By: lew 
on 6 July 2022 - 15:28
Tags:
รัฐบาลสหรัฐฯ พยายามล็อบบี้รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ให้สั่งห้ามส่งออกเครื่องจักรผลิตชิปแม้จะเป็นเครื่องที่ใช้เทคโนโลยี deep ultraviolet (DUV) ที่เก่าหลายปีแล้วก็ตาม หลังจากก่อนหน้านี้รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ห้ามส่งออกเครื่องจักรผลิตชิปที่ใช้เทคโนโลยี extreme ultraviolet (EUV) ไปยังจีน
หากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ทำตามคำขอของสหรัฐฯ จะทำให้บริษัท ASML ผู้ผลิตเครื่องจักรผลิตชิปรายใหญ่ไม่สามารถส่งออกเครื่องจักรเหล่านี้ให้กับผู้ผลิตชิปในจีนได้
เทคโนโลยี DUV ใช้ผลิตชิปในระดับความละเอียด 220nm ไปจนละเอียดกว่า 38nm ซึ่งยังคงใช้งานได้ในชิปไมโครคอนโทรลเลอร์จำนวนมาก การสร้างโรงงานผลิตชิปกำลังผลิตสูงทำได้ค่อนข้างง่ายและเชื่อถือได้ ที่ผ่านมา ASML ก็เคยบอกกับผู้ถือหุ้นว่าเครื่องจักรในกลุ่ม DUV นั้นยังคงขายดี
ที่มา - South China Morning Post
เครื่อง TWINSCAN NXT:2050i เทคโนโลยี DUV ของ ASML
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- สงคราม GenAI บนคลาวด์ในปี 2024 ไปถึงไหนกันแล้ว | Cloudnone x AWS
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
Comments
ถ้า เนเธอแลนด์ ไม่บ้าทำตามคำสั่ง ติ่งต๊องของ อเมริกาปัญหาขาดแคลนชิปก็คงไม่รุนแรงแบบนี้
ไม่ใช่ว่าต่อให้ไม่โดนแบนขายจีนยอดคิวส่งมอบเครื่องก็ยาวเป็นหางว่าวจนมองไม่เห็นปลายแถวอยู่แล้วหรอกเหรอครับ
อันนี้คนละกรณีกันครับ
ชิปขาดแคลนในปัจจุบันมาจากโควิดแล้วปิดโรงงานและเหมือง (ปัจจุบันจีนก็ยัง lock down อยู่เรื่อยๆ)
โรงงานหยุดผลิต ทั้งชิปโดยตรง ทั้งแร่ที่เป็นวัตถุดิบ แล้วมี lock down ห้ามเข้าออกเมืองอีก
เดี๋ยวคงมีข่าวจีนคว่ำบาตรสินค้าอื่นๆของเนเธอแลนด์
เอาเลยครับเดี๋ยวได้รู้กันว่าใครเจ็บกว่า
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
ตั้งบริษัทนอกจีนมาซื้อแทน
เดี๋ยวจีนก็หาทางเอาเครื่องมาผลิตชิบเองได้แน่ๆ
ทั้งซื้อเครื่องมือสอง, Reverse Engineering, หาซื้อจากประเทศพันฐมิตรของจีน (รวมตลาดมืด) หรือหาทางพัฒนาเองแบบเดียวกับที่จีนได้เปรียบในคลื่น 5G
ผลก็ไม่ต่างกับเกาหลีเหนือที่โดน Sanction อย่างหนักมาหลายปี แต่ยังหาทุนและวัตถุดิบมาพัฒนาขีปนาวุธของตัวเองได้อยู่เรื่อยๆ พร้อมกับพัฒนาหัวรบนิวเคลียร์ ยังไงอย่างนั้นเลย
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
SMEE
เกาหลีเหนือไม่สนใจใคร เพราะไม่ได้ส่งออกอะไรไปตลาดโลกไงครับ
กลับกันถ้าจีนทำแล้วโดนข้อหาละเมิดสิทธิบัตร ก็อาจโดนแบนครั้งใหญ่ตามมา
จีนใหญ่เกินกว่าจะอยู่ได้ด้วยการบริโภคในประเทศล้วนๆโดยไม่พึ่งพาการส่งออกไปต่างชาติอีกแล้วนะครับ
ก็เพราะว่าใหญ่นี่แหละ มันถึงได้บริโภคหมุนเวียนภายในประเทศได้ ประเทศเดียวไม่ต่างอะไรกับยุโรปทั้งทวีปรวมกัน รวมกันแล้วก็ยังไม่มากเท่าจีนประเทศเดียวเลย บวกอเมริกาเข้าไปแล้วก็ยังน้อยกว่าอยู่ดี
การถูกแบนมันเป็นการหาข้ออ้าง หนึ่งในข้ออ้างนั้นก็คือเรื่องสิทธิบัตร ไม่อ้างเรื่องสิทธิบัตรก็อ้างเรื่องอื่นได้เยอะแยะเต็มไปหมดถ้าอยากจะอ้าง
ความเป็นจริง จีนอยู่ได้ด้วยการบริโภคในประเทศเท่านั้นได้จริงๆน่ะหรือ?
ตัวอย่างมือถือยี่ห้อนึงที่โดนแบนจนแทบเจ๊ง ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ตามความเชื่อนั้นนะครับ
เรื่องสิทธิบัตรเป็นระบบสำคัญที่ทำให้เกิดการพัฒนาทางเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดดในช่วงหลังนี้ก็ว่าได้ ถ้าไม่สนใจ ก็คงค้าขายกับใครคนอื่นทั่วโลกไม่ได้ครับ
การทำแบบนี้ คงมีประโยชน์ในระยะสั้น
แต่เป็นการเร่งให้จีนพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง
และผลในระยะยาว จะทำให้จีนพึ่่งตัวเองได้มากขึ้น
ทำแบบนี้ เป็นการเตะตัดขาจีนให้ชะงักในระยะแรก แต่ในระยะยาว ต้องรอดูกันครับ
ถ้าตะวันตกและเมกา ไม่มีการพัฒนาเรื่องพวกนี้ต่อไปหรือเทคโนโลยีหยุดชะงัก เพราะหันไปใช้วัสดุอื่น(light base, carbon base) นะครับ จีนก็อาจจะตามทัน
แต่ถ้าฝั่งโน่นยังพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ก็เหมือนกับการวิ่งแข่ง แล้วเขาสตารทก่อนเป็นสิบยี่สิบปี
ถ้ามีตลาดค่อยรับผลิตภัณฑ์พวกนี้ (เช่นประเทศโลกที่สามอย่างเอเชียตะวันออก, แอฟฟริกา) จีนก็อาจจะอาศัยต้นทุนที่ถูกกว่าในการพัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิคของตัวเอง แต่ชาติอื่น (ตะวันตก เกาหลี ญี่ปุ่น) ก็จ้องตลาดนี้อยู่แล้ว
จะมองว่าเป็นหมันไปแล้ว ก็ไม่ผิดนัก
แต่ก็อย่างที่คุณว่า อะไรมันก็เกิดขึ้นได้
มีเครื่องผลิตชิป แต่ไม่ผลิตชิปเอง?
ผลิตชิปเอง แต่สร้างเครื่องผลิตชิปไม่ได้?
ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
ก็เหมือนผลิตดินสอได้ ไม่ใช่หมายความว่าจะวาดรูปสวยจนขายได้
เห็นภาพเลย
เป็นเหตุผลเดียวกันด้วยว่าทำไม Intel, TSMC และ Samsung ใช้เครื่องเดียวกันแต่คุณภาพชิปที่ได้ก็ต่างกัน
ขอบคุณครับ ได้ความรู้ไปหลายคลิปเลย
เครครับ 555
รับสร้างบ้าน ไม่เห็นจำเป็นต้องทำเครื่องมือก่อสร้างเองนิครับ
คิดว่าเครื่องรุ่นใหม่ก็น่าจะมีสักเครื่องที่จีนแล้วแหละแต่การเลียนแบบไม่ง่าย น่าจะติดปัญหาเรื่องสิทธิบัตรกับเทคโนโลยี แต่ผมว่าเทคโนโลยีมากกว่า เพราะจีนจะก๊อปใครไม่เคยแคร์สิทธิบัตร
เห็นด้วยครับ ultra precision machine จะให้ตามฝรั่งคงยาก
ไม่แคร์น่ะถูกแล้ว
ก็เหมือนตอนเมกากีดกันจีนจากวงการอวกาศนั่นแหละ
เมกาเคยขอให้จีนช่วยเอาจรวดส่งกระสวยอาหารไปให้ mark watney นะครับ
จีนช่วยเมกาแบบนี้ ทำไมถึงต้องกีดกันขนาดนี้
ต่อไปชาวเมกันไปติดที่ดาวอังคารอีกคงจะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากจีนแล้วล่ะ
#เดี๋ยวนะ
DUV นี่ ญี่ปุ่นยังมีผลิตอยู่หรือเปล่าครับ?
ทั้ง nikon และ canon ผลิตได้ครับ
https://www.nikonprecision.com/products-and-technology/deep-uv/
https://www.usa.canon.com/internet/portal/us/home/products/list/lithography-products/duv-scanners/duv-scanners
เรื่องเลียนแบบไว้ใจจีน
จีนไม่เก่งจริงๆแหละ ในด้านเทคโนโลยีชั้นสูง
ขนาดพวกอาวุธยุทโธปกรณ์ยังเอาซากของอเมริกา ของมือง2จากรัสเซีย มาก๊อปปี้ ถอดทำตามเลียนแบบอยู่เลย
ให้ตั้งต้นคิด ค้นคว้า ทดลอง วิจัย ทำเองตั้งแต่แรก ฝันไปเหอะ รอก๊อปง่ายกว่า เร็วกว่า ถึงเป็นที่ 1 ด้านเทคโนโลยีกับเขาไม่ได้ไง ก็เล่นพัฒนาองค์ความรู้ตั้งตนเป็นของตนเองไม่ได้
ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ก็สร้างประเทศจากการลอกเลียนแบบ
มันก็ต้องแบบนี้ ลอกเลียนทำตาม แล้วหาทางพัฒนาให้ดีขึ้น
การเรียนรู้ก็มาจากการลอกเลียนทำตามคนรุ่นก่อนทั้งนั้น สะสมแล้วพัฒนา
หรือว่าคุณคิดเองทุกอย่างตั้งแต่เกิด
จริง
มันน่าสงสัยแนวคิดที่เราถูกปลูกฝัง ว่า
"ฉันจะไม่ copy" จนทำอะไรไม่เป็นแบบที่เราเป็นอยู่
เป็นกับดักความคิด ให้เราภูมิใจในความทำอะไรไม่เป็นว่า ฉันไม่เคย copy ใคร
เป็น pride on stupid 😑
เข้าใจว่าเยอรมัน ไม่ยอม copy ใครนะครับ คิดเอง ทำเอง
มีคนไม่ศึกษาประวัติศาสตร์ ที่ทุกวันนี้จีนโดนอเมริกาทำ อเมริกาก็เคยทำกับญี่ปุ่นมาก่อน และอเมริกาก็เคยทำคืนกับญี่ปุ่นด้วยกลยุทธ์ก๊อปแบบเดียวกับที่ญี่ปุ่นทำจนชนะกลับมาได้
ที่ทุกวันนี้ TSMC ทำได้ขนาดนี้ก็เกิดจากโครงการ technology transfer (copy) มาก่อนที่จะทำวิจัยและพัฒนาต่อยอดจนขึ้นนำได้
เด็กเกิดมาก็ต้องก๊อปความรู้ (เรียน) สิ่งที่คนรุ่นก่อนๆ คิดค้นมาก่อน เช่นการบวกลบคูณหาร และสิ่งที่เราเห็นแทบทุกอย่างก็เกิดมาจากทฤษฎี งานวิจัย และนวัตกรรม นับไม่ถ้วน อ้างอิงกันไปมา ก๊อป, แลก, และซื้อสิทธิบัตรกันไปมา
ประเทศที่ไม่เริ่มก๊อปคือประเทศที่ไม่คิดจะใฝ่หาความรู้ความก้าวหน้า
การ Copy ไม่ใช่เรื่องไม่ดีหรือผิดครับ (ในแง่ของวิธีการเรียนรู้หรือการพัฒนานะ ในแง่กม.ก็อีกเรื่องนึง)
ไม่ต้องถึงขั้นย้อนประวัติศาสตร์ แค่ลองมองย้อนตัวเราเอง องค์ความรู้และทักษะต่างๆที่เรามี ส่วนใหญ่แล้วจุดเริ่มต้นก็มาจากการ Copy ทั้งนั้นครับ
ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าเริ่มต้นอย่างไรแต่อยู่ที่ว่าจะพัฒนาต่ออย่างไรครับ ไม่ว่าจะเริ่มจากก๊อปหรือจากศูนย์ก็สามารถพัฒนาต่อไปเป็นองค์ความรู้ใหม่ๆหรือเป็นที่หนึ่งได้เหมือนกัน
เรื่องกม.ก็เรื่องนึง แต่ไม่อยากให้ปฏิเสธวิธีการเรียนรู้โดยเริ่มต้นจากการ Copy ครับ
ความที่เรามองเห็นปัญหาว่าภายในจีนเองก็มีการ Copy ที่รุนแรงมากแต่เรากลับมองข้ามไปเฉยๆแถมไปยินดีเมื่อเห็นวันนึงเทคโนโลยีของจีนเริ่มก้าวหน้าทั้งๆจุดเริ่มต้นมันผิดแล้วก็ปัญหาก็ยิ่งหนักขึ้นเมื่อใครๆในจีนก็คิดว่าเอาเทคโนโลยีมา Copy ง่ายๆปรับแต่งนิดหน่อยให้ดูดีหรือดูต่างแต่ต้นแบบมาจากการ Copy มันก็ผิดแล้ว
ดูจากญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ หรือทุกตัวอย่างในโลกก่อนหน้านั้น (หรือจะย้อนไปได้ถึงเรื่องกระดาษและผ้าไหมที่ยุโรปส่งสปายไปขโมย Know-how จากจีนมาก็ได้) ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะมีจุดจบแบบที่คุณว่าเลยนะ
ผมว่ายุคนี้มันเปลี่ยนไปเยอะแล้วนะครับ ข่าวสาร การสื่อสาร ภาพลักษณ์ พวกกฏหมายสิทธิบัตร มันต่างจากสมัยก่อนเยอะ
ไม่หรอกครับ ถ้าเพื่อผลประโยชน์ของชาติจะแหกกฎแค่ไหนก็ทำได้ อเมริกาทำมาตลอดปัจจุบันก็ยังทำอยู่ จะญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, อินเดีย, เวียดนาม ฯลฯ ทุกประเทศที่มีความเป็นไปได้ที่จะเจริญเติบโตสูงตอนนี้มีจุดหมายเดียวเท่านั้น จะกี่พันกี่หมื่นปีเรื่องนี้ก็คงไม่เปลี่ยนไป ผลประโยชน์สำคัญที่สุด ส่วนคนที่ยังไม่เริ่มทำก็ติดอยู่ในวันเดอร์แลนด์แดนกะลากันต่อไป
เหมือนกับเรื่อง cryptocurrency จะกี่ร้อยกี่พันปีก็ยังมีออกมามุกเดิมๆ คนส่วนใหญ่คงลืมดอกทิวลิปไปแล้ว
ทำให้ผมนึกถึงคำเปิดของซีรี่ย์เรื่อง Forever คร่าวๆ ว่าคนเราแค่อายุไม่ยาวพอจะตระหนักได้ว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นซ่ำแล้วซ่ำเหล่าแค่เปลี่ยน context เท่านั้นเอง จริงๆ ก็เป็นที่มาว่าทำไมเรามีคำกล่าวว่า "เด็กสมัยนี้xxx" ทั้งๆ ที่ทุกเจนเนอเรชั่นก็ไม่ต่างกันเปลี่ยนแค่ context เพราะฉะนั้นประวัติศาสตร์เป็นสิ่งสำคัญมาก
แนะนำช่องนี้อีกช่อง แนะนำให้ดูของอเมริกา เพราะเรื่องของ จีน, เกาหลีเหนือ นี่คงได้รับสื่อ propaganda กันมาเยอะ แต่อเมริกาเขา PR ดี
(ทำเอาจีนกับเกาหลีเหนือเป็นของเด็กเล่นไปเลย เพราะดูก็รู้แล้วว่าเป็น propaganda) คนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนไทยอาจจะไม่ได้รับรู้หรือทราบมาก่อน
ส่วนตัวชอบซีรี่ย์ How The US Stole ที่สุด
ส่วนเรื่อง ข่าวสาร การสื่อสาร ภาพลักษณ์ จริงๆ มันก็เป็นดาบสองคม ขึ้นอยู่กับว่าใครควบคุม อย่างอเมริกานี่สื่อคือธุรกิจ คนที่เป็นเจ้าของหุ้นใหญ่ๆ ก็เป็นนายทุนและนักการเมืองทั้งนั้น ตัวอย่างเช่น ถ้าจะโจมตีเรื่องใช้แรงงานลิงเก็บมะพร้าวแล้วกีดกันทางการค้าก็ง่ายเลย เพราะคนอเมริกาไม่ได้เสพสื่อไทยและอ่านฟังภาษาไทยก็ไม่ได้ ประโคมข่าวกับคลิปสองสามคลิปก็ทำได้แล้ว และแน่นอนไม่มีใครฟังคุณ หรือเราในที่นี้ เพราะเขาฟังไม่รู้เรื่อง
ตอนเด็กๆเคยมีใครบอกไหม ว่าดีได้แต่อย่าดีจนซื่อ
ไม่ว่ายุคไหนๆคนแต่ละยุคเขาก็มองว่ายุคของตัวเองทันสมัยทั้งนั้นแหละ แต่เมื่อมองย้อนกลับไปที่คิดว่าทันสมัยเอาเข้าจริงๆก็เป็นแค่ยุคธรรมดายุคหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่มียุคไหนที่พิเศษไปกว่ากันหรอกครับ
คงไม่มีอะครับ
แนะนำคลิปนี้จาก Vsauce ครับ
การ Copy อยู่คู่สังคมมนุษย์ มาตั้งแต่เริ่มแล้วครับ ถ้าเจ๋งจริง ต้องมีคนพยายาม Copy ครับ
เครื่องปั่นดินเผา ของจีน ทุกคนพยายามก๊อปเป็น 100 ๆ ปี
โรงงานผลิตแก้ว เมืองโคโลญ จักรวรรติโรมัน ที่ทุกคนพยายามก๊อปเป็น 100 ๆ ปี
มันก็มีวันที่ก๊อปได้สำเร็จ
อื่น ๆ ขี้เกียจเขียน
เอาเป็นว่า ยุโรปตะวันตก (Zone ติดทะเล) ค้าขายกับจีน ไม่รู้จักประเทศอื่นด้วย
เดินทางแบบนี้ จาก ยุโรปรวย ไปยุโรปจน (ตะวันออก.. ชาวสลาวิก) ตรงกลางมีโจร
คือชาวเตริก แล้วจะเจอสามแยกเยรูซาเล็ม ลงล่างจะเจออียิปต์ ก่อนเข้าป่าไปอาฟริกา
ไปทางขวาผ่านทะเลทราย เจอโจรทะเลทราย หมดทะเลทรายเจออินเดีย
(อินเดีย สมัยนั้นคือ ปากี + อินเดีย) ออกมันดาเล เจอโจร (ปัจจุบันคือพม่า)
ไปยูนาน เดินในจีน เจอโจร คือ..จะปล้นอะไรกันนักหนา ? กุเดินเรือแม่มเลย
จากยุโรปรวย ขึ้นเรือ ตูมม ไปจีนเลย ค้าขายกัน เงินหมดประเทศเอาฝิ่นใส่เรือไป
มอมชาวจีนก็ทำมาแล้ว
จะเห็นว่า EU กับ จีนเค้าค้าขาย ขัดผลประโยชน์ ขโมย Copy ทะเลาะกันล้งเล้ง ๆ
มาตั้งแต่ก่อน AD แล้ว ไม่ต้องจริงจังมาก Copy แล้วทุนถูกกว่า คุณภาพ ok ก็ชนะไป
มีปัญญาใช้กฏหมายว่าอย่าก๊อบกรู ก็ใช้ไป นี่แหละโลกหล่ะ
เทคโนโลยีตามทันจนถึงขั้นจะแซงได้ก็ต้องหาทางสกัดขาแบบนี้แหละ การเบรคหัวทิ่มด้วยเหตุผลข้างๆ คูๆ แบบนี้แปลว่าสถานการณ์มันเบียดแค่ไหน
อย่างหัวเหว่ยโดนเบรคหัวทิ่มไปที โลกเลยเสียมือถือยี่ห้อดีอันดับต้นๆ ไปแบรนหนึ่งเลย
ใช่ ผมก็คิดแบบนั้นนะ ลึกๆ คือกลัวแหละ องค์ความรู้คงตามอยู่จะกี่ปีก็ช่าง แต่ประเมินแล้วปล่อยไว้ไม่ได้ อนาคตอาจจี้ติดๆ ถึงเก็บทรงไม่อยู่ โนแคร์แบนโลด
WE ARE THE 99%
เรื่องนี้ผมเห็นด้วยครับว่าไม่ควรขายแก่จีน เพราะ 1. เดี๋ยวจีนทำได้เองแล้วทำมาขายต่อ 2. พอขายต่อก็ทำราคาถูก แต่คุณภาพห่วย แย่ ตัดขาเจ้าอื่น จนล้มเลิกกิจการไป
อย่างเช่นก่อนหน้านี้ สินค้า IT มีญี่ปุ่น เกาหลี อเมริกา พอจีนทำได้แล้วก็เอามาขายถูกๆ คุณภาพต่ำ สินค้าแบรนด์ญี่ปุ่น เกาหลีก็ตายเพราะสินค้าจีนคุณภาพต่ำ เสียบ่อย
หรือการค้าขายในไทยก็เหมือนกันเจอจีนเข้ามาสินค้า สินค้าไทยก็แย่