ขณะที่เทคโนโลยี HSDPA ที่ให้แบนวิดท์การดาวน์โหลดที่ 7.2Mbps กำลังเป็นมาตรฐานไปทั่วโลก ผู้ให้บริการหลายรายก็เริ่มเตรียมความพร้อมที่จะให้บริการ HSPA+ ที่ให้แบนวิดท์ไปได้ถึง 28Mbps แต่ Huawei นั้นก็เตรียมเปิดทดสอบ HSPA+ ที่ให้ความเร็วได้ถึง 56Mbps แล้ว
แม้ตัวเลขจะน่าตื่นเต้น แต่เทคโนโลยีนี้ก็อาศัย HSPA+ แบบเดิมซึ่งทำให้เราคาดเดาได้ว่าระยะทางให้บริการที่ให้ความเร็วสูงระดับนี้จะให้บริการได้เพียงรัศมีแคบๆ เท่านั้น
Huawei ระบุว่าลูกค้าที่ซื้ออุปกรณ์เครือข่าย HSPA+ ในตระกูล 38xx สามารถใช้ความเร็วระดับนี้ได้โดยการอัพเกรดซอฟต์แวร์
ที่น่าสนใจอีกหน่อยคือ Huawei ระบุว่ามีลูกค้าติดตั้งอุปกรณ์ HSPA+ ไปแล้วกว่า 10 บริษัทในหลายประเทศเช่น ฮ่องกง, สิงค์โปร์, ตุรกี, และญี่ปุ่น
ผมเชื่อว่าคงมีหลายคนคิดเหมือนผมว่าการเฝ้าดูราคาโทรศัพท์เครื่องที่อยากได้ในต่างประเทศ แล้วมันราคาไม่กี่ดอลลาร์แต่ดันติดสัญญาเป็นเรื่องน่าเบื่อมาก โดยเฉพาะ Smartphone ทั้งหลาย แต่ราคา 180 ปอนด์หรือประมาณ 10,000 บาทของ T-Mobile Pulse นั้นเป็นราคาไม่ติดสัญญา ทำให้โทรศัพท์ตัวนี้ดูน่าสนใจขึ้นมาทันที
T-Mobile Pulse เป็นโทรศัพท์โดย Huawei สำหรับต่างประเทศนั้นก็มีความหวังกันว่าจะมีผู้ให้บริการรายอื่นๆ ซื้อโทรศัพท์รุ่นนี้ไปขายบ้าง ส่วนบ้านเราผมไม่แน่ใจว่า Huawei นั้นทำตลาดอยู่หรือไม่ สำหรับเสปคมีดังนี้
Android นั้นมีผู้ผลิตมากหน้าขึ้นมาเรื่อยๆ และในวันนี้เองที่งาน CommunicAsia 2009 บริษัท Huawei ที่เคยออกมายืนยันว่าจะออก Android ด้วย ก็ได้เปิดเผยข้อมูลโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่จะใช้ Android ซึ่งมีชื่อรุ่นคือ U8230 แล้วครับ โดยคุณสมบัติที่เปิดเผยมาเบื้องต้นคือ
รอยเตอร์ รายงานว่า DTAC ได้ตกลงเลือกใช้อุปกรณ์โครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G จาก NSN (Nokia Siemens Networks) และ หัวเหว่ย เทคโนโลยี โดยจะทำการอัพเกรดโครงข่ายเพื่อให้บริการ 3G
ก่อนหน้านี้ DTAC เคยประกาศว่าอาจจำเป็นต้องชะลอการลงทุนในโครงข่าย 3G ไปก่อนจนกว่าจะมีความแน่ใจว่าตลาดมีความต้องการใช้บริการสื่อสารข้อมูลไร้สายมากเพียงพอ อย่างไรก็ตามล่าสุด นาย Tore Johnsen ซึ่งเป็น CEO คนใหม่ของ DTAC ตัดสินใจที่จะลงทุนประมาณ 5,000 ล้านบาทกับการสร้างโครงข่าย 3G ในปี 2552 แล้ว โดยกล่าวด้วยว่า บริษัทยังไม่จำเป็นต้องรีบเปิดให้บริการ 3G เท่าใดนัก เพื่อให้แน่ใจว่าตลาดสื่อสารไร้สายของไทยมีความพร้อมที่จะใช้บริการของ 3G โดยเฉพาะในเรื่องของบริการสื่อสารข้อมูลไร้สาย
บริษัท หัวเหว่ย มารีน เน็ตเวิร์คส์ (Huawei Marine Networks) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท หัวเหว่ย เทคโนโลยี กับบริษัท โกลบอล มารีน ซิสเต็มส์ ภายใต้ความตกลงที่มีการลงนามกันเมื่อ 11 ธันวาคม 2551 เปิดดำเนินการแล้วเมื่อเร็วๆนี้ โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เทศบาลนครเทียนจิน (Tianjin)
บริษัทจะจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา และมีฐานการผลิตอยู่ที่ปักกิ่ง, เซินเจิ้น และสหราชอาณาจักร
แหล่งข่าวจากหัวเหว่ยเปิดเผยว่า เหตุผลที่มีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนครั้งนี้เนื่องจากตลาดเคเบิลใต้น้ำกำลังขยายตัวและเติบโตอย่างรวดเร็วในอนาคต ซึ่งบริษัทคาดว่ามูลค่าตลาดจะอยู่ที่ประมาณกว่า 2 พันล้านเหรียญ หรือราว 70 พันล้านบาท ต่อปีในอีก 5 ปีข้างหน้า
หัวเหว่ยให้สัมภาษณ์ทาง ZDnet ของออสเตรเลียว่าทางหัวเหว่ยจะเปิดตัวโทรศัพท์ Android พร้อมให้ผู้บริการสั่งซื้อภายในไตรมาสที่สามปี 2009 อย่างแน่นอน และหากช้ากว่านั้น น่าจะเป็นเพราะผู้ให้บริการเลือกที่จะไม่นำเข้าโทรศัพท์เอง
การประกาศนี้เกิดขึ้นหลังการเข้าเป็นสมาชิกของ Open Handset Alliance เพียงหนึ่งสัปดาห์
ที่มา - ZDNet
รายงานจากบริษัทที่ปรึกษาอุตสาหกรรม Broadbandtrends ระบุว่า ยอดจำหน่ายดีเอสแอล (DSL – Digital Subscriber Line) ของบริษัทหัวเหว่ยเมื่อไตรมาส 3 ปี 2551 มากกว่า 6.6 ล้านลายน์ ถือได้ว่าบริษัทครองแชมป์ในตลาด DSL ของโลกด้วยส่วนแบ่งตลาดกว่า 30.5%
นอกจาก DSL แล้ว บริษัทหัวเหว่ยซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมและเครือข่ายรายใหญ่ของจีนยังคงรักษาความเป็นผู้นำในตลาด IP DSL และ MSAP อีกด้วย โดยมีส่วนแบ่งตลาด 28.5% และ 34.5% ตามลำดับ
บริษัท หัวเหว่ย เทคโนโลยี ผู้ผลิตและจำหน่ายโซลูชั่นโครงข่ายโทรคมนาคมยุคใหม่สำหรับผู้ให้บริการโทรคมนาคมทั่วโลก นำเสนอโซลูชั่นบรอดแบนด์ไร้สายนานาชนิด เช่น DORA, HSDPA, HSUPA, HSPA+, WiMAX และ LTE ในงาน P&T/EXPOCOMM CHINA2008 ที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนระหว่างวันที่ 21-25 ตุลาคม 2551
ในงานดังกล่าว หัวเหว่ยแสดงรายละเอียดของความร่วมมือกับบรรดาผู้ให้บริการโทรคมนาคมและผุ้ผลิตและจำหน่ายชิพซิลิกอนชั้นนำในการพัฒนาเทคโนโลยี HSPA+ รวมทั้งมีการสาธิตเทคโนโลยี HSPA+ โดยใช้ BTS ยุคที่ 4 ร่วมกับผลิตภัณฑ์ MDM8200™ ของบริษัทควอลคอมม์ ที่สามารถรองรับการสื่อสารข้อมูลด้วยความเร็วสูงถึง 28 Mbps กรณีดาวน์ลิงก์และ 11 Mbps กรณีอัพลิงก์
ข่าวช่วงนี้เยอะทั้งในและนอกประเทศเลยรวมๆ มารายงานกันเลยนะครับ
อันแรกคือมีข่าวกูเกิลและอินเทลเริ่มเตรียมไปลงทุนร่วมกับบริษัทสื่อสาร เพื่อวางเครือข่ายไวแมกซ์ทั่วสหรัฐฯ งานนี้ไม่น่าแปลกใจเพราะอินเทลเองก็สนับสนุนไวแมกซ์มายาวนาน และพยายามผลักดันชิปไวแมกซ์ให้เป็นอุปกรณ์พื้นฐานสำหรับโน้ตบุ๊กมาแต่ไหนแต่ไร ส่วนกูเกิลเองนั้นก็อยากออกอุปกรณ์ที่เข้าถึงเว็บผ่านแบบไร้สายมานานแล้ว อย่าง Android เองก็เป็นหนึ่งในความพยายามนั้น
ที่มา - ArsTechnica