Tags:
Node Thumbnail

ฟีเจอร์ใหม่ที่โดดเด่นของ Google Maps ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมาคือ Immersive View แผนที่สามมิติของสถานที่และเมืองสำคัญ และ Immersive View for Routes ที่ขยายเป็นแผนที่สามมิติของเส้นทาง

ฟีเจอร์ Immersive View for Routes ตอนนี้เริ่มใช้ได้แล้วในเมือง Amsterdam, Barcelona, Dublin, Florence, Las Vegas, London, Los Angeles, Miami, New York, Paris, San Francisco, San Jose, Seattle, Tokyo, Venice

ทีมงานกูเกิลได้เขียนบล็อกอธิบายเบื้องหลังการสร้างโมเดลสามมิติ ที่แบ่งออกเป็น 5 ขั้นตอน

ขั้นที่ 1: นำภาพถ่ายประเภทต่างๆ มาประกอบเข้าด้วยกัน ทั้งจากเครื่องบิน ดาวเทียม หรือรถ Street Views มาประกอบกัน ความยากคือต้องจัดเรียง (align) ให้ตรงกับข้อมูลเดิมของ Google Maps เพื่อให้ชื่อถนน หรือที่อยู่ตรงกัน ตรงนี้กูเกิลใช้เทคนิคทางโปรแกรมเข้าช่วย เพื่อให้เชื่อมภาพกับข้อมูลให้ตรงกัน มีความเที่ยงตรงระดับเซนติเมตร

No Description

ขั้นที่ 2: ทำความเข้าใจป้ายและสิ่งต่างๆ ในภาพ ด้วยเทคนิค AI และ computer vision อ่านป้ายชื่อตึก ถนน และป้ายจราจรต่างๆ ให้เข้าใจความหมาย การเข้าใจป้ายเหล่านี้ทำให้ระบบนำทางของ Google Maps พาเราไปยังทางเข้าตึกที่ถูกต้อง ไม่ใช่พาไปยังตำแหน่งกว้างๆ ของตัวตึกที่ไม่รู้ว่าต้องเข้าตรงไหน

อีกตัวอย่างที่กูเกิลยกมาคือ ป้าย Slow ในแต่ละประเทศหน้าตาใหม่เหมือนกัน อัลกอริทึมจึงต้องแยกแยะสิ่งพวกนี้ได้ด้วย

No Description

ขั้นที่ 3: แปลงภาพสองมิติ เป็นโมเดลสามมิติ ความยากคือข้อมูลจากแผนที่ไม่เห็นระดับความสูงของตึก และความสูงของถนน กูเกิลแก้ปัญหาด้วยกล้องถ่ายภาพจากทางอากาศ ที่ใช้เทคนิคกล้องหลายตัวเอียงมุมต่างกันเล็กน้อย กดถ่ายภาพเดียวกันจากหลายมุมแล้วนำมาคำนวณหาความสูงได้

เมื่อนำข้อมูลความสูงเหล่านี้มาเทียบแล้วจึงเขียนโปรแกรมเพื่อสร้างโมเดลสามมิติขึ้นมาได้

No Description

ขั้นที่ 4: สร้างเส้นทางที่เหมาะสม ได้โมเดลสถานที่เรียบร้อย ต้องหาวิธีนำทางผู้ใช้ ความยากอยู่ที่การแสดงผลเส้นทางแบบ 3D ให้ผู้ใช้มองเห็นและเข้าใจ ต้องหาวิธีซ่อนเส้นลูกศรสีฟ้าเมื่อโดนต้นไม้หรือตึกบัง กูเกิลใช้วิธีสร้างอัลกอริทึมการแพน ซูม และเลื่อนกล้อง ตามเส้น B-spline curve ที่คำนวณด้วยโมเดลคณิตศาสตร์ ให้ภาพที่เห็นดูลื่นและเห็นสิ่งต่างๆ ชัดเจน

ขั้นที่ 5: จำลองข้อมูลจริงจาก Google Maps เช่น ข้อมูลสภาพอากาศ, คุณภาพอากาศ และสภาพจราจร ลงในแผนที่ 3D เพื่อจำลองเส้นทางให้เห็นใกล้เคียงกับของจริงที่สุด ในช่วงเวลาที่ต่างกัน ตัวอย่างคือ หากถนนเส้นนี้มีรถติดช่วงไหนบ้าง การแสดงใน Immersive View จะเห็นรถติดเพิ่มขึ้นตามมา

การเรนเดอร์ภาพเหล่านี้เป็นการผสมผสานการเรนเดอร์จากในเครื่องของผู้ใช้ และการเรนเดอร์จากคลาวด์ (Immersive Stream for XR) แล้วส่งไปยังเครื่องของผู้ใช้อีกที

ที่มา - Google

Get latest news from Blognone

Comments

By: Hoo
AndroidWindows
on 7 November 2023 - 18:40 #1298517

น่าสนใจถ้าใช้เทคนิคนี้กับ SimCity ภาคใหม่ 😁

ไหนจะเคยมีทำเกม RTS โดยดึงข้อมูลจาก Google Earth 3D อีก
ถ้าเอาอันนี้มาใช้คงแจ่มไปอีกขั้น