หลังจากธนาคารในไทยเตรียมบังคับยืนยันตัวตนผู้ฝากเงินด้วยบัตรเครดิตและบัตรเดบิตตามคำสั่งของปปง. เมื่อวานนี้ทางปปง. ก็แถลงว่าได้หารือเบื้องต้นกับสมาคมธนาคารและธนาคารแห่งประเทศไทย
แถลงของของปปง. ระบุว่าได้หารือกับทั้งสองหน่วยงานโดยมีหลักการว่าต้องไม่สร้างภาระประชาชนเกินสมควร และต้องมีวิธีการแสดงตนได้หลายรูปแบบโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
แม้แถลงจะบอกว่าต้องไม่เป็นภาระและไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่ในความเป็นจริงการใช้งานบัตรเดบิตนั้นมีและการฝากผ่าน bank agent นั้นมีค่าใช้จ่าย และแถลงเขียนโดยไม่ระบุให้ชัดว่าการแสดงตนที่ไม่มีค่าใช้จ่ายนั้นจะต้องมีก่อนเริ่มบังคับใช้มาตรการของปปง. ในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้หรือไม่ ทำให้ตอนนี้มีผู้เข้าไปแสดงความไม่เห็นด้วยกับปปง. ในเฟซบุ๊กจำนวนหนึ่ง
ที่มา - ปปง.
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- สงคราม GenAI บนคลาวด์ในปี 2024 ไปถึงไหนกันแล้ว | Cloudnone x AWS
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
Comments
ทำไมต้องเป็นบัตรที่ออกโดยธนาคาร? วิธีทำยอดเปิดบัตร?
ให้ผมเดา
1. ตู้ cdm ไม่ได้มีช่องเสียบบัตร ปชช ทุกตู้
2. การใช้ app อาจจะไม่สะดวกสำหรับคนทั่วไป เมื่อเทียบกับบัตร debit ที่คนส่วนใหญ่น่าจะมี
ผมเข้าใจว่าที่ขั้นตอนออกมาแบบนี้ น่าจะด้วยเงื่อนเวลา ที่ไม่สามารถเอาที่เสียบบัตร ปชช ไปใส่ได้ทุกตู้ (ไม่แน่ใจว่าทำไม บัตร ปชช ถึงต้องมีช่องเสียบแยกเหมือนกัน) แล้วมันไม่สามารถทำ 2 factor authen ได้
จริงๆ ควรยืดเวลาออกไปแล้วหา solution ที่กระทบคนน้อยกว่านี้
หรือ บังคับยืนยันเฉพาะยอดที่เกิน 10,000 บาท หรือรวมกันเกิน 100,000 บาทก็ได้
มันไม่จำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างนึง
ไม่รองรับก็ไม่รองรับ ใช้ช่องทางอื่นก็ได้
ส่วนที่ต้องเสียบบัตรแยก ให้เดาน่าจะมี 2 ส่วนคือ
ตัวโปรแกรมของเครื่องอ่านบัตร
ที่น่าจะทำอะไรกับมันไม่ได้
และมีระบบกินบัตร
เราคงไม่อยากให้บัตรประชาชนเราถูกกินแล้วไปทำใหม่หรอก
ตอนที่ ธ.กรุงเทพ เริ่มต้นให้บริการบัตรเดบิตแบบ EMV ตอนแรก ATM ก็ยังไม่รองรับหมดนะ แล้วบัตร EMV ก็ต้องกดเฉพาะเครื่องที่อ่าน EMV ได้เท่านั้น (ผมจำได้เพราะ ตอนนั้นผม hype เรื่องนี้มาก ๆ แต่ก็ลำบากมากเหมือนกัน เพราะตู้ที่อ่านชิปได้มีน้อยมาก ส่วนจะอยู่ตามห้าง ไม่ก็หน้าธนาคาร) และหลังจากวันดีเดย์เหตุการณ์ที่ ธปท. บังคับให้บัตรเดบิตทุกใบต้อง EMV แต่มีตู้ ATM ของธนาคารหนึ่งยังไม่ได้ติดตั้งเครื่องอ่านชิปจนคนต้องไปกดตู้อื่นที่อยู่ใกล้ ๆ เป็นลำบากของผู้ใช้บริการอยู่พอสมควร
แต่กรณีกลับกัน
1. มันมีตู้ CDM บางตู้ที่ติดตั้งเครื่องอ่านบัตรประชาชนแล้ว ที่ใช้ยืนยัน NDID หรือใช้ยืนยันตัวตนเปิดบัญชีออนไลน์น่ะ ทำไมไม่ enable ให้ยืนยันตัวตนการฝากผ่านบัตรประชาชนสำหรับที่ติดตั้้งไปแล้วล่ะครับ? แล้วตู้ที่เหลือก็ค่อย ๆ ทยอยติดตั้งส่วนที่เหลือไป ถ้าบอกว่า ธนาคารไม่ได้หิวเงินจริง ๆ
ดังนั้นผมว่า ควรยืดเวลาออกไป เพื่อไปเพิ่มช่องทางในการให้บริการลูกค้าให้มากกว่านี้ครับ ไม่ใช่บังคับกันแบบนี้...
ป.ล. ฝากเงินที่เคาท์เตอร์แล้วต้องยื่นบัตรประชาชนให้ไปเสียบเนี่ยตัวดีเลย ช่องลืมคืนบัตรให้ เงินฝากเรียบร้อยให้สลิปฝากเงิน แล้วบอกสวัสดีค่ะ //เดี๋ยว..... แล้วบัตรประชาชนผมล่ะ? บัตรยังคาอยู่กับเครื่องอยู่เลย...
ตู้เก่ามันไม่รองรับและเปลี่ยนทันทีไม่ได้นะครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ปปง.คงต้องไปคิดให้ดีอีกรอบที่ผลักภาระมาให้ธนาคาร ธนาคารก็ไม่อยากรับเผือกร้อนก็รีบส่งเผือกรัวๆ
ใส่เบอร์มันใส่เบอร์ใครก็ได้อะครับ
เบอร์มันผูกกับข้อมูลส่วนบุคคลนี่ครับ บังคับผูกเบอร์กับบัญชีก็ได้ ก่อนฝากเงินก็ส่ง otp เข้าที่เบอร์ที่ผูกไว้ แล้วให้กรอกที่หน้าจอ เพราะหน้าจอมีแป้นให้กดเลขอยู่แล้ว
ตรวจเบอร์ว่าชื่อตรงกับเจ้าของบัญชีก่อนอนุมัติก็ได้ เพราะเบอร์มือถือต้องลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชนอยู่แล้ว
มันมีการยืนยันตัวตนตั้งหลายวิธีที่ไม่สร้างภาระเพิ่มให้ประชาชน เช่น เสียบบัตรประชาชน, ยืนยันผ่าน OTP, เพิ่มระบบฝากเงินไม่ใช้บัตรบน Mobile Banking, NDID
มันเป็นภาระของ bank ที่เพิ่มขึ้น ทั้งการ upgrade ตู้ให้รองรับบัตรประชาชน
หรือการต้องเสียค่าส่ง SMS เพิ่ม
งั้นก็โยนภาระให้ประชาชนแมงเลย ไปเปิดบัตรซะ มีค่าธรรมเนียม และขายประกันพ่วงด้วย กำไรเห็นๆ
NDID เห็นบังคับให้ทำกันจัง ตอนนี้ดันไม่เอามาใช้กัน เฮ้อ
เอาจริง ๆ นะ เรื่อง ID สำหรับใช้ services ภาครัฐนี่เรียกได้ว่าไม่มีมาตฐานกลางอะไรเลยน่าจะดีกว่าครับ
ทุกวันนี้จะใช้ services ภาครัฐ ก็มีตั้งแต่ NDID, Open ID ของ DGA หรือ D.DOPA มาตรฐานไม่เหมือนกัน บริการไม่เหมือนกัน ทำงานไม่เชื่อมโยงกัน
ประชาชนเลยสับสนมาก ๆ ว่าทำไมต้องมี ID ภาครัฐอะไรตั้งเยอะแยะ จะทำ Bridge มาเชื่อม (อย่างแอป ทางรัฐ ก็ไม่หด้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นเท่าไร)
เรื่องมาตรฐานภาครัฐนี่สำคัญมากนะสำหรับการให้บริการประชาชน แต่ทุกวันนี้ระบบยังไม่เชื่อมกันเลย หน่วยงานภาครัฐก็แทบไม่มี Action ที่ tangible enough เท่าไร
พูดไปก็เหนื่อยเปล่า ๆ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
+1 จริงที่สุด!!
ต้องถามว่า ทุกวันนี้แต่ละหน่วยงานเคยคุยกันมั้ยนะ
พวก DE DGA ควรจะเป็นตัวขับเคลื่อน แต่ก็นะ วันๆทำอะไรบ้างละนั่น
เรียกว่าแย่งกันทำน่าจะดีกว่าครับ ผลประโยชน์มันหอมหวาน แถมทำแล้วมีคนได้หน้าอีกต่างหาก
ตอน DGA ทำระบบคลาวด์เอง (G-Cloud) กระทรวงดิจิทัลฯ ก็ทำแข่งในโครงการ GDCC งานก็ทับซ้อน ระบบก็ทับซ้อน แถมของบประมาณหลักพันล้าน
Coder | Designer | Thinker | Blogger
การส่ง OTP มีค่าบริการจากค่ายมือถือ ไม่ใช่ฟรี แม้บางค่ายจะมีโปรที่ว่า SMS ถูก แต่ถ้าเจอเยอะ ๆ ก็จุกเหมือนกัน สำหรับ ธ. สำหรับประเทศไทยยังดีที่ คนส่งเสียเงิน คนรับไม่เสียเงิน แต่เมืองนอกบางประเทศ SMS คนรับต้องเสียเงินด้วย เราถึงเห็นว่าระบบ SMS OTP แม้จะเป็นการยืนยันตนที่ดีที่สุด แต่บางเจ้าไม่เลือกใช้
OTP ไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดครับ เพราะมีโอกาสที่จะโดนขโมยข้อความระหว่างทางได้ ในเยอรมนีได้ยกเลิกการส่ง OTP เพื่อยืนยันตัวตนแล้วครับ
จริงอยู่ว่าเป็นวิธีที่ง่าย แต่ไม่ใช่วิธีที่ปลอดภัยที่สุดครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ถ่ายหน้าเอาก็ได้นะครับ เหมือนตอนเปิดบัญชี
ไหนๆก็มีข้อมูลอยู่แล้ว
ปปง. ชี้แจงรายการหมาแก่เมื่อเช้า
ที่เหลือก็ไม่ต่างกับที่ออกข่าวก่อนหน้าเล้ย มาอ้างเรื่อง CDM ไม่รับบัตร ปชช. อีกละ 😑
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
โหย กลับรถทัวร์ไปลงที่เพจกรุงไทยกันรัว ๆ
แค่ทะยอยเปลี่ยนตู้ CDM ให้รองรับ ID card และ Face recognition พ่วงยืนยันด้วย OTP ที่ผูกกับ ID Card กับเบอร์มือถือ ก็น่าจะจบแล้วนะ
หรือทำให้ระบบเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ และฐานข้อมูลอาชญากรรมก็ได้ ตรวจสอบ ID Card, ใบหน้า และเบอร์มือถือที่ผูกกับเจ้าของคนเดียวกันก็ทำได้ง่ายด้วย
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ตู้ไม่ใช่ถูก ๆ บาง ธ. ที่ไม่เน้นเรื่อง CDM ATM เท่าไรนัก (มีแต่เป็นจำนวนน้อย) เช่น ออมสิน มันจะกลายเป้นภาระของ ธ. ที่ต้องเสียเงินซื้อตู้ใหม่
ทุกวันนี้ใช้กดเงินไม่ใช้บัตรผ่าน app มันก็น่าจะทำได้แบบเดียวกันกับฝากเงิน
รถทัวร์มาจอดเลยปีนกำแพงหนีเหรอ
I need healing.
ทำรายการผ่านมือถือทั้งหมด แล้วค่อยไปสแกนหน้าตู้ให้ฝาฝากเปิด
ผลักภาระให้ประชาชนง่ายสุด ไม่ต้องเพิ่ม module อ่านบัตรปชช.ที่ตู้ หรือเพิ่มระบบหลังบ้านเพื่อรองรับการยืนยันตัวตนรูปแบบอื่นๆ
มันมีกรณีการฝากเงินให้บัญชีบุคคลอื่นด้วย ซึ่งนี่อาจเป็นต้นเหตุจริงมากกว่าฝากเข้าบัญชีตัวเอง
ยังสงสัยว่าจะทำไม่ได้เลยใช่ไหม อย่างแม่เอาเงินฝากเข้าบัญชีให้ลูกที่กำลังเรียนอยู่ใช้จ่ายรายเดือน แบบนี้จะทำอย่างไร
ทำได้ครับ ไอที่เป็นเรื่องทั้งหมดนี่จะยืนยันตัวคนฝากนี่แหละครับ ที่ต้องใช้บัตรคือบัตรคนฝากครับ คนรับนี่รู้อยู่แล้วว่าเป็นใคร
ถ้ายืนยันว่าคนฝากไม่ใช่คนรับ ก็คือการโอนไงครับ
ก็คนแม่ใช้บัตรตัวเองยืนยันตัวตน
แล้วกดฝากเงินสดเข้าบัญชีลูกไงครับ
ผมคิดว่า
ให้ใช้ระบบเดี๋ยวกับถอนเงินสดไม่ใช้บัตร
คือเข้าแอปธนาคาร แล้วแสกน QRCode ที่หน้าเครื่อง gen ขึ้นมาเพื่อยืนยันตัวตน
ชาวบ้านที่ไม่ได้เปิดบัญชีธนาคาร
ก็ใช้แอป กระเป๋าตังค์ ที่ยืนยันตัวตนแล้ว แสกนแทนแอปธนาคาร
น่าจะมีต้นทุนถูกที่สุด
เมื่อเทียบกับใส่ตัวอ่านบัตรประชาชน ทุกเครื่องทุกธนาคารทั่วประเทศ
มีบัญชี ธนาคาร 6 ธนาคาร มีบัตร debit ธนาคารเดียว คือ ธนาคารบัญชีเงินเดือนที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี
ถ้าคิดค่าธรรมเนียมเมื่อไหร่ ยกเลิกเมื่อนั้น
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
แล้ว ธนาคารจะรู้ได้ไงว่าบัตร ที่เสียบยืนยันตัวตนตอนฝากเงินเป็นบัตรของคนที่ฝากเงินจริงๆ คือเราเข้าใจเขานะ ในเมื่อมีบางตู้ที่อ่านบัตรประชาชนได้ ก็บังคับไปเลย ใช้บัตรประชาชนกับตู้ที่รอบรับ ส่วนตู้ที่ไม่รอบรับก็ใช้บัตรอื่น ๆ ก็ว่าไป
ธนาคารไม่ได้ต้องการยืนยันว่าเป็นคนจริง แต่ต้องการเก็บหลักฐานว่าบัตรของใครเป็นผู้มาฝากเงินครับ มันเป็นขั้นตอนทางกฎหมาย
ในอนาคตถ้าต้องการระบุตัวตนแบบเจาะจงก็ต้อง biometric ใช้ลายนิ้วมือ สแกนม่านตา เก็บดีเอ็นเอ อะไรก็ว่าไป
คำถามเดียวกันบริการออนไลน์ทั้งหมดในตอนนี้เลยครับ mobile app ทุกตัว บัตรทุกบัตร
คำตอบคือถ้าใครเอา token ไปให้คนอื่น ทั้งบัตรและรหัสผ่านแล้ว มันเท่ากับเรายอมรับให้เขาทำแทนเรา และเรายอมรับผลของการกระทำทั้งหมดแล้ว
lewcpe.com, @wasonliw
ไม่ควรมีตั้งแต่แรกนะ เรื่องฝากเงินโดยต้องยืนยันตัวตนด้วยบัตรเดบิต เครดิตอ่ะ ตลกมาก เหมือนย้อนยุคไปเกือบ 10-15 ปีที่แล้วเลย แต่ก็เข้าใจได้แหละรัฐบาลยิ่งอยู่ในยุคไดโนเสาร์ด้วยแล้ว คงคิดว่าวิธีนี้จะแก้ปัญหาเรื่องฟอกเงินได้
งั้นถามกลับครับว่า คนที่จะฟอกเงินอ่ะ มีกี่เปอร์เซ็นต์ และเคยจัดการคนฟอกเงิน โกงเงินได้กี่เปอร์เซ็นต์กันเชียว แค่เรื่องการโกงยังทำไม่ได้เลย ใครพวกข้าคือคนดี ใครตรงข้ามแนะนิดหน่อยด่าว่าเป็นคนเลวหมด
รัฐบาลยุคไดโน แต่มีรถไฟความเร็วสูง เส้นแรกจะเปิดปี 68 มีการเปิดโรงงานผลิตรถไฟฟ้า มีสมาคม e-sport
ไม่ก็กำหนดยอดขั้นต่ำสำหรับการฝากที่ต้องยืนยันตนก็ได้นะครับ
เช่น ฝากเงินสดไม่เกิน 5,000 บาท ไม่ต้องยืนยันตน
ถ้ามีฟอกเงินจริงๆด้วยฝากเงินสด 5,000 บาทหลายๆครั้งคงขึ้นธงแดงที่ระบบธนาคารไปก่อนแล้ว
จะได้ไม่กระทบกับหลายๆกลุ่มด้วย เช่น
- เด็กที่อยากฝากเงินสดเพื่อซื้อของออนไลน์
- ต่างด้าวส่งเงินค่าใช้จ่ายให้ญาติ
- แม่ส่งค่ากินอยู่ให้ลูก
- แท็กซี่ฝากเงินสดที่ได้จากค่าโดยสารเข้าบัญชี