ในงาน CES 2012 ปีนี้ ทางค่ายจีน อย่าง Huawei ได้ทำการเปิดตัวสินค้าใหม่ให้ตะลึงโลก กับ Huawei Ascend P1 S ที่ได้ชื่อว่า บางที่สุดในโลก
โดยเครื่องนี้ ถือว่าเป็นเรือธงของ Huawei เลยก็ว่าได้ มีสเปคทั่วไปของสมาร์ทโฟนรุ่นท็อป อย่าง CPU Dual-Core 1.5 GHz TI OMAP 4460 ใช้กราฟิก SGX 540 จอ 4.3 นิ้ว Super AMOLED 540 x 960 พิกเซล กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล ถ่ายวีดีโอได้ 1080p กล้องหน้า 1.3 ล้านพิกเซล แบตเตอรี 1800 มิลลิแอมป์ พร้อม Android Ice Cream Sandwich
จุดเด่นของเครื่องนี้คือ ความบาง ที่บางที่สุดอยู่ที่ 6.68 มิลลิเมตร ซึ่งบางกว่า Motorola RAZR ที่บาง 7.1 มิลลิเมตร แต่ตรงที่หนาที่สุด อยู่ที่ 7.69 มิลลิเมตร รูปภาพอยู่ท้ายข่าวครับ
หลังจากไมโครซอฟท์เซ็นสัญญาสิทธิบัตรกับ Compal ไปไม่นาน คราวนี้ก็ถึงคราวของ Huawei ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่สัญชาติจีนที่ มีผลิตภัณฑ์หลักอยู่ในแพลตฟอร์มแอนดรอยด์
Victor Xu ตำแหน่ง chief marketing officer ของ Huawei กล่าวว่า "ไมโครซอฟท์มาเยือนเราแล้ว" และยังกล่าวเสริมอีกว่า "เราเคารพในทรัพย์สินทางปัญญาอยู่เสมอ แต่ด้วยสิทธิบัตร 65,000 รายการทั่วโลกทำให้มั่นใจได้ว่านั่นจะเพียงพอสำหรับปกป้องผลประโยชน์ของเรา"
อย่างไรก็ตามเขายืนยันว่าขั้นตอนทั้งหมดยังอยู่ในช่วงของการเจรจา
ที่มา - Guardian
ความฝันของผู้ใช้สมาร์ทโฟนอาจเป็นจริงแล้ว แต่ไม่ใช่ฝีมือของแอปเปิล ซัมซุง หรือ RIM เพราะ "อุปกรณ์ในฝัน" ตัวนี้มาจากค่ายจีนอย่าง Huawei ที่เริ่มมาแรงเรื่อยๆ ในตลาดสมาร์ทโฟนโลก
Huawei Honor เป็นสมาร์ทโฟน Android ที่มีจุดขายตรงแบตเตอรี่ขนาด 1,900 mAh ซึ่งทางต้นสังกัดโฆษณาว่ามันชาร์จทีหนึ่งอยู่ได้นานที่สุดถึงสามวัน
สเปกอย่างอื่นได้แก่หน้าจอ 4 นิ้วสัดส่วน 16:9 ความละเอียด FWVGA (854×480), ซีพียู 1.4GHz, กล้องหลัง 8MP พร้อมโหมด HDR, กล้องหน้า 2MP, DLNA, ระบบปฏิบัติการเป็น Android 2.3.5 พร้อมอินเทอร์เฟซพิเศษของ Huawei
Huawei ผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่จากจีน เตรียมขยายกิจการสู่ตลาดโลกให้มากขึ้น โดยเฉพาะการทำธุรกิจในสหรัฐอเมริกา
ในอดีต Huawei ไม่ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรในสหรัฐมากนัก เนื่องจากเป็นบริษัทจีนที่อาจมีอิทธิพลด้านความมั่นคงของสหรัฐ ทำให้ที่ผ่านมา Huawei ซื้อกิจการบริษัทในสหรัฐล้มเหลวหลายครั้ง
ทางแก้ไขล่าสุดของ Huawei คือจ้างบริษัทสหรัฐอย่าง IBM มาให้คำปรึกษาว่าควรจะวางแบรนด์อย่างไร กำหนดจุดยืนในตลาดว่าอยู่ตรงไหน โดย IBM จะส่งทีมที่ปรึกษา 25 คนไปดูการทำงานของ Huawei และให้คำแนะนำ ซึ่งจะเสร็จสิ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้
Huawei มีความใกล้ชิดกับ IBM มาตั้งแต่ปี 1998 โดยสองบริษัทนี้มีโครงการร่วมกันหลายอย่าง
ยักษ์ใหญ่จากจีน Huawei ยังเปิดตัวสมาร์ทโฟนของตัวเองอย่างต่อเนื่อง (ถึงแม้จะยังไม่มาทำตลาดในบ้านเรา)
ล่าสุด Huawei ออกสมาร์ทโฟนตัวใหม่ชื่อ "Vision" ซึ่งมีจุดขายที่สไตล์การออกแบบ วัสดุเป็นอลูมิเนียมอัลลอยยูนิบอดี้ ขนาดบาง (จุดที่บางที่สุด 9.9 มิลลิเมตร) และน้ำหนักเบาเพียง 135 กรัม (ยังหนาและหนักกว่า Galaxy S II อยู่เล็กน้อย)
ซีพียูใช้ Qualcomm MSM 8255 1GHz, แรม 512MB, กล้องหลัง 5MP, ระบบปฏิบัติการเป็น Android 2.3, ทาง Huawei ได้เพิ่มส่วนติดต่อผู้ใช้แบบ 3D เข้ามาด้วย ซึ่ง Engadget บอกว่ามันคือ SPB Shell 3D เวอร์ชันปรับแต่ง
ทาง Huawei บอกว่าจะขาย Vision ในบางประเทศ เริ่มขายเดือนกันยายนนี้
วันนี้ที่งาน CommunicAsia ประเทศสิงคโปร์ Huawei ได้ทำการเปิดตัวแท็บเล็ตหน้าจอขนาด 7 นิ้ว แม้ว่าแท็บเล็ตหน้าจอ 7 นิ้วจะไม่ใช่ของใหม่ เพราะมีรุ่นพี่ออกมาก่อนแล้วคือ Samsung Galaxy Tab และ Dell Streak 7 แต่สำหรับ Huawei MediaPad นั้นมันจะเป็นแท็บเล็ตหน้าจอ 7 นิ้วรุ่นแรกที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3.2 Honeycomb (ซึ่งสองตัวที่ออกมาก่อนหน้านี้เป็น 2.2 Froyo) และเมื่อดูจากเลขรุ่นที่เป็น 3.2 แล้ว หมายความว่ารุ่นก่อนหน้านี้ที่ใช้หน้าจอขนาด 7 นิ้วอาจจะได้อานิสงส์ตามๆ กันไปด้วย
สำหรับสเปคเด่นๆ ของ MediaPad มีดังนี้
เมื่อวานนี้ Huawei เพิ่งจะฟ้อง ZTE ไปหยกๆ วันนี้ ZTE เอาคืนบ้าง ฟ้องกลับ Huawei ว่าละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยี 4G (LTE)
หวง หลีปิง นักวิเคราะห์จากสถาบันการเงินโนมุระ ให้ความเห็นว่า "เป็นเพราะ ZTE เติบโตดีเกินไป Huawei เลยพยายามที่จะใช้สิทธิ์ทางด้านสิทธิบัตรเพื่อไปขัดขวางการโตของ ZTE แต่ท้ายสุดแล้วคดีความด้านสิทธิบัตรแบบนี้ ก็มักจะจบลงที่การเจรจาและผลประโยชน์ที่จะจ่ายกันเองภายหลัง"
ทาง ZTE แถลงว่า "เราจะดำเนินการตามกฏหมายเพื่อที่จะปกป้องสิทธิบัตรของเราที่มีอยู่ทั่วโลกไม่ให้โดนละเมิดสิทธิ์โดยใครก็ตาม อย่างไรก็ดีเรารู้สึกว่าการแข่งขันทางสิทธิบัตรไม่ควรที่จะมาเป็นประเด็นหลักในการแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้"
บริษัทจีนที่ร้อนแรงที่สุดแห่งยุค 2 รายคือ Huawei และ ZTE ต้องมาสู้กันเองเสียแล้ว
Huawei เป็นฝ่ายยื่นฟ้อง ZTE ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตรของ data card (ซึ่งเราเรียกกันว่าแอร์การ์ด) และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ LTE อีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ Huawei ยังกล่าวหาว่า ZTE ละเมิดเครื่องหมายการค้าที่เกี่ยวข้องกับ data card ด้วย
Huawei บอกว่าพยายามเจรจากับ ZTE แล้วแต่ไม่เกิดผล จึงต้องใช้ไม้ตายสุดท้ายคือการฟ้องร้องนั่นเอง (Huawei ยื่นฟ้องใน 3 ประเทศคือเยอรมนี ฝรั่งเศส ฮังการี)
ส่วน ZTE ก็ตอบโต้ด้วยประโยคมาตรฐานว่าไม่ได้ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาใดๆ และบริษัทให้ความเคารพทรัพย์สินทางปัญญาของคนอื่นมาโดยตลอด
ยักษ์ใหญ่อุปกรณ์โทรคมนาคมของประเทศจีนอย่างหัวเหว่ยแจ้งผลประกอบการประจำปี 2010 โดยมีรายได้สุทธิ 1.85 แสนล้านหยวน และคิดเป็นกำไรสุทธิ 2.376 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 3.64 พันล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้นประมาณ 30% จากปีก่อน
บริษัทเผยว่ายอดขายในตลาดต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นถึง 34% โดยมีลูกค้าใหญ่ในอเมริกาเหนือและประเทศรัสเซีย ขณะที่รายได้ภายในประเทศจีนเองเพิ่มขึ้น 9.7% อย่างไรก็ตามบริษัทยังประสบปัญหาการขยายฐานลูกค้าในหลายประเทศโดยเฉพาะปัญหาด้านความมั่นคง เพราะบริษัทยังถูกตั้งข้อสงสัยว่าอุปกรณ์ของบริษัทอาจดักเก็บข้อมูลความลับที่สำคัญส่งให้กับรัฐบาลจีน (ข่าวเก่า)
ข่าวนี้เป็นเรื่องสืบเนื่องจากรายงานของ Sanford C. Bernstein ที่ว่าทำไม iPad จึงราคาถูกกว่าแท็บเล็ตค่ายอื่น โดย The New York Times ได้ไปสอบถามผู้ผลิตแท็บเล็ตค่ายต่างๆ รวมทั้งนักวิเคราะห์อีกหลายท่านเพิ่มเติมถึงประเด็นนี้
Rhoda Alexander นักวิเคราะห์จาก IHS iSuppli บอกว่าการเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนเองนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าบริษัทนั้นพอผลิตสินค้าส่งขายภายในกันเองจะได้ราคาที่ต่ำที่สุดกว่าคนอื่น ทั้งนี้เป็นเพราะการคิดต้นทุนอาจแยกส่วนกันได้
ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์จำนวนมากเข้ามาเป็นสมาชิกของ Linux Foundation เพื่อดูแลให้ฮาร์ดแวร์ของตัวเองทำงานร่วมกับลินุกซ์ได้สมบูรณ์กันเป็นเรื่องปรกติ และวันนี้ชุมชนลินุกซ์ก็ได้ต้อนรับผู้ผลิตรายใหม่คือหัวเหว่ย (Huawei)
หัวเหว่ยระบุว่าบริษัทเองมีนักพัฒนาเคอร์เนลทำงานอยู่ในบริษัทมาระยะเวลาหนึ่งก่อนหน้านี้แล้ว และทีมงานนี้มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ โดยที่หัวเหว่ยใช้ลินุกซ์เพื่อการพัฒนาอุปกรณ์เครือข่ายของตัวเองหลายต่อหลายชิ้น
ทางฝั่ง Linux Foundation เองก็กล่าวต้อนรับหัวเหว่ยกันเป็นธรรมเนียมพร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่าหัวเหว่ยจะนำลินุกซ์ให้บุกไปในตลาดเครือข่ายพื้นฐาน และอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้มากกว่านี้
กลายเป็นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศจนได้ โดย Sprint Nextel เครือข่ายมือถือใหญ่ของสหรัฐ ประกาศไม่รับอุปกรณ์เครือข่ายจาก Huawei หรือ ZTE ซึ่งมาจากประเทศจีน
ส่วนเหตุผลนั้น "ว่ากันว่า" กระทรวงกลาโหมสหรัฐกลัวว่ารัฐบาลจีนจะแอบใส่ช่องโหว่มาในอุปกรณ์เครือข่ายของทั้งสองบริษัท ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารของสหรัฐ ทั้งสามบริษัทที่เกี่ยวข้องยังไม่มีคำแถลงอย่างเป็นทางการในเรื่องนี้
ที่มา - Wall Street Journal
Motorola ได้ตัดสินใจฟ้อง Huawei ในข้อหาสมคบกับอดีตพนักงานของบริษัทเพื่อขโมยความลับทางการค้า
บริษัท Motorola ได้ตัดสินใจยื่นฟ้องบริษัท Huawei ต่อศาลสูงเมืองชิคาโกในข้อหาสมคบกับอดีตพนักงานของบริษัท (ที่ถูกฟ้องไปก่อนแล้วตั้งแต่ปี 2008 หลังจากพนักงานกลุ่มนี้ได้ลาออกไปอยู่บริษัท Lemko Corp. ที่เป็นคู่ค้าของ Huawei) เพื่อขโมยความลับทางการค้าของบริษัท ซึ่ง Motorola ได้กล่าวอ้างว่าวิศกรของบริษัทคนหนึ่งได้ทำการส่งข้อมูลเกี่ยวกับตัวรับส่งสัญญาณวิทยุรุ่นใหม่ รวมไปถึงเทคโนโลยีอื่นๆของบริษัทให้กับนาย Ren Zhengfei ผู้ก่อตั้ง Huawei (ซึ่งตัวนาย Ren เอง ก็ได้ออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหาของ Motorola ว่า เป็นข้อกล่าวหาที่ "เลื่อนลอย")
Andy Rubin "บิดาแห่ง Android" ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร BusinessWeek
ขณะที่เทคโนโลยี HSDPA ที่ให้แบนวิดท์การดาวน์โหลดที่ 7.2Mbps กำลังเป็นมาตรฐานไปทั่วโลก ผู้ให้บริการหลายรายก็เริ่มเตรียมความพร้อมที่จะให้บริการ HSPA+ ที่ให้แบนวิดท์ไปได้ถึง 28Mbps แต่ Huawei นั้นก็เตรียมเปิดทดสอบ HSPA+ ที่ให้ความเร็วได้ถึง 56Mbps แล้ว
แม้ตัวเลขจะน่าตื่นเต้น แต่เทคโนโลยีนี้ก็อาศัย HSPA+ แบบเดิมซึ่งทำให้เราคาดเดาได้ว่าระยะทางให้บริการที่ให้ความเร็วสูงระดับนี้จะให้บริการได้เพียงรัศมีแคบๆ เท่านั้น
Huawei ระบุว่าลูกค้าที่ซื้ออุปกรณ์เครือข่าย HSPA+ ในตระกูล 38xx สามารถใช้ความเร็วระดับนี้ได้โดยการอัพเกรดซอฟต์แวร์
ที่น่าสนใจอีกหน่อยคือ Huawei ระบุว่ามีลูกค้าติดตั้งอุปกรณ์ HSPA+ ไปแล้วกว่า 10 บริษัทในหลายประเทศเช่น ฮ่องกง, สิงค์โปร์, ตุรกี, และญี่ปุ่น
ผมเชื่อว่าคงมีหลายคนคิดเหมือนผมว่าการเฝ้าดูราคาโทรศัพท์เครื่องที่อยากได้ในต่างประเทศ แล้วมันราคาไม่กี่ดอลลาร์แต่ดันติดสัญญาเป็นเรื่องน่าเบื่อมาก โดยเฉพาะ Smartphone ทั้งหลาย แต่ราคา 180 ปอนด์หรือประมาณ 10,000 บาทของ T-Mobile Pulse นั้นเป็นราคาไม่ติดสัญญา ทำให้โทรศัพท์ตัวนี้ดูน่าสนใจขึ้นมาทันที
T-Mobile Pulse เป็นโทรศัพท์โดย Huawei สำหรับต่างประเทศนั้นก็มีความหวังกันว่าจะมีผู้ให้บริการรายอื่นๆ ซื้อโทรศัพท์รุ่นนี้ไปขายบ้าง ส่วนบ้านเราผมไม่แน่ใจว่า Huawei นั้นทำตลาดอยู่หรือไม่ สำหรับเสปคมีดังนี้
Android นั้นมีผู้ผลิตมากหน้าขึ้นมาเรื่อยๆ และในวันนี้เองที่งาน CommunicAsia 2009 บริษัท Huawei ที่เคยออกมายืนยันว่าจะออก Android ด้วย ก็ได้เปิดเผยข้อมูลโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่จะใช้ Android ซึ่งมีชื่อรุ่นคือ U8230 แล้วครับ โดยคุณสมบัติที่เปิดเผยมาเบื้องต้นคือ
รอยเตอร์ รายงานว่า DTAC ได้ตกลงเลือกใช้อุปกรณ์โครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G จาก NSN (Nokia Siemens Networks) และ หัวเหว่ย เทคโนโลยี โดยจะทำการอัพเกรดโครงข่ายเพื่อให้บริการ 3G
ก่อนหน้านี้ DTAC เคยประกาศว่าอาจจำเป็นต้องชะลอการลงทุนในโครงข่าย 3G ไปก่อนจนกว่าจะมีความแน่ใจว่าตลาดมีความต้องการใช้บริการสื่อสารข้อมูลไร้สายมากเพียงพอ อย่างไรก็ตามล่าสุด นาย Tore Johnsen ซึ่งเป็น CEO คนใหม่ของ DTAC ตัดสินใจที่จะลงทุนประมาณ 5,000 ล้านบาทกับการสร้างโครงข่าย 3G ในปี 2552 แล้ว โดยกล่าวด้วยว่า บริษัทยังไม่จำเป็นต้องรีบเปิดให้บริการ 3G เท่าใดนัก เพื่อให้แน่ใจว่าตลาดสื่อสารไร้สายของไทยมีความพร้อมที่จะใช้บริการของ 3G โดยเฉพาะในเรื่องของบริการสื่อสารข้อมูลไร้สาย
บริษัท หัวเหว่ย มารีน เน็ตเวิร์คส์ (Huawei Marine Networks) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท หัวเหว่ย เทคโนโลยี กับบริษัท โกลบอล มารีน ซิสเต็มส์ ภายใต้ความตกลงที่มีการลงนามกันเมื่อ 11 ธันวาคม 2551 เปิดดำเนินการแล้วเมื่อเร็วๆนี้ โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เทศบาลนครเทียนจิน (Tianjin)
บริษัทจะจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา และมีฐานการผลิตอยู่ที่ปักกิ่ง, เซินเจิ้น และสหราชอาณาจักร
แหล่งข่าวจากหัวเหว่ยเปิดเผยว่า เหตุผลที่มีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนครั้งนี้เนื่องจากตลาดเคเบิลใต้น้ำกำลังขยายตัวและเติบโตอย่างรวดเร็วในอนาคต ซึ่งบริษัทคาดว่ามูลค่าตลาดจะอยู่ที่ประมาณกว่า 2 พันล้านเหรียญ หรือราว 70 พันล้านบาท ต่อปีในอีก 5 ปีข้างหน้า
หัวเหว่ยให้สัมภาษณ์ทาง ZDnet ของออสเตรเลียว่าทางหัวเหว่ยจะเปิดตัวโทรศัพท์ Android พร้อมให้ผู้บริการสั่งซื้อภายในไตรมาสที่สามปี 2009 อย่างแน่นอน และหากช้ากว่านั้น น่าจะเป็นเพราะผู้ให้บริการเลือกที่จะไม่นำเข้าโทรศัพท์เอง
การประกาศนี้เกิดขึ้นหลังการเข้าเป็นสมาชิกของ Open Handset Alliance เพียงหนึ่งสัปดาห์
ที่มา - ZDNet
รายงานจากบริษัทที่ปรึกษาอุตสาหกรรม Broadbandtrends ระบุว่า ยอดจำหน่ายดีเอสแอล (DSL – Digital Subscriber Line) ของบริษัทหัวเหว่ยเมื่อไตรมาส 3 ปี 2551 มากกว่า 6.6 ล้านลายน์ ถือได้ว่าบริษัทครองแชมป์ในตลาด DSL ของโลกด้วยส่วนแบ่งตลาดกว่า 30.5%
นอกจาก DSL แล้ว บริษัทหัวเหว่ยซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมและเครือข่ายรายใหญ่ของจีนยังคงรักษาความเป็นผู้นำในตลาด IP DSL และ MSAP อีกด้วย โดยมีส่วนแบ่งตลาด 28.5% และ 34.5% ตามลำดับ
บริษัท หัวเหว่ย เทคโนโลยี ผู้ผลิตและจำหน่ายโซลูชั่นโครงข่ายโทรคมนาคมยุคใหม่สำหรับผู้ให้บริการโทรคมนาคมทั่วโลก นำเสนอโซลูชั่นบรอดแบนด์ไร้สายนานาชนิด เช่น DORA, HSDPA, HSUPA, HSPA+, WiMAX และ LTE ในงาน P&T/EXPOCOMM CHINA2008 ที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนระหว่างวันที่ 21-25 ตุลาคม 2551
ในงานดังกล่าว หัวเหว่ยแสดงรายละเอียดของความร่วมมือกับบรรดาผู้ให้บริการโทรคมนาคมและผุ้ผลิตและจำหน่ายชิพซิลิกอนชั้นนำในการพัฒนาเทคโนโลยี HSPA+ รวมทั้งมีการสาธิตเทคโนโลยี HSPA+ โดยใช้ BTS ยุคที่ 4 ร่วมกับผลิตภัณฑ์ MDM8200™ ของบริษัทควอลคอมม์ ที่สามารถรองรับการสื่อสารข้อมูลด้วยความเร็วสูงถึง 28 Mbps กรณีดาวน์ลิงก์และ 11 Mbps กรณีอัพลิงก์
ข่าวช่วงนี้เยอะทั้งในและนอกประเทศเลยรวมๆ มารายงานกันเลยนะครับ
อันแรกคือมีข่าวกูเกิลและอินเทลเริ่มเตรียมไปลงทุนร่วมกับบริษัทสื่อสาร เพื่อวางเครือข่ายไวแมกซ์ทั่วสหรัฐฯ งานนี้ไม่น่าแปลกใจเพราะอินเทลเองก็สนับสนุนไวแมกซ์มายาวนาน และพยายามผลักดันชิปไวแมกซ์ให้เป็นอุปกรณ์พื้นฐานสำหรับโน้ตบุ๊กมาแต่ไหนแต่ไร ส่วนกูเกิลเองนั้นก็อยากออกอุปกรณ์ที่เข้าถึงเว็บผ่านแบบไร้สายมานานแล้ว อย่าง Android เองก็เป็นหนึ่งในความพยายามนั้น
ที่มา - ArsTechnica