เป้าหมายสำคัญของ RIM ได้ลุล่วงไปอีกหนึ่งประการ เมื่อสามารถผลักดันระบบจ่ายเงินด้วยสมาร์ทโฟนแบบใหม่ของ RIM จนได้รับการเห็นชอบจากผู้ให้บริการบัตรเครดิตรายใหญ่อย่าง Visa
RIM ได้พัฒนาระบบการจ่ายเงินด้วยสมาร์ทโฟนด้วย NFC และให้ชื่อว่า SEM: Secure Element Manager เพื่อแข่งขันกับฟีเจอร์การจ่ายเงินด้วย NFC ของสมาร์ทโฟนหลากหลายรุ่นจาก Android โดยในระยะแรกเริ่มก็ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการเครือข่ายหลายรายในประเทศบ้านเกิดอย่างแคนาดา
ช่วงนี้เราเห็นข่าวการจ่ายเงินผ่าน NFC ออกมาเรื่อยๆ เป็นระยะๆ ล่าสุด Visa ซึ่งมีบริการจ่ายเงินที่เรียกว่า payWave NFC อยู่แล้ว ก็ประกาศรับรองมือถือที่ผ่านมาตรฐานของตัวเอง และสามารถจ่ายเงินผ่านระบบ payWave NFC ได้
เบื้องต้นมีมือถือ 6 รุ่นที่ผ่านมาตรฐานของ Visa
ถึงแม้จำนวนรุ่นในตอนนี้จะยังน้อยอยู่ แต่ก็เป็นสัญญาณอันดีว่า Visa ทำโครงการออกใบรับรองสำเร็จแล้ว เราคงเห็นมือถือรุ่นอื่นๆ เข้าร่วมโครงการอีกในอนาคตอันใกล้
ที่มา - ReadWriteWeb
เครือข่ายบริการบัตรเครดิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก Visa ได้ออกมาประกาศความร่วมมือกับ Google Wallet แล้ว โดยลูกค้าที่ใช้บริการบัตรเครดิตที่มีสัญลักษณ์ Visa ติดอยู่จะสามารถผูกบัตรเครดิต หรือเดบิตของตัวเองเข้ากับบริการจ่ายเงินผ่านมือถือ Google Wallet ได้โดยตรง
ตอนที่มีข่าว กูเกิลกำลังจับมือ MasterCard และ Citigroup ดันการจ่ายเงินด้วยมือถือ มีคนถามว่า "Visa หายไปไหน" ตอนนี้ข่าวมาแล้วครับ
ซัมซุงและ Visa ซึ่งเป็นสปอนเซอร์โอลิมปิก 2012 ที่กรุงลอนดอนทั้งคู่ ได้จับมือกันพัฒนาระบบการจ่ายเงินด้วยโทรศัพท์มือถือ NFC เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลที่จะไปเยือนลอนดอนในช่วงนั้น ตามข่าวบอกว่าเราสามารถใช้มือถือจ่ายเงินร้านค้าได้กว่า 60,000 จุดทั่วลอนดอนเลยทีเดียว
ตามข่าวยังบอกอีกว่าซัมซุงจะออกมือถือรุ่นโอลิมปิกมาโดยเฉพาะ (แน่นอนว่าฝัง NFC) ส่วน Visa จะออกซิมการ์ดที่มี NFC มาด้วยเช่นกัน
ในปัจจุบันการรับ-ส่งเงินระหว่างบุคคลนั้น PayPal ถือเป็นยักษ์ใหญ่ที่ครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นมูลค่ามหาศาล Visa ซึ่งเป็นบริษัทบัตรเครดิตชั้นนำจึงเตรียมเปิดให้บริการในลักษณะเดียวกันบ้าง
บริการของ Visa จะอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมระหว่างบุคคล แค่เพียงบุคคลนั้นๆ เป็นลูกค้าของ Visa (เช่น บริการบัตรเครดิต) ก็จะสามารถใช้บริการรับ-ส่งเงินระหว่างบุคคลนี้ได้โดยทันที เพียงผู้ใช้บริการรู้ชื่อ หมายเลขบัญชีหรือหมายเลขบัตรเครดิต และข้อมูลอื่นๆ เช่น อีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์ เพียงเท่านี้ก็จะสามารถส่งเงินให้บุคคลอื่นที่ต้องการได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว