเกินไปทำให้เกิดกระบวนการเยอะ ทำงานได้ช้าลง จึงต้องปรับโครงสร้างบริษัทเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตในระยะยาว

พนักงานที่ได้รับผลกระทบกระจายตัวอยู่ใน 90 ประเทศ จะได้รับแพ็กเกจชดเชย และได้โน้ตบุ๊กของบริษัทไปใช้เลย

HPE รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2025 สิ้นสุดเดือนมกราคม รายได้ 7,854 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 16% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน มีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 598 ล้านดอลลาร์ และมีรายได้ต่อเนื่อง 12 เดือน (ARR) เพิ่มขึ้น 45% เป็น 2.1 พันล้านดอลลาร์

ธุรกิจเซิร์ฟเวอร์มีรายได้ 4,290 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 29% HPE บอกว่าเฉพาะส่วนที่เป็นเซิร์ฟเวอร์ AI มี 3.1 พันล้านดอลลาร์ ตามคำสั่งซื้อรุ่นที่มีจีพียู Blackwell ของ NVIDIA ที่มากขึ้น ส่วนกลุ่ม Intelligent Edge รายได้ 1,146 ล้านดอลลาร์ ลดลง 5%, Hybrid Cloud 1,405 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 10%

HPE ประกาศแผนลดค่าใช้จ่ายใน 18 เดือนข้างหน้า โดยจะปลดพนักงานประมาณ 2,500 ตำแหน่ง คาดว่าจะลดค่าใช้จ่าย 350 ล้านดอลลาร์

Wondery บริษัทผู้ผลิตรายการพอดคาสต์ซึ่งปัจจุบันอยู่ในเครือ Amazon ยืนยันการปลดพนักงานจำนวนหนึ่ง โดยฝ่ายที่กระทบคือส่วนผลิตเนื้อหาและฝ่ายโฆษณา เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ Wondery ก็ปิดสำนักงานในบราซิลและเม็กซิโก

Amazon ซื้อกิจการ Wondery ในปี 2020 โดยไม่ได้เปิดเผยมูลค่าอย่างเป็นทางการ แต่มีรายงานตัวเลขที่ประมาณ 300 ล้านดอลลาร์ และปีที่แล้วบริษัทบุกตลาดพอดคาสต์มากขึ้นด้วยการเซ็นสัญญาผลิตรายการ New Heights with Jason and Travis Kelce ซึ่งมีสองพี่น้องนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลชื่อดังร่วมรายการ มูลค่าสัญญา 100 ล้านดอลลาร์ เป็นเวลา 3 ปี

Autodesk ประกาศแผนปลดพนักงานจำนวน 1,350 คน คิดเป็น 9% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด

Andrew Anagnost ซีอีโอ Autodesk อธิบายเหตุผลว่าปัจจุบันโมเดลการขายซอฟต์แวร์เปลี่ยนไปเป็นแบบ Subscription ส่วนการทำสัญญาแบบต่อเนื่องหลายปีก็เปลี่ยนเป็นระบบให้ลูกค้าบริหารจัดการเอง จึงทำให้บริษัทต้องปรับโครงสร้างในฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เหมาะสมสอดคล้องมากขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังให้เหตุผลเรื่องการรักษาความสามารถในการแข่งขัน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน

Anagnost บอกว่าการตัดสินใจนี้เกิดจากตัวเขาและทีมผู้บริหารใต้ซีอีโอ โดยไม่มีแรงกดดันจากบุคคลภายนอก เนื่องจากมีรายงานข่าวก่อนหน้านี้ว่ากลุ่มนักลงทุนได้กดดันให้บริษัทเร่งลดค่าใช้จ่าย

The Verge รายงานว่า Meta ไล่พนักงานประมาณ 20 คนออกจากบริษัท หลังปล่อยข้อมูลภายในของบริษัทออกสู่สาธารณะ เช่น เปลี่ยนนโยบายการควบคุมเนื้อหา ยกเลิก DEI และปลดพนักงานที่ Performance ต่ำสุด ซึ่งเป็นความลับของบริษัท

Meta พยายามค้นหาว่าใครเป็นคนทำข้อมูลรั่วไหล เนื่องจากข้อมูลบางส่วนมีรายละเอียดเกี่ยวกับแผนผลิตภัณฑ์

ทั้งนี้ Meta คาดว่าจะจับพนักงานที่ปล่อยข้อมูลได้เพิ่มขึ้น และจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะนโยบายของบริษัทคือ ห้ามปล่อยข้อมูลภายในของบริษัท ไม่ว่าจะมีเจตนาหรือไม่ก็ตาม

ชะตากรรมของสตูดิโอเกมนอกจีนในเครือ NetEase เริ่มไม่ชัดเจน หลังบริษัทปรับยุทธศาสตร์ใหม่ เริ่มทยอยปิดสตูดิโอนอกจีนเพื่อลดค่าใช้จ่าย โดยมีทีม Marvel Rivals ในสหรัฐอเมริกา และสตูดิโออีก 3 แห่งคือ Ouka ในญี่ปุ่น (ทำเกม Visions of Mana, Worlds Untold ในแคนาดา (ก่อตั้งโดยอดีตทีม Mass Effect) และ Jar of Sparks ในสหรัฐอเมริกา โดนปลดคนไปบ้างแล้ว

แต่นอกจากนั้น NetEase ยังเป็นเจ้าของสตูดิโอเกมดังๆ อีกหลายแห่ง เช่น

Thaddeus Sasser ผู้กำกับเกม Marvel Rivals เกมยิงฮีโร่ของ NetEase ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง เปิดเผยว่าเขาและทีมงานโดนปลดออกจาก NetEase ตามแผนการลดค่าใช้จ่ายของบริษัท

นอกจาก Sasser ยังมี Jack Burrows ผู้ออกแบบเลเวลของ Marvel Rivals ที่ประกาศว่าถูกปลดออกเช่นกัน ทั้งคู่เป็นอดีตนักออกแบบเกมชาวอเมริกันที่เข้าทำงานกับ NetEase ในปี 2023 และนั่งทำงานในสตูดิโอที่ซีแอทเทิล ตอนนี้ยังไม่แน่ชัดว่าสตูดิโอฝั่งอเมริกาของ NetEase มีพนักงานทั้งหมดกี่คน แต่ข้อมูลคร่าวๆ คือ "ประมาณสิบคน"

eFishery สตาร์ทอัปสายเทคโนโลยี ที่เน้นเรื่องระบบจัดการประมงจากอินโดนีเซีย ซึ่งมีสถานะเป็นยูนิคอร์นหรือมีมูลค่ากิจการมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ เมื่อปี 2023 หลังรับเงินเพิ่มทุนซีรีส์ D โดยมีทั้งกองทุน 42XFund จาก UAE, Temasek และกองทุน Vision Fund 2 ของ SoftBank ร่วมลงทุนด้วย ผ่านไปเพียง 2 ปี สถานการณ์ดูจะลำบากมากขึ้น

Blue Origin บริษัทด้านอวกาศของ Jeff Bezos ประกาศปลดพนักงาน 10% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด โดยบริษัทมีพนักงานอยู่มากกว่า 10,000 คน ตัวเลขที่ได้รับผลกระทบจึงอยู่ประมาณ 1,000 คน

David Limp ซีอีโอ Blue Origin อีเมลอธิบายสาเหตุของการปลดพนักงานครั้งนี้ว่าการเติบโตและขยายบริษัทอย่างรวดเร็วช่วงที่ผ่านมา ทำให้เกิดลำดับขั้นในการทำงานมากขึ้น และทำให้บริษัทเสียโฟกัสในสิ่งที่ต้องการ จึงต้องการลดลำดับขั้นในการบริหารงานลง ฝ่ายที่ได้รับผลกระทบมีทั้งส่วนวิศวกรรม บริหารโครงการ ตลอดจนฝ่ายวิจัยพัฒนา

Limp ยืนยันว่าบริษัทยังมีสถานะที่แข็งแกร่ง มีโอกาสและภารกิจในอนาคตอีกมาก บริษัทยังเดินหน้าลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพร้อมรับพนักงานเพิ่มในส่วนที่สำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายของบริษัท

Crytek สตูดิโอเกมจากเยอรมนี เจ้าของเอนจิน CryEngine ประกาศปลดพนักงานออก 15% จากพนักงานทั้งหมด 400 คน พร้อมประกาศข่าวว่าหยุดพัฒนาเกม Crysis 4 (ประกาศปี 2022) ไปตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/2024

ตอนนี้ Crytek จะโฟกัสกับการพัฒนาเกม Hunt: Showdown 1896 ที่เป็นเกมแนว live service เพียงอย่างเดียว โดยจะเน้นการอัพเดตเนื้อหาให้เกม ควบคู่ไปกับการขยายธุรกิจ CryEngine ที่ล่าสุดเพิ่งมีเกมดังอย่าง Kingdom Come: Deliverance 2 ออกวางขาย

บริษัท Sonos ยังไม่พ้นเคราะห์กรรม นับจากต้นปี ซีอีโอลาออก, ผู้บริหารลาออกหลายคน

Tom Conrad ซีอีโอรักษาการ บอกว่าจำเป็นต้องปลดพนักงานออกอีก 200 คน ถือเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากของบริษัท พนักงานจะได้รับแพ็กเกจชดเชย ได้โบนัสของไตรมาส 1 และได้สิทธิซื้อหุ้นของบริษัทตามระยะเวลาที่กำหนด

Sonos ปลดพนักงานออกมาแล้วหลายรอบ โดยปี 2023 ปลด 130 คน และช่วงกลางปี 2024 ปลดอีกประมาณ 100 คน

นอกจากนี้บริษัทจะปรับโครงสร้างภายในใหม่ให้การตัดสินใจรวดเร็วขึ้น มีลำดับชั้นน้อยลง ทีมขนาดเล็กลง และมีโฟกัสมากขึ้น

Workday บริษัทซอฟต์แวร์ด้านทรัพยากรบุคคล ประกาศปลดพนักงานออก 1,750 คน คิดเป็น 8.5% ของพนักงานทั้งหมด ด้วยเหตุผลว่าต้องการจัดสรรทรัพยากรใหม่ตามความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป

Carl Eschenbach ซีอีโอของ Workday ระบุว่าบริษัทต้องเปลี่ยนกระบวนการภายในใหม่หลายอย่าง ทำให้การตัดสินใจรวดเร็วขึ้น ตำแหน่งงานมีหน้าที่ชัดเจนขึ้น ปรับการลงทุนมาเน้นด้าน AI และการพัฒนาแพลตฟอร์มมากขึ้น วัดความคุ้มค่าของการลงทุน (ROI) อย่างจริงจัง และขยายไปลงทุนนอกสหรัฐอเมริกามากขึ้น

พนักงานที่ถูกปลดออกจะได้แพ็กเกจชดเชยอย่างน้อย 12 สัปดาห์ และเพิ่มขึ้นตามอายุงาน รวมถึงสิทธิการซื้อหุ้นที่ยังค้างอยู่เพิ่มเติม

Bloomberg อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิด Salesforce ว่าบริษัทมีแผนปลดพนักงานมากกว่า 1,000 คน (ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าเจาะจงเฉพาะฝ่ายหรือไม่) จากพนักงานทั้งหมด 73,000 คน โดยไม่ระบุเหตุผลที่แน่ชัด

ก่อนหน้านี้ Marc Benioff ซีอีโอ Salesforce เพิ่งเปิดเผยว่าบริษัทเตรียมจ้างพนักงานฝ่ายขายเพิ่ม 2,000 ตำแหน่ง เพื่อดูแลการขายผลิตภัณฑ์ AI ของบริษัทโดยเฉพาะ และจะไม่จ้างโปรแกรมเมอร์เพิ่มแล้ว เพราะใช้ AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้

Ubisoft ยืนยันข่าวการปลดพนักงานออก 185 คน โดยเป็นการปิดสตูดิโอ Ubisoft Leamington ในอังกฤษ และปลดพนักงานบางส่วนใน Ubisoft Düsseldorf ที่เยอรมนี, Ubisoft Stockholm ที่สวีเดน,​ Ubisoft Reflections ในอังกฤษ

Ubisoft Leamington ก่อตั้งในปี 2002 เดิมทีชื่อว่า FreeStyleGames เคยมีผลงานทำเกม DJ Hero ก่อนถูก Ubisoft ซื้อกิจการต่อจาก Activision ในปี 2017 หลังจากนั้นถูกมอบหมายให้ช่วยทำเกมดังหลายเกม เช่น Far Cry 5, Avatar, Star Wars Outlaws เป็นต้น

ปัจจุบัน Ubisoft มีพนักงานทั่วโลกประมาณ​ 19,000 คน โดยลดลงมาเรื่อยๆ จาก 20,000 คนในปี 2022 ท่ามกลางสถานการณ์การเงินของบริษัทที่ไม่ดีเท่าไรนักในช่วงหลัง

Meta ประกาศแผนปลดพนักงานรอบใหม่ คิดเป็นจำนวน 5% ของพนักงานทั้งหมดหรือประมาณ 3,600 คน โดยเป็นพนักงานที่มีผลการประเมิน 5% ต่ำสุดในบริษัท

Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta อธิบายในอีเมลที่ส่งถึงพนักงานทุกคนว่า ตอนนี้บริษัทกำลังพัฒนาเทคโนโลยีที่สำคัญของโลกทั้ง AI, แว่นตาอัจฉริยะ, โซเชียลมีเดียยุคใหม่ จึงเป็นปีที่เข้มข้นและท้าทาย เขาจึงต้องการทีมงานที่ดีที่สุด เลยตัดสินใจเพิ่มเกณฑ์ให้สูงคนด้วยการคัดคนที่ประสิทธิภาพน้อยที่สุดออก 5% ซึ่ง Meta มีระบบประเมินและให้พนักงานออกแบบนี้อยู่แล้ว แต่เกณฑ์ที่ประกาศนี้เป็นรอบพิเศษมีผลกับทั้งบริษัท

Godfall เป็นเกมแรกที่ประกาศลงเครื่อง PS5 ตั้งแต่เครื่องยังไม่วางจำหน่าย ก่อนเกมของโซนี่เองด้วยซ้ำ แม้ว่าเกมไม่ประสบความสำเร็จมากนัก แต่ก็ถูกพอร์ตไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น PS4 และ Xbox ในภายหลัง ล่าสุดมีข่าวอย่างไม่เป็นทางการว่าสตูดิโอ Counterplay Games ผู้พัฒนาเกมนี้ได้ปิดตัวอย่างเงียบๆ ช่วงปลายปีที่ผ่านมา

ข่าวนี้มาจากโพสต์ใน LinkedIn จากพนักงานของสตูดิโออีกแห่งชื่อ Jackalyptic Games ที่ระบุว่ามีโครงการพัฒนาเกมร่วมกับ Counterplay Games แต่ไม่สามารถจบโครงการได้ เพราะ Counterplay Games ปิดตัวไปแล้ว

11 bit studios สตูดิโอจากโปแลนด์ เจ้าของผลงานเกมวางแผนชื่อดังซีรีส์ Frostpunk ประกาศยุติโครงการพัฒนาเกมลงคอนโซลชื่อโค้ดเนม "Project 8" และปลดพนักงานบางส่วนของโครงการออก (มีพนักงานในโครงการทั้งหมด 37 คน)

Project 8 เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2018 เพื่อเป็นเกมที่ตั้งใจออกแบบมาเพื่อตลาดคอนโซลเกมแรกของสตูดิโอ แต่ระหว่างทางเจอปัญหาในกระบวนการพัฒนาหลายอย่าง บวกกับตลาดเกมบนคอนโซลเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม บอร์ดบริหารจึงตัดสินใจว่าเข็นต่อไปไม่ไหว และยุติโครงการในที่สุด

ทีมงานบางส่วนจะได้รับข้อเสนอให้ย้ายไปยังทีมพัฒนาเกมอื่น เช่น Frostpunk 2 ที่เพิ่งวางขายทำผลงานได้ดี หรือเกมเอาตัวรอดแนวอวกาศ The Alters ที่มีกำหนดขายไตรมาส 1/2025

Business Insider รายงานว่า Sundar Pichai ซีอีโอ Google และ Alphabet แจ้งพนักงานทุกฝ่ายในที่ประชุมเมื่อวันพุธว่า บริษัทจะปลดพนักงานในกลุ่มผู้จัดการ ผู้อำนวยการ และรองประธาน จำนวน 10% เพื่อสร้างประสิทธิภาพกับบริษัท

โฆษกของ Google บอกว่าพนักงานบางคนในจำนวนนี้จะถูกเปลี่ยนให้ไปทำงานตำแหน่งอื่น และบางส่วนจะถูกปลดออก

Google ขับเคลื่อนตามนโยบายรีดเร้นประสิทธิภาพมาแล้วกว่า 2 ปี ในเดือนกันยายน ปี 2022 Sundar Pichai กล่าวว่าเขาต้องการให้ Google มีประสิทธิภาพมากขึ้น 20% ในเดือนมกราคม ปี 2023 บริษัทจึงเลิกจ้างพนักงานครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์ โดยมีการเลิกจ้างมากถึง 12,000 ตำแหน่ง และมีการลดจำนวนพนักงานลงต่อเนื่องนับแต่นั้น