แม้บนเวทีจะไม่ได้มีการพูดถึง แต่ในหน้า Compare iPhone Models บนเว็บ Apple ได้บอกไว้ว่า iPhone 5 จะใช้ Nano-SIM เป็นซิมมาตรฐาน ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า Micro-SIM ที่ใช้ใน iPhone 4/4S ถึง 40%
iPhone 5 จึงเป็นมือถือรุ่นแรกที่รองรับ Nano-SIM เป็นซิมมาตรฐาน ซึ่งทางผู้ให้บริการโทรศัพท์ทั้งหลายก็ได้เตรียม Nano-SIM ไว้รองรับแล้ว
ที่มา: MacRumors
ข่าวลือที่ว่า iPhone รุ่นใหม่จะใช้ซิมการ์ดมาตรฐานใหม่ที่เพิ่งผ่านมาสดร้อนๆ อย่าง Nano-SIM ดูท่าจะใกล้เคียงความจริงเข้าไปเรื่อยๆ หลังจากก่อนหน้านี้เคยมีข่าวจากโอเปอร์เรเตอร์ฝั่งยุโรป ตามมาด้วยภาพหลุดถาดใส่ซิมใหม่ ตอนนี้มีภาพตัวจริงของ Nano-SIM ออกมาแล้ว
ภาพของ Nano-SIM ที่ว่าหลุดมาจากเครือข่าย T-Mobile (เยอรมนี) ที่ส่งให้กับคู่ค้าในประเทศ แล้วเว็บไซต์ iFun ไปได้ภาพถ่ายของซิมที่ว่ามา (ดูภาพได้ท้ายข่าว)
เว็บไซต์ NoWhereElse ของฝรั่งเศส เปิดเผยภาพถาดใส่ Nano-SIM ที่คาดว่าจะใช้บน iPhone รุ่นต่อไป โดยตัวถาดใส่ซิมตัวนี้มีขนาดเล็กกว่าถาดใส่ซิมแบบ iPhone 4S พอสมควร (จากที่ดูน่าจะประมาณ 3 มิลลิเมตรได้) และสีของถาดก็มีสีดำ ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะเป็นของเครื่องต้นแบบ iPhone รุ่นใหม่สีดำก็ได้ (หรือเป็นแค่เงาตอนถ่ายรูป)
สุดท้ายจะใช้ Nano-SIM หรือไม่ก็คงต้องติดตามตอนต่อไป แต่ส่วนตัวคาดว่าจะได้เห็นแน่ ๆ
มาตรฐานซิมการ์ดใหม่อย่าง Nano SIM (ชื่ออย่างไม่เป็นทางการ) อาจจะได้ใช้กันเร็วกว่าที่คิด หลังจากสำนักข่าว FT รายงานว่า ผู้ให้บริการมือถือในยุโรปหลายรายเริ่มสั่งผลิต Nano SIM จากผู้ผลิตสำหรับเตรียมใช้ใน iPhone รุ่นใหม่แล้ว
และจากการที่มาตรฐานใหม่ดังกล่าวเพิ่งอนุมัติไปเมื่อต้นเดือนมิถุนายน ถ้าหากว่าข่าวจาก FT เป็นจริงนั่นหมายความว่าแอปเปิลนั้นออกแบบตัวถาดใส่ซิมตั้งแต่ก่อนจะลงคะแนนมาตรฐานเลยทีเดียว
The Verge รายงานว่า ETSI จะทำการตัดสินมาตรฐานซิมการ์ดขนาดเล็กกว่า Micro-SIM แล้วภายใต้ชื่อ Nano-SIM ซึ่งในขณะนี้มีหลายค่ายที่ได้ออกมายื่นดีไซน์มาตรฐานที่ตัวเองออกแบบแก่ ETSI แต่ที่น่าสนใจที่สุดคือการต่อสู้ระหว่างแอปเปิลและโนเกีย สองค่ายที่พยายามผลักดันแบบของตัวเองให้เป็นมาตรฐานใหม่
จากรายงานล่าสุด คาดว่าภายในกลางเดือนนี้เราจะทราบว่าแบบของใครจะถูกเลือกเป็นมาตรฐานใหม่ โดยฝั่งของแอปเปิลได้พยายามออกแบบมาตรฐานใหม่ให้มี backward compatible กับมือถือที่ไม่ได้ใช้ซิมการ์ด Nano-SIM ส่วนทางฝั่งของโนเกีย จะเน้นดีไซน์ใหม่โดยสิ้นเชิง ส่งผลให้ Nano-SIM จากโนเกียมีขนาดเล็กกว่าและไม่ต้องการถาดใส่ซิมการ์ดลักษณะเดียวกับ Micro-SIM ปัจจุบันแต่อย่างใด