บริษัทญี่ปุ่น 4 รายอันประกอบไปด้วย NTT DOCOMO, NEC, Panasonic, Fujitsu ประกาศร่วมมือกันสร้างชิปสื่อสาร (โมเด็มหรือเบสแบนด์) ที่รองรับได้ทั้ง GSM, W-CDMA, HSPA+, LTE ภายในชิปตัวเดียว (แถม LTE จะยังรองรับทั้ง FDD-LTE ที่ใช้กันทั่วไป และ TDD-LTE ที่ใช้ในจีนด้วย)
ก่อนหน้านี้ มือถือที่รองรับเครือข่าย LTE จะต้องใช้ชิปสื่อสาร LTE แยกเฉพาะอีกตัวหนึ่ง นอกเหนือไปจากชิป 2G/3G มาตรฐาน ซึ่งการพัฒนาชิปสื่อสารที่รองรับเครือข่ายครบทุกแบบในปัจจุบัน จะช่วยประหยัดต้นทุนการผลิต พลังงาน และพื้นที่ใช้สอยภายในตัวเครื่องมือถือได้อีกมาก
ตามข่าวยังไม่บอกว่าชิปตัวนี้จะเสร็จเมื่อไร บอกเพียงแค่ว่าในอนาคตก็อยากจะรองรับ LTE Advanced ด้วยอีกอย่าง
ช่วงหลังๆ เราเห็นข่าวผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ฟากญี่ปุ่นประสบปัญหาทางธุรกิจหลายราย (ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่างประกอบกันทั้งเศรษฐกิจญี่ปุ่น เศรษฐกิจโลก ค่าเงินเยน ภัยธรรมชาติ ฯลฯ) และแก้ปัญหาโดยขายกิจการบางส่วนหรือรวมกิจการเข้าด้วยกันเพื่อลดต้นทุน
บริษัทชุดล่าสุดที่เริ่มประสบปัญหานี้คือ Renesas, Fujitsu, Panasonic ที่กำลังจะรวมกิจการผลิตชิปเข้าด้วยกันเป็นกิจการเดียว
ข่าวนี้ยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่หนังสือพิมพ์ Nikkei ของญี่ปุ่นรายงานว่า ผู้ผลิตทั้งสามรายจะแยกฝ่ายธุรกิจออกแบบและผลิตชิปของตัวเองออกมาเป็นบริษัทต่างหาก แล้วรวมทั้งสามบริษัทเข้าด้วยกันเป็นบริษัทใหม่ที่ยังไม่มีชื่อ
NTT DOCOMO ยักษ์สื่อสารของญี่ปุ่น ประกาศความร่วมมือกับบริษัทฮาร์ดแวร์อีก 5 ราย ได้แก่ Fujitsu, Fujitsu Semiconductor, NEC, Panasonic Mobile Communications และ Samsung Electronics ตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่เพื่อผลิตชิปมือถือในปีหน้า
บริษัทแห่งใหม่จะใช้ชื่อว่า Communication Platform Planning เป้าหมายคือผลิตชิปขนาดเล็กที่กินพลังงานต่ำสำหรับมือถือในยุคหน้า โดยจะเน้นไปที่เทคโนโลยี LTE และ LTE Advanced เป็นหลัก เงินทุนตั้งต้นจะมาจาก NTT DOCOMO จำนวน 450 ล้านเยน และมี Mitsunobu Komori (CTO ของ NTT) มานั่งเป็น CEO
บริษัทฟูจิตสึเคยมีส่วนร่วมในการพัฒนา K Computer ซึ่งเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลกระบบล่าสุด จัดอันดับโดย TOP500 (ข่าวเก่า
ถึงแม้ตลาดอุปกรณ์พกพาแบบกันน้ำกันฝุ่นจะเป็นตลาดค่อนข้างเฉพาะ แต่ก็มีลูกค้าเป็นจำนวนไม่น้อยเลย (Motorola Defy ถือเป็นอุปกรณ์ตัวหลังๆ ที่ประสบความสำเร็จในตลาดนี้) คำถามคือถ้าเราต้องการแท็บเล็ตที่ทนน้ำทนฝุ่น ทนแรงกระแทกแบบเดียวกันบ้าง จะมีอะไรให้เลือกใช้
คำตอบคือแท็บเล็ตตัวใหม่ของ Fujitsu ที่กำลังจะเปิดตัววันที่ 8 กันยายนนี้ Arrows Tab หรือรหัส F-01D
ร้านขายสินค้าของผู้ให้บริการ au by KDDI แห่งหนึ่งเผยราคา IS12T by TOSHIBA ดังนี้
Nanapho.jp (เว็บบล็อก Windows Phone 7 ภาษาญี่ปุ่น) รายงานว่า KDDI ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ระบบ CDMA ในญี่ปุ่น ได้เริ่มส่งจดหมายเชิญสื่อมวลชนไปร่วมงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนจากฟูจิตสึ-โตชิบา รุ่น "IS12T" ที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ (1, 2, 3)
ถ้าเป็นข่าวจริงนี่จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มาพร้อมกับ Windows Phone "Mango" ครับ
ที่มา: Nanapho.jp ผ่าน WMPU
หนังสือพิมพ์ Nikkei ของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ฟูจิตสึจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่น "IS12T" ซึ่งใช้ Windows Phone "Mango" เป็นเครื่องแรกในโลก ภายใต้เครือข่าย KDDI ในเดือนสิงหาคม โดยฟูจิตสึสมาร์ทโฟนนี้มาพร้อมกับหน้าจอ 3.7 นิ้ว
Nanapho.jp (เว็บบล็อก Windows Phone 7 ภาษาญี่ปุ่น) ยังให้ข้อมูลเสริมว่า IS12T ได้ผ่านการรับรองจาก FCC และ Bluetooth SIG แล้ว เป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับจากหนังสือพิมพ์ Nikkei อีกด้วย
ถ้าข่าวนี้เป็นจริง ก็เรียกได้ว่าไมโครซอฟท์เปิดตัว Windows Phone "Mango" เร็วกว่าที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้มากทีเดียว
ขอมาเก็บตกข่าว ไมโครซอฟท์เผย Windows Phone จากเอเซอร์ ฟูจิตสึ ซัมซุง และ ZTE ครับ
ที่งาน Worldwide Partner Conference 2011 วันที่สอง ไมโครซอฟท์ได้เผยสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ใช้ Windows Phone "Mango" จากเอเซอร์ (อาจเป็นตัวเดียวกับที่เอเซอร์โชว์ที่งาน Computex) ฟูจิตสึ ซัมซุง และ ZTE โดยไฮไลท์ของการโชว์นี้เป็นสมาร์ทโฟนจากซัมซุงที่ตัวเครื่องบางและหน้าตาเครื่องออกมาแนวเดียวกับ Galaxy S II
หน้าตาสมาร์ทโฟนทั้งหมดจะเป็นอย่างไรเชิญชมได้ที่ท้ายข่าวครับ
หลังจากซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Earth Simulator ของญี่ปุ่นครองแชมป์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลกได้ในช่วงปี 2002-2004 ญี่ปุ่นก็ยังไม่มีคอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลกอีกเลย จนกระทั่งเดือนนี้ การจัดอันดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ TOP500 ก็ได้แชมป์ใหม่จากญี่ปุ่นอีกครั้ง
คอมพิวเตอร์ตัวใหม่นี้ชื่อว่า K Computer เป็นผลงานของบริษัทฟูจิตสึ ร่วมกับศูนย์วิจัย Advanced Institute for Computational Science แห่งสถาบันวิจัยด้านเคมีและฟิสิกส์ RIKEN ที่เมืองโกเบ
เมื่อวานนี้ NTT DoCoMo ผู้ให้บริการในประเทศญี่ปุ่นได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนฟูจิตสึ รุ่น LOOX F-07C สมาร์ทโฟนตัวแรกของโลกที่มาพร้อมกับซีพียูอินเทล Atom และยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการสองระบบ คือ Windows 7 Home Premium สำหรับโหมดการทำงานแบบคอมพิวเตอร์ และซิมเบียนสำหรับโหมดการทำงานแบบโทรศัพท์ โดยผู้ใช้สามารถเปลี่ยนโหมดการทำงานได้โดยการกดปุ่มที่ด้านข้างของตัวเครื่อง รายละเอียดทางเทคนิคอื่นมีดังนี้
ฟูจิตสึที่ญี่ปุ่นได้เปิดตัว convertible tablet แบบสไลด์ LifeBook TH40/D ข้อมูลทางเทคนิคมีดังนี้
ฟูจิตสึจะวางขายในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ คาดว่าราคาจะอยู่ที่ 80,000 เยน (ราว 30,600 บาท) ภาพตัวเครื่องดูได้ที่ท้ายข่าวเช่นเคย
ฟูจิตสึแสดงตัวทรานซีฟเวอร์ (transceiver) ตามมาตรฐาน IEEE 802.3ba แบบ 100GBASE-ER4 ทำให้ส่งข้อมูลได้ที่ความเร็ว 100Gbps และระยะทางถึง 40 กิโลเมตร
มาตรฐาน 802.3ba เริ่มร่างมาตั้งแต่ปี 2007 และออกมาตรฐานได้ในกลางปี 2010 ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้บริษัทอุปกรณ์สื่อสารอื่นๆ เช่นซิสโก้ หรืออัลคาเทล-ลูเซ่น ล้วนแสดงเทคโนโลยีแบบเดียวกันนี้มาก่อน หรือวางตลาดโมดูลแบบ LR4 ซึ่งส่งข้อมูลได้ระยะทาง 10 กิโลเมตร แต่โมดูลของฟูจิตสึนี้เป็นตัวแรกที่พร้อมจะวางจำหน่ายในกลางปีนี้และสามารถส่งข้อมูลได้ตามมาตรฐาน ER4
จนวันนี้ก็ดูเหมือนอีเธอร์เน็ตจะยังไม่ยอมตาย
ที่มา - PhysOrg
หลายๆ คนคงจะทิ้งความหวังและความฝันที่มีต่อระบบปฏิบัติการ MeeGo ไปแล้ว
แต่ Suzy Ramirez ก็บอกแล้วว่า "อินเทลยังไม่ทิ้ง MeeGo" ซึ่งบัดนี้ก็มีข้อพิสูจน์ให้เห็นแล้วเมื่อ Fujitsu ประกาศว่าจะเป็นเจ้าแรกที่นำระบบปฏิบัติการ MeeGo มาใช้กับ Netbook
Netbook ตัวที่ว่านี้ไม่ใช่รุ่นใหม่แต่อย่างใดแต่เป็น Fujitsu LifeBook MH330 ซึ่งวางขายได้จะครบ 1 ปีแล้วและหลังจากนี้เจ้า MH330 น่าจะได้รับการ Pre-install ด้วย MeeGo เอาไว้ทุกเครื่องก่อนวางขายเลยครับ
โดย Fujitsu ได้ทำการปรับแต่งบางส่วนของ MeeGo เพื่อให้ใช้งานกับปุ่มพิเศษต่างๆ บนคีย์บอร์ดได้และมีการปรับแต่ง UI อีกหลายๆ ส่วนด้วยครับ
ในงาน CEATEC Japan 2010 นอกจากฟูจิตสึจะโชว์ต้นแบบโทรศัพท์มือถือสองหน้าจอหมุนได้แล้ว ฟูจิตสึยังโชว์ต้นแบบแท็บเล็ตสองตัวที่รัน Windows 7 ด้วย แต่ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลทางเทคนิคแต่อย่างไร หน้าตาแท็บเล็ตทั้งสองจะเป็นอย่างไรดูได้จากท้ายข่าว
ที่มา: Akihabara News ผ่าน Electronista
ในงาน CEATEC Japan 2010 ฟูจิตสึได้เผยต้นแบบโทรศัพท์มือถือสองหน้าจอหมุนได้ ซึ่งจากคลิปวีดีโอที่ Engadget ถ่ายมา ดูเหมือนจะสามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ทั้งการแบ่งปันภาพให้กลุ่มรายชื่อผู้ติดต่อโดยการลากภาพจากหน้าจอหนึ่งไปใส่อีกหน้าจอหนึ่ง หรือการแสดงผลทวิตเตอร์หรือเฟซบุ๊กทั้งสองหน้าจอ เป็นต้น ยังไงก็เชิญดูคลิปวีดีโอได้ท้ายข่าวครับ
ที่มา: Engadget
Fujitsu ออกโน๊ตบุ๊คใหม่ Lifebook AH530 GFX โดยมี
- การ์ดจอแบบแยกขนาด 1GB
- หน้าจอเป็นแบบ glossy LCD ขนาด 15.6 นิ้ว (Widescreen)
- ซีพียู ให้เลือกตั้งแต่ Core i3, i5,และ i7
- สามารถอัพ RAM เพิ่งได้สูงสุดถึง 8GB และ 500GB สำหรับ HDD DVD drives
- มีให้เลือกระหว่าง Bly-ray กับ DVD WiFi
- รองรับ Bluetooth 2.1
- USB 2.0, VGA, LAN รองรับ gigabit Ethernet, HDMI
LifeBook AH530 GFX มี 2 สีให้เลือก คือ glossy black และ ink blue โดยจะออกมาในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคม
ที่มา : Engadget
ไมโครซอฟท์จับมือฟูจิตสึร่วมกันลุยตลาด cloud computing หรือ "บริการกลุ่มเมฆ" ทั้งนี้ ฟูจิตสึได้เตรียมศูนย์ข้อมูลสำหรับติดตั้ง Windows Azure ซึ่งเป็นแก่นของบริการกลุ่มเมฆของไมโครซอฟท์ และภายในสิ้นปีงบประมาณนี้ ฟูจิตสึจะก่อตั้งศูนย์ข้อมูลสำหรับบริการกลุ่มเมฆอีกหลายแห่ง ทั้งในสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย สิงคโปร์ เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา โดยฟูจิตสึวางแผนทุ่มงบถึง 1.1 พันล้านเหรียญสำหรับธุรกิจบริการกลุ่มเมฆ รวมไปถึงงานวิจัยและพัฒนาในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบริการกลุ่มเมฆอีกด้วย
ที่มา - MarketWatch
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 มิ.ย. Fujitsu และ Toshiba ได้ประกาศว่าจะรวมธุรกิจด้านโทรศัพท์มือถือเข้าด้วยกัน โดย Toshiba จะโอนธุรกิจโทรศัพท์มือถือมายังบริษัทที่จะตั้งขึ้นมาใหม่ในวันที่ 1 ต.ค. ปีนี้ และ Fujitsu จะเข้าไปถือหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัทดังกล่าว ทำให้ Fujitsu กลายเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่นในทันที เป็นรองแต่เพียง Sharp เท่านั้น
ดีลดังกล่าวถือเป็นการควบรวมครั้งที่สองในรอบเดือนนี้ ตามหลังการการประกาศรวมธุรกิจด้านโทรศัพท์มือถือระหว่าง NEC, Casio Computer และ Hitachi ที่มีขึ้นเมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้
Akihabara News ได้ไปลองใช้สมาร์ทโฟนจากฟูจิตสึรุ่น F-04B แบบจอสัมผัสที่สามารถแยกส่วนแป้นพิมพ์และปุ่มกดออกมาได้โดยเชื่อมต่อแบบบลูทูธ และให้ความเห็นว่าเป็นโทรศัพท์ที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นตอนนี้ โดยสามารถประกบกับโปรเจ็คเตอร์ขนาดเล็กได้ด้วย (ขายแยก) ที่น่าทึ่งคือ มีระบบจับความเคลื่อนไหว ใช้เล่นเกมแบบ WiiMote ได้อีกด้วย!!
โทรศัพท์มือถือสเป็คเทพนี้ มีคุณสมบัติคร่าวๆ ดังนี้
ก่อนหน้านี้มีรายงานมาว่า Fujitsu เป็นผู้ถือเครื่องหมายทางการค้า (Trademark) "iPad" ในสหรัฐอเมริกา แต่จากข้อมูลล่าสุดพบว่าเครื่องหมายทางการค้านี้กลายเป็นของแอปเปิลแล้ว
Fujitsu ได้ทำการยื่นขอเครื่องหมายทางการค้า iPad ตั้งแต่มีนาคมเมื่อปี 2003 สำหรับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพาเพื่อใช้ในร้านค้าปลีก แต่นับจากวันที่ 17 มีนาคม 2010 เป็นต้นไป แอปเปิลจะกลายเป็นผู้ถือเครื่องหมายทางการค้านี้แทน
คาดว่าแอปเปิลได้มีข้อตกลงกับทาง Fujitsu คล้าย ๆ กับกรณีเครื่องหมายทางการค้า iPhone ที่เคยมีปัญหากับ Cisco มาก่อน
ที่มา - MacRumors
แม้แฟนคลับอาจจะไม่เยอะมากนัก แต่ HP ก็ยังคงเป็นที่หนึ่งในตลาดโน้ตบุ๊กรวมทั้งโลกอยู่ด้วยยอดขาย 37 ล้านชุดในปี 2009 ส่วนเอเซอร์นั้นตามมาด้วยยอด 31 ล้านชุด และปีนี้ HP ยังตั้งเป้าไว้ถึง 42-45 ล้านชุดทั่วโลก
นักการตลาดหลายคนเชื่อว่าบริษัทที่ทะเยอทะยานจะเป็นอันดับหนึ่งเช่น Acer นั้นจะไม่ปล่อยให้ตลาดเป็นเช่นนี้ไปนานนัก และวิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับเอเซอร์คือการเข้าซื้อแบรนด์เดิมๆ อย่างที่เคยทำมาแล้วกับ Packard Bell และ Gateway โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่าเป้าหมายต่อไปคือ Fujitsu ที่มียอดขายปี 2009 อยู่ถึง 3 ล้านเครื่องทั่วโลก และครองตลาดในญี่ปุ่นและยุโรปตะวันตกได้ค่อนข้างดี
ถ้าภายในปีนี้ Acer ได้ Fujitsu มาครองจริงๆ ความฝันจะขึ้นที่หนึ่งก็จะไม่ไกลเลย
ข่าวเล็กๆ ที่สำคัญอันหนึ่งท่ามกลางข่าว iPad จำนวนมหาศาล คือ บริษัท Fujitsu นั้นเคยขายอุปกรณ์พกพาที่เป็นจอสัมผัสชื่อ iPad ตั้งแต่ปี 2002 และเคยขอยื่นจดเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าเสียด้วย
Masahiro Yamane หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Fujitsu ให้สัมภาษณ์ว่า "ชื่อนี้เป็นของเรา" และบริษัท Fujitsu เตรียมรับมือการวางขาย iPad ของแอปเปิลล่วงหน้า โดยปรึกษากับทนายความรอไว้ก่อนแล้ว
Fujitsu iPad มีจอสัมผัสขนาด 3.5 นิ้ว ใช้ระบบปฏิบัติการ CE.NET ของไมโครซอฟท์ มี Wi-Fi และ Bluetooth อย่างไรก็ตามราคาขายอยู่ที่ 2,000 ดอลลาร์