หลังจากอเมซอนออกอัพเดตย่อยไปเมื่อสองเดือนก่อน เมื่อคืนนี้ทางอเมซอนออกอัพเดตย่อย 5.6.2.1 สำหรับทั้ง Kindle รุ่นที่เจ็ด Paperwhite รุ่นที่สอง และ Kindle Voyage ครับ รอบนี้กลับมาใช้เลขรุ่นเดียวกันหมดทั้งสามอุปกรณ์ ส่วนตัวอัพเดตย่อยใหม่ครั้งนี้มีอะไรที่ปรับปรุงไปบ้างนั้น นอกจากคำอธิบายกว้างๆ ว่า ปรับปรุงทั่วไปและแก้บั๊ก ก็ไม่มีคำอธิบายอย่างเป็นทางการใดๆ ตามสไตล์การอัพเดตย่อยของอเมซอนครับ

ช่วงนี้ไม่ทราบเกิดขยันอะไรขึ้นมา หลังจากอเมซอนออกอัพเดตย่อยไปเมื่อกลางสัปดาห์ก่อน เมื่อคืนนี้ทางอเมซอนออกอัพเดตย่อย 5.6.1.0.6 และ 5.6.1.0.5 สำหรับ Kindle Paperwhite รุ่นที่สองและ Kindle Voyage ตามลำดับครับ ที่แตกต่างจากครั้งก่อนๆ คือ ครั้งนี้ดูเหมือนอเมซอนจะส่งขึ้นระบบ OTA ก่อนปรับปรุงเว็บไซต์ช่วยเหลือด้วยซ้ำ เรียกว่าถ้าเปิดไวไฟทิ้งไว้ เผลอๆ ตื่นมาเช้านี้อาจจะโดนอัพเดตไปแล้วด้วยซ้ำ ส่วนตัวอัพเดตย่อยใหม่ครั้งนี้มีอะไรที่ปรับปรุงไปบ้างนั้น นอกจากคำอธิบายกว้างๆ ว่า ปรับปรุงทั่วไปและแก้บั๊ก ก็ไม่มีคำอธิบายอย่างเป็นทางการใดๆ ตามสไตล์การอัพเดตย่อยของอเมซอนครับ

หลังจากอเมซอนออกอัพเดตย่อยไปเมื่อประมาณสามเดือนก่อน ในสัปดาห์นี้ทางอเมซอนออกอัพเดตย่อย 5.6.1.0.4 และ 5.6.1.0.3 สำหรับ Kindle Paperwhite รุ่นที่สองและ Kindle Voyage ตามลำดับครับ ส่วนตัวอัพเดตย่อยใหม่ครั้งนี้มีอะไรที่ปรับปรุงไปบ้างนั้น นอกจากคำอธิบายกว้างๆ ว่า ปรับปรุงทั่วไปและแก้บั๊ก ก็ไม่มีคำอธิบายอย่างเป็นทางการใดๆ ตามสไตล์การอัพเดตย่อยของอเมซอนครับ

หลังจากอเมซอนออกอัพเดต 5.6.1 ที่เพิ่มฟีเจอร์ยืมหนังสือจากบัญชีแฟน, อธิบายศัพท์ยากบนหน้าหนังสือยกเซตให้กับ Kindle Paperwhite รุ่นที่สอง, Kindle Voyage และ Kindle รุ่นที่เจ็ดไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา เมื่อวานนี้ทางอเมซอนออกอัพเดตย่อย 5.6.1.0.1 และ 5.6.1.0.2 สำหรับ Kindle Paperwhite รุ่นที่สองและ Kindle Voyage ตามลำดับครับ ส่วนตัวอัพเดตย่อยใหม่ครั้งนี้มีอะไรที่ปรับปรุงไปบ้างนั้น ไม่มีคำอธิบายอย่างเป็นทางการใดๆ ตามสไตล์การอัพเดตย่อยของอเมซอนครับ

วันนี้อเมซอนออกอัพเดต 5.4.5 ให้สำหรับ Kindle Paperwhite รุ่นที่สองแล้วครับ โดยมีฟีเจอร์ใหม่ สามข้อดังนี้ครับ

หลังจากออกอัพเดตย่อยก่อนหน้านี้ไม่ถึงเดือนดี ประมาณกลางสัปดาห์ทางอเมซอนออกอัพเดต 5.4.4.2 และ 5.4.3.2 ให้สำหรับ Kindle Paperwhite รุ่นที่หนึ่งและรุ่นที่สองตามลำดับครับ ส่วนตัวอัพเดตย่อยใหม่ครั้งนี้มีอะไรที่ปรับปรุงไปบ้างนั้น ไม่มีคำอธิบายอย่างเป็นทางการใดๆ ตามสไตล์การอัพเดตย่อยของอเมซอนครับ แต่โดยส่วนตัวรู้สึกว่าเมื่ออัพเดตเจ้า Paperwhite รุ่นแรกแล้ว อินเตอร์เฟชจะตอบสนองได้เร็วขึ้นนิดหนึ่งครับ

หลังจากออกอัพเดตให้กับ Kindle Paperwhite รุ่นที่หนึ่งกับรุ่นที่สองไปไม่นาน เมื่อวานนี้ทางอเมซอนออกอัพเดต 5.4.4.1 และ 5.4.3.1 สำหรับ Kindle Paperwhite รุ่นที่หนึ่งและรุ่นที่สองตามลำดับครับ ส่วนตัวอัพเดตย่อยใหม่ครั้งนี้มีอะไรที่ปรับปรุงไปบ้างนั้น ไม่มีคำอธิบายอย่างเป็นทางการใดๆ ตามสไตล์การอัพเดตย่อยของอเมซอนครับ

ตัวอัพเดตทั้งสองมีขนาด 182 MB และ 177 MB ตามลำดับ ซึ่งจะถูกโหลดและติดตั้งผ่าน OTA หรือถ้าไม่อยากรอสามารถโหลดตัวอัพเดตมาจากเว็บไซต์มาติดตั้งเองก็ได้ครับ ซึ่งไม่ว่าจะใช้เฟิร์มแวร์รุ่นไหนของ Paperwhite อยู่ สามารถใช้ตัวอัพเดตนี้เพื่ออัพเดตข้ามมายังรุ่นล่าสุดได้ทันทีครับ เลือกให้ถูกตัวละกันครับ

หลังจากทางอเมซอนเปิด Paperwhite รุ่นใหม่เมื่อหกเดือนก่อน คิดว่าหลายคนที่ถือ Paperwhite รุ่นแรกแอบอิฉฉาฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่อเมซอนจัดมาให้ ซึ่งในทางเทคนิคแล้วฮาร์ดแวร์สองตัวนี้ต่างกันไม่มากนัก หลายคนจึงแอบลุ้นว่าเมื่อไรอเมซอนจะนำฟีเจอร์เหล่านั้นมาให้เครื่องรุ่นแรก และหกเดือนที่ผ่านมาก็มีเพียงแต่อัพเดตเล็กน้อยๆ เท่านั้นเอง มาถึงวันนี้ไม่ต้องรออีกต่อไปแล้วครับ ในอัพเดต 5.4.4 นี้ อัดฟีเจอร์มามากมายจนน่าจะใกล้กับ Paperwhite รุ่นสอง เลยทีเดียว รายละเอียดฟีเจอร์ใหม่มีดังนี้

หลังจากออกอัพเดต 5.4.2 ให้กับ Kindle Paperwhite รุ่นที่สอง (2013) ไปเมื่อสองเดือนที่ผ่านมา วันนี้ทางอเมซอนออกอัพเดต 5.4.2.1 ให้กับ Kindle Paperwhite รุ่นที่สอง (2013) ครับ ส่วนตัวอัพเดตใหม่นี้มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้างนั้น ไม่มีคำอธิบายอย่างเป็นทางการใดๆ ตามสไตล์อเมซอนครับ

แต่ช้าก่อน!

เว็บไซต์ TechCrunch รายงานข่าววงในว่าเครื่องอ่านอีบุ๊ก Kindle Paperwhite รุ่นหน้ารหัสภายใน "Ice Wine" จะขยับไปใช้จอ E Ink ที่ละเอียดขึ้นเป็น 300 ppi (รุ่นปัจจุบัน 212 ppi) เพื่อตอบโต้คู่แข่งอย่าง Kobo ที่วางขายเครื่องอ่านอีบุ๊กหน้าจอละเอียด 265 ppi มาแล้ว

ตามข่าวบอกว่าตัวเครื่อง Kindle Paperwhite จะใช้ดีไซน์แนวเหลี่ยมแบบเดียวกับ Kindle Fire HDX รุ่นล่าสุด และ Amazon จะปรับปรุงฟอนต์ใหม่เพื่อการแสดงผลที่สวยงามขึ้นด้วย

Kindle Paperwhite ตัวนี้ "น่าจะ" วางขายช่วงไตรมาสที่สองของปีครับ

ที่มา - TechCrunch

วันนี้ทางอเมซอนได้ปล่อยอัพเดตฟีเจอร์สำหรับ Kindle Paperwhite รุ่นที่สอง (2013) ตามที่เคยโฆษณาไว้ตั้งแต่เมื่อตอนเปิดตัว

สองวันก่อน ทางอเมซอนปล่อยอัพเดต 5.3.9 ออกมาให้สำหรับ Paperwhite รุ่นเก่า (2012) มาแล้วครับ โดยมีการปรับปรุงสามข้อดังนี้

• เลือกปิดตำแหน่งในหนังสือได้
• ปรับปรุงการอ่าน PDF
• ปรับปรุงการหาความหมายของคำพ้องรูปในภาษาจีนและญี่ปุ่น

คำอธิบายและภาพประกอบอยู่หลังเบรคนะครับ

เลือกปิดตำแหน่งในหนังสือได้
ในโหมดอ่านหนังสือ ที่ด้านล่างของจอเวลาอ่านหนังสือจะแสดงข้อมูลเวลาที่เหลือโดยประมาณในการอ่านหนังสือหรือตำแหน่งปัจจุบันซึ่งเดิมไม่สามารถซ่อนข้อความเหล่านี้ได้ บางคนอาจจะไม่ชอบฟีเจอร์นี้เพราะมันทำให้ไขว้เขวจากการอ่านได้ง่าย ครั้งนี้สามารถซ่อนข้อความกวนใจเหล่านี้ได้แล้วครับ

หลังจากอเมซอนออกอัพเดต 5.3.8 ไปเมื่อเกือบสองเดือนที่ผ่านมา เมื่อวานนี้อเมซอนออกอัพเดตย่อย 5.3.8.1 แทน 5.3.8 มาแล้วครับ ส่วนตัวอัพเดตใหม่นี้มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้างนั้น ไม่มีคำอธิบายอย่างเป็นทางการใดๆ ตามสไตล์อเมซอนครับ

เท่าที่ผู้เขียนได้ลองอัพเดตแล้ว ก็ไม่พบฟีเจอร์อื่นใดเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจาก 5.3.8 นอกจากเลขรุ่นที่เปลี่ยนแปลง

แม้ว่าอเมซอนเพิ่งจะเปิดตัว Paperwhite ตัวใหม่ ไปไม่ถึงสัปดาห์ก็ยังไม่ลืมรุ่นเก่า เมื่อวานนี้อเมซอนปล่อยอัพเดต 5.3.8 ออกมาสำหรับ Paperwhite ตัวเก่าแล้วครับ เท่าที่ดูเน้นที่ฟีเจอร์การค้นหาเพียงอย่างเดียว และก็ยังไม่ใช่ฟีเจอร์เด่นๆ ที่อยู่ในรุ่นใหม่ครับ

• การไฮไลท์คำค้น
• ค้นความหมายได้กับพจนานุกรมฉบับอื่นๆ
• ดูความหมายอื่นๆ ในหน้าต่างคำศัพท์

ตัวอัพเดตสามารถโหลดผ่าน OTA หรือถ้ารอไม่ไหวจะโหลดตัวอัพเดตขนาด 164MB จากเว็บไซต์ที่มาได้โดยตรงครับ คำอธิบายฟีเจอร์และภาพประกอบหน้าจออยู่หลังเบรคครับ

เผลอหลุด Kindle Paperwhite ตัวใหม่ได้แปปเดียว Amazon ก็จัดการเปิดตัวเครื่องอ่านอีบุ๊กตัวใหม่นี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Kindle Paperwhite ตัวใหม่มีอัพเดตทั้งซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ แต่ทรงตัวเครื่องนั้นเหมือนเดิมเด๊ะ โดยรายละเอียดตรงกับที่หลุดมาตอนแรกทุกประการดังนี้ครับ

ฮาร์ดแวร์

• ชิปประมวลผลใหม่เร็วขึ้น 25% พลิกหน้าได้ไวขึ้น
• หน้าจอใหม่คอนทราสต์เพิ่มขึ้น
• ระบบไฟปรับปรุงใหม่ ใช้ light guide เหมือนเดิม แต่ไม่ทำให้ตาล้า
• กริดของระบบสัมผัสแน่นขึ้น ทำให้รับสัมผัสได้แม่นยำขึ้นไปด้วย
• หน้าจอเท่าเดิมที่ 6" บาง 9.1 มม. หนัก 206 กรัม

• ปิดไฟอ่านได้ 8 สัปดาห์ (ถ้าอ่านเฉลี่ยวันละแปดชั่วโมง) เปิดไฟอ่านได้ 10 ชั่วโมง

หลังจาก Amazon หยุดขาย Kindle Paperwhite ทุกโมเดลจนคนเดาไปว่าน่าจะเตรียมเปิดตัวรุ่นใหม่ในไม่ช้า ซึ่งก็ถูกเผง และเป็น Amazon เองที่หลุดข้อมูลของ Kindle Paperwhite รุ่นใหม่บนหน้าเว็บ แน่นอนว่ามีผู้ใช้เก็บภาพเอาไว้ได้ครับ

สรุปจากภาพที่ Amazon หลุดมา Kindle Paperwhite รุ่นใหม่จะมาพร้อมกับหน้าจอที่คอนทราสต์สูงขึ้น ระบบไฟใหม่ที่แก้ปัญหาตาล้า ชิปประมวลผลทำงานเร็วขึ้น 25% และระบบสัมผัสหน้าจอใหม่ที่แม่นยำขึ้น

อเมซอนหยุดจำหน่ายเจ้า Kindle Paperwhite ทุกรุ่นทั้งรุ่น WiFi Only และรุ่น 3G แล้วนะครับ แต่ Kindle (non-touch) กับ Kindle DX ก็ยังมีให้สั่งซื้อกันอยู่

ซึ่งโดยปกติแล้ว ก่อนที่อเมซอนจะเปิดตัวคินเดิลรุ่นใหม่ก็มักจะมีการประกาศลดราคารุ่นเก่าเพื่อเคลียร์สต็อค ไม่ก็หยุดขายรุ่นที่มีความสามารถใกล้เคียงกันชั่วระยะเวลาหนึ่ง (เหมือนกรณี Kindle Touch กับ Kindle Paperwhite) ยิ่งมีการหยุดขายสินค้าตัวนี้ในช่วงเวลานี้ก็ยิ่งเพิ่มความมั่นใจขึ้น เพราะในช่วงสามปีที่ผ่านมาอเมซอนมักจะเปิดตัวคินเดิลสาย e-Ink ในช่วงกันยายน-ตุลาคมเสมอ

ในวันที่ 17 ที่ผ่านมา ทางอเมซอนปล่อยอัพเดต 5.3.6 สำหรับ Kindle Paperwhite แล้วครับ

ข้อมูลรายละเอียดของการอัพเดตตามหน้าเว็บไซต์มีเพียงเรื่องเดียว คือ การปรับปรุงเวลาจะสั่งซื้อหนังสือจากหนังสือตัวอย่าง จากเดิมที่มีปุ่ม "Buy This Book Now" ซึ่งเมื่อกดปุ่มก็จะเป็นการชำระเงินและโหลดหนังสือทันที เปลี่ยนมาเป็น "Buy for $xx.xx" แทน ซึ่งเป็นการแจ้งข้อมูลราคาหนังสือที่จะกำลังจะสั่งซื้อ ทำให้หนอนหนังสือตัวน้อยๆ ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ว่าไม่ได้ตั้งใจซื้อ เพราะไม่รู้ว่าราคาหนังสือตัวเต็มๆ ของหนังสือตัวอย่างที่กำลังอ่านเพลินๆ นั้นเล่มละเท่าไร

ในวันที่ 24 ที่ผ่านมา มาทางอเมซอนปล่อยอัพเดท 5.3.5 มาสำหรับ Kindle Paperwhite แล้วครับ

รายละเอียดของการอัพเดตมีดังนี้

หลังจากที่มีข่าวช่องโหว่หน้าจอล็อครหัสใน iOS 6 และ Samsung Galaxy Note II ทาง Amazon เองก็คงกลัวผู้ใช้ Kindle จะไม่มีอะไรทำขณะอยู่หน้าล็อกรหัส เตรียมของเล่นไว้ให้เรียบร้อยครับ

หลายครั้งที่ปัญหาความปลอดภัย เกิดจากระบบรักษาความปลอดภัยหลายตัวทำงานขัดแย้งกันเอง โดยอาศัยความแตกต่างกันของระดับสิทธิ์แต่ละตัว

จากข่าวก่อน Amazon เปิดตัว Kindle Paperwhite ซึ่งเริ่มจำหน่ายจริงเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มาบัดนี้พร้อมให้ส่งมาที่เมืองไทยแล้วครับ โดยราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 6700 บาท

ถ้าใครพยายามลองสั่งซื้อ Paperwhite ในช่วงที่วางจำหน่ายใหม่ๆ เพื่อให้อเมซอนส่งเครื่องมาเมืองไทยจะพบว่าไม่สามารถซื้้อได้ โดยระบบแจ้งว่าเฉพาะส่งในสหรัฐเท่านั้น ซึ่งนี่ก็ถือเป็นเรื่องปกติในการขายคินเดิลของอเมซอน เพราะปกติเมื่ออเมซอนวางจำหน่ายคินเดิลรุ่นใหม่ๆ ช่วงแรกจะมีการจำกัดการจำหน่ายเฉพาะในสหรัฐเท่านั้น เพราะแค่รับคำสั่งซื้อในประเทศก็ผลิตกันไม่ทันความต้องการอยู่แล้ว

เนื่องจากเพื่อนผมซื้อ Kindle Paperwhite (PW) มาแล้ว และตัวผมก็แสดงความสนใจเจ้าเครื่องนี้จนออกนอกหน้า เพื่อนตัวดีก็ใจดีให้ผมยืมไปลองเล่นเผื่อว่าจะหาเพื่อนร่วมทางได้อีกคน ผมก็เลยถือวิสาสะจับมาทดสอบการใช้งานและพร้อมกับแชร์ให้เพื่อนๆให้ได้รับทราบกัน

ในฐานะที่ผมใช้งานเครื่อง Kindle 2, Kindle 3 และ Kindle DX Graphite มาด้วย และประกอบกับทาง Blognone เองมีรีวิว Kindle 3 โดยคุณ pittaya และ รีวิว Kindle Touch โดยคุณ mk ผมคงจะเน้นส่วนประสบการณ์การใช้งานที่แตกต่างมากกว่ารีวิวเจาะไปในทุกฟีเจอร์ละกันครับ

ฮาร์ดแวร์

Amazon เริ่มส่งเครื่องอ่านอีบุ๊กรุ่นล่าสุด Kindle Paperwhite ให้คนที่สั่งซื้อล่วงหน้าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ Amazon ขึ้นข้อความว่า "ของหมด" บนหน้าเว็บแล้ว และถ้าจะสั่งตอนนี้ต้องรออีก 4-6 สัปดาห์ กว่าจะได้ของต้องรอถึงเดือนพฤศจิกายน

Kindle Paperwhite ขายหมดทุกเวอร์ชันไม่ว่าจะเป็นรุ่น Wi-Fi หรือ 3G ทั้งแบบมีและไม่มีโฆษณาด้วย

คนแถวนี้ที่คิดจะสั่ง (หรือสั่งไปแล้ว) ก็คงต้องรอกันอีกนานหน่อยครับ ของเค้าขายดี

ที่มา - GigaOm

Amazon ออกวิดีโออธิบายเทคโนโลยีจอภาพส่องสว่างของ Kindle Paperwhite ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นเดือนนี้

แนวทางของ Amazon คือการวางสายเคเบิล (หรือจะเรียกว่าเป็นท่อแสง) เรียกว่า nanoimprinted light guide แล้วปล่อยแสงให้วิ่งไปมาในท่อนี้ (ลักษณะเดียวกับ fiber optics) จากนั้นแสงจะตกกระทบลงบนจอภาพที่แสดงผล ก่อนจะสะท้อนกลับมายังสายตาของผู้ใช้

วิดีโอช่วงแรกๆ เป็นการคุยกันเฉยๆ ครับ แผนภาพเริ่มต้นนาทีที่ 1:40 เป็นต้นไป

ที่มา - Engadget

"We're the People with the Smile on the Box" คือประโยคแรกใน คลิปวิดีโอ เปิดตัวของงานแถลงสินค้าตัวใหม่จาก Amazon.com ในวันที่ 6 กันยายน 2555 ณ เมือง Santa Monica รัฐ California หลังจากโฆษณาตัวนี้จบ, Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง และ CEO ของ Amazon.com ก็ออกมาพร้อมคำพูดที่ทักทายผู้ชมอย่างเป็นกันเองว่า "Thank you for joining us in Santa Monica this morning, Beautiful day."

สำหรับใครที่สนใจดูงานเปิดตัวแบบเต็มๆ สามารถดูได้ที่ http://bit.ly/OfCfkK ครับ (สามารถกด CC ใต้วิดีโอ เพื่อเปิดคำบรรยายใต้ภาพได้นะครับ)