นอกจากข่าวดีที่มาช้าคือภาคเสริมของ Cyberpunk 2077 ออกปี 2023 ก็ยังมีข่าวร้ายคือ The Witcher 3 เวอร์ชัน next-gen update ที่มีแผนออกภายในไตรมาส 2/2022 ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด

The Witcher 3 เวอร์ชัน next-gen update อัพเกรดกราฟิกรองรับ ray-tracing ประกาศไว้ตั้งแต่ปี 2020 และเลื่อนจากปี 2021 มาเป็นปี 2022 แล้วต้องมาเลื่อนอีกรอบอย่างไม่มีกำหนด

CD Projekt ประกาศเปิดตัวเกม The Witcher ภาคใหม่ที่อยู่ในขั้นพัฒนา ซึ่งจะเป็นการเริ่มตำนานบทใหม่ของจักรวาล The Witcher โดยมีภาพเหรียญ Witcher ของ School of the Lynx จมอยู่ในหิมะเป็นภาพแรก โดย School of the Lynx นี้ เป็นสำนัก Witcher ที่ Lambert กับ Keira เป็นผู้ฟื้นฟู หลัง School of Wolf ล่มสลายลงใน The Witcher 3

CD Projekt ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 3/2021 รายได้เพิ่มขึ้น 40% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่กำไรลดลง เพราะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากการพัฒนา Cyberpunk และโครงการเกมอื่นๆ

ในการแถลงผลประกอบการ ยังมีอัพเดตสิ่งที่เกมเมอร์อยากรู้ คือ อัพเดตสำหรับคอนโซล next-gen ของ Cyberpunk 2077 ยังเป็นไปตามแผน และจะออกภายในไตรมาส 1/2022 ส่วนอัพเดต next-gen ของ The Witcher III จะตามมาในไตรมาส 2/2022

CD Projekt Red [เลื่อนกำหนดการออกอัพเดต next-gen ฟรีให้กับทั้ง Cyberpunk 2077 และThe Witcher 3 จากเดิมที่มีกำหนดภายในปีนี้ ไปเป็นปี 2022

ตามกำหนดใหม่เกม Cyberpunk 2077 เวอร์ชั่น PS5 และ Xbox Series X|S จะได้อัพเดตช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 ส่วนอัพเดตของ The Witcher 3 ที่ชาว PC ได้อัพเดตด้วย จะตามมาช่วงไตรมาสที่สองของปี โดย CD Projekt Red ระบุว่าการเลื่อนกำหนดการนี้มาจากคำแนะนำจากทีมดูแลการพัฒนาทั้งสองอัพเดต และต้องการให้เกมออกมาดีที่สุด

CD Projekt Red ประกาศออก The Witcher 3: Wild Hunt เวอร์ชัน next-gen ลงเครื่อง PS5, Xbox Series X|S และพีซี กำหนดคร่าวๆ คือภายในปีนี้

ประเด็นที่น่าสนใจนอกจากการอัพเดตกราฟิกแล้ว เกมยังจะเพิ่ม "some DLCs" ที่อิงจากซีรีส์ The Witcher ของ Netflix ด้วย แต่ยังไม่มีรายละเอียดว่ามีอะไรบ้าง

เกม The Witcher 3 ออกขายครั้งแรกในปี 2015 และประสบความสำเร็จอย่างสูง มียอดขายรวมเกิน 30 ล้านชุด และมีภาคเสริมออกมาแล้ว 2 ตัวคือ Hearts of Stone กับ Blood and Wine ในปี 2015/2016 และเนื้อหาเพิ่มเติม (DLC) อีกจำนวนหนึ่ง

CD Projekt Red ผู้สร้างเกม The Witcher ทั้งสามภาค จับมือกับ Netflix เตรียมฉาย WitcherCon เทศกาลของคนรัก The Witcher เปิดเผยเบื้องหลังทั้งซีรีส์ และเกมในตระกูล The Witcher พร้อมเล่าเรื่องราวในเกม ทั้งตำนาน สัตว์ประหลาด และต้นกำเนิดของสิ่งต่างๆ แห่งมหาทวีป (“The Continent”)

WitcherCon เตรียมสตรีมทั้งบน Netflix และบน Youtube ของ CD Projekt Red น่าเสียดายที่ทีมงานเขียนไว้ชัดเจนว่าจะไม่มีเปิดตัวเกม The Witcher ใหม่ในงานนี้ แต่คาดว่าอาจมีข้อมูลใหม่เกี่ยวกับซีรีส์ The Witcher ซีซั่นสองแทน

Konrad Tomaszkiewicz ผู้กำกับเกม The Witcher 3 ลาออกแล้ว หลังถูกกล่าวหาและสอบสวนกรณีรังแกเพื่อนร่วมงาน (ไม่มีข้อมูลระบุว่ามีพฤติกรรมอะไรบ้าง) แม้เขาจะระบุว่าคณะกรรมการการสอบสวนพบว่าเขาไม่มีความผิดก็ตาม แต่เขาก็รู้สึกว่าได้ทำให้หลายคนที่ร่วมงานกับเขาเกิดความรู้สึก “กลัว อึดอัด และไม่สบายใจ” ขอโทษที่ทำให้เกิดความรู้สึกแย่ๆ และจะปรับปรุงตัวเองต่อไป แม้จะเป็นสิ่งที่ยากลำบากและใช้เวลานานแค่ไหน แต่เขาก็จะไม่ยอมแพ้ที่จะเปลี่ยนแปลง

นอกจากตัวเลขของ Cyberpunk 2077 CD Projekt ยังเผยสถิติของเกมซีรีส์ The Witcher ว่ามียอดขายรวม 50 ล้านชุดแล้ว โดยยอดขายส่วนใหญ่ 30 ล้านชุด มาจากเกม The Witcher 3

CD Projekt ยังโชว์กราฟยอดขายของ The Witcher แต่ละภาคในแต่ละปีด้วย จากกราฟจะเห็นว่า The Witcher 3 มียอดขายแซงหน้าภาค 1+2 ไปไกลมาก และกลับมาขายดีอีกรอบในปี 2019-2020 ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากซีรีส์ของ Netflix ช่วยกระตุ้นยอดขาย

เพียง 2 วันหลัง CD Projekt RED ออกมาเปิดเผยว่าถูกเจาะเข้าระบบหลังบ้านและมีข้อมูลถูกดึงออกไป ล่าสุดชื่อทวิตเตอร์ด้านความปลอดภัยที่ชื่อว่า vxunderground พบซอสโค้ดของเกม Gwent, Cyberpunk 2077, Thronebreaker, The Witcher 3 และ The Witcher 3 RTX (ที่ยังไม่วางขายสำหรับคอนโซลยุคใหม่) บนโลกออนไลน์

อย่างไรก็ตามมีแค่ Gwent เท่านั้นที่ซอสโค้ดถูกปล่อยบนโลกออนไลน์ แต่ Cyberpunk 2077 และ The Witcher 3 ถูกปล่อยออกมาเพียงส่วนเดียวเป็นตัวอย่างเท่านั้น โดยชุดข้อมูลทั้งหมดถูกเปิดประมูลด้วยราคาเริ่ม 1 ล้านเหรียญ และแฮกเกอร์จะขายทันทีถ้าจ่าย 7 ล้านเหรียญ

GOG (Good Old Games) ร้านขายเกมออนไลน์ในเครือ CD Projekt ที่ชื่อเสียงจากการขายเกมเก่า ไร้ระบบตรวจสอบลิขสิทธิ์ (DRM-free) ประกาศแจกเกมฟรีอีกครั้ง โดยคราวนี้เป็นเกมสร้างชื่อของค่ายอย่าง The Witcher: Enhanced Edition ภาคแรกของซีรีส์เกม The Witcher

โดยมีเงื่อนไขคือผู้เล่นต้องเข้าไปกดปุ่มเคลมสิทธิจากแบนเนอร์ในหน้า Recent ของแอพ GOG Galaxy 2.0 ซึ่งขั้นตอนนี้จะเป็นการสมัครรับจดหมายข่าวของ GOG ไปด้วยในตัว หลังจากนั้น The Witcher: EE ก็จะปรากฎในไลบรารีให้สามารถเล่นได้ฟรีๆ

CD Projekt ประกาศออก The Witcher 3: Wild Hunt รุ่นอัพเดตสำหรับคอนโซลยุคต่อไป คือ Xbox Series X และ PlayStation 5 มีฟีเจอร์สำคัญคือการรองรับ ray tracing และยังลดเวลาโหลด สำหรับผู้ที่ซื้อเกมบนแพลตฟอร์มเดิมไปแล้วทาง CD Projekt จะได้อัพเดตฟรี

ยังไม่มีรายละเอียดว่าอัพเดตเวอร์ชั่นใหม่จะได้อะไรบ้าง เพราะเกมที่ออกบนคอนโซลยุคต่อไปเป็น Complete Edition และผู้ที่เล่นบนคอนโซลเวอรชั่นเดิมก็ไม่น่าจะรองรับ ray tracing ไหว แต่บริษัทก็เคยแจกเวอร์ชั่นพีซีให้ผู้เล่นคอนโซลมาแล้ว

CD Projekt ยังคงต่อยอดกับความสำเร็จของเกมตระกูล The Witcher อย่างต่อเนื่อง (ยกเว้นทำเกมภาคต่อ) กับเกมล่าสุดอย่าง The Witcher: Monster Slayer ที่คราวนี้มาในรูปแบบเกม AR บนสมาร์ทโฟนคล้าย Pokemon Go

ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Witcher ไล่กำจัดมอนสเตอร์บน The Continent ตัวเกมมีองค์ประกอบแบบเกม RPG ไม่ว่าจะการเก็บวัตถุดิบเพื่อต้มโพชัน, ทำน้ำมัน, ทำระเบิดและเสริมทักษะตัวละคร โดยเรื่องราวของเกมนี้เกิดขึ้นก่อนช่วงเวลาของ Geralt หลายปี ซึ่งนอกจากการเดินกำจัดมอนสเตอร์ตามแผนที่แล้ว ยังมีเควสต์เนื้อเรื่องให้เล่นด้วย

ด้วยความสำเร็จของซีซัน 1 ทำให้ Lauren S. Hissrich ผู้เขียนบทและผู้กำกับซีรีส์ The Witcher ซีซัน 1 และ 2 ประกาศสร้างซีรีส์ The Witcher ชุดใหม่ชื่อ The Witcher: Blood Origin เรื่องราวประมาณ 1,200 ปีก่อนยุค Geralt of Rivia ความยาวทั้งหมด 6 ตอน โดย Hissrich ยืนยันด้วยว่า Andrzej Sapkowski ผู้เขียนนิยายจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับซีรีส์ชุดนี้ด้วย

แม้จะยังไม่มีรายละเอียดใด ๆ แต่จากไทม์ไลน์ทำให้คาดว่าเรื่องราวช่วงนั้น น่าจะเป็นช่วงแรก ๆ ที่เผ่าพันธุ์ต่าง ๆ (รวมถึงมนุษย์) มอนสเตอร์และเวทย์มนตร์เพิ่งเข้ามาในโลก the Continent หลังเกิด The Conjunction of Sphere ราว 1,500 ปีก่อนเนื้อหาในนิยาย ซึ่งเราอาจจะได้การกำเนิดของ the Witcher ด้วย

The Witcher 3 ของ CD Projekt Red ที่ออกในปี 2015 ประสบความสำเร็จจนถึงขนาดถูกยกให้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของวงการเกม จนมีหลายเกมพยายามทำตาม เลียนแบบหรือก้าวข้ามให้ได้

ขณะที่เกมล่าสุดที่กำลังจะวางจำหน่ายในปีนี้อย่าง Cyberpunk 2077 ก็ถูกแฟนเกมคาดหวังเอาไว้สูงจากความสำเร็จของเกมก่อนหน้า ซึ่งประเด็นนี้ได้กลายเป็นแรงผลักดันและเป้าหมายที่ทีมงานอยากจะเอาชนะ

GOG (Good Old Games) ร้านขายเกมออนไลน์ที่ชื่อเสียงจากการขายเกมเก่า ไร้ระบบตรวจสอบลิขสิทธิ์ (DRM-free) ประกาศให้ผู้ที่มีเกม The Witcher 3 ไว้ในครอบครองบนแพลตฟอร์มใดๆ ไม่ว่าจะเป็นเกมเวอร์ชันพีซีบนร้านขายเกมออนไลน์เจ้าอื่น หรือเกมเวอร์ชันบนเครื่องคอนโซลอย่าง Xbox และ PlayStation สามารถกดรับเกมเวอร์ชัน GOG ซึ่งมาพร้อมโบนัสซาวน์แทร็คและดิจิทัลอาร์ตบุ๊คได้ฟรี

โดยมีเงื่อนไขคือต้องใช้งานแอพ GOG Galaxy 2.0 ที่ได้เชื่อมต่อกับ account ของแพลตฟอร์มที่มี The Witcher 3 อยู่ในไลบรารี เพียงแค่นั้นก็จะสามารถกดเคลมสิทธิจากบนแอพเพื่อรับเกมเข้า account GOG ได้ทันที

CD Projekt Red ประกาศว่าเกมชุด The Witcher ทั้ง 3 ภาคสามารถทำยอดขายรวมกันทั้งหมดได้แล้วกว่า 50 ล้านก๊อปปี้ และหากนับเฉพาะ The Witcher 3 มียอดขายอยู่ที่ราว 28.3 ล้านก๊อปปี้

ก่อน The Witcher 3 ออกวางจำหน่าย นักวิเคราะห์คาดว่ายอดขายรวมของเกมชุดนี้อยู่ที่ราว 5 ล้านก๊อปปี้เท่านั้น ขณะเดียวกัน The Witcher 3 ก็เพิ่งกลับมาฮิตอีกครั้งหลังซีรีส์ออกฉาย

และก็ด้วยความสำเร็จของ The Witcher 3 นี้เองที่ส่งให้ CD Projekt Red กลายเป็นสตูดิโอที่มีมูลค่าอันดับ 1 ในยุโรปแซงเจ้าใหญ่อย่าง Ubisoft ของฝรั่งเศส

CD Projekt ต้นสังกัดของเกมดังทั้งซีรีส์ The Witcher และ Cyberpunk 2077 จากประเทศโปแลนด์ กลายเป็นบริษัทเกมที่มีมูลค่ามากเป็นอันดับสองของยุโรปแล้ว (อันดับหนึ่งคือยักษ์ใหญ่ Ubisoft จากฝรั่งเศส)

เหตุผลคือราคาหุ้นของ CD Projekt เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในรอบเดือนนี้ (ปัจจัยสำคัญน่าจะมาจากซีรีส์ The Witcher ของ Netflix ได้รับความนิยม ทำให้ยอดขายเกมเพิ่มขึ้นอีก) มูลค่าของบริษัทจึงเพิ่มจาก 6.8 พันล้านดอลลาร์มาเป็น 8 พันล้านดอลลาร์แล้ว (มูลค่าของ Ubisoft อยู่ราว 9.6 พันล้านดอลลาร์)

CD Projekt เริ่มธุรกิจจากการเป็นผู้จัดจำหน่ายเกมในโปแลนด์ ภายหลังแตกธุรกิจมาทำเกมเอง (CD Projekt Red) และเปิดร้านจัดจำหน่ายเกมดิจิทัลด้วย (GOG)

ก่อนหน้านี้ Netflix ออกมาประกาศว่า ซีรีส์เรื่อง The Witcher ประสบความสำเร็จสูงสุดใน Netflix ล่าสุดมีการยืนยันเพิ่มเติมจาก Netflix ว่ากำลังอยู่ระหว่างสร้างหนังแอนิเมชั่นภาคแยกคือ The Witcher: Nightmare of the Wolf

อาจเป็นข่าวดีที่ทำให้กีค the Witcher และ Star Wars ได้กรี๊ด หลังจากก่อนหน้านี้มีกระแสแฟน ๆ เรียกร้องว่า Mark Hamill เหมาะกับบท Vesemir ซึ่งเป็นอาจารย์ของ Geralt ขณะที่ตัว Hamill เองก็เคยทวีตว่ายินดีรับบทแม้จะไม่รู้จักซีรีส์นี้เลยก็ตาม

ล่าสุด Lauren S. Hissrich ผู้เขียนบทและผู้กำกับซีรีส์ The Witcher บน Netflix ออกมายอมรับว่าเป็นแฟน Star Wars และเจ้าตัวก็ตื่นเต้นมากหลังเห็นทวีตดังกล่าวของ Mark Hamill โดย Hissrich ยอมรับด้วยว่าเธอก็สนใจในตัวนักแสดงผู้รับบท Luke Skywalker คนนี้อยู่เหมือนกัน

เกม The Witcher 3: Wild Hunt ของ CD Projekt Red ที่ออกขายในปี 2015 กลับมาได้รับความนิยมสูงอีกครั้ง หลังจากซีรีส์ The Witcher ฉายทาง Netflix ทำให้กระแสความสนใจเกมหวนคืนมา

สถิติจาก Steam ระบุว่า The Witcher 3 มีคนเล่นพร้อมกันสูงสุดถึง 9.4 หมื่นคน เยอะกว่าช่วงที่เกมออกใหม่ๆ ซึ่งมีผู้เล่น 9.2 หมื่นคนซะอีก

ตอนนี้ The Witcher 3 ขายลดราคา 70% บน Steam อยู่พอดี (เหลือ 311 บาท) ถ้าเป็นแบบรวมทั้ง 3 ภาคขายเพียง 360 บาท ใครดูซีรีส์แล้วเกิดฮึกเหิมหรือสงสัย อยากเข้าสู่โลกของ The Witcher ก็เป็นโอกาสดีที่จะซื้อหามาครอบครองกัน

CD Projekt ค่ายเกมยักษ์ใหญ่จากโปแลนด์ เจ้าของผลงานซีรีส์ The Witcher และ Cyberpunk 2077 ประกาศเซ็นสัญญากับ Andrzej Sapkowski นักเขียนนิยายซีรีส์ The Witcher เพื่อใช้สิทธิทำเกม The Witcher ในอนาคต

Andrzej Sapkowski เป็นนักเขียนชาวโปแลนด์เช่นกัน เขามีผลงานเป็นนิยายและเรื่องสั้นในจักรวาล The Witcher ออกมาหลายชิ้น โดยนิยายภาคหลักที่ยึดตามตัวเอก Geralt มีทั้งหมด 5 เล่ม (เนื้อเรื่องในเกมไม่ได้อิงจากนิยายโดยตรง ส่วนซีรีส์บน Netflix ก็พัฒนาจากเวอร์ชันนิยายต้นฉบับ ไม่ได้มาจากเวอร์ชันเกม)

ทั้งที่ซีซันแรกเพิ่งถ่ายทำเสร็จไม่นานโดยมีกำหนดฉาย 20 ธันวาคมนี้ แต่ Netflix ก็ประกาศสร้างซีซันสองต่อแล้ว โดยจะเริ่มถ่ายทำต้นปีหน้าที่กรุงลอนดอน กำหนดฉายปี 2021

การประกาศสร้างซีซันสองสื่อว่า Netflix ค่อนข้างมั่นใจในซีรีส์ชุดนี้ว่าน่าจะประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง โดยก่อนหน้านี้ Lauren S. Hissrich ผู้เขียนบทและผู้กำกับเคยบอกว่าตัวเองวางแผนเอาไว้ถึง 7 ซีซัน ซึ่งก็ต้องมาลุ้นว่าจะประสบความสำเร็จและได้สร้างตามที่เจ้าตัวตั้งใจเอาไว้หรือไม่

ที่มา - Netflix US

เทรลเลอร์แรกของ ซีรีส์ The Witcher เวอร์ชั่น Netflix ผ่านไปแล้ว ตอนนี้ทาง Netflix ประกาศวันฉาย The Witcher ในวันที่ 20 ธันวาคม 2019 นี้ พร้อมปล่อยตัวอย่างใหม่มาให้เราได้ดูอีกด้วย โดย The Witcher เวอร์ชั่น Netflix จะอิงเนื้อเรื่องจากหนังสือเป็นหลัก

The Witcher เป็นเกมแนวแฟนตาซี Action RPG ที่ดัดแปลงจากนิยายในชื่อเดียวกันโดยทีมงาน CD Projekt Red ได้รับคำชมและรายได้อย่างล้นหลาม ฉบับนวนิยายเขียนโดย Andrzej Sapkowski นักเขียนชาวโปแลนด์ นิยายมีทั้งหมด 8 เล่ม

CD Projekt Red สตูดิโอเกมชื่อดังจากโปแลนด์ เจ้าของผลงานซีรีส์ The Witcher และล่าสุดคือ Cyberpunk 2077 เผยแผนการในอนาคตว่าจะสร้างเกมในสองซีรีส์นี้ไปเรื่อยๆ ในฐานะแฟรนไชส์หลักของบริษัท (dual-franchise model)

ข้อมูลนี้อยู่ในเอกสารผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2019 ซึ่ง CD Projekt Red ระบุว่ารายได้หลักของบริษัทในตอนนี้ มาจากซีรีส์ The Witcher เป็นหลัก ตั้งแต่เกม The Witcher ภาคหลักทั้ง 3 ภาคที่ยังขายได้เรื่อยๆ, เกมการ์ด Gwent และเกม RPG ภาคแยก Thronebreaker: The Witcher Tales

ซีรีส์ The Witcher ของ Netflix ที่จะฉายช่วงปลายปี 2019 เผยเทรลเลอร์แรกแล้ว ถือเป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นดารานำ Henry Cavill ในบทของ Geralt of Rivia แบบภาพเคลื่อนไหว นอกเหนือจากภาพนิ่งที่เปิดตัวออกมาก่อนหน้านี้

The Witcher เป็นนิยายแฟนตาซีที่เขียนโดย Andrzej Sapkowski นักเขียนชาวโปแลนด์ หนังสือเล่มแรกออกขายในปี 1992 (ปัจจุบันมีหนังสือทั้งหมด 8 เล่มในชุด จากนั้นถูกนำไปดัดแปลงเป็นเกมชื่อเดียวกันคือ The Witcher โดยสตูดิโอ CD Projekt Red จากโปแลนด์เหมือนกัน เกมภาคแรกออกในปี 2007 และมีทั้งหมด 3 ภาคหลัก ซึ่งเกมก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งในแง่รายได้และเสียงวิจารณ์