ข่าวเล็กๆ ที่สำคัญอันหนึ่งท่ามกลางข่าว iPad จำนวนมหาศาล คือ บริษัท Fujitsu นั้นเคยขายอุปกรณ์พกพาที่เป็นจอสัมผัสชื่อ iPad ตั้งแต่ปี 2002 และเคยขอยื่นจดเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าเสียด้วย
Masahiro Yamane หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Fujitsu ให้สัมภาษณ์ว่า "ชื่อนี้เป็นของเรา" และบริษัท Fujitsu เตรียมรับมือการวางขาย iPad ของแอปเปิลล่วงหน้า โดยปรึกษากับทนายความรอไว้ก่อนแล้ว
Fujitsu iPad มีจอสัมผัสขนาด 3.5 นิ้ว ใช้ระบบปฏิบัติการ CE.NET ของไมโครซอฟท์ มี Wi-Fi และ Bluetooth อย่างไรก็ตามราคาขายอยู่ที่ 2,000 ดอลลาร์
Fujitsu และ Toshiba ได้ออกมาประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า Fujitsu จะส่งมอบธุรกิจฮาร์ดดิสก์ให้กับ Toshiba หลังจากตอนปลายเดือนมกราคมมีข่าว Fujitsu ขายธุรกิจฮาร์ดดิสก์ให้กับบริษัทลูกของ Toshiba ( Toshiba Storage Device Corp., หรือ TSDC.)
โดย Toshiba จะถือหุ้นบริษัท TSDC อยู่ 80% และอีก 20% เป็นของ Fujitsu ไปจนถึงธันวาคมปีหน้า หลังจากนั้น Toshiba จะถือครองหุ้น TSDC ทั้งหมด
Toshiba หวังว่าจะเข้าครองส่วนแบ่งตลาดมากขึ้น โดยตั้งเป้าไว้ที่ 600 พันล้านเยน (6.7 พันล้านดอลลาร์) ภายในเดือนมีนาคม 2012 และจะได้ส่วนแบ่งตลาดที่ 20% ภายในเดือนมีนาคม 2016
ที่มา C|Net
บริษัทฟูจิสึได้เปิดเผยว่า ตอนนี้บริษัทกำลังพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีพลังประมวลผลสูงถึง 10 เพตาฟลอป ซึ่งคาดว่าจะพัฒนาให้แล้วเสร็จภายในต้นปี พ.ศ. 2554 และจะถูกใช้งานโดยศูนย์วิจัย RIKEN ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระบบนี้ติดตั้งโปรเซสเซอร์ SPARC64 VIIIfx (ใช้โค้ดเนมว่า "วีนัส") ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์แบบ 8 คอร์ มาพร้อมกับความเร็วสัญญาณนาฬิกา 2 กิกะเฮิร์ต และมีพลังประมวลผล 128 กิกะฟลอป
จากที่ก่อนหน้านี้ได้ขายส่วนธุรกิจคอมพิวเตอร์ในยุโรปออกไป ล่าสุด Fujitsu ตัดสินใจถอนตัวจากธุรกิจฮาร์ดดิสก์เพิ่มอีกหนึ่งแล้ว
Fujitsu เริ่มด้วยการประกาศยุติสายการผลิตหัวอ่านสำหรับฮาร์ดดิสก์ ซึ่งมีโรงงานตั้งอยู่ในเมือง Nagano เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ โดยจะยังคงสายการผลิตแผ่นพิมพ์วงจร (Printed circuit board) สำหรับเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์สื่อสารในโรงงานนั้นไว้
นอกจากนี้บริษัทได้ตกลงที่จะขายธุรกิจฮาร์ดดิสก์ที่เหลือให้กับ Toshiba ด้วยมูลค่าราว 3-4 หมื่นล้านเยน โดยรายละเอียดของส่วนธุรกิจที่จะทำการขายยังไม่เป็นที่เปิดเผย แต่คาดว่าจะไม่รวมถึงธุรกิจการผลิตแผ่นบันทึกข้อมูล
บริษัท Fujitsu ยอมรับว่ากำลังอยู่ในช่วงเจรจาเพื่อขายธุรกิจส่วนการผลิตฮาร์ดดิสก์ โดยอาจจะขายให้กับ Western Digital เนื่องจากบริษัทประสบปัญหาจากการไม่ทำกำไรในธุรกิจส่วนนี้ ซึ่งรวมแล้วคิดเป็นมูลค่ากว่าร้อยล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตามทาง Western Digital ยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นใดๆขณะนี้
นอกจากนี้ Fujitsu เองก็ยังเตรียมขายธุรกิจฮาร์ดแวร์อีกตัวคือ Fujitsu Siemens Computers ในส่วนที่ทำการจัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ค้าปลีก โดยมีตลาดหลักอยู่ที่ยุโรป โดยคาดหมายว่า Lenovo จะเป็นผู้เข้ามาซื้อกิจการนี้ไป แต่เช่นเดียวกัน Lenovo ยังไม่ออกมาแสดงความเห็นใดๆขณะนี้
บริษัท Siemens AG ได้ประกาศวันนี้ว่าจะทำการขายหุ้น 50% ในบริษัท Fujitsu Siemens Computers ซึ่งเป็นกิจการร่วมให้กับทางคู่ค้าอย่าง Fujitsu ไปทั้งหมด มูลค่ารวม 450 ล้านยูโร
สาเหตุหลักมาจากนโยบายของทาง Siemens ที่ต้องการเน้นยุทธศาสตร์ในด้านธุรกิจอุตสาหกรรม พลังงาน และสุขภาพเป็นหลัก
บริษัท Fujitsu Siemens Computers ก่อตั้งเมื่อปี 1999 โดยสองบริษัทยักษ์นี้ถือหุ้นกันคนละ 50-50
ที่มา: AP - Fujitsu to buy stake of Fujitsu Siemens Computers
โฆษณารณรงค์ให้ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าหลังจากเลิกใช้งานอาจจะกำลังล้าหลัง เมื่อทางฟูจิสึได้เปิดตัวจอภาพตระกูล SCENICVIEW ECO ที่มีความสามารถพิเศษที่ไม่กินพลังงานแม้แต่วัตต์เดียวเมื่อจอไม่ได้ทำงาน
โดยปรกติแล้วจอภาพจะกินพลังงานประมาณ 1 ถึง 6 วัตต์เมื่ออยู่ในโหมดพร้อมใช้งาน (standy by) คิดเป็นค่าไฟฟ้าประมาณสองร้อยถึงห้าร้อยบาท แล้วแต่ค่าไฟในแต่ละประเทศ
มีรายงานจากสถาบันวิจัยและทดสอบวัสดุแห่งเยอรมันว่าหากเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดที่อยู่ในโหมดพร้อมใช้งานทั้งยุโรปไม่กินพลังงานเลย จะช่วยประหยัดพลังงานลงไปได้ถึง 35 เทราวัตต์ชั่วโมงต่อปี ทางด้านโครงการ Stand-by ของสหภาพยุโรปนั้นระบุว่าพลังงานที่เสียไปในโหมดพร้อมใช้งานนั้นคิดเป็นพลังงานร้อยละ 10 ของการใช้ไฟฟ้าในบ้านเลยทีเดียว
มีข่าวลือและภาพหลุดว่า Fujitsu อาจจะออกเน็ตบุ๊คมาสู้กับค่ายอื่นๆ โดยแหล่งข่าวบอกว่า เน็ตบุ๊คในซีรีส์ Amilo ตัวนี้จะมีขนาดหน้าจอ 8.9" และจากภาพปุ่มคีย์บอร์ดที่มีปุ่มวินโดวส์ น่าจะหมายความว่าเน็ตบุ๊คตัวนี้จะมาพร้อมกับวินโดวส์ด้วย ราคาตามข่าวจะประมาณ 300-400 ยูโร (16,000 - 21,000 บาท) สำหรับรูปดูได้ที่ที่มาครับ
ที่มา: Liliputing
Fujitsu ได้นำหน่วยความจำแฟลชมาใช้แทนฮาร์ดดิสก์ใน Tablet PCs รุ่น P1610 และ B6210 ซึ่งข้อดีในการนำหน่วยความจำแฟลชมาใช้ คือสามารถยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ในตัวได้นานกว่าเนื่องจากหน่วยความจำแฟลชใช้พลังงานน้อยกว่าฮาร์ดดิสก์ แถมยังทำให้ความเร็วในการบูตระบบสูงกว่าเมื่อเทียบกับฮาร์ดดิสก์ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อเสียคือในด้านของราคาขาย เนื่องจากหน่วยความจำแฟลชมีราคาสูงกว่าฮาร์ดดิสก์เมื่อเทียบที่ขนาดความจุเท่ากัน ดังนั้นกลุ่มตลาดที่ Fujitsu หวังจะขายรุ่นนี้คงเป็นกลุ่มตลาดเฉพาะทาง (niche market) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงเช่น กลุ่มอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ เป็นต้น
มหกรรมการเรียกคืนแบตเตอรี่โน้ตบุ๊คไม่จบง่ายๆ ในสัปดาห์นี้ Fujitsu ได้เรียกแบตซึ่งผลิตโดย Sony กลับอีก 51,000 ก้อนหลังจากอาทิตย์ก่อนเรียกไปแล้วเกือบ 3 แสนก้อน
ทางด้าน Sharp ที่ไม่มีข่าวเรื่องนี้ออกมาในช่วงแรกๆ ได้เริ่มเรียกคืนแบต 28,000 ก้อน ทำให้ยอดรวมของแบต Sony ล็อทนี้อยู่ที่ 7.7 ล้านก้อนแล้ว ใครใช้โน้ตบุ๊คยี่ห้อ Dell, Apple, Lenovo / IBM, Panasonic, Toshiba, Hitachi และ Sony เองก็เข้าไปตรวจสอบ Serial Number กันได้ตามลิงก์ (เท่าที่หาเจอ) ใครที่เคยตรวจไปแล้วก็อย่านิ่งนอนใจ อาจเจอเรียกเพิ่มได้ (โดนมาแล้วครับ)