Mark Gurman แห่ง Bloomberg รายงานความก้าวหน้าของการพัฒนาชิปโมเด็ม 5G ของแอปเปิล โดยชิปมีความพร้อมในการใช้งานและได้แก้ไขปัญหาสำคัญที่เคยพบก่อนหน้านี้แล้ว ชิปจะผลิตโดย TSMC เช่นเคย สินค้าแรกที่จะใช้ชิป 5G ออกแบบเองคือ iPhone SE 4 ที่คาดว่าจะเริ่มขายต้นปีหน้า
หลังจากนั้นสินค้าถัดไปที่จะใช้ชิปโมเด็มของแอปเปิลคือ iPad รุ่น Entry-level ตัวใหม่ และ iPhone 17 รุ่นเครื่องบางที่เรียกว่า iPhone Air
ก่อนหน้านี้มีข่าวที่หลายคนก็ไม่ค่อยเชื่อนักว่าจะจริงนั่นคือ Qualcomm สนใจซื้อกิจการ Intel ผ่านมาสองเดือนก็ยังไม่มีความคืบหน้าออกมา และล่าสุดข่าวนี้ก็อาจจะซาไปจริง
มีรายงานว่า Qualcomm เริ่ม "สนใจน้อยลง" ที่จะซื้อกิจการ Intel โดยมีเหตุผลหลักคือความซับซ้อนและรายละเอียดต่าง ๆ หากจะซื้อกิจการทั้งหมด แต่ยังมีความเป็นไปได้ที่ Qualcomm อาจซื้อกิจการบางส่วนของ Intel มากกว่า
ในตอนนั้น Intel ปฏิเสธว่าไม่ได้รับข้อเสนอจาก Qualcomm ขณะที่ Qualcomm ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อข่าวนี้ ส่วนในรายงานล่าสุดทั้งสองบริษัทก็ยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นใด ๆ
Qualcomm จัดงานพบปะนักลงทุน Qualcomm Investor Day มีข้อมูลที่น่าสนใจคือพูดถึง Snapdragon X Elite รุ่นที่สอง (น่าจะใช้ชื่อว่า Gen 2 ตามระบบของ Qualcomm ในปัจจุบัน) ว่าจะใช้ซีพียู Oryon รุ่นที่สอง ประสิทธิภาพแบบคอร์เดี่ยวดีขึ้นจากรุ่นแรก 30% (วัดจาก Geekbench Single-Core), ถ้าวัดจากชิปทั้งตัวลดการใช้พลังงานลง 57%
งานนี้เป็นการพูดภาพรวมธุรกิจของ Qualcomm ยังไม่ใช่งานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างเป็นทางการ คาดว่า Qualcomm น่าจะเปิดตัว Snapdragon X Elite Gen 2 ในเดือนธันวาคม (ตามธรรมเนียม Qualcomm) หรืออาจเปิดตัวในงาน CES 2025 ต้นเดือนมกราคมทีเดียวเลย
Qualcomm รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2024 สิ้นสุดวันที่ 29 กันยายน 2024 มีรายได้ตามบัญชี GAAP 10,244 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 2,920 ล้านดอลลาร์
Cristiano Amon ซีอีโอ Qualcomm กล่าวว่าสินค้าใหม่ที่บริษัทเพิ่งประกาศ ทำให้บริษัทยังคงเป็นผู้นำทั้งในสินค้าอุปกรณ์พกพา พีซี ยานยนต์ และ IoT อุตสาหกรรม
รายได้แยกตามกลุ่มธุรกิจของ Qualcomm เป็นดังนี้
ความคืบหน้าของคดีฟ้องร้องระหว่างบริษัท Arm Holding Plc กับ Qualcomm ที่ Arm มองว่า Qualcomm ทำผิดไลเซนส์การใช้งานสถาปัตยกรรม Arm โดยนำไลเซนส์ของบริษัทลูก Nuvia มาใช้กับบริษัทแม่ Qualcomm ด้วย ซึ่ง Arm มองว่าไม่สามารถทำแบบนั้นได้
คู่มากับการเปิดตัวชิป Snapdragon Ride/Cockpit Elite สำหรับรถยนต์ Qualcomm ยังประกาศความร่วมมือกับกูเกิล พัฒนาระบบแสดงผลในหน้าจอรถยนต์ (digital cockpit) ร่วมกัน
ฝั่ง Qualcomm มีแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์สำหรับรถยนต์ที่เรียกรวมๆ ว่า Snapdragon Digital Chassis (มีทั้ง Ride, Cockpit และส่วนอื่นๆ) ส่วนกูเกิลมีระบบปฏิบัติการรถยนต์ Android Automotive OS (AAOS) ภายใต้ข้อตกลงนี้ ทั้งสองบริษัทจะร่วมมือกันให้ฝั่งฮาร์ดแวร์-ซอฟต์แวร์ทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น อัพเกรดง่ายขึ้น ส่งข้อมูลจากรถยนต์ขึ้นคลาวด์สะดวก กลายเป็นแพลตฟอร์มมาตรฐานสำหรับบริษัทรถยนต์นำไปใช้ต่อได้ง่าย
งานสัมมนาประจำปีของ Qualcomm รอบนี้่ นอกจากการเปิดตัว Snapdragon 8 Elite สำหรับสมาร์ทโฟน ยังมีการเปิดตัว Snapdragon Cockpit Elite และ Snapdragon Ride Elite สำหรับตลาดรถยนต์ด้วย (เมื่อรวมกับ Snapdragon X Elite สำหรับพีซีแล้ว ทุกอย่างล้วนเป็น Elite)
Qualcomm เจาะตลาดชิปสำหรับรถยนต์มานานพอสมควรแล้ว อย่าง Snapdragon Ride ชิปสำหรับรถยนต์ไร้คนขับ เริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2020 และ Snapdragon Cockpit สำหรับแสดงผลในจอรถยนต์ เริ่มทำปี 2022
จากข่าว Qualcomm เปิดตัวชิป Snapdragon 8 Elite ที่คุยว่าเป็นชิปมือถือที่แรงที่สุดในตอนนี้
เว็บไซต์ Android Authority ได้ตัวเลขเบนช์มาร์คจาก Qualcomm ที่รันทดสอบกับมือถือรุ่นต้นแบบ (reference smartphone) ทำให้เราพอได้มองเห็นภาพกันว่า Snapdragon 8 Elite มีสมรรถนะแค่ไหน
การทดสอบ Geekbench 6 พบว่า Snapdragon 8 Elite ได้คะแนนแบบคอร์เดี่ยวน้อยกว่า Apple A18 Pro เล็กน้อย (ประมาณ 4%) แต่ชิปทั้งสองตัวก็นำหน้าชิปอื่นในท้องตลาดไปไกล ส่วนคะแนนมัลติคอร์นั้น Snapdragon 8 Elite เอาชนะ A18 Pro ได้เยอะถึง 27% ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากจำนวนคอร์ประสิทธิภาพสูงของ Snapdragon 8 Elite มีเยอะกว่า (6 คอร์ เทียบกับของ A18 Pro มี 4 คอร์)
Qualcomm เปิดตัวชิปเรือธงสำหรับมือถือรุ่นใหม่ของปีนี้คือ Snapdragon 8 Elite โดยเลิกนับเป็น Gen 4 ต่อจาก Snapdragon 8 Gen 3 รุ่นของปีที่แล้ว เปลี่ยนมาใช้ระบบรุ่นเป็น Elite แบบเดียวกับ Snapdragon X Elite ของฝั่งพีซี
การเปลี่ยนแปลงสำคัญของ Snapdragon 8 Elite คือตัวซีพียู เปลี่ยนจากซีพียู Kryo ที่ใช้มายาวนานบนสมาร์ทโฟน มาใช้ซีพียู Oryon แบบเดียวกับ Snapdragon X บนพีซีแล้ว (พัฒนาโดยทีม Nuvia อดีตทีมทำชิป Apple A Series ที่ Qualcomm ซื้อกิจการมาในปี 2021)
หลังจากที่ Qualcomm เปิดตัวมินิพีซี Snapdragon Dev Kit for Windows เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อให้นักพัฒนานำเครื่องไปพัฒนาซอฟต์แวร์ให้กับ AI PC ที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite บนระบบปฏิบัติการ Windows 11 ล่าสุดทาง Qualcomm ได้ออกมาประกาศยกเลิก Snapdragon Dev Kit พร้อมยกเลิกการสนับสนุนอุปกรณ์ และคืนเงินให้ผู้ซื้อทุกรายการทั้งที่ไม่ได้รับเครื่องหรือได้รับเครื่อง โดยไม่จำเป็นต้องคืนสินค้า
The Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง เผยว่า Qualcomm ได้ยื่นข้อเสนอขอซื้อกิจการ Intel เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะเป็นดีลซื้อกิจการขนาดใหญ่ที่สุดรายการหนึ่ง และน่าจะมีประเด็นต่อเนื่องอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะการตรวจสอบเรื่องผูกขาดธุรกิจ
มูลค่ากิจการของ Intel ตามราคาหุ้นล่าสุดอยู่ที่ 9.3 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วน Qualcomm อยู่ที่ 1.89 แสนล้านดอลลาร์ ราคาหุ้น Intel ในช่วงปีที่ผ่านมามีการปรับลดลงมากถึง 60% มูลค่ากิจการเคยสูงถึง 2.9 แสนล้านดอลลาร์ ช่วงปี 2020
Qualcomm เป็นบริษัทจัดจำหน่ายชิปสำหรับสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์สื่อสาร หากบริษัทซื้่อกิจการ Intel เพิ่มมา จะช่วยให้พอร์ตโฟลิโอบริษัทมีสินค้ากลุ่มพีซีและเซิร์ฟเวอร์ครอบคลุมหลายกลุ่มธุรกิจมากขึ้น
หนังสือพิมพ์ The Korea Herald อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตน ระบุว่าซัมซุงอาจจะต้องเลือกใช้ชิป Qualcomm Snapdragon อย่างเดียวในโทรศัพท์เรือธงปีหน้า จากเดิมที่ใช้ Exynos ควบคู่ไปด้วยเสมอ เนื่องจากสายการผลิต 3nm ของซัมซุงเองยังไม่สามารถผลิตได้มากพอ
แหล่งข่าวระบุว่าสายการผลิต Exynos 2500 รุ่นต่อไป ทดสอบผลิตได้อัตราผลิตสำเร็จ (yield) เพียง 20% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ 60% โดยหากโรงงานสามารถพัฒนากระบวนการผลิตได้สำเร็จ ก็ค่อยนำชิปไปใช้ใน Galaxy Z Fold/Flip ที่เปิดตัวภายหลัง
สำนักข่าว Reuters อ้างแหล่งข่าวสองรายที่เกี่ยวข้องบอกว่า Qualcomm กำลังอยู่ในขั้นตอนศึกษาความเป็นไปได้ ที่จะซื้อบางส่วนของธุรกิจออกแบบชิปของอินเทล ซึ่งตอนนี้อินเทลเองก็อยู่ในขั้นตอนปรับโครงสร้างบริษัท ที่มีการพิจารณาขายสินทรัพย์หรือธุรกิจที่ไม่ทำเงินออกไป
รายงานบอกว่าส่วนธุรกิจออกแบบชิปสำหรับพีซี เป็นส่วนที่ Qualcomm สนใจซื้อมากที่สุด ขณะที่ชิปเซิร์ฟเวอร์นั้นไม่อยู่ในความสนใจเลย แต่ Qualcomm ก็ยังประเมินภาพรวมทั้งหมดอยู่
ตัวแทนของ Qualcomm ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อข่าวนี้ ขณะที่ตัวแทนอินเทลบอกว่าบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจพีซี
เอซุส (ประเทศไทย) เปิดตัวโน้ตบุ๊ก Copilot+ PC สองรุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมโปรเซสเซอร์ Snapdragon X Plus ได้แก่ ASUS Vivobook S 15 และ ProArt PZ13 ส่งมอบประสบการณ์การใช้งาน AI สู่กลุ่มผู้ใช้ที่กว้างขึ้น
Vivobook S 15 และ ProArt PZ13 เป็นโน้ตบุ๊กเครื่องแรกที่ใช้แพลตฟอร์ม Snapdragon X Plus นำเสนอฟีเจอร์ AI ขั้นสูงให้ผู้ใช้ได้เข้าถึงง่ายกว่าเดิม ซีพียู Qualcomm Oryon™แบบ 8 คอร์ พร้อมความสามารถในการประมวลผล AI ด้วย NPU กว่า 45 TOPS
Cristiano Amon ซีอีโอ Qualcomm ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่าบริษัทกำลังทำงานร่วมกับซัมซุงและกูเกิล เพื่อศึกษาแนวทางพัฒนาแว่นตา Mixed Reality (XR) ที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ซึ่งจะมีรูปแบบแตกต่างไปจากเฮดเซต Mixed Reality ของแอปเปิล Apple Vision Pro
เมื่อปีที่แล้วกูเกิลเคยประกาศความร่วมมือกับซัมซุงเพื่อพัฒนาแว่น XR แต่ไม่ได้ระบุถึง Qualcomm การให้สัมภาษณ์นี้จึงเป็นครั้งแรกที่ Qualcomm ออกมาบอกเป็นทางการว่าบริษัทมีส่วนร่วมด้วย
Amon บอกว่าแนวทางที่เขามองตอนนี้ คือให้คนที่ซื้อสมาร์ทโฟน ซื้อแว่นตา XR นี้เพิ่มอีกหนึ่งอย่าง เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ใช้งานควบคู่กัน
กูเกิลกับซัมซุงยังไม่ได้ให้ความเห็นต่อข่าวดังกล่าว
Qualcomm เปิดตัวชิปประมวลผลสำหรับพีซี Snapdragon X Plus รุ่น 8 คอร์ เพื่อรองรับโออีเอ็มของผู้ผลิตพีซี Copilot+ PC ให้ทำราคาที่ช่วงต่ำกว่า 900 ดอลลาร์ได้ โดย Snapdragon X Plus รุ่นที่ออกมาก่อนหน้านี้มี 10 คอร์ รองรับพีซีระดับราคาสูงกว่า 900 ดอลลาร์
Snapdragon X Plus 8 คอร์ ใช้ซีพียู Oryon เหมือนรุ่น 10 คอร์, มี NPU สมรรถนะเท่ากันที่ 45 TOPS, จีพียู Adreno สมรรถนะลดลงเป็น 1.7-2.1 TFLOPS, ส่วนแคชลดเหลือ 30MB, แบนด์วิดท์แรม LPDDR5x 8448 MT/s เท่าเดิม และใช้การผลิต 4nm เช่นกัน มีสองรุ่นย่อยคือ X1P-46-100 และ X1P-42-100
Mark Gurman แห่ง Bloomberg รายงานข้อมูลแอปเปิลในจดหมายข่าวประจำสัปดาห์ Power On โดยคราวนี้ว่าด้วยแผนพัฒนาชิปโมเด็มของแอปเปิล
ประเด็นนี้เคยมีรายงาน ว่าแอปเปิลตั้งทีมเพื่อพัฒนาชิปโมเด็มเอง นำโดย Johny Srouji หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชิป มาตั้งแต่ปี 2018 เป็นผลต่อเนื่องจากการมีคดีฟ้องร้องกับ Qualcomm ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปโมเด็มให้แอปเปิล ทำให้บริษัทพยายามลดการพึ่งพาลง
เราเห็นข่าว Qualcomm ส่งแบรนด์ Snapdragon เป็นสปอนเซอร์หลักบนเสื้อของ Manchester United ตั้งแต่ปีที่แล้ว ล่าสุดในการแข่งขัน Community Shield 2024 เมื่อวานนี้ (10 สิงหาคม) Qualcomm ยังไปไกลอีกขั้นด้วยการเพิ่มคำว่า "Copilot+ PC" ที่ด้านหลังของเสื้อแข่ง ใต้หมายเลขของนักเตะด้วย
Copilot+ PC ถือเป็นสินค้าเด่นของ Qualcomm ที่เพิ่งเปิดตัวไม่กี่เดือนก่อน หมายถึงพีซีที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite และ Snapdragon X Plus โดยคำนี้เป็นของไมโครซอฟท์ แต่มีสัญญาทำตลาดร่วมกันกับ Qualcomm เป็นเอ็กซ์คลูซีฟไประยะหนึ่ง ซึ่งจะจบลงในปีนี้
ตอนนี้ พีซีพลัง Snapdragon X ที่ราคาถูกที่สุดอยู่ราว 1,000 ดอลลาร์ (Surface Laptop 7 และ Pro 11 รุ่นล่างสุด) แต่ Qualcomm บอกว่าราคาของพีซีกลุ่มนี้จะลดลงมาเหลือราว 700 ดอลลาร์ในปีหน้า 2025
Cristiano Amon ซีอีโอของ Qualcomm ใช้คำว่าจะ "ขยายไลน์สินค้ากลุ่ม Snapdragon X" ให้ครอบคลุมพีซีช่วงราคา 700 ดอลลาร์ด้วย จึงน่าจะแปลว่าเราจะได้เห็นชิป Snapdragon X รุ่นที่ราคาและสเปกลดลงกว่าชิปในปัจจุบัน (Snapdragon X Elite และ Snapdragon X Plus) ทยอยเปิดตัว โดย Qualcomm มีกำหนดงานแถลงข่าวประกาศสินค้าใหม่ในงาน IFA 2024 เดือนกันยายนนี้
Qualcomm รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2024 สิ้นสุดวันที่ 23 มิถุนายน มีรายได้ตามบัญชี GAAP 9,393 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,803 ล้านดอลลาร์
รายได้จากกลุ่มธุรกิจจัดจำหน่ายชิปหรือ QCT มีรายได้เพิ่มขึ้น 12% เป็น 8,069 ล้านดอลลาร์ เฉพาะกลุ่มโทรศัพท์มือถือมีรายได้ 5,899 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12% เช่นกัน ที่เหลือเป็นยานยนต์และ IoT ส่วนอีกกลุ่มธุรกิจจากการขายไลเซนส์ QTL มีรายได้ 1,273 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3%
Cristiano Amon ซีอีโอ Qualcomm ให้ข้อมูลช่วงแถลงผลประกอบการ บอกว่า AI ทำให้ตลาดสมาร์ทโฟนกลุ่มพรีเมียมมีขนาดใหญ่ขึ้น แม้ภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนอาจเติบโตน้อยหรือทรงตัว แต่ตลาดพรีเมียมตอนนี้ขยายด้วยอัตราที่รวดเร็วมาก
Qualcomm เปิดตัวชิปรุ่นเล็ก Snapdragon 4s Gen 2 เน้นจับตลาดสมาร์ทโฟน 5G ราคาถูก เน้นเป้าหมายหลักคือประเทศอินเดีย รวมถึงประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ
Qualcomm บอกว่าสมาร์ทโฟนระดับราคาไม่เกิน 100 ดอลลาร์ ยังถูกจำกัดการเชื่อมต่อที่ 4G/LTE ด้วยเหตุผลเรื่องราคาชิป การมาถึงของ Snapdragon 4s Gen 2 จะเปิดทางให้เกิดสมาร์ทโฟนราคาระดับนี้ แต่เปลี่ยนมาเชื่อมต่อผ่านเครือข่าย 5G ที่ส่งข้อมูลเร็วกว่ากันอย่างน้อย 7 เท่าได้
สเปกของ Snapdragon 4s Gen 2 ใช้ซีพียู Kryo แปดคอร์ สูตร 2+6, กระบวนการผลิต 4nm, ระบบชาร์จเร็ว Quick Charge 4+, โมเด็ม 5G ความเร็วดาวน์โหลด 1 Gbps, รองรับ Wi-Fi 5
ซัมซุงเปิดเผยว่า Galaxy Z Fold 6 และ Galaxy Z Flip 6 ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 3 Mobile Platform for Galaxy รุ่นพิเศษ ที่ปรับแต่งให้ประสิทธิภาพซีพียู-จีพียูเพิ่มจากรุ่นปกติ (ไม่บอกว่าแค่ไหน) และปรับแต่งให้เหมาะกับฟีเจอร์ AI ของ Z Flip/Fold 6 ด้วย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซัมซุงใช้ชิปรุ่นพิเศษจาก Qualcomm เพราะเคยทำมาก่อนแล้วตอน Galaxy S23 ที่ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 2 Mobile Platform for Galaxy รุ่นเพิ่มคล็อคจากปกติเล็กน้อย
The Verge มีบททดสอบโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite/Plus ทุกรุ่นย่อยอย่างละเอียด และเปรียบเทียบประสิทธิภาพกับชิปคู่แข่งในตลาดหลายตัว ได้แก่ Apple M3, M2 Max, M3 Max, Intel Core Ultra 7 155H/155U และ AMD Ryzen 7 8845HS
ผลทดสอบเบนช์มาร์คออกมาว่า Snapdragon X Elite ทำคะแนน Geekbench 6 ได้ดีมาก คะแนนของ X Elite รุ่นท็อปสุด (X1E-84-100 12 คอร์) อยู่อันดับสอง หากเป็นมัลติคอร์ เป็นรองเพียงแค่ Apple M3 Max ที่มี 16 คอร์เท่านั้น และสามารถเอาชนะ Apple M2 Max ที่มี 12 คอร์เท่ากันได้ด้วย ส่วนคะแนนแบบคอร์เดี่ยวอยู่อันดับสาม แพ้แค่ Apple M3 (8 คอร์) และ M3 Max
ส่วนคะแนนเบนช์มาร์คอีกตัวคือ Cinebench 2024 ก็เอาชนะ M2 Max ได้ในแบบคอร์เดี่ยว แต่ยังแพ้คะแนนมัลติคอร์
ปัญหาเรื่องชิป Qualcomm ไม่ออกไดรเวอร์อัพเดตตาม Android เวอร์ชันใหม่ เป็นหนึ่งในสาเหตุยอดนิยมที่ผู้ผลิต OEM ไม่สามารถซัพพอร์ตสมาร์ทโฟนได้ยาวนานนัก แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไปในช่วงหลังๆ และผู้ผลิตบางรายอย่างซัมซุงและกูเกิลออกนโยบายการซัพพอร์ตที่ยาวนานขึ้นมาก จึงกลายเป็นแรงกดดันให้ผู้ผลิตรายอื่นๆ ต้องพยายามทำตามบ้าง
Chris Patrick ผู้บริหารฝ่ายสมาร์ทโฟนของ Qualcomm ให้สัมภาษณ์กับ Android Authority ว่ากำลังพยายามแก้ปัญหานี้อยู่ เขาบอกว่ากระบวนการอัพเดตซอฟต์แวร์มีความซับซ้อนสูง แต่ก็ยืนยันว่าคอขวดไม่ได้อยู่ที่ Qualcomm เพราะร่วมมือกับกูเกิลแก้ปัญหานี้ไปบางส่วนแล้ว เช่น การปรับโครงสร้างของโค้ดไม่ให้อิงกับฮาร์ดแวร์มากเกินไป
ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Copilot + PC ที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite นั้นเปิดตัวมาสักพักแล้ว และตอนนี้ในต่างประเทศก็เริ่มวางจำหน่าย และมีบทวิจารณ์จากสื่อต่าง ๆ เป็นที่เรียบร้อย หลายสื่อใช้ ASUS Vivobook S 15 ในการรีวิวซึ่งเห็นตรงกันว่าแบตเตอรี่อึดขึ้นมากใกล้เคียงกับ Macbook ของ Apple แล้ว แต่ในด้านประสิทธิภาพ แม้จะใช้งานกับโปรแกรมที่เป็น x86 ได้ดีกว่าที่คาด แต่ในด้านการเล่นเกมกลับยังทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ โดยมีตัวอย่างบทวิจารณ์จากสื่อต่าง ๆ ดังนี้