สถิติของ Blognone ตลอดครึ่งแรกของปี 2012 ครับ (จะให้ดีควรดูเทียบกับ สถิติ Blognone รอบก่อนนี้คือรวมตลอดทั้งปี 2011 จะได้เห็นว่ามันเปลี่ยนตรงไหนบ้าง)
ข้อมูลทั้งหมดเก็บมาจาก Google Analytics เช่นเคย
จากกราฟ สีน้ำเงินเข้มคือ visits (ดูเทียบกับแกนฝั่งซ้าย) สีน้ำเงินอ่อนคือ pageviews (ดูเทียบแกนทางขวา)
เรามี Blognone สำหรับ Pulse ไปแล้ว คราวนี้ก็เป็นคิวของแอพยอดนิยมอย่าง Flipboard บ้างนะครับ
ทาง Flipboard แจ้งผมมาว่าควรจะหา "Blognone" เจอในระบบค้นหาของ Flipboard แต่ผมลองแล้วไม่สำเร็จสักที ดังนั้นผู้ที่อยากอ่าน feed ของ Blognone โดยตรงก็รบกวนเข้าไปยังลิงก์ตรง Blognone on Flipboard เอาเอง ถ้ามี Flipboard ติดตั้งอยู่ในเครื่องมันจะจัดการให้เองเสร็จสรรพ
ไหนๆ ประกาศแล้วก็ขอแถมอีกอันคือ Google Currents เข้าไปตามลิงก์ตรงได้เช่นกันครับ (ค้นด้วยคำว่า Blognone น่าจะเจอเหมือนกัน)
ทีม Volevi (หรือ EGCO Dev Team เดิม) ทำแอพ Blognone สำหรับ Windows Phone มาให้ใช้งานกันครับ
เนื่องจากผมไม่มีเครื่องทดสอบก็รบกวนผู้ใช้ Windows Phone ทดลองกันเองว่าเป็นอย่างไร แต่ที่ระบุไว้ใน Windows Phone Marketplace คือมันสามารถอ่านภาษาไทยได้สวยงาม ตอนนี้ยังอ่านได้เฉพาะข่าว ส่วนรูปและคอมเมนต์จะตามมาในเวอร์ชันถัดไป ชอบไม่ชอบอะไรก็ feedback กลับไปที่ทีมงานได้ครับ
จากนโยบายเรื่องการทำ Mobile App ของ Blognone มีสมาชิกบางท่านรายงานเข้ามาเรื่องไม่มี feed ของ Blognone บนแอพอ่านข่าวอย่าง Pulse และ Flipboard
ผมเลยติดต่อไปหาทั้ง Pulse และ Flipboard เพื่อขอเพิ่ม feed ข่าว และล่าสุดได้รับคำตอบจากทีมงานของ Pulse ว่าเพิ่มให้เรียบร้อยแล้ว จึงมาประกาศต่อตรงนี้ด้วยเลยครับ
การใช้งานก็ไม่มีอะไรซับซ้อน ค้นหาคำว่า Blognone ในหน้า sources ก็ควรจะเจอตามภาพ
เห็นคุณ tukzazaza สมาชิกของเรามาโพสต์แนะนำแอพของตัวเองในหน้า Press Release คือ ThaiTechNews ซึ่งอ่าน Blognone ได้ด้วย ผมเลยตามไปลองใช้และพบว่าเจ๋งไม่ใช่เล่น จึงมาช่วยโฆษณาหน่อยนะครับ
แอพ ThaiTechNews ทำงานบน Android โดยรองรับ ICS มาตั้งแต่ต้น (Play Store) จุดเด่นที่โฆษณาไว้คือหน้าตาเรียบง่ายแต่สวยงาม แอนิเมชันสวย (ซึ่งอันนี้ลองแล้วพบว่าสวยจริง) เบื้องต้นรองรับการอ่านข่าวไอที 4 เว็บอันได้แก่ Blognone, Droidsans, Mobiledista และ Faceblog
ช่วงหลังๆ มีคนถามเข้ามาทางอีเมลเยอะพอสมควร ผมเลยคิดว่าประกาศเป็นเรื่องเป็นราวในที่สาธารณะหน่อยน่าจะดีกว่าครับ
แบบสั้นๆ คือ Blognone ไม่มีนโยบายทำแอพเฉพาะแพลตฟอร์ม ด้วยเหตุผลเรื่องข้อจำกัดในการเข้าถึง และทรัพยากร-ความเชี่ยวชาญที่ต้องใช้ในการพัฒนากับการซัพพอร์ต แต่สิ่งที่เราจะทำคือ mobile web/app (แล้วแต่จะเรียก จริงๆ มันก็คืออันเดียวกัน) ที่รองรับหน้าจอหลายขนาด (responsive design)
แต่เราก็ยินดีถ้าหากมีสมาชิกท่านใดอยากทำ Blognone App ลงแพลตฟอร์มที่ใช้งานอยู่ (ซึ่งจริงๆ ตอนนี้ก็มีบ้างแล้ว)
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Blognone มีโครงการรับสมัครนักศึกษาฝึกงานหลังจากเงียบๆ ไปพักใหญ่ๆ โดยไม่มีใครสมัครเข้ามาเลย (ทราบความทีหลังว่าคนสนใจเยอะพอสมควร แต่ไม่กล้าสมัครกัน) ก็มีณัฐวุฒิ เพ็ชรมาก หรือ neizod ส่งข้อเสนอโครงการเข้ามาเป็นโครงการปรับปรุง syntax ของสมการให้ง่ายต่อการเขียนยิ่งขึ้นในชื่อว่า EzMath หลังจากพิจารณาแล้วว่าโครงการมีความยากพอสมควร ผมและ mk ก็อนุมัติให้โครงการนี้เป็นโครงการสำหรับการฝึกงานกับ Blognone และวันนี้เราจะมาสัมภาษณ์นักศึกษาฝึกงานของ Blognone คนนี้กันครับ
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2554 ที่ผ่านมา ผู้ก่อตั้ง Blognone อย่าง @markpeak และ @lewcpe ใจดี พาบรรดา Writer ร่วมเกือบๆ 30 ชีวิตและแขกรับเชิญไปกินฟรีที่ห้องอาหาร Cuisine Unplugged โรงแรม Pullman Kingpower ซอยรางน้ำครับ
พาดหัวข่าวให้ดูดุเดือด แต่จริงๆแล้วไม่มีอะไรในกอไผ่ครับ เรื่องก็มีอยู่ว่าเช้าวันหนึ่งระหว่างที่ได้ติดตาม #MorningGreenTea ของพี่ @Jakrapong ซึ่งกำลังพูดเรื่องการเปิดตัวเว็บข่าวใหม่ Thumbsup.in.th แล้วเจอ Tweet นี้เข้า
ด้วยความที่ส่วนตัวก็เป็น Writer คนนึงใน Blognone มาอย่างยาวนาน (แต่เป็นประเภทขี้เกียจ เขียนไม่บ่อย) และก็ติดตามเว็บข่าวไอทีเมืองไทยทุกเว็บที่กล่าวถึง เลยอยากจะขอเขียนเรื่องราวของเว็บข่าวไอทีเมืองไทยมาซักตอนหนึ่ง อาจจะมีข้อมูลตกหล่นบ้าง ก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ
วันนี้ก็เป็นอีกจุดสำคัญของประวัติศาสตร์ Blognone ครับ เมื่อเลข node ของเรารันมาถึง 20,000 เรียบร้อย
เราใช้เวลา 4 ปีจากศูนย์ถึงหมื่นแรก ส่วนหมื่นที่สองใช้เวลาเกือบ 2 ปีพอดี (ดูในหน้า milestone ประกอบ) ก็ต้องขอบคุณ Contributor และ Writer ทุกท่านที่ช่วยให้เรามีวันนี้ได้ เป้าหมายหน้าก็แน่นอน 30,000 นั่นเอง
หมายเหตุ: ตัวเลขอาจจะไม่ถูกต้องนัก 100% เพราะนับรวมส่วนของ Forum ด้วย แต่เพื่อให้นับง่ายๆ ก็ขอยึดตามเลข node เป็นหลักนะครับ
ผมประกาศไว้ใน group แล้ว แต่ยังมีที่เหลือ เลยมาประกาศบนหน้าเว็บอีกทีละกัน
สั้นๆ คือ Blognone จะจัดงาน Android Talk ขนาดเล็กมาก (เพราะที่นั่งจำกัด ห้องมันเล็ก) ในวันที่ 17 กรกฎาคมนี้ (เสาร์หน้า) ช่วงบ่ายที่ออฟฟิศผมตรง MRT ลาดพร้าว เป้าหมายคือมาแลกเปลี่ยนข้อมูลและกระชับเครือข่ายในวงการ Android (อนาคตคงจะจัด MeeGo Talk หรือ bada Talk ต่อไป)
ตอนนี้ยังเหลือที่นั่งอีก 2 ถ้าใครสนใจและมาร่วมงานได้แน่นอน ไม่เบี้ยว ก็ลงชื่อไว้ได้ในคอมเมนต์ แล้วผมจะส่งรายละเอียดไปทางอีเมลที่ใช้ลงทะเบียนเอาไว้ มาก่อนได้ก่อน และรับ 2 คนเท่านั้น
เมื่อก่อนเราประกาศกันทุกเดือน ภายหลังเปลี่ยนมาเป็นรายไตรมาส ปีนี้ด้วยความขี้เกียจของผมเอง เอาเป็นทีละครึ่งปีละกันนะครับ (ปีหน้าสงสัยเป็นรายปีแหะ)
สถิติเก่าดูได้จากหน้า Statistics และ Hall of Fame
หมายเหตุ: คลิกที่ภาพเพื่อดูรูปขนาดใหญ่กันเอง
เอาสถิติผู้เข้าชมแบบรวมๆ ก่อน
เผยความลับสุดช็อค หลังจากที่เว็บข่าวไอทีชื่อดัง Blognone ได้มีกิจกรรมติด badge ให้กับสมาชิกเพื่อบ่งบอกความเป็นตัวตนของตัวเอง อย่างเช่น Windows Phone, Android หรือแม้แต่ iPhone แต่แล้วความจริงก็ถูกเปิดเผยจากแหล่งข้อมูลลับ ที่อ้างว่าตนคือ fake mk
โดย fake mk ได้กล่าวว่า แท้จริงแล้ว badge ทั้งหมดนั้นคือเป็นรูปที่เอามาจากผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลทั้งหมด อย่างเช่นรูป badge Android นั้นมาจาก wallpaper ของไอโฟน หรือ Windows Phone เองก็เอามาจากรูปไอคอนของ App Store อย่างชัดเจน
ดูรูปข้างในครับ
ผู้ใช้เว็บข่าวไอทีชื่อดัง Blognone ได้รายงานว่าพบปัญหาเจอรูปภาพใบไม้เวลาเข้าเว็บ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเว็บที่โดนบล็อคโดยกระทรวงไอซีที โดยที่ทางผู้ก่อตั้งเว็บทั้งสองนั้นยังไม่ได้ออกมาประกาศอะไรใดๆ
สำนักข่าวต่างๆได้คาดการณ์ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดจากน้ำมือของโจทก์หลายๆรายของผู้ก่อตั้งเว็บ เช่น สาวกแอปเปิ้ล สาวกโนเกีย สาวกจาวา และสาวกดราม่า ได้ร่วมมือกันใช้อำนาจมืดกดดันผู้มีอำนาจให้เว็บนี้ถูกนำเข้าบัญชีรายชื่อเว็บที่ถูกปิดกั้นไม้ให้เข้าถึงได้
ขณะนี้สมาชิกของเว็บจำนวนมากกำลังรวมตัวกันเพื่อวางแผนจะชุมนุมโดยสันติและใช้อารยะขัดขืน เพื่อกดดันให้เว็บถูกถอดออกจากรายชื่อดังกล่าว
นักเขียนข่าวส่วนหนึ่งใน Blognone เว็บไซต์ข่าวไอทีแห่งหนึ่งในโลกได้ประกาศลาออกออกจากการเป็นนักเขียนข่าวถาวรใน Blognone อันเนื่องมาจากการประกาศงดเล่น April Fools' ในปีนี้
จากกรให้สัมภาษณ์ของนักเขียนข่าวนิรนามรายหนึ่งกล่าวว่า "ผมผิดหวังกับ mk และ lew มากที่ออกมาตรการแบบนี้ การกระทำนี้ถือว่าขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนสากล ทางกลุ่มนักเขียนข่าวจะทำการยื่นฟ้องต่อคณะผู้มีอำนาจในบ้านเมืองต่อไป"
อย่างไรก็ตามยังไม่มีการแถลงข่าวใด ๆ จากทางโฆษก Blognone
ที่มา - นักเขียนข่าวแห่ง Blognone