By: lew 
on 26 September 2023 - 23:47
Tags:
กูเกิลประกาศร่วมโครงการ Brain Research Through Advancing Innovative Neurotechnologies (BRAIN) ของ NIH หน่วยงานวิจัยด้านสุขภาพของสหรัฐฯ โดยจะทำแผนที่สมองหนูเฉพาะส่วนฮิปโปแคมปัสขนาดประมาณ 2-3% ของสมองทั้งก้อน รวมปริมาณนิวรอนที่จะวิเคราะห์อยู่ที่ระดับ 1 ล้านนิวรอน
โครงการนี้เป็นโครงการต่อเนื่องมาจากโครงการเมื่อปี 2020 ที่กูเกิลเคยปล่อยแผนที่สมองแมลงวันความซับซ้อนขนาด 25,000 นิวรอนออกมาก่อนแล้ว โดยความซับซ้อนของสมองนั้นไม่ได้อยู่ที่จำนวนนิวรอนเพียงอย่างเดียวแต่ยังมีการเชื่อมต่อด้วย เช่นสมองแมลงวันมีขนาดประมาณ 125,000 นิวรอน ขนาดข้อมูลรวมระดับ 10 เทราไบต์ แต่สมองมนุษย์เพียงส่วนเล็กๆ 16,087 นิวรอน ก็มีขนาดข้อมูลถึง 1.4 เพตาไบต์ไปแล้ว สำหร้บสมองหนูส่วนฮิปโปแคมปัสนี้คาดว่าจะมีข้อมูลรวม 25 เพตาไบต์
โครงการ BRAIN รวมนั้นให้ทุน 150 ล้านดอลลาร์ แต่เฉพาะโครงการส่วนที่กูเกิลร่วมนั้นมีมูลค่าทุน 33 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดีกูเกิลจะไม่ได้รับเงินเข้าบริษัท แต่ร่วมวิจัยและบริจาคหน่วยประมวลผลให้ทีมวิจัยที่ทำงานร่วมกัน
ที่มา - Google Research
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- สงคราม GenAI บนคลาวด์ในปี 2024 ไปถึงไหนกันแล้ว | Cloudnone x AWS
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
Comments
เนี่ย แล้วเจ้าอื่นจะสู้ Google ไหวเหรอ
มนุษย์เรานี่ยังเล็กกระจิดริดเมื่อเทียบกับธรรมชาติจริง ๆ
That is the way things are.
เห็นตัวเลข storage แล้วตกใจ ธรรมชาติสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์จริงๆ
..: เรื่อยไป
storage เยอะจัง แต่ทำไมจำอะไรไม่ค่อยได้เลย
นี่แหละคือจุดที่ทำให้สมองมนุษย์ทำงานมีประสิทธิภาพกว่า AI ในด้านการใช้พื้นที่จัดเก็บและการใช้พลังงาน วันใดที่มีใครคิดสมการให้ AI เลือกที่จะลืมได้ ก็จะเป็นเริ่มต้นยุคของ Super AI
ห้ะ?
อ่านแล้วแบบ
ห้ะ?
ทำไมล่ะครับ การลืมไม่ใช่การลบนะ การลืมในทาง IT มันก็คือการปรับประสิทธิภาพการทำงานให้เหมาะสมกับสภาวะการทำงานแบบอัตโนมัติ ทั้งข้อมูลไหนจำเป็นต้องเรียนรู้่ ข้อมูลไหนจำเป็นต้องลืมมันไปซะไม่ต้องสนใจ ข้อมูลไหนที่ไม่ค่อยได้ใช้ก็ต้องใช้เวลาหน่อยเพราะมันถูกจัด priority ไว้ต่ำ ไม่ใช่เอามากองตรงหน้าทั้งหมดเหมือน AI ในปัจจุบันทำซึ่งเปลืองพลังงานมาก การลืมมันจะนำข้อมูลที่จำเป็นต้องใช้มาจัดเรียงอัตโนมัติว่าคุณควรใช้อะไรก่อนหลังโดยที่คุณไม่จำเป็นต้อง code เลย อันไหนไม่สำคํญสมองมันก็จะลืมมันไป หรือในทาง IT ก็ย้ายพื้นที่จัดเก็บไปยัง Storage ที่มีความสำคัญต่ำ มีประสิทธิภาพด้อยลง แต่ก็ใช้พลังงาน และพื้นที่จัดเก็บน้อยลง นั่นแหล่ะสมองคนเรา AI มันต้องใช้หลายศาสตร์ในการพัฒนา
คุณรู้ไหนว่าทำไมเราจำเป็นต้องนอน ? เรานอนเพื่ออะไร ?
+1
ที่คุณคิดมันคือ super computer ขนาดใหญ่ แต่ที่ผมคิดคือ คอมพิวเตอร์ที่สามารถทำทุกอย่างได้เหมือน super computer แต่มีขนาดเท่าสมองคน โดยใช้พลังงานระดับเครื่อง notebook ไม่ใช่ระดับโรงไฟฟ้า ถ้าคุณคิดว่าวิธีของคุณดีก็ไม่มีใครว่าอะไรหรอกครับ ทุกคนมีสิทธิคิดได้ แต่ผมก็มีทุนจำกัดคงไม่สามารถหาทุนไปพัฒนา AI ที่ใช้ super computer ได้ขนาดนั้น ก็คงต้องเอาวิธีการที่ผมคิดว่ามันเหมาะสมมาใช้
แนวทางการออกแบบ processor สมัยใหม่ก็ใส่ hardware acc สำหรับ AI มากันครบทุกเจ้า ประสิทธิภาพการประมวลผลต่อพลังงานที่ใช้ก็ลดลงทุก gen ซึ่งทุกวันนี้เรายังอยู่แค่ช่วงต้นๆของ sigmoid curve ยุคของ AI เท่านั้น
อ่านแล้วค่อนข้างเก็ต AI ที่ไม่ลืมอะไรเลยจะใช้พลังงานประมวลเยอะใช้พลังงานมากแต่ความเที่ยงตรงก็สูง เหมาะกับงานพัฒนาต่อยอดและงานละเอียดอ่อน
แต่ AI อีกแบบที่สามารถลืมข้อมูลได้จะใช้พลังงานประมวลผลต่ำกว่าเยอะ สามารถพกพาได้ ใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่จำเป็นต้องถูกต้องแม่นยำ100% จะมีความคล้ายกับมนุษย์มากขึ้น
การลืม คงเป็นเหมือนการลดขนาด parameter ลงครับ
ยกตัวอย่างเช่น
ChatGPT 3.5 มี 175,000,000,000 parameter
ChatGPT 4.0 มี 10,000,000,000,000 parameter
ซึ่งเลขพวกนี้มันมีมาตั้งแต่เทรน model เลย
แล้วเราไม่สามารถสั่งให้ AI ที่ประมวลผลอยู่ลดขนาด parameter ขณะ on the fly ลงได้
(ยกเว้นจะ run ใหม่เป็นคนละ model ไปเลย)
ซึ่งการ implement ว่าจะใช้ parameter ขนาดไหนก็ขึ้อยู่กับทรัพยากรณ์ของ device นั้นๆ
ประสิทธิภาพที่บอกว่าAiด้อยกว่าสมองมนุษย์นี่คือเทียบอะไรยังไง?
หรือเทียบแต่ด้านที่สมองมนุษย์ชนะ?
สมองคนกับAiทำงานไม่เหมือนกัน จุดประสงค์การใช้งานก็ไม่เหมือนกัน ข้อจำกัดการใช้งานก็ต่างกัน จะเอามาเปรียบเทียบทำไม ยิ่งจะเอาการทำงานทั้งคู่มารวมเป็นเรื่องเดียวได้นี่ออกแนวนิยายวิทยาศาสตร์มากว่า
ถ้าบอกว่าสมองมนุษย์ประสิทธิภาพดีกว่าทำไมบริษัทยักใหญ่เค้าเอาเงินลงทุนไปซื้อ A100 กันมาทำไม
ไม่เอาเงินไปจ้างคนมาทำงานตอบแชทแทน Ai อย่าง chat gpt เพราะมันคนละอย่างกัน เลิกเทียบเถอะ
ก็จริงนะครับ ตอนนี้แข่งหมากรุกคนไม่ชนะคอมพิวเตอร์แล้ว แข่งโกะก็เพิ่งแพ้มา
That is the way things are.
ที่จริงอาจจะจำได้ แต่ไม่รู้วิธีเอาออกมาใช้ก็ได้ครับ
น่าชื่นชมผู้ก่อตั้งคนแรกที่เป็นรุ่นน้องที่ถูกของผู้ก่อตั้ง yahoo ดูถูกความสามารถ
จากคำสบประมาท ขึ้นแท่นยักษ์ใหญ่ของโลกเทคโนโลยี
ไม่คิดจะต่อยอดพัฒนาระบบเก็บข้อมูลเลียนแบบธรรมชาติให้มันดีกว่าที่มีเรอะ เก็บแบบไบโอนี่ดูท่าทางจะได้เยอะแฮะ จินตนาการเราต้องให้อาหารHDD แต่มันเก็ยข้อมูลได้มหาศาลและตายได้!! โคตรจะดี ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องทำลายข้อมูล
The Last Wizard Of Century.
ยอดไปเลยเราไม่ต้องเอาไปโยนน้ำแบบกำนันนกแล้ว
The Last Wizard Of Century.
ค้นหาเน็ตเทอร์มินอลยีนส์😆