ไมโครซอฟท์ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ให้ Notepad ดังนี้
ตอนนี้ยังไม่มีหน้าตาของ Notepad แบบรองรับตัวหนาตัวเอียงออกมาโชว์กัน แต่การมาถึงของฟีเจอร์นี้ย่อมทำให้ Notepad สามารถใช้ทดแทน WordPad ที่ถูกถอดออกจาก Windows ไปแล้ว
ที่มา - Microsoft
ไมโครซอฟท์เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า Perfect Screenshot ให้แอพจับภาพหน้าจอ Snipping Tool สามารถจับภาพที่ขอบภาพให้อัตโนมัติ ไม่ต้องไปสั่ง crop อีกครั้งในภายหลัง
นอกจากนี้ Snipping Tools ยังเพิ่ม ฟีเจอร์คัดลอกข้อความในภาพ และฟีเจอร์ดูดสี (color picker) จากตำแหน่งใดก็ได้บนหน้าจอด้วย
ฟีเจอร์ชุดนี้จำเป็นต้องใช้กับ Copilot+ PC ที่มีชิป NPU ช่วยอ่านหน้าจอตอนที่จับภาพ แล้วดูได้ว่าตรงไหนคือเส้นขอบภาพหรือข้อความ
ที่มา - Microsoft
นอกจาก Start Menu แบบใหม่ของ Windows 11 ที่เพิ่มเซคชั่น All Apps ไมโครซอฟท์ยังประกาศฟีเจอร์ใหม่ของ Windows 11 อีกหลายอย่าง
ที่น่าสนใจคือ Settings เพิ่มฟีเจอร์ AI ช่วยอ่านคำค้นหาของผู้ใช้ เดิมทีเวลาเราหาอะไรในช่องค้นหาของ Settings ต้องพิมพ์คีย์เวิร์ดให้ตรง (เช่น ถ้าลองพิมพ์คำว่า add account หรือ remove user จะหาอะไรไม่เจอเลย)
ของใหม่ที่เพิ่มเข้ามาคือใช้ AI ทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผู้ใช้ค้นหา แล้วแสดงรายการตั้งค่าขึ้นมาในผลการค้นหา กด Apply เพื่อปรับค่าได้ทันที โดยไม่ต้องเข้าไปยังหน้า Settings นั้นๆ ด้วยซ้ำ
สัปดาห์ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์เปิดตัว Start Menu แบบใหม่ของ Windows 11 อย่างเป็นทางการ หลังมีคนไปค้นพบโค้ดที่ซ่อนอยู่ใน Windows 11 Insider มาก่อนแล้ว
Start Menu เวอร์ชันใหม่ต่างจากเวอร์ชันปัจจุบัน ตรงที่แสดง All Apps ทันทีไม่ต้องกดเข้าไปข้างในอีกรอบ ใน Start Menu ของใหม่จึงมี 3 เซ็คชั่น เรียงจากบนลงล่างคือ
ไมโครซอฟท์ประกาศรองรับ โปรโตคอล Agent2Agent (A2A) ของกูเกิล ที่ออกแบบมาให้ AI agent หลายๆ ตัวคุยกันเองได้
กูเกิลเปิดตัว A2A ในเดือนเมษายน โดยมีผู้สนับสนุนเป็นบริษัทไอทีใหญ่ๆ จำนวนมาก แต่ในบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการ generative AI มีไมโครซอฟท์เป็นรายแรกที่ขยับตัวก่อน ประกาศสนับสนุน A2A แล้ว โดยไมโครซอฟท์ให้เหตุผลว่าเป็นไปตามนโยบายการสนับสนุนมาตรฐานเปิด ดังที่ก่อนหน้านี้เข้าไปช่วยพัฒนา Model Context Protocol (MCP) ของ Anthropic มาแล้ว
ไมโครซอฟท์จะรองรับ A2A ในบริการ Azure AI Foundry และ Copilot Studio ในเร็วๆ นี้
ไมโครซอฟท์ประกาศรับรอง Fedora เป็นดิสโทรอย่างเป็นทางการของ Windows Subsystem for Linux (WSL) ตามหลัง RHEL ที่ประกาศไปเมื่อปลายปี 2024
ก่อนหน้านี้ เราสามารถใช้ Fedora บน WSL แบบดาวน์โหลดมาเองได้อยู่แล้ว ข่าวนี้คือ Fedora ปรับวิธีการออกอิมเมจใหม่ให้สอดคล้องกับโครงสร้างไฟล์ tar ของ WSL (เริ่มใช้กับ Fedora 42) ทำให้ WSL สามารถติดตั้ง Fedora ด้วยคำสั่งเดียวได้เลย
wsl –-install FedoraLinux-42
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Surface Pro จอ 12 นิ้วรุ่นใหม่ตามข่าวก่อนหน้านี้ โดยรวมแล้ว Surface Pro รุ่นใหม่มีขนาดเล็กกว่ารุ่นเดิมอย่าง Surface Pro 11 ที่มีหน้าจอ 13 นิ้ว เน้นพกพามากขึ้นโดยมีน้ำหนักเบาลงและสเปคเครื่องที่ลดทอนจากรุ่นเดิมในหลายส่วนรวมถึงชิปประมวลผล กล้องหน้า พอร์ต USB สำหรับสเปคโดยละเอียดมีดังนี้
มีสามสีให้เลือก คือ Platinum, Ocean และ Violet สนนราคาเริ่มต้นเพียง 799 ดอลลาร์
ที่มา: Windows Central
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Surface รุ่นใหม่ ตามนัดหมาย โดยเป็น Surface Pro 12 นิ้ว ตรงตามข่าวลือก่อนหน้านี้
ไมโครซอฟท์เรียก Surface Pro 12 นิ้ว (ไม่มีเลข Gen แล้ว) ว่าเป็น "The thinnest and lightest Copilot+ PC" เพราะมีขนาดบางเบากว่า Surface Pro แบบดั้งเดิมขนาด 13 นิ้ว น้ำหนักตัวเครื่อง 686 กรัม ไม่รวมคีย์บอร์ด เทียบกับรุ่น 13 นิ้วหนัก 895 กรัม
โซนี่ประกาศอันดับเกมขายดีบน PlayStation Store แบบดิจิทัลดาวน์โหลด ประจำเดือนเมษายน 2025 ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา
ผลปรากฏว่า Top 3 เกม PS5 ทั้งสองภูมิภาคล้วนแต่เป็นเกมของไมโครซอฟท์ ได้แก่ The Elder Scrolls IV: Oblivion Remastered, Forza Horizon 5 และ Minecraft (อันดับของยุโรปกับสหรัฐต่างกันเล็กน้อย แต่ Top 3 คือทั้งสามเกมนี้เหมือนกัน)
ยุทธศาสตร์ใหม่ของไมโครซอฟท์หลังซื้อ Activision Blizzard สำเร็จคือการเปลี่ยนมาขายซอฟต์แวร์เกมแทน และขยายฐานผู้เล่นมาสู่คอนโซลคู่แข่งทั้ง PlayStation และ Nintendo Switch
มีข้อมูลเพิ่มเติมหลังจาก OpenAI ประกาศแผนการปรับโครงสร้างบริษัท โดยไม่ได้เปลี่ยนให้ส่วนธุรกิจแสวงหากำไรหรือ For-Profit มีอำนาจควบคุมธุรกิจเริ่มต้นตอนก่อตั้งที่ไม่แสวงหากำไร (Non-Profit) ตามที่มีข่าวก่อนหน้า แต่ใช้วิธีเปลี่ยนแปลงส่วน For-Profit เป็นบริษัท PBC (Public Benefit Corporation) ที่สร้างกำไรเพื่อประโยชน์ของสาธารณะแทน
ถึงตรงนี้ก็อาจมีคำถามว่าแล้วการเปลี่ยนเป็น PBC ต่างกับรูปแบบ For-Profit เดิมอย่างไร
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Gears of War: Reloaded เวอร์ชันรีมาสเตอร์ของ Gears of War ภาคแรกที่ขายปี 2006 เพื่อฉลองเกมครบ 20 ปีในปีหน้า 2026
เกม Gears of War ภาค 1 เคยถูกรีมาสเตอร์มาแล้วครั้งหนึ่งในปี 2015 ใช้ชื่อว่า Gears of War: Ultimate Edition ตอนนั้นลงเครื่อง Xbox One และพีซี ความละเอียดภาพสูงสุดที่ 1080@30
รอบนี้ Gears of War: Reloaded ดึงศักยภาพของฮาร์ดแวร์ยุคใหม่ อัดความละเอียดสูงสุดไปที่ 4K@120 ในโหมดมัลติเพลเยอร์ และ 4K@60 ในโหมดเนื้อเรื่อง, รองรับการแสดงผลแบบ HDR และ VRR, ระบบเสียง Dolby Atmos และ Spatial Audio, ตัว asset ในเกมถูกปรับปรุงเป็น 4K
วันนี้วันที่ 5 เดือน 5 ไม่ใช่แค่วัน double day ลดราคาประจำเดือน แต่ยังเป็นวันสุดท้ายที่ Skype จะเปิดให้บริการ ตามที่เคยประกาศไว้
ทุกวันนี้คงเหลือผู้ใช้ Skype อยู่ไม่มากแล้ว แต่ถ้ายังมีเหลืออยู่จริงๆ ไมโครซอฟท์ก็แนะนำให้ย้ายไปใช้ Microsoft Teams แทน โดยข้อมูลจะย้ายให้อัตโนมัติ (รวมถึง Skype Credit ที่เคยซื้อไว้ก็ยังโอนมาได้) หากยังมีความทรงจำหรือแชทกับเพื่อนๆ บน Skype ในอดีตอันไกลโพ้น ก็ยังสามารถ export ข้อมูลมาเก็บเอาไว้ได้เช่นกัน
ไมโครซอฟท์ประกาศยกเลิกฟีเจอร์ Autofill ช่วยกรอกรหัสผ่านของแอพ Microsoft Authenticator บนมือถือ (Android/iOS) โดยจะมีผลในเดือนกรกฎาคม 2025
ไมโครซอฟท์แนะนำให้หันไปใช้ Autofill ผ่าน Microsoft Edge เวอร์ชันมือถือ (Android/iOS) ซึ่งมีฟีเจอร์ช่วยกรอกรหัสผ่านอยู่แล้วเช่นกัน (ใช้ Edge ช่วยกรอกรหัสผ่านในแอพอื่นได้ผ่าน Autofill service) การที่ไมโครซอฟท์มี Autofill บนมือถือ 2 ตัวอาจซ้ำซ้อนกัน แต่เหตุผลที่ไมโครซอฟท์เลือก Edge เหนือ Authenticator นั้นไม่ได้ระบุชัดเจน
หากเราไม่ต้องการใช้ Edge บนมือถือ ก็สามารถ export รหัสผ่านที่เซฟไว้ใน Microsoft Authenticator ไปยังแอพจัดการรหัสผ่านตัวอื่นแทนได้
ไมโครซอฟท์ประกาศผ่านบัญชี Microsoft Surface บน X.com ว่า "Something new is coming… find out next week" พร้อมระบุคำว่า "Copilot+ PC" และวันที่ 6 พ.ค. จึงสื่อได้ว่าบริษัทฯ มีแผนจะเปิดตัว Surface Copilot+ PC ในวันดังกล่าว
ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าไมโครซอฟท์กำลังพัฒนา Surface Pro หน้าจอ 11 หรือ 12 นิ้ว ซึ่งจะมาเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ iPad Pro หน้าจอ 11 นิ้วของแอปเปิล Engadget ยังคาดว่าไมโครซอฟท์อาจเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ใช้ชิป Snapdragon X ที่ได้รับการเปิดตัวไปเมื่อต้นปีนี้อีกด้วย
ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าบริษัทฯ จะจัดงานเปิดตัวหรือเพียงแค่ขึ้นข่าวประชาสัมพันธ์ทางเว็บไซต์เท่านั้น และหากมีการเปิดตัวในวันที่ 6 พ.ค. นี้จริงก็ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าบริษัทฯ จะเปิดตัวอุปกรณ์อะไรที่งาน Build 2025 ที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 19 พ.ค. หรือไม่ โดยปีที่แล้วก่อนงาน Build 2024 เพียงหนึ่งวัน ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัว Surface Laptop รุ่นที่ 7 และ Surface Pro รุ่นที่ 11 รองรับ Copilot+ PC
ที่มา: Microsoft Surface (X.com) ผ่าน Engadget
ไมโครซอฟท์ประกาศแผนผลักดันการใช้งาน Passkey ซึ่งเป็นวิธียืนยันตัวตนที่ไม่ต้องใช้รหัสผ่าน (passwordless) มีความปลอดภัยมากกว่าวิธียืนยันตัวตนด้วยรหัสผ่านแบบเดิม โดยมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในระบบล็อกอินบัญชีของไมโครซอฟท์
การเปลี่ยนแปลงนี้เริ่มตั้งแต่การปรับหน้าจอล็อกอิน ให้การล็อกอินด้วย Passkey ทำได้ง่ายขึ้น มีผลมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ส่วนผู้สมัครใช้งานบัญชีไมโครซอฟท์ใหม่จะได้ตัวเลือกยืนยันตัวตนแบบไม่ใช้รหัสผ่าน Passkey เป็นค่าเริ่มต้น (default) ในการสมัคร ทั้งนี้วิธีการอื่นยังสามารถเลือกใช้ได้
ไมโครซอฟท์ปล่อยโมเดลภาษาขนาดเล็กตัวใหม่ในซีรีส์ Phi-4 เป็นโมเดลแบบให้เหตุผล (reasoning) จำนวน 3 ตัว 3 ขนาดคือ
ไมโครซอฟท์ประกาศขึ้นราคาคอนโซล Xbox และอุปกรณ์เสริมในหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ยุโรป ออสเตรเลีย เริ่มมีผลวันที่ 1 พฤษภาคม 2025
นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังประกาศขึ้นราคาเกม 1st party ของไมโครซอฟท์เองเป็น 79.99 ดอลลาร์ เริ่มมีผลช่วงปลายปี 2025 แต่ยังไม่บอกว่ามีเกมไหนบ้าง เกมที่เป็นไปได้มากที่สุดย่อมเป็น Call of Duty ภาคใหม่ของปี 2025 ที่มีธรรมเนียมออกช่วงเดือนพฤศจิกายน
ราคาคอนโซล Xbox ในสหรัฐอเมริกา
Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์ ให้ข้อมูลของธุรกิจเกม ในงานแถลงผลประกอบการไตรมาส 1/2025
ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสเดือนมีนาคม 2025 มีรายได้รวม 70,066 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP ที่ 25,824 ล้านดอลลาร์
Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์กล่าวว่าคลาวด์และ AI เป็นสิ่งจำเป็นของทุกธุรกิจเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่มากขึ้น ลดต้นทุน และเร่งการเติบโต ซึ่งไมโครซอฟท์มีทุกอย่างตั้งแต่แพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐาน AI ไปจนถึงแอปให้กับลูกค้า
รายได้แยกตามกลุ่มธุรกิจเป็นดังนี้
Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์ ขึ้นเวทีในงานสัมมนา LlamaCon ของ Meta ซึ่งเป็นการพูดคุยร่วมกับซีอีโอ Mark Zuckerberg โดยเนื้อหาช่วงหนึ่ง Nadella พูดถึงการใช้ AI ช่วยเขียนโค้ดในไมโครซอฟท์
เขาบอกว่าตอนนี้มีโค้ดประมาณ 20-30% ใน Repository ของไมโครซอฟท์ ที่เขียนขึ้นจาก AI ในบางโครงการอาจเป็น AI เขียนทั้งหมดเลยด้วย ซึ่งแนวโน้มมีแต่เพิ่มมากขึ้น
จากนั้น Nadella เลยถามกลับ Zuckerberg ว่า Meta มีโค้ดภายในที่เขียนด้วย AI มากน้อยแค่ไหน เขาบอกว่าไม่ทราบตัวเลขที่แน่นอน แต่โมเดล AI ที่สร้างอยู่ตอนนี้ มีเป้าหมายให้สามารถพัฒนาโมเดล AI ขึ้นมาเองต่อได้ในอนาคตด้วย ปีหน้าตัวเลขอาจอยู่ที่ครึ่งหนึ่งของโครงการทั้งหมด
Tom Dotan อดีตนักข่าวสายไมโครซอฟท์ของ Wall Street Journal รายงานในจดหมายข่าว Newcomer ว่าตัวเลขผู้ใช้งาน Microsoft Copilot อยู่ที่ประมาณสัปดาห์ละ 20 ล้านคน (weekly active user) ซึ่งถือว่าห่างไกลจาก OpenAI สัปดาห์ละ 400 ล้านคน หรือแม้แต่ Gemini ที่เดือนละ 350 ล้านคน (หน่วยวัดอาจไม่เท่ากันเป๊ะๆ)
Dotan อ้างว่าข้อมูลนี้มาจากสไลด์ของ Amy Hood ซีเอฟโอของไมโครซอฟท์ที่เปิดโชว์ในงานภายในของบริษัท เพื่อเปรียบเทียบให้พนักงานเห็นว่าการเติบโตของ Copilot สู้กับ ChatGPT ของ OpenAI ไม่ได้เลย
ไมโครซอฟท์เผยแพร่รายงาน Work Trend Index Annual ประจำปี 2025 โดยมีหัวข้อหลักคือการเกิดขึ้นขององค์กรรูปแบบใหม่ซึ่งเรียกว่า Frontier Firm ที่ใช้คนทำงานร่วมกับ AI Agent หรือผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์มากยิ่งขึ้น รายงานนี้ไมโครซอฟท์บอกว่าเป็นการรวมข้อมูลจากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างกว่า 31,000 คน ใน 31 ประเทศ, ข้อมูลจากแนวโน้มการจ้างงานใน LinkedIn, สัญญาณต่าง ๆ ใน Microsoft 365 Copilot และการสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ
รายงานนี้บอกว่าการไปสู่ Frontier Firm สำหรับองค์กรแบ่งได้เป็น 3 ระยะ ซึ่งทั้งหมดจะเริ่มเห็นชัดขึ้นใน 2-5 ปีข้างหน้าดังนี้
ต่อยอดจาก Microsoft Word เพิ่มฟีเจอร์ Copilot ช่วยสรุปเอกสารได้สูงสุด 3,000 หน้า ไมโครซอฟท์เพิ่มฟีเจอร์ให้ Copilot สามารถสรุปเอกสารได้จากทั้งโฟลเดอร์ ในกรณ๊ที่ในโฟลเดอร์นั้นมีเอกสารจำนวนมากหลายไฟล์ ก็สรุปได้พร้อมกันในครั้งเดียว
ตัวอย่างการใช้งานคือเราทำวิจัยที่มีเอกสารอ้างอิงจำนวนมากเซฟเก็บไว้ในโฟลเดอร์ สิ่งที่เราต้องทำคือกดปุ่มแนบไฟล์ใน Copilot เลือก Browse จากโฟลเดอร์ OneDrive/SharePoint แนบไฟล์ทั้งโฟลเดอร์ได้เลย (จำกัดจำนวนสูงสุด 3,000 หน้าหรือ 1.5 ล้านคำ) แล้วพิมพ์ prompt สั่งงานว่าต้องการอะไร ที่เหลือ Copilot สรุปจบให้เสร็จสรรพ
ไมโครซอฟท์ประกาศว่าฟีเจอร์ Windows Recall จดจำสิ่งที่เกิดขึ้นบนหน้าจอ ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ปีที่แล้ว และเลื่อนมาหลายต่อหลายครั้ง ตอนนี้เปิดให้ใช้งานทั่วไป (General Availability) ให้กลุ่ม Copilot+ PC ทุกคนแล้ว หลังจากออกพรีวิวเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว
ไมโครซอฟท์เพิ่มฟีเจอร์ชุดใหม่ให้แอพ Microsoft 365 Copilot ในชุด Microsoft 365 (คนละตัวกับ Copilot ฝั่งคอนซูเมอร์) เพิ่มเติมจาก ฟีเจอร์ชุด Wave 2 ในเดือนกันยายน 2024
ของใหม่ที่สำคัญคือ Agent Store ร้านขาย Agent สำหรับงานเฉพาะทาง โดยเริ่มจาก Agent สองตัวแรกคือ Researcher ที่ใช้สืบค้นข้อมูลเชิงลึกหลายขั้นตอน และ Analyst ที่เปรียบเสมือนนักวิเคราะห์ข้อมูลเก่งๆ ไมโครซอฟท์ระบุ Agent สองตัวนี้ใช้โมเดล deep reasoning ของ OpenAI อยู่เบื้องหลัง นอกจากนี้ยังมี Agent ภายนอกจากพาร์ทเนอร์ เช่น Jira, Monday.com, Miro รวมถึงสามารถสร้าง Agent ขององค์กรเข้ามาได้เอง