ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานฐานข้อมูลของ RedMart บริษัทลูกของ Lazada หลุดออกสู่ตลาดใต้ดิน ในรายการเดียวกันปรากฎว่ามีข้อมูลของบริษัทในไทยคือ Eatigo และ Wongnai อยู่ด้วย ล่าสุดทั้งสองบริษัทออกมายืนยันว่าข้อมูลหลุดออกไปจริง และแจ้งผู้ใช้แล้ว
หน้าเว็บตลาดใต้ดินแสดงให้เห็นว่าข้อมูลของ Eatigo มีอีเมล, ค่าแฮชรหัสผ่าน, ชื่อ, หมายเลขโทรศัพท์, เพศ, โทเค็นเฟซบุ๊ก
ขณะที่ข้อมูลของทาง Wongnai มี อีเมล, ค่าแฮชรหัสผ่าน, หมายเลขไอพีที่ใช้ลงทะเบียน, หมายเลขไอดีผู้ใช้เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์, วันเกิด, หมายเลขโทรศัพท์, และรหัสไปรษณีย์ โดยทั้งสองบริษัทยืนยันว่าไม่มีข้อมูลบัตรเครดิตหลุดออกไปกับเหตุการณ์ครั้งนี้
ทั้งสองบริษัทส่งอีเมลแจ้งผู้ใช้เพื่อรีเซ็ตรหัสผ่าน และแจ้งเตือนผู้ใช้แล้ว
Eatigo แพลตฟอร์มสำหรับจองร้านอาหาร ประกาศได้รับเงินลงทุนระดับ Series B จาก TripAdvisor เว็บไซต์แนะนำการท่องเที่ยวชื่อดัง
การลงทุนในครั้งนี้ ทาง TripAdvisor ใช้แบรนด์ที่ชื่อ The Fork มาลงทุน เพราะเป็นแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจรูปแบบนี้โดยตรง นี้เป็นครั้งแรกที่ TripAdvisor ลงทุนกับบริษัทสตาร์ทอัพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การลงทุนครั้งนี้ไม่ได้เปิดเผยตัวเลข แต่ Eatigo ออกมาบอกว่าได้รับการลงทุนครั้งนี้ รวมกับ Series A ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมารวม 530 ล้านบาท (15.5 ล้านเหรียญสหรัฐ) เงินระดมทุนครั้งนี้จะนำมาใช้ขยายธุรกิจของ Eatigo เข้าสู่ประเทศอื่นๆ (ขณะนี้ Eatigo เปิดให้บริการใน 2 ประเทศคือ ไทย และ สิงคโปร์)
หลายปีมานี้นับแต่เว็บดีลได้รับความนิยมอย่างสูงในไทยช่วงหนึ่ง หลายๆ คนก็มักจะหาช่วงเวลาลดราคาของร้านอาหารเพื่อไปลองร้านใหม่ๆ กันบ้าง (ผมเองก็ทำเป็นประจำ) แต่หลายร้านก็อาจจะบ่นกันว่าลูกค้าจากดีลกลับทำให้คนล้นร้านในบางช่วงจนให้บริการไม่ทัน
Eatigo แพลตฟอร์มสำหรับจองร้านอาหาร พร้อมข้อเสนอส่วนลดตามช่วงเวลา บนเว็บไซต์และโมบายแอพพลิเคชันได้เปิดตัวแล้วในประเทศไทย
Eatigo อาจจะคล้ายๆ กับ Groupon หรือ Ensogo ที่มีข้อเสนอส่วนลดให้กับลูกค้า เพียงแต่มีเฉพาะร้านอาหารเท่านั้น โดยมีส่วนลดให้สูงสุดถึง 50% ขึ้นอยู่กับแต่ละช่วงเวลา แต่สิ่งที่แตกต่างคือ Eatigo ไม่จำเป็นต้องซื้อดีลหรือคูปอง แค่กดเลือกร้านอาหาร เลือกส่วนลด (อย่างที่บอก ส่วนลดแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา) และกดจองที่นั่งในร้าน ตามเวลาที่ตรงกับส่วนลด (เลทได้ไม่เกิน 30 นาที)