เครือข่ายมือถือ EE ของอังกฤษ เตรียมให้บริการ 5G ครอบคลุมพื้นที่ 1,500 จุด ใน 16 เมืองของสหราชอาณาจักร เริ่มปี 2019 เฟสแรกเริ่มให้บริการ 6 เมืองใหญ่ ได้แก่ London, Cardiff, Edinburgh, Belfast, Birmingham และ Manchester

ส่วนเมืองอื่นๆ ที่ EE เตรียมให้บริการ 5G ภายในปี 2019 ได้แก่ Glasgow, Newcastle, Liverpool, Leeds, Hull, Sheffield, Nottingham, Leicester, Coventry และ Bristol

โอเปอเรเตอร์ค่ายใหญ่ในอังกฤษ EE ใช้โดรนและบอลลูนส่งสัญญาณ 4G บินในพื้นที่ชนบทในอังกฤษ ให้ผู้ใช้ต่ออินเทอร์เน็ตและโทรทางไกลได้ตัวอุปกรณ์อยู่ระหว่างจดสิทธิบัตร จะเปิดให้ใช้ภายในปีนี้

ตัวบอลลูนอัดด้วยแก๊สฮีเลียม ลอยเหนือพื้นดิน 300 ฟุต มีเชือกรั้งกับฐานที่พื้นดินไว้ ลอยกลางอากาศได้นานเป็นอาทิตย์ ส่วนโดรนติดตั้งอุปกรณ์ปล่อยสัญญาณเช่นกัน มาพร้อมกับฐานบังคับทิศทางโดรน

นอกจากโครงการบอลูนโดรน Helikite แล้ว ทางบริษัทยังระบุว่าได้ทำอัพเกรดเสาสัญาณตลอดเวลา โดยตั้งเป้าจะขยายเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่ในอังกฤษให้ได้ 92%

ช่วงนี้การแข่งโดรนกำลังมาแรง ล่าสุดเครือข่าย EE ของอังกฤษจึงจับมือกับ Qualcomm และสมาคม European Rotor Sports Association (ERSA) สาธิตการแข่งโดรน Freestyle Drone Racing ที่สนามฟุตบอล Wembley Stadium ในกรุงลอนดอน โดยดัดแปลงสนามฟุตบอลให้เป็นคอร์ส มีอุปสรรคต่างๆ เพื่อท้าทายผู้ควบคุมโดรนด้วย

การแข่งโดรนลักษณะนี้ ผู้ควบคุมต้องใส่แว่น First Person View (FPV) เพื่อดูภาพผ่านกล้องของโดรน ซึ่ง EE ก็สตรีมภาพเหล่านี้ถ่ายทอดสดผ่านอินเทอร์เน็ต ผู้ควบคุมโดรนที่ EE เชิญมาคือ Luke Bannister หนุ่มอังกฤษวัย 16 ปี เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลก Dubai World Drone Prix คนล่าสุด

เนื่องจาก Qualcomm เป็นผู้ร่วมจัดงานครั้งนี้ โดรนที่นำมาโชว์จึงพัฒนาขึ้นด้วย Snapdragon Flight บอร์ดประมวลผลโดรนของ Qualcomm ด้วย

เมื่อเดือนตุลาคมเพิ่งมีรายงานว่าผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายสัญชาติจาไมกา Digicel ออกมาขู่เครือข่ายโฆษณาออนไลน์รายใหญ่อย่าง กูเกิล เฟซบุ๊ก และยาฮูว่าจะบล็อคโฆษณาถ้าหากว่าไม่จ่ายค่าธรรมเนียม ล่าสุด EE ผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายรายใหญ่ของอังกฤษออกมาประกาศเกี่ยวกับการบล็อคโฆษณาบ้างแล้ว

ไม่ใช่แค่ลูกรักของไมโครซอฟท์อย่างโนเกียเท่านั้นที่บ่นเรื่องความเชื่องช้าและไม่จริงจังในการปั้น Windows Phone ให้ดังได้ ล่าสุด Olaf Swantee ซีอีโอของ EE (ชื่อเดิม Everything Everywhere เครือข่ายโทรศัพท์ 4G LTE แห่งแรกของสหราชอาณาจักร) ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ MobileToday ของอังกฤษว่าไมโครซอฟท์ควรจะจริงจังกับการสนับสนุนอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Phone ให้มากกว่านี้

EE เครือข่าย 4G LTE แรกของสหราชอาณาจักร ได้ออกมาประกาศในวันนี้ว่าจะยอมเพิ่มปริมาณดาต้าที่รวมอยู่ในแปลนเหมาจ่ายของตัวเองแล้ว โดยในบางแปลนจำนวนดาต้าเพิ่มมากกว่าเดิมถึง 60% หลังจากที่แปลนเดิมมีจำนวนดาต้าที่รวมอยู่ในแปลนต่ำกว่าบริการ LTE ในประเทศอื่น ๆ มากและมีกระแสตอบรับที่ค่อนข้างเป็นลบ

ลูกค้าที่ใช้แปลนดาต้า 2GB เดิม จะได้รับดาต้าเพิ่มเป็น 3GB ส่วนลูกค้าที่ได้รับ 3GB เดิมจะได้รับ 5GB และลูกค้าที่ใช้แปลนดาต้า 5GB เดิมตอนนี้จะสามารถใช้ได้ 8GB

อย่างไรก็ตาม EE ยืนยันว่าบริษัทไม่มีแผนที่จะเปิดบริการดาต้าไม่จำกัดอย่างแน่นอน โดยตัวแทนจาก EE อ้างว่าบริษัทต้องการรักษาประสิทธิภาพของเครือข่ายไว้ให้ดีที่สุด

จากข่าวเก่าเรื่องค่าบริการ 4G LTE ในอังกฤษวันนี้เครือข่าย EE ได้เปิดให้บริการ 4G LTE เป็นครั้งแรกในสหราชอาณาจักรแล้วครับ เบื้องต้นจะเปิดให้บริการทั้งหมด 11 เมืองคือ ลอนดอน แมนเชสเตอร์ บริสตอล เบอร์มิงแฮม คาร์ดิฟ เอดินเบิร์ก ลีดส์ ลิเวอร์พูล เชฟฟิลด์ กลาสโกว และเซาท์แธมป์ตัน

ค่าบริการดูได้ตามข่าวเก่า (แพงใช่เล่น) ทาง EE สัญญาว่าจะให้ความเร็วประมาณ 8 - 18 Mbps และจะขยายพื้นที่การให้บริการอีก 6 เมืองก่อนคริสต์มาสนี้ และยังวางแผนว่าจะขยายให้ครอบคลุมประชากร 98% ในปี 2014

EE (Everything Everywhere เดิม) ผู้ให้บริการ 4G LTE รายแรกในสหราชอาณาจักร ซึ่งจะเริ่มเปิดให้บริการในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ เผยราคาแพ็กเกจการใช้งาน 4G LTE ต่อเดือนดังนี้ (ทุกแพ็กเกจติดสัญญา 24 เดือน สามารถโทร-ส่งข้อความได้ไม่จำกัด)

• 500MB 36 ปอนด์ (ประมาณ 1,800 บาท)
• 1GB 41 ปอนด์
• 3GB 46 ปอนด์
• 5GB 51 ปอนด์
• 8GB 56 ปอนด์

EE ไม่มีแพ็กเกจแบบไม่จำกัดปริมาณข้อมูลให้เลือก แต่แพ็กเกจข้างต้นก็ไม่จำกัดวิธีการใช้งานข้อมูล เช่น นำไป tethering กับอุปกรณ์อื่นได้

บนเว็บไซต์ของ EE ระบุความเร็วของ 4G LTE ว่าค่าเฉลี่ยจะอยู่ระหว่าง 8-12 Mbps ครับ

หลังจากที่มีการรวมตัวกันระหว่างเครือข่าย T-Mobile และ Orange ในสหราชอาณาจักร บริษัทใหม่ที่เกิดขึ้นมาที่ใช้ชื่อว่า EE (ชื่อเก่าคือ Everything Everwhere) จึงกลายเป็นบริษัทที่ถือคลื่นในมืออยู่มากกว่าผู้ให้บริการรายอื่นในประเทศ โดย EE ได้ตัดสินใจที่จะจัดสรรคลื่นภายในใหม่ และได้เปลี่ยนบริการ 1800 MHz ของตัวเองให้มาเป็นเครือข่าย LTE แทน

ก่อนหน้านี้ที่เคยรายงานไปว่า Ofcom หรือ กสทช.​ ของสหราชอาณาจักร กลัวว่าการแข่งขันในตลาดผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือจะไม่มีประสิทธิภาพ หาก Everything Everywhere (EE) ที่ประกอบไปด้วย T-Mobile และ Orange จะเปิดบริการ 4G LTE ก่อนผู้ให้บริการรายอื่น ๆ ในสหราชอาณาจักร ล่าสุด Ofcom ได้ออกมาประกาศว่า EE สามารถจะนำคลื่นย่าน 1800MHz ที่ EE เคยให้บริการเครือข่าย 2G มาเปิดให้บริการ 4G LTE แทนได้ตั้งแต่วันที่ 11 กันยายนปีนี้เป็นต้นไป

อาจจะต้องเกริ่นก่อนสำหรับหลาย ๆ ท่านที่ยังไม่ได้ติดตามข่าวเกี่ยวกับการให้บริการ 4G ในประเทศอังกฤษ​ ก่อนหน้านี้เกิดการควบรวมกิจการของผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือในอังกฤษสองราย ได้แก่ T-Mobile และ Orange โดยบริษัทใหม่หลังการควบรวมกิจการมีชื่อว่า Everything Everywhere (EE) และผลจากการควบรวมกิจการครั้งนี้ ทำให้ EE กลายเป็นผู้ที่เป็นเจ้าของคลื่นช่วงความถี่ 1800MHz รายใหญ่ ที่ก่อนหน้านี้ถูกใช้งานในการให้บริการ 2G ของทั้ง T-Mobile และ Orange โดยจุดประสงค์ของ EE คือความต้องการจะเป็นผู้ให้บริการรายแรกของประเทศที่จะเปิดให้บริการ 4G LTE ก่อนใคร