Amazon อัพเกรดแท็บเล็ตตระกูล Fire HD 8 แท็บเล็ตขนาดหน้าจอ 8 นิ้ว โดยแบ่งเป็นรุ่นย่อยคือ Fire HD 8, Fire HD 8 Kids Pro และ Fire HD 8 Kids จุดขายคือการทำงานที่เร็วขึ้น 30% จากรุ่นก่อนหน้า วางตำแหน่งเป็นแท็บเล็ตเพื่อความบันเทิง

แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 13 ชั่วโมง ชาร์จ USB-C ตัวเลือกหน่วยความจำ 32GB และ 64GB เพิ่มความจุ microSD ได้สูงสุด 1TB

ราคาขาย Fire HD 8 เริ่มต้นที่ 119.99 ดอลลาร์ มีให้เลือก 3 สี คือ ดำ, เดนิม และโรส ส่วน Fire HD 8 Kids และ Fire HD 8 Kids Pro ราคาเริ่มต้น 189.99 ดอลลาร์

ที่มา: Amazon

Amazon ประกาศอัพเดตแท็บเล็ต Fire 7 รุ่นใหม่ ที่มีสเป็กดีขึ้น เปลี่ยนมาใช้ USB-C ยังคงเป็นรุ่นราคาถูกที่สุดในตระกูลแท็บเล็ต Amazon Fire

โดยการทำงาน Amazon บอกว่าเร็วขึ้น 30% เทียบกับ Fire 7 รุ่นปี 2019 แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 10 ชั่วโมง และระบุว่าทดสอบความทนทานดีกว่า iPad mini รุ่นล่าสุด 2 เท่าตัว

ราคาขายเริ่มต้นที่ 59.99 ดอลลาร์ แพงขึ้น 10 ดอลลาร์ จากรุ่นปี 2019 มีให้เลือก 3 สี คือ ดำ เดนิม และโรส พรีออเดอร์ได้ทาง www.amazon.com/fire7 เริ่มจัดส่ง 29 มิถุนายน เป็นต้นไป

ที่มา: ZDNet

Amazon ประกาศยุติการให้บริการ Mayday มีผลในเดือนมิถุนายนนี้ โดยให้ลูกค้าติดต่อกับฝ่ายสนับสนุนผ่านช่องทางอื่น ได้แก่ โทรศัพท์, อีเมล หรือแชท

Mayday เปิดตัวในปี 2013 โดยเป็นฟีเจอร์หนึ่งของแท็บเล็ตตระกูล Fire ที่ผู้ใช้งานสามารถกดขอความช่วยเหลือ ปรึกษาปัญหาจากพนักงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีจุดเด่นคือสามารถแชร์หน้าจอเพื่อให้พนักงาน Amazon ช่วยแก้ปัญหาได้สะดวกมากขึ้นด้วย (ขอให้เล่น Angry Birds ให้ก็ยังมี)

Amazon ได้ประกาศอัพเดตแท็บเล็ตตระกูล Fire ทั้ง Fire 7, Fire HD 8 ดังนี้

Fire HD 8 เพิ่มรุ่นสำหรับเด็กหรือ Kids Edition เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถควบคุมบุตรหลายได้ด้วยบริการ FreeTime Unlimited ซึ่งมีค่าใช้จ่าย 2.99 ดอลลาร์ต่อเดือน โดยผู้ปกครองสามารถจำกัดการเข้าถึงของลูกได้ทุกหมวดหมู่ ตั้งแต่เกม, หนังสือ ไปจนถึงวิดีโอและเว็บไซต์ รวมถึงสามารถดูพฤติกรรมของลูกได้ด้วย

ราคาของ Fire HD อยู่ที่ 129.99 ดอลลาร์ มีให้เลือกสีเหลือง, ชมพู และฟ้า พร้อมบริการ FreeTime Unlimited เป็นเวลา 1 ปี, การันตี worry free คือ Amazon จะมอบอุปกรณ์ให้ใหม่ถ้าพบความเสียหายโดยไม่มีคำถามอื่นใดเพิ่มเติม เป็นเวลา 2 ปี

Amazon Fire แท็บเล็ตราคาถูก 50 ดอลลาร์ เปิดขายมาได้ราว 8 เดือน ล่าสุด Amazon บอกว่าขายได้เป็นหลักล้านเครื่องแล้ว (ตามสไตล์ Amazon จะไม่บอกตัวเลข บอกแค่ "millions") ถือเป็นแท็บเล็ตที่ขายดีที่สุดของ Amazon นับตั้งแต่ทำแท็บเล็ตตระกูล Kindle Fire ออกมา

Amazon ยังเปิดขาย Fire สีใหม่อีก 3 สีคือม่วง น้ำเงิน ส้ม และออกรุ่นพิเศษสำหรับเด็ก Fire Kids Edition สีเขียวเพิ่มมา รวมถึงออกรุ่น Kids Edition ความจุ 16GB เพิ่มมาให้เลือกด้วย

เท่าที่ดูจากหน้าเว็บ Amazon ตอนนี้ ยังลดราคาพิเศษเหลือ 39.99 ดอลลาร์ด้วยครับ

หลังจากอเมซอนยืนยันการถอดความสามารถเข้ารหัสข้อมูลออกจากระบบปฏิบัติการ Fire OS 5 ไปเมื่อไม่กี่วัน มาวันนี้ อเมซอนทนเสียงเรียกร้องผู้ใช้งานไม่ไหว สัญญาจะคืนความสามารถในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่จะถึงนี้

ช่วงนี้มีประเด็นเรื่องการเข้ารหัสข้อมูลของ iOS ที่ทาง FBI ขอให้แอปเปิลช่วยทำรอมเพื่อปลดล็อค ในอีกทางก็มีคนไปค้นพบว่า Amazon ถอดฟีเจอร์การเข้ารหัสออกจากระบบปฏิบัติการ Fire OS 5 ของตัวเองอย่างเงียบๆ (ฟีเจอร์นี้มีบน Android ที่ Fire OS นำมาพัฒนาต่อ) ส่งผลให้คนวิจารณ์กันอย่างกว้างขวางว่า Amazon ทำแบบนี้เพื่อเอาใจหน่วยงานภาครัฐหรือไม่

คำชี้แจงของ Amazon คือระบบปฏิบัติการ Fire OS ออกแบบมาสำหรับลูกค้าคอนซูเมอร์เป็นหลัก ทำให้บริษัทถอดฟีเจอร์สำหรับองค์กรหลายอย่างของ Android ที่ลูกค้าของตัวเองไม่ได้ใช้งานออกไป แต่บริษัทก็ยืนยันว่ายังรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของลูกค้า โดยเข้ารหัสข้อมูลที่ส่งจากแท็บเล็ต Fire ไปยังเซิร์ฟเวอร์ของตัวเองเสมอ

Amazon ส่งบริการหลายตัวไปบุกจีนมาพักใหญ่ ล่าสุดถึงคิวของ Fire แท็บเล็ตพลัง Android ที่ใช้ระบบปฏิบัติการปรับแต่งเองได้ฤกษ์ไปขายในจีนบ้างแล้ว

โดยแท็บเล็ตรุ่นที่ส่งไปขายครั้งนี้เป็นรุ่นถูกสุดอย่าง Amazon Fire แท็บเล็ต 50 เหรียญ ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน โดยจะวางขายในจีนด้วยราคาเพียง 499 หยวน หรือราว 2,800 บาท ซึ่งแพงกว่าที่ขายในสหรัฐฯ พอสมควร

ฝั่งซอฟต์แวร์ด้วยความที่ระบบปฏิบัติการ Fire OS ของ Amazon ไม่ได้พึ่งพิงบริการของกูเกิล การเข้าไปในจีนครั้งนี้จึงราบรื่นกว่าที่คิด และยังได้ Baidu มาเป็นพาร์ทเนอร์ในด้านบริการภายในประเทศจีนอีกด้วย ส่วนจะทำผลงานได้ดีหรือไม่คงต้องดูกันต่อไปครับ

Amazon ปล่อยอัพเดตให้แท็บเล็ตซีรีส์ Fire เล็กๆ ด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่อย่าง Blue Shade และเครื่องมือสำหรับผู้ปกครองไว้ดูแลเด็กๆ ได้สะดวกขึ้น

เริ่มกันที่ฟีเจอร์ใหม่ตัวแรก Blue Shade คือฟิลเตอร์ตัดแสงฟ้า ที่ระบุว่าช่วยตัดแสงฟ้าจากหน้าจอ และทำให้ผู้ใช้แท็บเล็ตในยามกลางคืนสามารถนอนหลับได้ง่ายขึ้น โดยฟีเจอร์นี้วางไว้ในแถบทางลัดรวม quick setting เหมือนกับสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตจีนทั่วไป

ก่อนหน้านี้เพิ่งมีข่าวลือว่า Amazon จะออกแท็บเล็ตราคา 50 ดอลลาร์ วันนี้มันเปิดตัวแล้วในชื่อสั้นๆ ว่า Fire

สเปกของ Amazon Fire รุ่นราคาถูกใช้หน้าจอ 7" IPS ความละเอียด 1024x600, ซีพียูควอดคอร์ 1.3GHz, ความจุ 8GB เสียบ microSD เพิ่มได้, กล้องหลัง 2MP, กล้องหน้า VGA, แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 7 ชั่วโมง, ระบบปฏิบัติการ Fire OS 5 รุ่นล่าสุด

จุดเด่นอีกอย่างของ Amazon Fire คือความทนทาน ซึ่ง Amazon โม้ว่าอึดกว่า iPad Air รุ่นล่าสุดเท่าตัว (ไม่บอกว่าวัดอย่างไร)

หนังสือพิมพ์ Wall Street Journal รายงานข่าวลือว่า Amazon เตรียมเปิดตัวแท็บเล็ตชุดใหม่ ที่ราคาถูกมากๆ เพียง 50 ดอลลาร์ (1,800 บาท) เท่านั้น ถูกกว่าแท็บเล็ต Fire ตัวถูกสุดในปัจจุบันที่ตั้งราคา 99 ดอลลาร์

แท็บเล็ตตัวนี้จะมีขนาดหน้าจอ 6" ซึ่งยังไม่มีข้อมูลสเปกอื่นใด นอกจากบอกว่าใช้ลำโพงแบบโมโนเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ Amazon ยังใช้วิธีเอาท์ซอร์สการพัฒนาให้บริษัทจีน Shanghai Huaqin Telecom Technology และบริษัทไต้หวัน Compal Communications แทนการใช้ทีมฮาร์ดแวร์ Lab126 ของตัวเองด้วย

นอกจากนี้แหล่งข่าวยังบอกว่า Amazon จะเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นใหม่ ขนาดหน้าจอ 8 และ 10 นิ้วมาพร้อมกันด้วย

ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาล Black Friday ของฝรั่งนะครับ ล่าสุด Amazon ก็ร่วมวงลดราคากับเขาแล้ว โดยนำสินค้าตระกูล Kindle และ Fire มาลดราคาดังนี้

ตระกูล Kindle

• Kindle ลดจาก 79 เหลือ 49 ดอลลาร์สหรัฐ
• Kindle Paperwhite ลดจาก 119 เหลือ 99 ดอลลาร์สหรัฐ
• Kindle Fire HDX 7" Tablet ลดจาก 199 เหลือ 179 ดอลลาร์สหรัฐ

ตระกูล Fire

หลังจากที่ Jeff Bezos ซื้อกิจการหนังสือพิมพ์ Washington Post เมื่อปีที่แล้ว ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรมากมาย แต่ล่าสุด Amazon ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจการหลักของ Bezos เตรียมที่จะนำเอาเนื้อหาของหนังสือพิมพ์ Washington Post ให้อ่านฟรี สำหรับเจ้าของ Fire HD รุ่นล่าสุด

อย่างไรก็ตาม บริการข่าวดังกล่าวจะขยายไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย นอกเหนือไปจากแท็บเล็ต Fire (เช่น Kindle, iPad, Android) แต่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายบริการสมาชิก สำหรับคนที่ต้องการจะเข้าใช้บริการนอกเหนือจากแท็บเล็ต Fire HD

ที่มา - Engadget

นอกจากจะเปิดตัวสองผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง Kindle Voyage และ Fire HD Kids Edition แล้ว Amazon ยังถือโอกาสปรับปรุงผลิตภัณฑ์และจัดระบบสายผลิตภัณฑ์ของ Kindle ใหม่ทั้งหมดไปในคราวเดียวด้วย

แท็บเล็ต Fire ของอเมซอนนั้นมีจุดขายสำคัญคือการจัดการการใช้งานของเด็ก ที่สามารถควบคุมเวลาและการเข้าถึงเนื้อหาได้ละเอียด ตอนนี้ทางอเมซอนก็ย้ำจุดขายนี้ด้วยการเปิดตัว Fire HD Kids Edition สำหรับเด็กโดยเฉพาะ

Fire HD Kids Edition จะมาพร้อมเคสยางเพื่อความทนทาน และประกันอุบัติเหตุนานสองปี ไม่ว่าจะเสียหายด้วยเหตุผลอะไร เพียงแต่ส่งเครื่องเดิมคืนไปทางอเมซอนจะส่งเครื่องใหม่มาให้แทน

ทางฝั่งซอฟต์แวร์ Kid Edition จะแถม Kindle FreeTime Unlimited ระยะเวลาหนึ่งปี บริการนี้มีแอพพลิเคชั่น, วิดีโอ, และหนังสือ สำหรับเด็กมากกว่า 5,000 รายการให้ดาวน์โหลดไม่จำกัด จากราคาปกติ 4.99 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือ 2.99 ดอลลาร์ต่อเดือนหากเป็นสมาชิก Prime

ไมโครซอฟท์ขยายบริการ OneNote ของตัวเองให้กว้างไกลยิ่งขึ้น โดยออกแอพ OneNote (ที่มีบนแอนดรอยด์อยู่แล้ว) ไปยังอุปกรณ์ใกล้เคียงกันคือแท็บเล็ต Kindle Fire และสมาร์ทโฟน Fire Phone ผ่าน Amazon Appstore เรียบร้อยแล้ว

ในแง่การใช้งาน OneNote รุ่นบน Kindle Fire/Fire Phone ไม่ต่างจากเวอร์ชันบน Google Play แต่ข่าวนี้ก็สะท้อนให้เห็นทิศทางของไมโครซอฟท์ที่มุ่งเน้น "Productivity" หรือการขยาย "แอพสำหรับทำงาน" ของตัวเองให้รองรับอุปกรณ์มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้นั่นเองครับ

ที่มา - OneNote Blog

เมื่อปีที่แล้ว Amazon เปิดตัวแท็บเล็ตใหม่ Kindle Fire HDX พร้อมฟีเจอร์เด่นคือปุ่ม Mayday ที่กดเรียกความช่วยเหลือจากทีมสนับสนุนของ Amazon แล้วคุยแบบเห็นหน้าผ่านวิดีโอ (พนักงานเห็นหน้าจอของเราและช่วยสอนการใช้งานหรือแก้ปัญหาได้แบบสดๆ)

ล่าสุด Amazon ออกมาโชว์สถิติของปุ่ม Mayday ดังนี้

Consumer Intelligence Research Partner (CIRP) บริษัทศึกษาด้านการตลาดที่เกี่ยวข้องกับผู้จับจ่ายใช้สอย ได้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อของ Amazon ในสหรัฐฯ ภายในรายงานมีตัวเลขน่าสนใจเกี่ยวกับตัว Amazon และ Kindle หลายอย่าง ดังนี้ครับ

อเมซอนพยายามบุกตลาดการศึกษาด้วยการทำให้ Kindle Fire เป็นแท็บเล็ตที่เหมาะกับการซื้อให้เด็กใช้งาน ก่อนหน้านี้ Kindle Fire มีความสามารถในการจำกัดสิทธิ์ของเด็กที่ใช้แท็บเล็ตได้ว่าสามารถใช้แอพพลิเคชั่นใดได้ในเวลาใด แต่ในเวอร์ชั่นใหม่ จะสามารถกำหนดให้เรียนก่อนเล่นเกมได้

ฟีเจอร์นี้ชื่อว่า Learn First สามารถกำหนดโควต้าให้เด็กที่ใช้งาน Kindle ต้องเข้าไปอ่านหนังสือหรือเรียนรู้เรื่องต่างๆ โดยระหว่างที่เรียนยังไม่ครบโควต้า ผู้ปกครองจะสามารถกำหนดได้ว่าจะป้องกันไม่ให้เข้าถึงแอพพลิเคชั่นใดได้บ้าง

นอกจาก Learn First แล้วยังมีฟีเจอร์ Bedtime ระบุเวลานอนไม่ให้เด็กๆ ใช้งานเกินเวลา และการกำหนดเวลาในวันเสาร์อาทิตย์

หลังจาก iPad Air โดนโฆษณาจากแท็บเล็ตคู่หูฝั่งไมโครซอฟท์จิกกัดไปก่อนหน้าแล้ว ก็ถึงคิวของ Amazon ลงมาเล่นในเกมนี้บ้าง โดยส่งแท็บเล็ตใหม่เอี่ยมของตัวเองอย่าง Kindle Fire HDX 8.9 มาเทียบกับ iPad Air ว่าเหนือกว่าอย่างไรบ้าง

ในโฆษณาเป็นการชนกันตรงๆ ในแง่ของสเปค โดยฝั่ง Amazon บอกว่า Kindle Fire นั้นทั้งความละเอียดหน้าจอมากกว่า (2560x1600 พิกเซล) คมชัดกว่าเพราะหน้าจอเล็กกว่า และยังเบากว่า iPad Air ถึง 20% แถมคนให้เสียงฝั่ง iPad Air ยังเลียนแบบเสียงสำเนียงอังกฤษของ Jonathan Ive ซึ่งมักปรากฏตัวในวิดีโอโฆษณาสินค้าของแอปเปิลอีกด้วย

ข่าวนี้เป็น Fire OS ของแท็บเล็ต Amazon Kindle Fire ไม่ใช่ Firefox OS นะครับ

Amazon ประกาศออก Fire OS 3.1 รุ่นอัพเดตตัวแรกหลังเปิดตัว Kindle Fire HDX พร้อม Fire OS 3.0 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ของใหม่ที่สำคัญคือการผนวกฟีเจอร์ด้านโซเชียลจาก Goodreads ที่ซื้อกิจการมาเมื่อต้นปีนี้ ทำให้ผู้ใช้ Kindle Fire สามารถแชร์เนื้อหา-ให้คะแนนหนังสือให้กับเพื่อนๆ ได้แล้ว

ฟีเจอร์ใหม่อย่างอื่นคือการฉาย Kindle Fire ขึ้นจอทีวีเพื่อดูหนังหรือทำงานต่างๆ รวมถึงฟีเจอร์ด้าน BYOD สำหรับการนำ Kindle Fire ไปใช้งานในองค์กรด้วย

DisplayMate ผู้เชี่ยวชาญด้านหน้าจอที่มีผลงานการทดสอบหน้าจออุปกรณ์พกพาชื่อดังหลายรุ่น ล่าสุดเพิ่งหยิบแท็บเล็ตหน้าจอขนาดเล็กสามรุ่นเด่นอย่าง Amazon Kindle Fire HDX 7, Retina iPad mini และ Nexus 7 (2013) มาทำการทดสอบร่วมกัน ซึ่งผลการทดสอบออกมาค่อนข้างน่าสนใจดังนี้ครับ

เริ่มต้นกันที่ภาพรวมของหน้าจอของทั้งสามรุ่นเสียก่อนฝั่ง Amazon Kindle Fire HDX 7 เป็นหน้าจอ iPS LCD ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิต a-Si ส่วน iPad mini นั้นมีหน้าจออยู่สองแบบ แบบหนึ่งเป็น IPS LCD ที่ใช้เทคโนโลยี IGZO และอีกแบบเป็น FFS LCD ที่ใช้เทคโนโลยี a-Si ปิดท้ายด้วย Nexus 7 ที่ใช้ IPS LCD แบบ LTPS (Low Temperature Poly Silicon) ในแง่ของความละเอียดนั้นกินกันไม่ลงเพราะมีค่าความหนาแน่นอยู่ที่ 320+ PPI ทั้งสิ้น

Amazon ประกาศอัพเกรดเว็บเบราว์เซอร์ Silk ที่มาพร้อมกับ Kindle Fire เสียใหม่ (หลังจากไม่เคยอัพเดตใดๆ มาตั้งแต่เดือนกันยายน 2012) การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญได้แก่

เว็บไซต์ BGR โพสต์ข้อมูลสเปกของแท็บเล็ต Kindle Fire HD สองรุ่นใหม่ (ถ้านับรวมกับ Kindle Fire รุ่นไม่ HD จะทำให้ Amazon มีแท็บเล็ตใหม่ 3 รุ่นรอเปิดตัว)

แท็บเล็ต Kindle Fire ถือเป็นแท็บเล็ตขายดีเป็นอันดับต้นๆ ของสหรัฐ​ แต่ระยะหลังข่าวคราวก็เงียบไปมากเพราะทาง Amazon เองใช้นโยบายอัพเกรดปีละครั้ง ล่าสุดใกล้ถึงรอบอัพเดตและเริ่มมีข่าวลือของ Kindle Fire ยุคที่สามออกมาแล้ว

เว็บไซต์ BGR เผยข้อมูลวงในของ Kindle Fire ชุดใหม่ว่าแบ่งย่อยเป็น 3 รุ่น ดังนี้