สงครามแอพแชทบนมือถือในแถบเอเชียยังคงร้อนระอุ ล่าสุดเป็น LINE ผู้ครองตลาดญี่ปุ่นเป็นหลัก ประกาศเปิดตัวแอพเวอร์ชันจีนในชื่อ 连我 (อ่านว่าเหลียนหว่อแปลว่า line me) พร้อมๆ กับเปิดเว็บเวอร์ชันจีนอย่าง www.lianwo8.com

การบุกจีนในครั้งนี้ของ LINE น่าจะมีเป้าหมายหลักคือการชิงส่วนแบ่งกับเจ้าถิ่นในจีนอย่าง Weixin (หรือ WeChat) ของ Tencent ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้งานในจีนมากถึง 200 ล้านราย

ตัวแอพที่มีเวอร์ชันจีนแล้วปล่อยพร้อมกันทั้ง iOS, Android และ Windows โดยยังขาดฟีเจอร์เกมที่กำลังฮิตในปัจจุบันไป

ดูแล้วแผนของ LINE คงเป็นการขยายบริการไปพร้อมๆ กับขยายประเทศที่โฟกัสไปเรื่อยๆ อนาคตคงจะได้เห็นการบุกเกาหลีใต้เพื่อชนกับ KakaoTalk เป็นแน่

ข่าว Facebook สนใจซื้อกิจการ WhatsApp ซึ่งแม้ล่าสุดจะปฏิเสธแล้วว่าไม่เป็นความจริง แต่เรื่องนี้ก็ทำให้สำนักข่าวหลายแห่งเริ่มสนใจว่าตลาดแอพสนทนานั้นอยู่กันอย่างไร ใครเป็นผู้นำตลาดกันแน่ เอาเข้าจริงถ้า Facebook ต้องการซื้อแอพสนทนาสักตัวแบบตอนซื้อ Instagram ผู้โชคดีคนนั้นควรเป็น WhatsApp จริงหรือ?

Jon Russell แห่ง The Next Web บอกว่าปัญหาใหญ่ของ WhatsApp คือไม่สามารถเติบโตได้ดีนักในตลาดเอเชีย ซึ่งรสนิยมการใช้งานแอพสนทนาของคนในภูมิภาคนี้แตกต่างจากผู้ใช้งานฝั่งตะวันตกมาก กล่าวคือการส่งข้อความแบบเรียบง่าย นั้นถูกใจเพียงลูกค้าฝั่งตะวันตกเท่านั้น

WeChat แอพแชทครบวงจรจาก Tencent ยักษ์ใหญ่จากประเทศจีนที่เข้าบุกตลาดเมืองไทยมาซักพัก และเพิ่งประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับประเทศไทยในวันนี้ หลังจากเพิ่งทำสถิติเป็นแอพแชทที่มียอดผู้ใช้ครบ 200 ล้านไปเมื่อช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา

หลายคนอาจรู้จัก WeChat กันมาบ้างแล้วจากข่าวเก่า หรือจากโฆษณาทีวี ฟีเจอร์หลักของ WeChat นั้นอาจไม่ต่างกับคู่แข่ง แต่จากปากคำของ Poshu Yeung รองประธานฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศของ Tencent ได้บอกในงานเปิดตัวว่าจุดเด่นของ WeChat คือฟีเจอร์ที่ครบเครื่อง การติดต่อที่ทำได้ทั้งข้อความ เสียง วิดีโอ การรองรับที่ครอบคลุมแทบทุกระบบปฏิบัติการมือถือ และเว็บไซต์ รวมถึงฟีเจอร์เสริมที่เพิ่มเข้ามา ดังนี้

ถึงแม้ประเทศไทยจะถูกยึดครองโดย LINE และ WhatsApp แต่หลายคนแถวนี้น่าจะรู้จัก WeChat แอพตระกูลแชทสัญชาติจีน (อ่านโฆษณา Blognone: แนะนำ WeChat โปรแกรมแชตรองรับหลากหลายแพลตฟอร์ม ไม่ได้ค่าโฆษณารอบสองนะครับ)

WeChat หรือในจีนเรียก Weixin ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศจีน ปัจจุบันมีผู้ใช้รวมกันราว 200 ล้านราย (ข้อมูลเดือนกันยายน 2012) เพิ่มขึ้น 100 ล้านรายในเวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น