Apple, Inc.
ยังอยู่กับประเด็นปัญหาของ Siri ผู้ช่วยอัจฉริยะในอุปกรณ์ของแอปเปิล ซึ่งฟีเจอร์ปรับปรุงครั้งใหญ่ถูกเลื่อนออกไปจากกำหนดเดิม พร้อมกับข่าวการปรับตำแหน่งผู้บริหารภายในแอปเปิล
ข้อมูลนี้มาจาก New York Times บอกว่าแอปเปิลยังเดินหน้าพัฒนา Siri ใหม่อยู่ ไม่ได้คิดยกเลิกโครงการ คาดว่าอัปเดตแรกจะออกช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้หรือปลายปี แต่ความสามารถอาจไม่ครบถ้วนเท่าที่แอปเปิลเคยประกาศในงาน WWDC 2024 ซึ่งที่มีรายงานคือการสั่งแก้ไขและแชร์รูปถ่ายให้เพื่อนได้
การตัดสินใจของคน ๆ หนึ่ง กำลังทำทั้งโลกวุ่นวาย และอาจทำให้บริษัทที่มูลค่ามากที่สุดในโลก เสียหายหลายแสนล้านดอลลาร์ฯ …
นับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดี Donald Trump ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน จาก 10%, บวกอีก 10%, เพิ่มไปอีก 34%, ท็อปอัปอีก 50%, ทุ่มเพิ่มอีก 21% หลังโมโหที่จีนขึ้นภาษีนำเข้าสหรัฐฯ เป็น 84% และล่าสุด ประกาศสงครามเพิ่มภาษีจีน (อยู่อย่างนั้น) เป็น 145% แล้ว
แต่ Trump ยังใจดีกับประเทศอื่น ๆ สั่งชะลอการขึ้นภาษีเป็นเวลา 90 วัน เพราะติดต่อไปขอเจรจาด้วย ซึ่งก็ไม่ค่อยช่วยให้บริษัทอย่าง Apple ที่มีฐานการผลิตหลักในจีนอยู่ดี เผลอ ๆ เจ็บกว่าเดิม เพราะภาษีนำเข้าจีนพุ่งไป 145% แล้ว และไม่รู้ด้วยว่าจะเพิ่มอีกมั้ย
ก่อนหน้านี้แอปเปิลออกมายืนยันการเลื่อนออกฟีเจอร์ใหม่ Siri พลัง Apple Intelligence ที่จะล่าช้ากว่ากำหนด ซึ่งมีข้อมูลไม่ทางการว่าแอปเปิลอาจต้องรื้อทำทั้งหมด กว่าจะเปิดตัวได้อีกทีก็ปีหน้า กระทบต่อแผนเปิดตัวสินค้าใหม่เช่นอุปกรณ์สมาร์ทโฮม นอกจากนี้แอปเปิลยังปรับตำแหน่งผู้บริหารที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
The Information มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นบ้างกับการพัฒนา Siri ในช่วงที่ผ่านมา และแอปเปิลวางแผนแก้ปัญหานี้อย่างไรบ้าง ซึ่งสรุปเป็นประเด็นได้ดังนี้
จากกรณีแผ่นดินไหว ล่าสุด Apple ประกาศเปิดให้ตั้งค่ารับแจ้งเตือนฉุกเฉิน ข้อความจากรัฐบาล และการแจ้งเตือนความปลอดภัยสาธารณะบน iPhone ซึ่งสามารถรับ และแสดงการแจ้งเตือนต่าง ๆ ได้แล้ว
ประเภทของการแจ้งเตือนที่อาจได้รับมีดังนี้
Reuters มีข้อมูลใหม่ หลังจากทางการของอินเดียเปิดเผยว่าแอปเปิลเร่งขนส่ง iPhone ไปอเมริกา ก่อนที่สหรัฐจะออกคำสั่งขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า โดยข้อมูลก่อนหน้านี้บอกว่ามีเครื่องบิน 5 ลำ ขนส่งสินค้าออกไปภายใน 3 วัน
แหล่งข่าวของ Reuters บอกว่าหลังจากสหรัฐออกคำสั่งเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมไป 90 วัน ทำให้แอปเปิลเร่งใช้โอกาสนี้ให้คุ้มที่สุด โดยคลังสินค้าที่สนามบิน Chennai ในอินเดียซึ่งเป็นจุดขนส่งหลักสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัทต่าง ๆ แอปเปิลได้เร่งเจรจาให้กระบวนศุลกากรจบเร็วขึ้น จากปกติ 30 ชั่วโมง เหลือ 6 ชั่วโมง เพื่อหวังนำ iPhone ออกไปอเมริกาในช่วงเวลานี้ให้มากที่สุด
มีข่าวข้างกันประเด็นแอปเปิลสั่งเพิ่มการนำเข้า iPhone ที่ผลิตในอินเดียไปขายในสหรัฐอเมริกา เพื่อหวังชดเชยภาษีนำเข้าของอินเดียที่ต่ำกว่าจีนที่เป็นฐานการผลิตหลัก โดยตัวแทนของหน่วยงานในอินเดียเปิดเผยว่า ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม แอปเปิลได้ขนส่ง iPhone และสินค้าอื่นด้วยเครื่องบินจำนวน 5 ลำ ออกจากประเทศอินเดียไปยังปลายทางสหรัฐอเมริกา ทั้งหมดใช้เวลาเพียง 3 วัน ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงมากกว่าปกติ
โฆษกทำเนียบขาว Karoline Leavitt ยืนยัน ประธานาธิบดี Donald Trump เชื่อว่า Apple สามารถย้ายฐานการผลิต iPhone มาที่สหรัฐฯ ได้จริง เพราะสหรัฐฯ มีแรงงานและทรัพยากรเพียงพอ รวมทั้ง Apple มีแผนลงทุน 5 แสนล้านดอลลาร์ฯ ในสหรัฐฯ
ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ Howard Lutnick ยืนยันในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า มาตรการเพิ่มภาษีนำเข้าใหม่ อาจทำให้แรงงานหลายล้านคนประกอบ iPhone ในสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์ชี้ว่าการลงทุน 5 แสนล้านดอลลาร์ฯ เป็นการใช้จ่ายปกติของ Apple ซึ่งทั้ง Steve Jobs และ Tim Cook เคยพูดมานานแล้วว่า การผลิต iPhone ในสหรัฐฯ นั้น “ไม่สามารถทำได้”
หลังจากที่รัฐบาล Trump ขู่เก็บภาษีนำเข้าจากจีน 54% (ล่าสุดขู่จะเพิ่มอีก 50% หลังจีนเปิดศึกเพิ่มภาษีนำเข้าสหรัฐฯ เช่นกัน) ทำให้หุ้นของ Apple ดิ่งลงอย่างหนัก แต่ก็ทำให้คนอเมริกันแห่กันไปซื้อ iPhone ตาม Apple Store ทั่วประเทศ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
สาเหตุเป็นเพราะพวกเขากลัวว่าราคา iPhone จะพุ่งขึ้นเร็ว ๆ นี้ โดยพนักงานบอกว่าบรรยากาศในร้านเหมือนช่วงเทศกาล ลูกค้าเข้ามาซื้อแบบตื่นตระหนก และถามเป็นเสียงเดียวกันว่า “iPhone จะขึ้นราคาเมื่อไหร่?”
ภาษีนำเข้า Trump กำลังเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบ Globalization เมื่อบริษัทจากประเทศใหญ่ ๆ คิด ดีไซน์ ส่งไปผลิตที่โรงงานโลกอย่างจีน แต่ตอนนี้ อาจต้องกลับมาที่บ้านตัวเอง โดยเฉพาะซัพพลายเชน iPhone ที่เรารู้จักกัน ก็อาจหมดยุคแล้ว
สมัยก่อน iPhone หนึ่งเครื่อง คิดค้นจากบริษัทอเมริกันอย่าง Apple ผลิตที่จีนและอินเดีย ส่งขายไปทั่วโลก รวมถึงสินค้าอื่น ๆ เช่น AirPods ที่ผลิตในเวียดนาม, และ iMac ที่ประกอบในมาเลเซีย ซึ่งเป็นผลมาจากการคุมซัพพลายเชน ดีไซน์ที่อเมริกา ผลิตที่ประเทศอื่น และส่งขายไปทั่วโลก
The Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องเผยว่า แอปเปิลได้สั่งเร่งนำเข้า iPhone จากอินเดียมาสหรัฐอเมริกาจำนวนมาก เพื่อหวังชดเชยความเสี่ยงจากคำสั่งขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า ซึ่งอินเดียมีอัตราภาษีใหม่ 26% ส่วนจีนซึ่งเป็นฐานการผลิตหลักของ iPhone อัตราภาษีอาจสูงถึง 54%
ในปีที่ผ่านมาแอปเปิลผลิต iPhone ในอินเดียประมาณ 25 ล้านเครื่อง โดย 10 ล้านเครื่องทำเพื่อขายในอินเดีย แต่แผนล่าสุดนั้นแอปเปิลต้องการให้ iPhone ในอินเดียเกือบทั้งหมดส่งไปที่อเมริกา ซึ่งจะรองรับประมาณ 50% ของ iPhone ที่ขายได้ในอเมริกา นอกจากนี้แอปเปิลยังสั่งเพิ่มการผลิต iPhone ในอินเดียอีกด้วย
จดหมายข่าว Power On จาก Mark Gurman แห่ง Bloomberg สัปดาห์นี้ ว่าด้วยสินค้าใหม่แอปเปิลหลายอย่าง รวมถึงผลกระทบจากนโยบายภาษีนำเข้า ซึ่งตอนนี้ทำหลายคนคาดว่า iPhone จะราคาพุ่งสูง
เริ่มที่ iPhone 17 Pro ที่จะออกมาในปีนี้ Gurman บอกว่าตอนนี้มีภาพเรนเดอร์ออกมาจำนวนมาก แต่เขายืนยันว่านอกจากส่วนกล้องหลังที่เป็นแผงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแล้ว นอกนั้นดีไซน์เหมือนเดิมทั้งหมด แผงด้านหลังก็โทนสีเดียวกันทั้งหมด ไม่ใช่ทูโทน และด้านหน้าไม่มีการเปลี่ยนแปลง
แอปเปิลยืนยันปัญหาในการใช้งานบริการออนไลน์หลายรายการ ได้แก่ App Store, Apple Music, Apple TV+ และ Podcasts โดยเริ่มมีปัญหาตั้งแต่ 4:33น. ตามเวลาในไทย กระทบกับผู้ใช้งานทั้งหมด
แอปเปิลบอกว่ากำลังตรวจสอบและแก้ไขปัญหานี้อยู่ อย่างไรก็ตามแม้แอปเปิลบอกว่าผู้ใช้งานทั้งหมดกระทบ แต่ในตอนนี้หลายคนก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ
อัปเดต: แอปเปิลบอกว่าได้แก้ปัญหาทั้งหมดแล้วตั้งแต่ 9:30น.
ที่มา: 9to5Mac
หุ้นบริษัทเทคโนโลยีมีราคาลดลงมากเมื่อคืนนี้ หลังจากประธานาธิบดี Donald Trump ประกาศขึ้นภาษีนำเข้ามีผลทั่วโลกอย่างต่ำ 10% และสูงกว่านั้นในหลายประเทศ ซึ่งมีสัญญาณจากราคาหลังปิดตลาดหุ้นตั้งแต่เมื่อวาน
ในหุ้นเทคโนโลยีกลุ่ม 7 นางฟ้าหรือ Magnificent Seven นั้น Apple ลดลงมากที่สุด โดยราคาหุ้นลดลง 9.3% เป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 จากความกังวลเพราะฐานการผลิตสินค้าหลักอยู่ในประเทศจีน ซึ่งภาษีนำเข้าเพิ่มเป็น 34%
แอปเปิลออกอัปเดต watchOS 11.4 ระบบปฏิบัติการสำหรับ Apple Watch ซึ่งเดิมมีกำหนดออกพร้อมกับ iOS 18.4 แต่แอปเปิลได้ปิดอัปเดตไปตอนนั้น โดยไม่ได้ชี้แจงสาเหตุ
ของใหม่ที่เพิ่มใน watchOS 11.4 ได้แก่ ตั้งค่าให้ Sleep Wake Up ส่งเสียงได้แม้นาฬิกาเปิดโหมด Silent, เพิ่มอีโมจิใหม่ 7 รายการ, แก้ไขปัญหาหน้าจอค้าง เมื่อต้องการเปลี่ยนหน้าปัด และรองรับการสั่งงานหุ่นยนต์ดูดฝุ่นผ่าน Matter
สามารถอัปเดตได้ผ่านแอป Apple Watch ใน iPhone
ที่มา: 9to5Mac
ประธานาธิบดี Donald Trump แถลงมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าทั่วโลกใหม่ โดยเปลี่ยนมาเก็บภาษีนำเข้าพื้นฐาน 10% จากสินค้าทั่วโลก และคิดอัตราที่สูงกว่านั้นสำหรับประเทศที่สหรัฐขาดดุลการค้า เช่น จีน 34%, กลุ่มประเทศในยุโรป 20%, ญี่ปุ่น 24%, เวียดนาม 46%, อินเดีย 26% ส่วนประเทศไทยคิดภาษีที่ 36%
ตัวเลขจากมาตรการที่ออกมาทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐช่วงหลังปิดการซื้อขายปรับลดลงแรง ดัชนี S&P 500 ลดลง 2.8% ส่วนหุ้นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี Apple -7%, NVIDIA -5%, Alphabet -3%, Meta -5%, Amazon -6%, Tesla -8%, Microsoft -3%
Apple Card บริการบัตรเครดิตของแอปเปิลที่มีเฉพาะในสหรัฐอเมริกา มีรายงานมาตั้งแต่ 2 ปีที่แล้วว่าธนาคาร Goldman Sach ที่เป็นพันธมิตร ต้องการยกเลิกข้อตกลง ตามกลยุทธ์หลักของธนาคารที่จะเลิกธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งมีรายงานผู้สนใจรับช่วงต่อหลายราย แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุป
The Wall Street Journal มีข้อมูลล่าสุดจากแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง ว่านอกจากแอปเปิลต้องพิจารณาธนาคารที่ดูแลสินเชื่อใหม่แล้ว ตอนนี้ Visa ได้ยื่นข้อเสนอกับแอปเปิลเป็นเงิน 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อให้แอปเปิลเปลี่ยนมาใช้เครือข่ายชำระเงินเป็น Visa แทน Mastercard ที่ใช้อยู่ปัจจุบันด้วย จากนั้นให้แอปเปิลหาธนาคารที่รองรับเครือข่ายต่ออีกที
หน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันของฝรั่งเศสสั่งปรับแอปเปิลเป็นเงิน 150 ล้านยูโร หรือประมาณ 5,500 ล้านบาท จากการเปิดใช้งาน App Tracking Transparency (ATT) ที่บังคับให้ผู้พัฒนาแอปต้องแสดงข้อความเตือน ว่ายินยอมให้แอปติดตามข้อมูลเพื่อใช้สำหรับการโฆษณาหรือไม่ ซึ่งแอปเปิลเริ่มใช้มาตั้งแต่ iOS 14.5 ในปี 2021
คำตัดสินในฝรั่งเศสนี้มีจุดเริ่มต้นจากการร้องเรียนของกลุ่มผู้ให้บริการโฆษณาและสื่อออนไลน์ในประเทศ โดยบอกว่าแอปเปิลใช้อำนาจเหนือตลาดในทางที่ผิด ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโฆษณาออนไลน์ ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือคำตัดสินนี้เป็นกรณีแรกที่ระบุว่า ATT ส่งผลต่อการผูกขาดการแข่งขันในตลาด โดยแอปเปิลถูกร้องเรียนในประเด็นเดียวกันที่เยอรมนีด้วย
แอปเปิลออกอัปเดตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการและเฟิร์มแวร์สำหรับหูฟังชุดใหญ่ครบทุกผลิตภัณฑ์ในวันนี้ ผู้ใช้งานสามารถอัปเดตได้ผ่านวิธีและช่องทางเดิม
iOS 18.4 ระบบปฏิบัติการของ iPhone เพิ่มของใหม่หลายอย่าง ซึ่งบางรายการแอปเปิลเคยประกาศไปแล้วก่อนหน้านี้
แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้มีการประชุมหารือกับรองนายกมหาดไทย, รองนายกดีอี, กสทช., AIS-ทรู, และ NT เพื่อหาแนวทางปรับปรุงระบบแจ้งเตือนภัย จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมา
นายกฯ บอกว่า ระหว่างที่รอระบบ Cell Broadcast ซึ่งจะมาช่วงประมาณเดือนกรกฎาคม ทางรัฐบาลต้องเรียงโฟล์งานกันทั้งหมด เบื้องต้นมีดังนี้:
Tim Cook ซีอีโอแอปเปิล โพสต์ข้อความบน X ว่าแอปเปิลขอส่งความห่วงใย ไปยังผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมาและประเทศไทย และบริษัทได้บริจาคเงินเพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือในพื้นที่
แอปเปิลมักบริจาคเงินช่วยเหลือมีเกิดเหตุภัยพิบัติทั่วโลกผ่านกาชาด (Red Cross) จึงคาดว่าแอปเปิลจะบริจาคผ่านช่องทางนี้สำหรับกรณีของเมียนมาและประเทศไทยเช่นกัน
ที่มา: MacRumors
ข่าวลือสินค้าใหม่แอปเปิลประจำสัปดาห์นี้โดย Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิม คราวนี้ว่าด้วยชิป Apple Silicon รุ่นใหม่ M5
สินค้าแรกคือ MacBook Pro โดยเป็นการอัปเกรดสเป็กตามรอบด้วยชิป M5 ช่วงเวลาน่าจะเป็นตุลาคมเหมือนรุ่น M4 ปีที่แล้ว และรุ่น M3 เมื่อสองปีก่อน ดีไซน์แบบเดิม โดย Gurman บอกว่า MacBook Pro จะมีรุ่นที่ออกแบบใหม่ในปี 2026 พร้อมกับชิป M6
อีกสินค้าที่จะได้ M5 ในปีนี้คือ iPad Pro ซึ่งจะใช้ดีไซน์เดิมเหมือนรุ่นปีที่แล้ว ทำให้เป็นสินค้าตัวแรกที่ได้ชิป M5 เริ่มขายภายในครึ่งหลังปีนี้
แอปเปิลปล่อย Swiftly โปรแกรมจัดการการติดตั้งภาษา Swift เวอร์ชั่น 1.0 เป็นแนวทางมาตรฐานในการติดตั้งภาษา Swift นอก XCode ตัว Swiftly เป็นเครื่องมือที่พัฒนาด้วยภาษา Swift เองทั้งหมด แสดงให้เห็นความสามารถในการพัฒนาแอปพลิเคชั่นภาษา Swift ได้ทั้งบนแมคและลินุกซ์ (บนวินโดวส์ยังติดตั้ง Swift ผ่าน WinGet)
โครงการใช้ไลบรารีมาตรฐานในโมดูล Foundation ของตัวภาษาเองเป็นหลัก และใช้ไลบรารี AsyncHTTPClient ร่วมกับ Swift OpenAPI Generator สำหรับการสร้างไลบรารีเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ swift.org
การซัพพอร์ตลินุกซ์มีความยากที่ไลบรารีของแต่ละดิสโทรนั้นไม่ตรงกัน และฟีเจอร์ของ Swift เองตรวจจับระบบปฎิบัติการได้แต่ยังตรวจดิสโทรไม่ได้จึงต้องใช้ Static Linux SDK ยกไลบรารีไปด้วยเลย
มีรายงานว่าแอปเปิลได้ปรับเปลี่ยนตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงอีกครั้ง โดยเลื่อนตำแหน่ง Vanessa Trigub เป็นรองประธานฝ่ายร้านค้าและธุรกิจค้าปลีกทั่วโลก ซึ่งตอนนี้แอปเปิลยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ จากเดิมงานส่วนนี้รับผิดชอบโดย Deirdre O’Brien ที่ดูแลควบทั้งส่วนร้านค้าปลีก Apple Store และฝ่ายบุคคล (HR)
ก่อนหน้านี้ Trigub เป็นผู้บริหารที่ระดับผิดชอบ Apple Store ส่วนอเมริกาฝั่งตะวันตก การขยายความรับผิดชอบนี้จึงเป็นการดูแล Apple Store ทั่วโลก ทั้งนี้ Trigub ทำงานที่แอปเปิลมานานกว่า 30 ปี และดูแลส่วนธุรกิจค้าปลีกและ Apple Store มาตลอด
Tim Cook ซีอีโอแอปเปิล เดินทางไปที่ประเทศจีนอีกครั้ง โดยเขาโพสต์เนื้อหาลง Weibo ว่าได้เยี่ยมชมสำนักงานส่งเสริมการพัฒนาแอปบนสมาร์ทโฟนแอปเปิล ซึ่งตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัย Zhejiang ที่เมืองหางโจว และพบกับกลุ่มนักพัฒนาแอปรุ่นใหม่ที่จีน
การมาเยือนมหาวิทยาลัย Zhejiang นี้ เป็นประเด็นเล็ก ๆ ที่น่าสนใจเพราะ Liang Wengfeng ผู้ก่อตั้ง DeepSeek ก็เป็นศิษย์เก่าของสถาบันนี้
แอปเปิลยังประกาศบริจาคเงิน 30 ล้านหยวนให้กับทางมหาวิทยาลัย เพื่อส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรพัฒนาแอปรุ่นใหม่ ซึ่งรวมกับเงินที่แอปเปิลบริจาคให้สำหรับการตั้งสำนักงานก่อนหน้านี้เป็น 50 ล้านหยวน
ข้อมูลนี้ไม่ได้ออกมาเป็นทางการ แต่มาจากรายงานของ Ananda Baruah นักวิเคราะห์ที่ Loop Capital Markets ซึ่งบอกว่าตอนนี้แอปเปิลได้เข้ามาเป็นผู้ซื้อเซิร์ฟเวอร์สำหรับประมวลผล AI อีกรายแล้ว โดยพาร์ตเนอร์หลักที่จัดส่งเซิร์ฟเวอร์ให้คือ Supermicro และ Dell
อย่างไรก็ตามตัวเลขในรายงานนั้นไม่สูงเมื่อเทียบกับบริษัทเทคโนโลยีอื่น โดยคำสั่งซื้ออยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ เป็นเซิร์ฟเวอร์ที่ติดตั้งจีพียู NVIDIA GB300 ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัว ราคาเซิร์ฟเวอร์ตัวละประมาณ 3.7-4 ล้านดอลลาร์ จึงคิดเป็นจำนวนเซิร์ฟเวอร์ประมาณ 250 ตัว
แอปเปิลไม่ได้ออกมาให้ความเห็นต่อรายงานนี้