สตูดิโอ ZA/UM ผู้สร้างเกม Disco Elysium เมื่อปี 2019 แล้วประสบความสำเร็จอย่างสูง คว้ารางวัลเกมยอดเยี่ยมจากหลายสถาบัน เปิดตัวเกมที่สองของบริษัท ใช้ชื่อชั่วคราว Project C4 เป็นเกม RPG แนวสายลับที่เน้นเรื่องจิตใจ
ในคลิปเปิดตัวยังไม่เผยรายละเอียดของเกมมากนัก แต่เน้นความบิดเบี้ยวของจิตใจคน ส่วนงานภาพยังใช้สไตล์เดียวกับ Disco Elysium ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าเกมจะวางจำหน่ายเมื่อใด
เกม Disco Elysium เป็นเกม RPG จากสตูดิโออินดี้ ZA/UM ในเอสโตเนีย ที่โผล่มาจากไหนไม่รู้ แต่กวาดเอารางวัลเกมยอดเยี่ยมแห่งปี 2019 จากหลายสถาบัน ชนะเกมใหญ่ๆ จำนวนมาก อย่างไรก็ตาม หลังจากชนะรางวัลในปี 2019 เส้นทางของ ZA/UM กลับเต็มไปด้วยความขัดแย้งภายใน ส่งผลให้ผู้ก่อตั้งและทีมพัฒนาลาออกกันไปหลายคน
เวลาผ่านมาอีกหลายปี อดีตทีมพัฒนา Disco Elysium สองสาย เลือกเปิดตัวสตูดิโอแห่งใหม่พร้อมกันในวันเดียวกัน
เมื่อปี 2019 เกม Disco Elysium จากค่ายเกมอินดี้ ZA/UM สร้างประวัติศาสตร์เป็นเกมอินดี้ที่คว้ารางวัลมากมาย และมีคะแนนรีวิวเฉลี่ยสูงถึง 91/100
แต่ล่าสุด มีดราม่าเกิดขึ้นในสตูดิโอ ZA/UM ซะแล้ว และทีมงานแกนหลักผู้สร้างเกม Disco Elysium ออกจากบริษัทกันไปหลายคน
Disco Elysium เกม RPG แบบ Isometric (มุมมองจากด้านบน) ม้ามืดจากค่ายอินดี้ ZA/UM ประเทศเอสโตเนีย ที่ได้คะแนนรีวิวรวมบน Metacritic ถึง 91 คะแนน
ล่าสุดทีมงานออกแพทช์ใหม่ Working Class Update! ที่นอกจากอัพเดตภาษาที่กำลังแปลอยู่ เปลี่ยนเวอร์ชั่นของเอนจิ้น Unity และแก้บั๊กต่างๆ ยังปรับปรุงประสิทธิภาพเกม และลดสเปกขั้นต่ำ เพื่อให้ผู้เล่นเข้าถึงได้มากขึ้นด้วย
ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา เราอาจเริ่มได้ยินชื่อเกม Disco Elysium บ่อยขึ้นเรื่อยๆ แม้เกมเพิ่งวางขายเมื่อเดือนตุลาคม 2019 บนพีซีแค่แพลตฟอร์มเดียว
Disco Elysium เป็นเกม RPG พัฒนาโดยสตูดิโออิสระ ZA/UM จากประเทศเอสโตเนีย (แถมเป็นผลงานเกมแรกของสตูดิโอด้วย) ที่ได้รับคะแนนรีวิวสูงมาก (ได้ 10 เต็มจากหลายสำนัก คะแนนเฉลี่ย metacritic 91/100) และกวาดรางวัลต่างๆ มากมาย
ตัวอย่างคือ The Game Awards 2019 ที่รางวัลเกมยอดเยี่ยมตกเป็นของ Sekiro แต่ Disco Elysium คว้ารางวัลย่อยไปถึง 4 รางวัล ถือว่าเยอะที่สุดในงานประกาศรางวัลปีนี้ นิตยสาร Time ยังคัดเลือก Disco Elysium ติด 10 เกมยอดเยี่ยมแห่งทศวรรษ 2010s เคียงคู่ไปกับเกมบิ๊กเนมอย่าง GTA V, Minecraft, Pokemon Go, LoL, Zelda: Breath of the Wild, Fortnite