Bolt แอปเรียกรถแท็กซี่และส่งอาหารเดลิเวอรี เปิดเผยว่าบริษัทมีรายได้ย้อนหลัง 12 เดือน มากกว่า 2 พันล้านยูโรแล้ว
Bolt เป็นสตาร์ทอัปจากเอสโตเนีย ปัจจุบันให้บริการมากกว่า 50 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย โดยส่วนใหญ่อยู่ในยุโรปและแอฟริกา
Markus Villig ซีอีโอของ Bolt บอกว่ามากกว่า 20 ประเทศ ที่บริษัทดำเนินการมีส่วนแบ่งตลาดมากเป็นอันดับ 1 โดยปัจจุบันมีบริการทั้ง รถแท็กซี่, สกูตเตอร์, เช่าจักรยานไฟฟ้า, เดลิเวอรีทั้งอาหารและสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต เขายังให้ความเห็นของเทรนด์รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติแบบไม่มีคนขับ ว่าเป็นโอกาสสำคัญของแอปเรียกรถแท็กซี่ เนื่องจากมีความเข้าใจในอุตสาหกรรมและการนำมาใช้งานมากกว่าคนอื่น
ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา เราอาจเริ่มได้ยินชื่อเกม Disco Elysium บ่อยขึ้นเรื่อยๆ แม้เกมเพิ่งวางขายเมื่อเดือนตุลาคม 2019 บนพีซีแค่แพลตฟอร์มเดียว
Disco Elysium เป็นเกม RPG พัฒนาโดยสตูดิโออิสระ ZA/UM จากประเทศเอสโตเนีย (แถมเป็นผลงานเกมแรกของสตูดิโอด้วย) ที่ได้รับคะแนนรีวิวสูงมาก (ได้ 10 เต็มจากหลายสำนัก คะแนนเฉลี่ย metacritic 91/100) และกวาดรางวัลต่างๆ มากมาย
ตัวอย่างคือ The Game Awards 2019 ที่รางวัลเกมยอดเยี่ยมตกเป็นของ Sekiro แต่ Disco Elysium คว้ารางวัลย่อยไปถึง 4 รางวัล ถือว่าเยอะที่สุดในงานประกาศรางวัลปีนี้ นิตยสาร Time ยังคัดเลือก Disco Elysium ติด 10 เกมยอดเยี่ยมแห่งทศวรรษ 2010s เคียงคู่ไปกับเกมบิ๊กเนมอย่าง GTA V, Minecraft, Pokemon Go, LoL, Zelda: Breath of the Wild, Fortnite
ตำรวจไซเบอร์ของเอสโตเนีย (Cybercrime Bureau of the Estonian Central Criminal Police) กำลังสอบสวนคดีข้อมูลหลุดและพบว่ามีผู้ได้รับผลกระทบถึง 655,161 ราย อย่างไรก็ดี ทางตำรวจไม่ต้องการส่งอีเมลแจ้งเตือนเนื่องจากไม่แน่ใจว่าเจ้าของบัญชียังเข้าอีเมลได้อยู่หรือไม่ จึงส่งรายชื่อให้โครงการ Have I Been Pwned แจ้งเตือนให้
ยังไม่มีการเปิดเผยว่าข้อมูลชุดนี้หลุดออกมาจากแหล่งใดเนื่องจากคดีอยู่ระหว่างการสอบสวน อย่างไรก็ดีหากผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบจากชุดข้อมูลนี้และถูกขโมยเงินคริปโตไป ทางตำรวจเอสโตเนียขอให้ติดต่อได้ทางอีเมล
ประเทศเอสโตเนียทำบริการภาครัฐด้วยระบบดิจิทัลมานาน ประชาชนเข้าถึงบริการจากรัฐได้ด้วย national ID และยังใช้ในการโหวตเลือกตั้งและธนาคารออนไลน์ ประเทศเอสโตเนียยังใช้ระบบ Blockchain เป็นแกนหลักในการบริการประชาชนด้วย แต่ล่าสุดมีผู้เชี่ยวชาญพบข้อบกพร้องใหญ่ของ national ID ที่อาจกระทบประชาชนกว่า 7 แสนราย เสี่ยงต่อการถูกปลอมแปลงตัวตน ช่วงวันหยุดที่ผ่านมารัฐบาลจึงบล็อค ID ส่วนใหญ่จากการเข้าถึงระบบออนไลน์ไปก่อน
ID ประชาชนที่เริ่มทำในช่วง ตุลาคม 2014 - 2017 จะถูกระงับไว้ก่อน จนกว่าเจ้าของ ID จะมายื่นขอใบรับรองเพื่อให้แก้ไข ซึ่งสามารถทำผ่ายออนไลน์ได้ แต่ระบบออนไลน์มีปัญหาทำให้คนไปกระจุกตัวกันที่สถานีตำรวจและหน่วยงานราชการอื่นเพื่อขอรับรหัสอัพเดต
ช่องโหว่ TPM ที่ผลิตโดย Infineon รายงานออกมาครั้งแรกว่ากระทบการยืนยันตัวตนของคอมพิวเตอร์จำนวนมาก ตอนนี้รายงานเพิ่มเติมออกมาว่าช่องโหว่แบบเดียวกันก็กระทบสินค้าในกลุ่ม secure element อื่นๆ ทำให้สินค้าอื่นได้รับผลกระทบไปด้วย
เอสโตเนียเป็นประเทศแรกๆ ที่นำ Blockchain กับบริการดิจิทัลมาบริหารประเทศเต็มตัว บริการภาครัฐทุกอย่างอยู่ในออนไลน์ 99% ธุรกรรมธนาคารอยู่ในระบบบล็อกเชน 99.8% การเลือกตั้ง สั่งจ่ายยาให้คนไข้ก็ทำผ่านออนไลน์แล้วด้วย นอกจากนำระบบมาใช้จนประสบความสำเร็จ เอสโตเนียยังพิสูจน์ให้เห็นว่า Blockchain ยังนำมาใช้บริหารประเทศได้ ไม่ใช่แค่ทำให้ธุรกรรมการเงินง่ายและรวดเร็วขึ้นเท่านั้น
ประเทศไทยมีเป้าหมายอยากจะเป็นรัฐบาลดิจิทัลให้ได้ในอนาคต วันนี้ (21 มีนาคม 2017) กสทช.จึงจัดงานสัมมนา Blockchain ศึกษากรณีตัวอย่างจากประเทศเอสโตเนีย โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญด้าน Blockchain จากเอสโตเนียมาเป็นวิทยากร ประกอบด้วย Anna Piperal ผู้อำนวยการโชว์รูม E-Estonia ที่ Enterprise Estonia, Jaan Priisalu อดีตอธิบดีหน่วยงานด้านข้อมูลในเอสโตเนีย และ Martin Ruubel รองประธาน European Cyber Security Organization หรือ ECSO
ไม่ใช่ประชาชนประเทศเอสโตเนีย ก็ขอบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดเอสโตเนียได้!
ประเทศเอสโตเนีย เป็นประเทศที่ใช้บัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดอย่างเอาจริงเอาจังประเทศหนึ่ง โดยประชาชนชาวเอสโตเนียสามารถใช้บัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดในขั้นตอนการเลือกตั้งอิเล็กทรอนิกส์ (e-voting) หรือแม้กระทั่งนำมันมาใช้ในการจับจ่ายใช้สอย และซื้อตั๋วระบบขนส่งมวลชนได้ แต่เมื่อการใช้งานระบบสมาร์ทการ์ดแพร่หลายเกินไปจนทำให้คนที่ไม่มีบัตรสมาร์ทการ์ดรู้สึกเป็นประชาชนชั้นสอง รัฐบาลเอสโตเนียประกาศให้เริ่มแจกบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดกับคนทั่วไปที่ไม่ใช่ประชาชนเอสโตเนียได้
โทรศัพท์เคลื่อนที่กำลังเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของผู้คนมากขึ้น ล่าสุดรัฐบาลเอสโตเนียกำลังจะใช้ประโยชน์จากโทรศัพท์มือถือในการใช้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งได้
เอสโตเนียหรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ สาธารณรัฐเอสโตเนีย เป็นประเทศในยุโรปที่มีประชากร 1.45 ล้านคน เมืองหลวงคือ ทาลลินน์ (Tallinn) กำลังจะกลายเป็นประเทศแรกที่มีการลงคะแนนเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือได้ หลังจากรัฐสภาได้ผ่านร่างกฎหมายให้ประชาชนสามารถลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผ่านโทรศัพท์มือถือได้ (mobile-voting) โดยจะเริ่มใช้กับการเลือกตั้งสมาชิกสภาในปี 2554