มองข่าวนี้ให้เป็นเรื่องวงการแพทย์ก็จะมีประโยชน์มากทีเดียว เมื่อแบรนด์ Medical Electronic Systems เปิดตัว YO อุปกรณ์วิเคราะห์คุณภาพตัวอสุจิที่ใช้งานได้ผ่านสมาร์ทโฟน นับจำนวน และตรวจสอบคุณภาพได้ด้วย ในเวลาไม่กี่นาที
สิ่งนี้มากับตัวเครื่องที่สวมเข้ากับสมาร์ทโฟน iPhone และซัมซุงตระกูล Galaxy ได้ ใช้งานกับถ้วย แผ่นใส และผงสารเคมีทำละลาย ซึ่งในราคา 49.95 เหรียญสหรัฐฯ จะมากับชุดทดสอบได้สองครั้ง วิธีใช้ก็คือหยดอสุจิใส่ถาดและสอดเข้าเครื่องนั่นเอง
ในงาน SXSW Interactive ผู้ก่อตั้ง Yo แอพแจ้งเตือนที่เคยทำได้แค่การส่งข้อความสั้นสองตัวอักษร (อ่านข่าวเก่า) แต่ตอนนี้เพิ่มฟีเจอร์เข้ามามากมายเช่นการแนบลิงก์ ส่งที่อยู่อย่างไวในอัพเดตหลังๆ ประกาศว่ากำลังพัฒนาแอพสำหรับ Apple Watch แล้ว
สำหรับฟีเจอร์ของ Yo บนสมาร์ทวอทช์นั้นไม่ต่างอะไรกับแอพบนสมาร์ทโฟนมาก ยกเว้นอินเทอร์เฟซที่ถูกปรับให้เข้ากับหน้าจอขนาดเล็กมากขึ้น และทำหน้าที่หลักสำหรับรับการแจ้งเตือนจากเพื่อนๆ ในบัญชีเสียมากกว่า โดยจะแสดงข้อความแจ้งเตือน (พาดหัวที่มากกว่าแค่ Yo) พร้อมกับภาพประกอบซึ่งสามารถแตะจาก Apple Watch เพื่อไปเปิดแอพใน iPhone ได้ ส่วนการส่งจะทำได้เพียง Yo แบบมาตรฐาน (แนบลิงก์ไม่ได้)
Yo! แอพส่งข้อความจากอิสราเอลออกอัพเดตรองรับความสามารถ App Extension ของ iOS 8 เป็นที่เรียบร้อย
App Extension ของ Yo! มีความสามารถในการแชร์ลิงก์หรือรูปภาพจากแอพอื่นได้ เพียงกดปุ่ม share และกด Yo! แล้วเลือกผู้ที่ต้องการส่งลิงก์หรือรูปภาพให้
ที่มา - การแจ้งอัพเดตใน App Store
อีกไม่กี่วัน Motorola จะทำการเปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะ Moto 360 อย่างเป็นทางการแล้ว ตอนนี้ก็มีการเรียกกระแสความสนใจ โดยจัดกิจกรรมร่วมกับผู้พัฒนาแอพ Yo หาผู้โชคดีรับ Moto 360 ไปใช้กันฟรี 20 เครื่อง
กติกาก็ง่ายดาย เพียงแค่ผู้ใช้ติดตั้งแอพ Yo ไว้ในอุปกรณ์ Android ของตนเอง และเพิ่มชื่อของ "MOTOROLA" เข้าในบัญชีผู้ติดต่อ แล้วส่งคำทักทายไปหา MOTOROLA (แน่นอนว่าแอพนี้ทักทายได้คำเดียวว่า "Yo") เพียงเท่านี้ผู้ใช้ก็มีสิทธิ์ลุ้นรับ Moto 360 มาใช้งาน โดยระยะเวลาจัดกิจกรรมมีถึงแค่วันนี้เท่านั้น
น่าเสียดายที่กิจกรรมนี้จำกัดสิทธิ์เฉพาะผู้ใช้งานที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาเพียงอย่างเดียว
Yo แอพส่งข้อความสุดแนวจากอิสราเอล เคยรับเงินลงทุนมาก่อนแล้ว 1 ล้านดอลลาร์ ล่าสุดเพิ่งประกาศข่าวระดมทุนรอบใหม่อีก 1.5 ล้านดอลลาร์ ทำให้มูลค่ากิจการของ Yo ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 5-10 ล้านดอลลาร์แล้ว
รอบนี้ Yo มีนักลงทุนเพิ่มอีก 8 ราย ประกอบด้วยหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Tencent, Pete Cashmore ผู้ก่อตั้งเว็บ Mashable และ Betaworks บริษัทลงทุนเจ้าของใหม่ของ Digg
ปัจจุบัน Yo มีทีมงานทั้งหมด 3 คน มียอดดาวน์โหลดเกิน 2 ล้านครั้ง และผู้ใช้ "โย่" หากันวันละกว่า 2 ล้านครั้ง
แอพแชตมาแรง Yo ยังคงสร้างกระแสข่าวได้ต่อเนื่อง ล่าสุด Or Arbel ผู้พัฒนาแอพนี้ได้เปิดเผยรายละเอียดของการโดนแฮ็คไว้ใน Medium โดยเขาบอกว่าการถูกแฮ็คนี้นั้นเป็นการเข้าถึงข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ผู้ใช้งาน ซึ่งทำขึ้นเพื่อ "ค้นหาเพื่อน" เท่านั้น แต่ถือเป็นการรั่วของข้อมูลส่วนตัว
Arbel บอกว่า Yo โชคดีมากที่ถูกแฮ็คตั้งแต่แอพเพิ่งเริ่มต้น และปัญหานี้ก็ทำให้เห็นช่องโหว่ในภาพใหญ่ของแอพด้วย ซึ่งได้รับการแก้ไขสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้หนึ่งในทีมงานแฮ็คเกอร์ยังถูกจ้างให้มาร่วมงานกับ Yo ด้วย เพื่อพัฒนาตัวแอพให้ดีมากยิ่งขึ้น
เว็บไซต์ Business Insider รวบรวมประวัติการสร้างแอพแชต Yo ว่ามีที่มาจากบริษัท Mobli โซเชียลเน็ตเวิร์คสำหรับแชร์รูปภาพจากอิสราเอล
แต่ Yo ไม่เกี่ยวอะไรกับธุรกิจของ Mobli เลย เพราะเกิดจากซีอีโอ Moshe Hogeg อยากได้แอพที่ใช้ส่งข้อความหาภรรยาและผู้ช่วยของเขาบนสมาร์ทโฟน โดยมีเงื่อนไขว่าต้องใช้ง่ายที่สุด ง่ายกว่าการส่งอีเมลหรือ SMS เสียอีก (ก่อนหน้านี้เขาใช้วิธีส่งข้อความ ! หรือ ? กลับไปกลับมาหาเพื่อนๆ) เขาจึงสั่งให้ Or Arbel วิศวกรของบริษัทไปทำแอพมาให้หน่อย
Yo แอพแชตดาวรุ่งที่กำลังมาแรง โดน "ลองของ" เรียบร้อยโดยนักศึกษาจากมหาวิทยาลัย Georgia Tech แถมผู้แฮ็กยังระบุว่าสามารถดูหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ใช้ Yo ที่กรอกข้อมูลไว้กับระบบได้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้อีกคนที่โพสต์วิดีโอการใช้ Yo ด้วยเสียงข้อความแบบอื่น ซึ่งก็แปลว่า Yo โดนแฮ็กจากอีกทางนั่นเอง
Or Arbel ผู้ก่อตั้ง Yo ยอมรับว่าถูกแฮ็กจริง และทีมงานกำลังเร่งแก้ไขอย่างเต็มกำลัง
ที่มา - TechCrunch
เมื่อไม่กี่วันมานี้มีแอพแชตตัวใหม่ชื่อ Yo กำลังมาแรงในสหรัฐอเมริกา มันต่างจากแอพแชตตัวอื่นที่มีฟีเจอร์มากมาย เพราะแอพตัวนี้พิมพ์คุยเองไม่ได้ แต่มีปุ่มสำหรับทักทายเพื่อนเพียงปุ่มเดียวที่ทักแล้วจะร้อง "โย่!"
แนวคิดของ Yo คือการตีความคำว่า Yo ที่เป็นไปได้ทุกสิ่ง จะทักทายตอนเช้า บอกว่าคิดถึงกัน หรือชวนไปกินข้าว การ Yo ครอบคลุมทุกสรรพสิ่งและสามารถใช้แทนกันได้หมด
คำอธิบาย Yo ได้ดีที่สุดคงเป็นคอมเมนต์ของผู้ใช้ชื่อ Nicholas Butler ใน App Store ครับ