คนที่ติดตามข่าวต่างประเทศในช่วงนี้คงทราบเรื่องความรุนแรงที่เกิดขึ้นในกลุ่มประเทศที่นับถือศาสนาอิสลาม อันเนื่องมาจากคลิปภาพยนตร์ขนาดสั้นเรื่อง Innocence of Muslims ที่ถูกโพสต์ขึ้นบน YouTube ก่อให้เกิดการประท้วงรัฐบาลสหรัฐในหลายประเทศ และในบางประเทศก็ถึงกับมีผู้เสียชีวิตด้วย
กูเกิลในฐานะเจ้าของ YouTube ให้ความร่วมมือบล็อคคลิปนี้เป็นรายประเทศ (เช่น ลิเบีย อียิปต์ อินโดนีเซีย อินเดีย) แต่ไม่ลบคลิปนี้ออกจาก YouTube เป็นการถาวร ถึงแม้จะได้รับการร้องขอจากทำเนียบขาวให้ทบทวนการตัดสินใจครั้งนี้ก็ตาม
กูเกิลบอกว่าต้องการยึดกฎหมายของแต่ละประเทศมากกว่าตอบสนองตามแรงกดดันทางการเมือง ซึ่งเป็นแนวทางที่กูเกิลปฏิบัติมาตั้งแต่ปี 2007 และประกาศไว้ในเว็บไซต์อยู่แล้ว
ที่มา - Reuters
Comments
ตายเพิ่มเรื่อยๆ แล้วสุดท้ายอาจเป็นภัยย้อนกลับไปยัง Google เองหรือเปล่าเนี่ย
ไม่กลัวธรรมเนียบขาวเลย นับถือจริงๆ
ไม่กลัว เพราะไม่ผิดกฏหมายน่ะสิ
ต้องรอให้สำนักงานของกูเกิลโดนเผาบ้าง ดูซิว่าคราวนี้จะลบ หรือไม่ลบ???
google กำลังยึดแนวทางมากเกินไปรึเปล่า แนวทางกำหนดโดยคน ก็ต้องเปลี่ยนแปลงได้โดยคน แนวทางที่ขาดการวิเคราะห์ถึงผลกระทบที่ส่งผลเสียในสังคม ก็ไม่ต่างกับแนวทางที่เริ่มล้มเหลวในสังคม
ไม่ลบน่ะถูกแล้ว มีปัญหาก็บล็อคเป็นรายประเทศไป
เขาอิงตามกฏหมาย ตราบใดที่มันไม่ผิดกฎหมาย มันก็ไม่มีเหตุให้ลบ
ไม่ใช่ว่าใครกดดันให้ลบก็ลบทั้งๆที่มันไม่ผิดกฎหมาย ???
กฏหมายก็ไม่ใช่ทุกสิ่งนะครับ ถ้าโลกใบนี้ยึดแต่กฏหมาย ผมว่ามันคงไม่ได้น่าอยู่เท่าไหร่หรอก
แต่ถ้าไม่ยึดกฏหมาย ก็จะเป็นเหมือนประเทศแถว ๆ นี้ล่ะครับ
ก็เกือบจะจริงครับ แต่ยังไงก็ต้องยึดกฎหมาย(หรือกฎระเบียบ)เป็นหลักไว้ก่อนเสมอ ยกเว้นเสียแต่ซะว่าคุณจะมีเหตุผลข้ออ้างที่ "ดีพอ" เอามาอ้างให้เขาเห็นคล้อยกับคุณได้ก่อนสิครับถึงจะพูดแบบนั้นได้เต็มปาก
ซึ่งในกรณีนี้กับสภาณการณ์ปัจจุบัน จะลบหรือไม่ลบก็ไม่ได้ทำให้เหตุการณ์มันเปลี่ยนไปมากหรอกครับ ต้องใช้วลียอดฮิตในยุคนี้ก็คือ "มันเลยจุดนั้นมาแล้ว" ครับ
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
เห็นด้วยครับ กับการยึดกฏหมายเป็นหลักไว้ก่อน (แต่ก็ไม่ใช่ทุกกรณี เพราะในบางกรณี กฏหมายมันใช้ตัดสินได้แบบแปลกๆ และตัวกฏหมาย แม้ทำถูกต้องก็ไม่ได้แปลว่า คนๆ นั้นจะซื่อสัตย์ มีจริยธรรม หรือคุณธรรมเสมอไป
ปล ความเห็นนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับคลิปนะครับ ผมแค่อยากบอกว่า บางทีผมก็เคยเจอคนบางคนที่สนใจแต่กฏหมายอย่างเดียว แต่ลืมไปว่า มนุษย์เรามีระเบียบกฏเกณฑ์ของสังคมร่วมกันในหลายระดับ ต่อให้ถูกกฏหมาย (ซึ่งกฏหมายมันสามารถเล่นตุกติกได้) แต่มันอาจจะผิดในแง่ของความเป็นมนุษย์ และความเป็นสังคมก็ได้
ผมงงกับตรรกะคุณนะ ใช่ครับกฏหมายไม่ใช่สิ่งที่ถูกเสมอไป เพราะมันแก้ไขได้ แต่มันคือกฎที่คนส่วนใหญ่ต้องเครพและทำร่วมกัน กฏหมายมันเป็นตัวเริ่มต้นในกระบวนการยุติธรรม ในกระบวนการนี้มันมีหน้าที่ของตัวมันเองอยู่ครับ ตัวอย่างง่าย ๆ สมมุติว่านาย A ฆ่านาย B ตาย ยังไงนาย A ก็ต้องถูกจับ พอไปขึ้นศาลพิสูจน์ได้ว่านาย A ป้องกันตัว นาย A พ้นผิด
ถ้าเราคิดแตกต่างกัน คุณจะงงก็ไม่แปลกล่ะครับ :)
ผมไม่ได้มีเจตนาจะแสดงความเห็นให้ใครเชื่อนะ แต่แค่เสนอมุมมองหนึ่งที่ผมเห็นเท่านั้นเอง
มันอาจผิด และอาจถูกก็ได้ ผมไม่ได้ต้องการเป็นคนผิด หรือถูก และไม่ได้ต้องการเถียงนะ
ผมเห็นด้วยครับว่ากฏหมายคือสิ่งที่คนส่วนใหญ่เคารพ และทำร่วมกัน (เพราะผมก็ปฏิบัติตาม และไม่ละเมิดกฏหมาย
ทั้งในระดับชั้นสูงสุดของประเทศที่ผมอาศัยอยู่ และรวมทั้งกฏเกณฑ์ข้อปฏิบัติตามสังคมที่ผมอยู่ เช่นที่ Blognone นี้)
ที่นี้ผมก็เข้าใจว่าในกระบวนการยุติธรรม มันก็มีหน้าที่ของมันครับ ผมเข้าใจตามที่คุณบอกนั่นแหละ
ผมไม่ได้ว่า หรือโจมตี ว่ากฏหมายไม่ดีครับ (ฟังอีกทีนะ ผมไม่ได้ว่า หรือโจมตี ว่ากฏหมายไม่ดี หรือไม่ถูกต้อง)
กฏหมายคือบรรทัดฐานที่คนในสังคมนั้นๆ ควรยึด ถูกต้องแล้วครับ
แต่ถ้าคนในสังคมยึดแต่กฏหมายอย่างเดียว ผมขอให้ความเห็น ตามมุมมองของผมเองว่า
การที่คนเรายึดแต่ด้านของนิติบัญญัดิ เอาแต่กฏหมายเป็นที่ตั้งอย่างเดียว มันอาจ (ใช้คำว่าอาจ) ทำให้
คนในสังคมแคร์แต่สิ่งที่บัญญัติไว้ ซึ่งในความเป็นจริงมันมีคนประเภทนี้บ้าง แต่ไม่ใช่ทุกคนหรอก)
ผมขอยกตัวอย่างเล็กๆ (ที่มันไม่ได้ครอบคลุมทุกกรณีหรอก) เรื่องคดีที่คนเก็บของขายแผ่นซีดีมือ 2 ละกัน กับคดีอื่นๆ ที่ร้ายแรงกว่านี้
ถามผมว่าคนเก็บของคนนั้น ทำผิดกฏหมายไหม.... อาจจะผิดนะ
แต่ถ้าถามว่าเขารู้ และเข้าใจข้อกฏหมายไหม ผมเดาว่าอาจจะไม่รู้ หรือรู้ก็ไม่ได้รู้แบบชัดเจนอะไร
ทีนี้ กฏหมายข้ออื่นที่มันรู้ได้ด้วยสามัญสำนึก แต่มีคนไปละเมิด ก็ยังได้รับโทษน้อยกว่า มันก็มี
ยังไม่ได้พูดถึงความยุติธรรมนะครับ แต่ขอถามสั้นๆ ว่า สังคมแบบนี้ มันน่าอยู่สำหรับคุณหรือเปล่า
สำหรับผม ผมว่าไม่ค่อยน่าอยู่นะ พออยู่ได้ แต่ก็อยู่แบบตะหงิดใจเสมอๆ
ทีนี้คุณอธิบายตัวอย่างง่ายๆ ว่า "สมมุติว่านาย A ฆ่านาย B ตาย ยังไงนาย A ก็ต้องถูกจับ พอไปขึ้นศาลพิสูจน์ได้ว่านาย A ป้องกันตัว นาย A พ้นผิด"
ในความเป็นจริง มันเรียบง่าย และสวยหรูขนาดนั้นเหรอครับ?
ศาลพิสูจน์ได้ว่านาย A พ้นผิด... ศาลพิสูจน์จากอะไร? จากหลักฐาน? จากพยาน?
ทีนี้ ในกรณีที่ พิสูจน์แล้วไม่ใช่ล่ะ? (ซึ่งมีเยอะแยะไป) กรณีที่ข้อพิสูจน์ กับความเป็นจริงมันไม่ตรงกันล่ะ? (ซึ่งเป็นไปได้) แล้วถ้านาย A แค่ป้องกันตัวจริงๆ แต่กลับโดนตัดสิน ต้องไปติดคุกล่ะ
ไม่ได้โทษว่าระบบศาลไม่ดีอีกเช่นกันครับ และไม่ได้บอกว่าต้องมาเห็นใจนาย A อะไรนะครับ หรือยกเลิกกฏหมายไปเลย ไม่ได้จะบอกแบบนั้นนะ แต่จะบอกว่า กฏหมายไม่ใช่สิ่งที่ถูกเสมอไป และการใช้กฏหมายไม่จำเป็นว่าต้องถูกต้องครบถ้วนเสมอไป และแน่่นอนว่า กฏหมายมันแก้ไขได้ ถูกเขียนใหม่ได้ มันมีช่องโหว่ได้... เหมือนที่อะไรก็มีช่องโหว่ได้ และแน่นอนว่า อะไรที่มีช่องโหว่ ย่อมมีคนไปอาศัยช่องโหว่นั้น เพื่อประโยชน์บางอย่างได้
ที่นี้ คุณธรมม จริยธรรม ฯลฯ ก็อาจเข้ามาช่วยทำให้ช่องโหว่นี้เล็กลงได้ หรือทำให้คนในสังคมอาศัยช่องโหว่นี้ ทำประโยชน์เพื่อตัวเองอย่างทุจริตน้อยลง...
คุณมองออกไหม ความแตกต่างระหว่าง สังคมที่มีแต่กฏหมาย คนสนใจแต่ตัวกฏหมาย
กับสังคมที่คนในสังคมสนใจจะรักษาทั้งกฏหมาย ทั้งคุณธรรม ทั้งจริยธรรม คุณเห็นความแตกต่างไหม?
ถ้าไม่เห็น ไม่เป็นไรครับ...
ทีนี้ผมก็ไม่ใช่คนเชี่ยวขาญกฏหมายอะไรครับ ไม่ใช่เลย
แต่ก็อยากถามว่า กฏหมายมันถูกสร้างมาจากอะไร และถูกสร้างมาเพื่ออะไรล่ะครับ
อะไรคือความตั้งใจหลัก และตรรกะ ที่อยู่ข้างหลังกฏหมายแต่ละข้อ?
ไม่ได้ถามเจาะจงนะครับ แต่ถ้ากฏหมายมันถูกสร้างมาเพื่อเป็นบรรทัดฐานทางสังคม ให้คนอยู่ร่วมกันอย่างเป็นปรกติสุข
(ซึ่งในความเป็นจริง มันอาจจะไมได้ถูกสร้างมาอย่างสวยหรูอย่างนี้ก็ได้) ตอนนี้ตัวกฏหมายมันทำหน้าที่ตามความตั้งใจนั้นแล้วหรือยังครับ
และถามจริงเหอะ ว่าแค่กฏหมาย มันทำให้คนอยู่ร่วมกันอย่างปรกติสุขแล้วหรือ
(หรือจริงๆ ในสังคม ต้องการความรัก ความเห็นใจ คุณธรรม ฯลฯ เพื่อให้สังคมเป็นปรกติสุข)
ย้ำอีกทีนะครับ เพราะคุณบอกไม่เข้าใจตรรกะผม (ผมเลยขออ้างว่า คุณต้องการคำอธิบาย)
ว่า ผมเห็นด้วยกับการมีกฏหมายครับ แต่ไม่ได้เห็นด้วยทุกกรณี สังคมต้องการกฏ แต่ก็ต้องการสิ่งอื่นเช่นกัน
มันดีครับ ที่เราได้อยู่ในประเทศที่มีกฏหมาย มีการบัญญัติสิทธิ หน้าที่ และข้อบังคับต่างๆ ชัดเจน
แต่การมองแต่เรื่องกฏหมายอย่างเดียว (หรือกฏข้อบังคับอื่นๆ) อาจไม่ได้ทำให้สังคมน่าอยู่ครับ
เราไม่ต้องละเมิดกฏหมายก็ได้ครับ แต่นอกเหนือจากข้อบังคับที่กฏหมายกำหนดไว้ เราก็ยังทำสิ่งอื่นๆ ที่ดีให้กับชีวิตของเราและคนอื่นได้
นี่แหละ ตรรกะที่คุณถามผม (และผมไม่ได้เรียกร้องเอาอะไรจากคุณหรือใครนะครับ :) )
ปล. ผมอาจเขียนได้ไม่ครบถ้วนตรงตามความตั้งใจที่จะบอกนะครับ
ตราบเท่าที่มีการยกเว้นจากกฎหมายโดยผู้บังคับใช้กฎหมาย มันก็จะมีคำว่าทำไมคนนั้นรอด แล้วผมต้องโดนโผล่มาเสมอนั่นล่ะครับ
กรณีนี้ Google เค้าไม่ลบเพราะมันไม่ผิดกฎเค้า ถ้าเค้าลบ ปัญหาที่ตามมาก็ไม่น้อย อย่างคลิปหมิ่นก็จะต้องถูกเรียกร้องให้ลบ !@#$% ก็ต้องถูกเรียกร้องให้ลบ แล้วเค้าจะตัดสินอะไรยังไงว่าตัวไหนควรลบ เค้าจะตอบคำถามยังไงว่าเอาอะไรเป็นเกณฑ์
ถ้าเป็นการกระทำส่วนตัวมันก็เรื่องนึงครับ แบบนั้นถ้ายึดแต่กฎมันก็น่าเบื่อ แต่ถ้าเป็นระดับองค์กรมันมีผลมากกว่านั้น
ผมมา Reply เผื่อบอกว่าอ่านแล้วครับ ผมยอมรับและเครพในความคิดคุณ แต่คิดว่าถ้าพูดคุยกันเป็นประเด็น ๆ น่าจะไม่จบ แล้วไม่น่าจะมีประโยชน์กับคนอื่นด้วย
กฎหมายคือสิ่งที่ผู้มีอำนาจในรัฐนั้นๆประกาศครับ อาจจะไม่ได้หมายถึงคนส่วนใหญ่ชอบ หรือถูกต้อง
ถ้าเข้าใจประเด็นนี้จะเข้าใจว่าทำไม การที่กูเกิลจะดำเนินการตามกฎของรัฐนั้นๆ
ผมเชื่อว่าที่ทำเป็นหลักที่ถูกต้องแล้ว
ถนัดกฏหมู่สินะครับ คงคุ้นเคยกันดี
มันก็ดูจะแปลกอยู่เหมือนกันนะ เนื้อหาที่มีความรุนแรง โป๊เปลือย หรือละเมิดลิขสิทธิ์นี่ ไม่รีรอเลยที่จะบล็อคหรือลบ กลับกัน พอเป็นเนื้อหาที่ไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขข้างต้น แต่ส่งผลที่ร้ายแรงเหมือนกันหรืออาจจะมากกว่า กลับเพิกเฉยซะอย่างนั้น สงสัยจะกลายเป็นหุ่นยนต์ไปแล้วจริงๆ
ไร้จริยธรรมมาก ๆ ต้องรอให้มีคนตายเป็นร้อยหรือแย่หน่อยเกิดสงครามระหว่างประเทศก่อนหรือไงถึงจะยอมลบ
ระหว่างคนที่เอาปืนไปยิงคนอื่น, คนที่ทำหนังที่ไม่ถูกใจคนอื่น, คนให้บริการเผยแพร่หนัง
คนที่ไร้จริยธรรมคือคนสุดท้าย?
lewcpe.com, @wasonliw
+1 คุณ Lew ครับ ผมคิดว่าถ้าเราตีความว่าเขาดูถูกศาสนาเรา เราก็จะตัดสินว่าใครมีความผิด ก็คือคนที่สร้างหนังนั่นละครับ ส่วนคนที่อัพลง Youtube อาจมีหน้าที่แค่โฆษณาตามหน้าที่ ส่วนผู้ให้บริการ Video Online ก็แค่ให้บริการ Video Online เป็นวิธีการหารายได้ตามธุรกิจของเขา คนยิ่งเข้าเยอะก็ยิ่งดี ถ้าถามความไม่เหมาะสม ก็คงต้องว่ากันตามกฏหมายละครับ
โลกเราไม่ได้สวยงามอย่างที่หลายคนคิด
คนสร้างคือคนผิดนะครับไม่ใช่ผู้บริการ ^_^"
เริ่มต้นคนที่ทำหนังผิด คนเผยแพร่ผิดน้อยสุด แต่ที่ผิดสุดคือคนที่ไปยิงคนอื่นครับ
แต่ทั้งหมด ก็อยู่ในส่วนของการไร้จริยธรรมไม่ใช่หรือ? หากจะทำให้คนตาย ดาบที่ 1 ดาบที่ 2 หรือ ดาบที่ 3 มันต่างกันตรงไหน ตอนนี้ประเด็นน่าจะอยู่ที่ "ชีวิต" คน มากกว่าที่จะมองว่า ใครคือคนที่ผิดมากที่สุดนะครับ
ร้านค้าที่ขายไม้ขีดไฟ ขายน้ำมัน ก็เป็นคนผิดด้วยใช่มั้ยครับ?
เพราะมันถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือฆ่าคนตาย?
ผมว่าคุณกำลังสับสน ระหว่างผู้กระทำ กับเครื่องมือรึเปล่าครับ?
มีดเป็นอาวุธฆ่าคนตายได้เราควรจะยกเลิกการขายมีด?
เลิกผลิตมีดนี่ หมงหมู ผ่งผัก ไม่ต้องกินมันละ (╯°□°)╯︵ ┻━┻
Dream high, work hard.
ย่างมันทั้งตัวล่ะครับ ส่วนผักก็เด็ดเอา
คนทำหนังไม่ถูกใจก็แบนไม่ให้ฉายได้ ระงับไม่ให้ฉายได้ คนดูแค่กลุ่มหนึ่ง แต่คนให้บริการเผยแพร่มันเข้าถึงทั่วทั้งโลกนะครับ เหมือนกับเป็นการยุยงหรือส่งเสริมให้เกิดภาพลบต่อคนที่เขาเคารพนับถือได้ วันก่อนดูเนชั่นสัมภาษณ์ผู้รอบรู้มุสลิมในประเทศไทยแล้วมีแนวโน้มว่าเหตุการณ์จะรุนแรงกว่านี้มาก ทำให้เข้าใจว่าทำไมถึงเผาสถานฑูตและฆ่าเจ้าหน้าที่ มันมีเรื่องราวที่อ่อนไหวมาก ถ้ามัวยึดแต่กฏหมายจนขาดจริยธรรมมันก็ไม่เป็นผลอันดีต่อโลกหรอกครับ
ลองไปดูคลิปที่มีปัญหาแล้วจะรู้ว่าทำไมถึงเกิดการรุกฮือขนาดนี้ อิสระเสรีประเทศตัวเองแต่ไปเหยียดหยามประเทศอื่น บอกตรงๆ ว่า "สมควรแล้ว"
เขาก็แบนในหลายประเทศแล้วนี่ครับ?
ผมไม่สามารถเข้าใจคนที่เอาปืนไล่ยิงคนอื่นจากการแสดงความเห็น (ไม่ว่าจะน่ารังเกียจแค่ไหน) ได้ครับ
lewcpe.com, @wasonliw
ใช่ครับ ตรงตามหลักศาสนาอิสลามครับ มีหะดีษเขียนไว้ชัดเจนว่าการขับไล่คนที่ปฏิเสธสัจธรรมอิสลามเป็นเรื่องถูกต้อง
แล้วคุณคิดจริงๆหรือครับว่ามันถูกต้อง?
การที่บุคคลอื่นปฏิเสธความเชื่อของเราแล้วไปขับไล่หรือเข่นฆ่าเค้า มันก็ไม่ถูกต้องตั้งแต่แรกแล้วครับ ไม่ว่าจะเขียนจากใคร หนังสือเล่มไหน
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เช่น กรณีของไทยกูเกิ้ลก็ไม่ได้ลบนะครับ คลิปหมิ่นแบบว่ารุนแรงมาก คลิปปลุกระดมไปฆ่ากันเค้าก็ไม่ได้ลบ แค่ปิดกั้นตามที่ประเทศแต่ละประเทศร้องขอเพราะว่าผิดกฏหมาย งง ที่ว่าตอนกรณีบ้านเรามันก็เป็นชนวนเหตุให้คนฆ่ากันตีกันตายเหมือนกัน แต่ทำไมหลายๆคนกลับมองว่าไม่ควรปิดกันสื่ออิสระ ไม่รู้สิผมว่ากูเกิ้ลเค้าก็ทำถูกแล้วนะครับ บล็อคไม่ให้ประเทศที่เค้ารับไม่ได้ดูจากการร้องขอของประเทศนั้นๆ เพราะโลกนี้แตกต่างกัน อยู่ๆบางประเทศบอกว่าชิชูกะอาบน้ำมันโป๊ ผิดกฏหมายประเทศเค้า บอกว่ากูเกิ้ลไปลบซะก็ไม่ใช่นะ เค้ายืนจุดยืนของเค้า ไม่มีกูเกิ้ลที่อั๊บวีดีโอยังมีอีกเยอะครับ ผมว่าคนปลุกระดมต่างหากที่ผิด การต่อต้านไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรง บอยคอตหรืออะไรอย่างอื่นที่มันไม่ต้องฆ่าแกงกันมีมากมายทางเลือกเยอะแยะ ถ้าคนนับถือศาสนามุสลิมยังยึดติดกับตัวบุคคลที่ปลุกปั่นความรุนแรงมากกว่าหลักคำสอนอันดีงาม ก็เลี่ยงยากที่คนในศาสนาอื่นจะมองว่าชาวมุสลิมเค้าหัวรุนแรง
ช่วงนี้มีแต่ข่าวไม่ดีของกูเกิลแฮะ
แล้วถ้า youtube ลบไปแล้ว จะไม่มีใคร upload เข้าไปไหม่เหรอ
ทำไมไม่ไปจับคน upload แล้วยืดของกลาง สั่งให้ลบออกด้วยตัวเอง
เป็นไปไม่ได้หรอกครับที่จะทำแบบนั้น คนทำคลิปแรกคงจัดการได้แต่คนอื่นๆยากนะ ผมเชื่อว่ากูเกิ้ลมีระบบที่จะตัดคลิปเดียวกันที่ถูกอัพซ้ำๆได้ ผมเคยทำวีดีโอที่มีเพลงของ westlife อยู่บางท่อน อัพได้นะครับ แต่คนอื่นดูไม่ได้ คือบล็อกอัตโนมัติครับ
ยึดตัวหนังสือมากไปหรือเปล่า
เหตุการณ์แบบนี้เคยเกินกับบ้านเมืองเราด้วย Google ก็ปฎิบัติเช่นเดียวกัน และหวังว่าคงไม่เลือกปฎิบัติ
กรณีคลิปในบ้านเราก็มีหลายๆคนอยากให้ลบแต่พี่แกไม่ลบ ก็เกรงว่าพวกเค้าจะไม่เอาเก้าอี้ฟาดหรอกนะฮะ
ลดความขัดแย้งเท่าที่ทำได้ ลบเถอะ
คนที่อัพขึ้นมา ลบเองไม่ได้หรอครับ ถ้าได้ทำไหมถึงมาเรียกร้องกับกูเกิลไม่ไปเรียกร้องให้คนอัพคลิปลบล่ะครับ - -
ถ้ามีปัญหาตามมาล่ะก็จะไม่แปลกใจ
คนที่เรียกร้องให้ลบ มันก็ไม่ต่างจากที่คนเรียกร้องให้block web censorหนังโดยไม่ผ่านกระบวนการทางกฎหมายนั่นแหละครับ
คำถามคือผมเห็นชาวITหลายคน ต่อต้านการblock web แต่ดันสนับสนุนให้ youtube ลบคลิปที่หมิ่นเหม่หรือไม่ถูกใจตัวเอง?!?!
อันที่จริง กฎของyoutube มันก็ชัดเจนว่าห้ามเรื่อง racism หรือ discrimination รวมไปถึง hate speech ซึ่งถือว่าครอบคลุมมากกว่ากฎหมายในบางประเทศเสียอีก
น่าสนใจว่าคลิปนี้ มันไม่ผิดกฎหมายเลยหรือ? ถ้ามัน"ละเมิด"มากจริง แล้วทำไมไม่มีคนฟ้องร้องตามกระบวนการปกติสักที นอกจากจะใช้เป็นชนวนความขัดแย้งเพื่อปลุกระดม?
กลายเป็นคนที่ปลุกระดม อาจจะไม่อยากให้ลบคลิปเสียเอง?
+1
like
+10
+1
ผมกลับเห็นด้วยในการที่ไม่ลบคลิปนะครับ มันอยู่ในกฏเกณฑ์และกฏหมาย ผมคิดว่าเนื่องจากไม่ขัดต่อกฏต่างๆที่ตั้งขึ้น ก็จะไม่มีข้อกังขาใดๆ ที่สมควรจะทำการลบคลิปดังกล่าว หากเป็นเช่นนี้จริง ทาง YouTube มีความเป็นกลางอย่างมาก ไม่ใช่ซึ่งเขาไร้จริยธรรมใดๆ แต่เพื่อรักษากฏ แล้วเพื่อให้คนทำตามกฏนั้น แต่ถ้าทำการลบคลิปซึ่งไม่ขัดต่อกฏหมายหรือกฏเกณฑ์ใดๆ แล้วอ้างว่ากฏตั้งโดยมนุษย์ ก็สามารถลบโดยมนุษย์ได้นั้น ก็จะเกิดปัณหาตามมาที่ว่ากฏหลายๆกฏ ที่สมควรมีแต่ขัดต่อหลักมโนสำนึกของนมนุษย์ก็คงต้องปรับเปลี่ยนหรือยุติหน้าที่ของกฏนั้นไป กรณีที่เกิดขึ้น ทำเนียบขาวใช้การขอร้อง แต่ไม่มีอำนาจเนื่องจากยังไม่เป็นคดีความนั้น ก็เห็นสำควรที่ YouTube สำควรปฏิเสธ เพื่อรักษาฏอันดีที่ทุกคนยอมรับต่อไป
กฏแต่ล่ะที่เหมือนกัน ????
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ไม่จำเป็นต้องถูกต้องหรือมีเหตุผลเสมอไป
YouTube ที่ไม่ได้เป็นคนทำคลิป แต่ถ้าบังเอิญมีคนคิดบ้าๆ โกรธ Google ว่าปล่อยให้เผยแพร่หนังสั้นเรื่องนี้อยู่ได้ แล้วตั้งค่าหัวผู้บริหาร YouTube
อยากรู้จริงๆ ว่า YouTube จะลบหนังสั้นเรื่องนี้หรือเปล่า
ซึ่งเหตุการณ์ตั้งค่าหัวนี้เคยเกิดขึ้นแล้วจริงๆ ตั้งค่าหัวทอง 100 โล
ซึ่งที่ผมสงสัยแบบนี้ก็เพราะว่าการมีอยู่ของหนังสั้นเรื่องนี้ทำให้เกิดการประท้วงและเท่าที่รู้มีเฉพาะคนอเมริกันตายไปแล้วอย่างน้อย 3 คน
และตามมุมมองของชาวบ้านอย่างผม ผมแยกไม่ออกว่าหนังสั้นเรื่องนี้ต่างกับ hate speech อย่างไร
อย่าลืมลบ MV ของ Justin Bieber นะ xD
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยนะครับ
เยี่ยมมาก
คลิปนี้วิเคราะห์ยากแฮะเพราะทำออกมาแนวหนังตลกล้อเลียนที่เหมือนจะ racism กลาย ๆ คงต้องลองพิจารณาดูอย่างถี่ถ้วนว่าคลิปนี้เข่าข่ายผิดกฎหมายหรือล่วงละเมิดผู้อื่นหรือไม่ ถ้าผิดก็ลบว่ากันไปตามผิดถ้าถูกก็ปล่อยเอาไว้ต่อไป
That is the way things are.
คนสร้างแค่คนเดียว แต่ทำไมต้องไปเล่นงานสถานฑูต
ถ้าลบไป คนทั่วโลกก็จะไม่ได้ดู ไม่ได้ช่วยตัดสิน
คืมมันมีคนตายเพราะความขัดแย้ง และกำลังขยายเพิ่มขึ้น เอาตามกฏ ตายเพิ่มอีก 100 หรือ 1,000 คนก็ได้มั้งครับ ถ้าคิดว่ากฏมันสำคัญกว่าสงคราม
ควรส่งมาดูงานที่ไทยนะ เจ้าแห่งการปิดกั้น
3 x 8 = ?????
เอี๋ยนหุยใฝ่ศึกษา มีคุณธรรมงดงาม เป็นศิษย์รักของขงจื้อ
มีอยู่วันหนึ่ง เอี๋ยนหุยออกไปทำธุระที่ตลาด เห็นผู้คนจำนวนมากห้อมล้อมอยู่ที่หน้าร้านขายผ้า
จึงเข้าไปสอบถามดู จึงรู้ว่าเกิดการพิพาทระหว่างคนขายผ้ากับลูกค้า
ได้ยินลุกค้าตะโกนเสียงดังโหวกเหวกว่า “3x8 ได้ 23 ทำไมท่านถึงให้ข้าจ่าย 24 เหรียญล่ะ! ”
เอี๋ยนหุยจึงเดินเข้าไปที่ร้าน หลังจากทำความเคารพแล้ว ก็กล่าวว่า “ พี่ชาย 3x8 ได้ 24 จะเป็น 23 ได้ยังไง ?
พี่ชายคิดผิดแล้ว ไม่ต้องทะเลาะกันหรอก ”
คนซื้อผ้าไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ชี้หน้าเอี๋ยนหุยและกล่าวว่า
“ ใครให้เจ้าเข้ามายุ่ง! เจ้าอายุเท่าไหร่กัน! จะตัดสินก็มีเพียงท่านขงจื้อเท่านั้น
ผิดหรือถูกมีท่านผู้เดียวที่ข้าจะยอมรับ
ไป ไปหาท่านขงจื้อกัน ”
เอี่ยนหุยกล่าวว่า “ ก็ดี หากท่านขงจื้อบอกว่าท่านผิด ท่านจะทำอย่างไร ?”
คนซื้อผ้ากล่าวว่า “ หากท่านวินิจฉัยว่าข้าผิด ข้ายอมให้หัวหลุดจากบ่า! แล้วหากเจ้าผิดล่ะ ?”
เอี๋ยนหุยกล่าวว่า “ หากท่านวินิจฉัยว่าข้าผิด ข้ายอมถูกปลดหมวก(ตำแหน่ง) ”
ทั้งสองจึงเกิดการเดิมพันขึ้น
เมื่อขงจื้อสอบถามจนเกิดความกระจ่าง ก็ยิ้มให้กับเอี๋ยนหุยและกล่าวว่า
“3x8 ได้ 23 ถูกต้องแล้วเอี๋ยนหุย เธอแพ้แล้ว ถอดหมวกของเธอให้พี่ชายท่านนี้เสีย ”
เอี๋ยนหุย ไม่โต้แย้ง ยอมรับในการวินิจฉัยของท่านอาจารย์ จึงถอดหมวกที่สวมให้แก่ชายคนนั้น
ชายผู้นั้นเมื่อได้รับหมวกก็ยิ้มสมหวังกลับไป
ต่อคำวินิจฉัยของขงจื้อ ต่อหน้าแม้เอี๋ยนหุยจะยอมรับ แต่ในใจกลับไม่ได้คิดเช่นนั้น
เอี๋ยนหุยคิดว่าท่านอาจารย์ชรามากแล้ว ความคิดคงเลอะเลือน
จึงไม่อยากอยู่ศึกษากับขงจื้ออีกต่อไป
พอรุ่งขึ้น เอี๋ยนหุยจึงเข้าไปขอลาอาจารย์กลับบ้าน
ด้วยเหตุผลที่ว่าที่บ้านเกิดเรื่องราว ต้องรีบกลับไปจัดการ
ขงจื้อรู้ว่าเอี๋ยนหุยคิดอะไรอยู่ ก็ไม่ได้สอบถามมากความ
อนุญาตให้เอี๋ยนหุยกลับบ้านได้
ก่อนที่เอี๋ยนหุยจะออกเดินทาง ได้เข้าไปกราบลาขงจื้อ
ขงจื้อกล่าวอวยพรและให้รีบกลับมาหากเสร็จกิจธุระแล้ว
พร้อมกันนั้นก็ได้กำชับว่า “ อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่ อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง ”
เอี๋ยนหุยคำนับพร้อมกล่าวว่า “ ศิษย์จะจำใส่ใจ ” แล้วลาอาจารย์ออกเดินทาง
เมื่อออกเดินทางไปได้ระยะหนึ่ง เกิดพายุลมแรงสายฟ้าแลบแปลบ
เอี๋ยนหุยคิดว่าต้องเกิดพายุลมฝนเป็นแน่
จึงเร่งฝีเท้าเพื่อจะเข้าไปอาศัยอยู่ไต้ต้นไม้ใหญ่
แต่ก็ฉุกคิดถึงคำกำชับของท่านอาจารย์ที่ว่า “ อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่ อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง ”
เราเองก็ติดตามท่านอาจารย์มาเป็นเวลานาน ลองเชื่ออาจารย์ดูอีกสักครั้ง
คิดได้ดังนั้น จึงเดินออกจากต้นไม้ใหญ่
ในขณะที่เอี๋ยนหุยเดินไปได้ไม่ไกลนัก บัดดล สายฟ้าก็ผ่าต้นไม้ใหญ่นั้นล้มลงมา
ให้เห็นต่อหน้าต่อตา เอี๋ยนหุยตะลึงพรึงเพริด
คำกล่าวของพระอาจารย์ประโยคแรกเป็นจริงแล้ว หรือตัวเราจะฆ่าใครโดยไม่รู้สาเหตุ ?
เอี๋ยนหุยจึงรีบเดินทางกลับ กว่าจะถึงบ้านก็ดึกแล้ว แต่ไม่กล้าปลุกคนในบ้าน
เลยใช้ดาบที่นำติดตัวมาค่อยๆเดาะดาลประตูห้องของภรรยา
เมื่อเอี๋ยนหุยคลำไปที่เตียงนอน ก็ต้องตกใจ ทำไมมีคนนอนอยู่บนเตียงสองคน!
เอี๋ยนหุยโมโหเป็นอย่างยิ่ง จึงหยิบดาบขึ้นมาหมายปลิดชีพผู้ที่นอนอยู่บนเตียง
เสียงกำชับของอาจารย์ก็ดังขึ้นมา “ อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง ”
เมื่อเขาจุดตะเกียง จึงได้เห็นว่า คนหนึ่งคือภรรยา อีกคนหนึ่งคือน้องสาวของเขาเอง
พอฟ้าส่าง เอี๋ยนหุยก็รีบกลับสำนัก เมื่อพบหน้าขงจื้อจึงรีบคุกเข่ากราบอาจารย์และกล่าวว่า
“ ท่านอาจารย์ คำกำชับของท่านได้ช่วยชีวิตของศิษย์ ภรรยาและน้องสาวไว้
ทำไมท่านจึงรู้เหมือนตาเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับศิษย์บ้าง ?” ขงจื้อพยุงเอี๋ยนหุยให้ลุกขึ้น
และกล่าวว่า “ เมื่อวานอากาศไม่ค่อยสู้ดีนัก น่าจะมีฟ้าร้องฟ้าแลบเป็นแน่
จึงเตือนเธอว่า อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่ และเมื่อวาน เธอจากไปด้วยโทสะ
แถมยังพกดาบติดตัวไปด้วย อาจารย์จึ้งเตือนเธอว่า อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง ”
เอี๋ยนหุยโค้งคำนับ “ ท่านอาจารย์คาดการดังเทวดา ศิษย์รู้สึกเคารพเลื่อมใสท่านเหลือเกิน ”
ขงจื้อจึงตักเดือนเอี๋ยนหุยว่า “ อาจารย์ว่าที่เธอขอลากลับบ้านนั้นเป็นการโกหก
ที่จริงแล้วเธอคิดว่าอาจารย์แก่แล้ว ความคิดเลอะเลือน
ไม่อยากศึกษากับอาจารย์อีกแล้ว เธอลองคิดดูสิ อาจารย์บอกว่า 3x8 ได้ 23 เธอแพ้ ก็เพียงแค่ถอดหมวก
หากอาจารย์บอกว่า 3x8 ได้ 24 เขาแพ้ นั่นหมายถึงชีวิตของคนๆหนึ่ง เธอคิดว่าหมวกหรือชีวิตสำคัญล่ะ ? ”
เอี๋ยนหุยกระจ่างในฉับพลัน คุกเข่าต่อหน้าขงจื้อ แล้วกล่าวว่า
“ ท่านอาจารย์เห็นคุณธรรมเป็นสำคัญ โดยไม่เห็นแก่เรื่องถูกผิดเล็กๆน้อยๆ
ศิษย์คิดว่าอาจารย์แก่ชราจึงเลอะเลือน ศิษย์เสียใจเป็นที่สุด ”
จากนั้นเป็นต้นไป ไม่ว่าขงจื้อจะเดินทางไปยังแห่งหนตำบลใด เอี๋ยนหุยติดตามไม่เคยห่างกาย
จากตำนานเรื่องเล่านี้ ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงเพลงๆหนึ่งของอิวเค่อหลี่หลิน(นักร้องดูโอของไต้หวัน)
ที่ร้องว่า “ หากสูญเสียเธอไป ต่อให้เอาชนะทั้งโลกได้แล้วจะยังไง ? เช่นกัน
บางครั้งคุณอาจเอาชนะคนอื่นด้วยเหตุผลของคุณ แต่อาจจะสูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดไป ”
เรื่องราวต่างๆ แบ่งเป็นหนักเบารีบช้า อย่าเป็นเพราะต้องการเอาชนะให้ได้
แล้วทำให้เสียใจไปตลอดชีวิต
เรื่องราวมากมายที่ไม่ควรทะเลาะกัน ถอยหนึ่งก้าว ทะเลกว้างฟ้างาม
ทะเลาะกับลูกค้า ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี ( วันที่ส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ใหม่ คุณก็จะรู้สึก)
ทะเลาะกับเถ้าแก่ ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี ( วันที่ตรวจผลงานปลายปีมาถึง คุณก็จะรู้สึก)
ทะเลาะกับภรรยา ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี ( เธอไม่สนใจคุณ คุณก็หากับข้าวกินเองละกัน)
ทะเลาะกับเพื่อน ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี ( เคลียร์ไม่ได้ คุณอาจจะเสียเพื่อนไปเลย)
ล้ำลึก แต่วิธีคิดแบบฝรั่งตะวันตก คงมองไม่เหมือนตะวันออก
+1000 แต่ลบ -1 เป็น +999 หน่อยน่ะครับ ผมเด็กแมนยูน่ะครับ .. ^^"
+1
เป็นเรื่องราวสอนใจที่ยอดเยี่ยมมากครับ สมกับเป็นขงจื๊ออย่างแท้จริง
That is the way things are.
ขอโทษนะครับ ผมเห็นหลายคนชอบยกตัวอย่างนี้มาใช้หลายครั้งแล้ว ซาบซึ้งกันมากมาย มีใครเคยอ่านแล้วลองตั้งคำถามบ้างมั๊ยครับ?
ผมอยากบอกตรงๆว่า นิทานก็คือนิทาน นิทานกับชีวิตจริงมันเอามาเปรียบเทียบง่ายๆแบบนั้นไม่ได้ครับ
ในเรื่องนี้บอกความพึงใจและประโยชน์ของ ขงเบ้ง เอี้ยนหุย และ คนซื้อผ้า มีใครคิดถึง การเสียผลประโยชน์ของพ่อค้าร้านผ้าบ้างมั๊ยครับ?
พ่อค้าคนนี้ (และอาจจะอีกหลายๆคน) จะต้องถูกเอาเปรียบแบบนี้ไปตลอดใช่หรือไม่ เพราะ ขงเบ้งเป็นคนตัดสินแล้วว่า 8*3 = 23 ดังนั้นต่อไปทุกคนต้องยึดมั่นตามนี้?
คุณแน่ใจได้อย่างไรว่า ลูกค้าร้านผ้าคนนี้ ไม่ได้คิดตระเตรียมการณ์ ไว้แล้วว่าขงเบ้งจะต้องเห็นแก่ชีวิตมากกว่าจึงใช้ชีวิตเป็นเดิมพันเพื่อให้ตัวเองเอาเปรียบพ่อค้าผ้าและเอี๋ยนหุยได้?
ขงเบ้งยินดีที่จะละเมิดกฎเพื่อความพึงพอใจส่วนตัวว่าได้ช่วยชีวิตคนเพราะขงเบ้งไม่ใช่คนเสียผลประโยชน์ ขงเบ้งมีบอกบ้างมั๊ยยินดีจะชดใช้การเสียผลประโยชน์ของพ่อค้าร้านผ้า?
พ่อค้าร้านผ้าไม่ต้องกินต้องใช้? พ่อค้าร้านผ้าทำงานสุจริตสมควรถูกเอาเปรียบ?
ผมคุ้นๆว่าเคยอ่านเรื่อง การเอาเปรียบระบบ คุณไม่สามารถใช้หลักสมมุติว่าโดยพื้นทุกคนเป็นคนดีได้ หากมีช่องโหว่หรือ เงื่อนไขที่ทำให้สามารถเอาเปรียบระบบได้ ก็จะมีคนพยายามเอาเปรียบระบบอยู่เสมอไปนี่ล่ะครับ ก็เหมือนกับความวุ่นวายภายในประเทศปัจจุบัน การคอรัปชัน และ การล็อกสเป็คโปรเจ็คราชการนี่ล่ะครับ ถ้ามันมีช่องโหว่ก็จะมีคนคอยเอาเปรียบอยู่ร่ำไปเรื่อยๆ จนวันนึงทั้งระบบก็จะพังทลายลงมาเอง
ขงจื้อ ...
That is the way things are.
ขออภัยครับ สับสนนิดหน่อย
แต่นี่ก็ไม่ได้ทำให้ประเด็นคำถามตกหายไปนะครับ
ส่วนตัวผมตอบได้ทุกข้อที่คุณถามนะครับ แต่ผมว่ามันไม่มีประโยชน์
That is the way things are.
ถ้าตอบได้ก็ตอบเลยครับ
อย่าทำแบบขงจื๊อในเรื่องนี้ครับ มันไม่มีประโยชน์ต่อคนอื่นๆ ทำให้เกิดคำถามและความไม่น่าเชื่อถือในการกระทำ ว่าคิดแค่ผลระยะสั้นหวังแก้ผ้าเอาหน้ารอด หรือ อยากแก้ปัญหาจริงๆ
ส่วนตัวผมว่าคุณตอบไม่ได้ -> post or it didn't happen.
บางทีด้วยมาตรฐานเดียวกันถ้าใช้เหตุผลแบบคลุมเคลือยังงั้นเราคงต้องลบ คลิปนี้ ตามไปด้วย เพราะมันกระทบถึงความเชื่อ ความศรัทธาของประชาชนทั้งประเทศของเค้า
ผมไม่แปลกใจเลยที่รัฐบาลสหรัฐ(ที่เป็นผู้เสียหายหลัก)จึงไม่บังคับให้ลบ
ถ้าผมตอบคุณไปผมจะได้ประโยชน์อะไรครับ?
ผมเถียงกับคุณมาหลายครั้งหลายหน ผมไม่เคยเห็นคุณยอมรับเหตุผลของผมเวลาเถียงแพ้เลย ครั้งล่าสุดคุณบอกว่าสําหรับคนบางคนต้องให้ออกจากโลก design ก่อนจึงจะคิดด้วยตรรกะได้ ผมแย้งกลับไปว่าคิดแบบนี้ผิดตรรกะเพราะการออกหรือเข้าสู่วงการ design ไม่เกี่ยวกับความสามารถในการคิดเชิงตรรกะของบุคคล ผมก็ไม่เห็นคุณออกมายอมรับว่าคุณคิดผิดแต่อย่างใด ไม่รู้ว่าคุณยังจําสิ่งที่ตัวเองพิมพ์เอาไว้ได้อยู่หรือเปล่า หากจําไม่ได้ผมยินดีหา link มาแปะให้ดู
คนบางประเภทที่นิสัยดื้อรั้นจนเกินตัว ชอบดูถูกคนอื่น ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะมีประโยชน์อะไรที่ผมจะไปชี้แจงอธิบายอะไรให้กับคนประเภทนี้ฟัง
คุณจะคิดว่าคุณถูก คุณจะคิดว่าผมตอบไม่ได้ คุณจะอยู่แต่ในโลกของคุณก็แล้วแต่คุณนะ ผมไม่รู้สึกรู้สาอะไร สําหรับคนแบบคุณส่วนตัวแล้วผมไม่ชอบเท่าไรนัก ผมปล่อยวางไปน่าจะดีกว่า
ปล. ผมจะใบ้ให้หน่อยแล้วกัน คําถามของคุณอ้างอิงจากสมมติฐานที่ไม่มีอยู่ในเรื่องเล่า ดังนั้นจึงแปลว่าการตอบคําถามเหล่านั้นก็สามารถอ้างอิงสมมติฐานนอกเหนือจากในเรื่องเล่าได้เช่นกัน อาทิเช่น ตรงไหนของเรื่องเล่าที่บอกว่าคนขายผ้าจะเชื่อฟังคําตัดสินของขงจื้อ? ตรงไหนที่บอกว่าคนซื้อผ้ากลับไปซื้อผ้าอีกครั้งโดยยืนยันว่าจะจ่าย 23 เหรียญ ?
That is the way things are.
เอา link มาแปะเลยครับ ผมนึกออกล่ะ ช่วงนั้นผมไปทำธุระ ถึงไม่ได้มาตอบไปพักนึง
คนบางประเภทที่นิสัยดื้อรั้นจนเกินตัว ชอบดูถูกคนอื่น ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะมีประโยชน์อะไรที่ผมจะไปชี้แจงอธิบายอะไรให้กับคนประเภทนี้ฟัง << ผมเห็นว่ามันคือสิ่งที่คุณทำนะครับ ผมไม่เห็นคุณเอาเหตุผลมาตอบเอาแต่บ่ายเบี่ยงไปเรื่อยๆ ผมก็ชี้แจงตรงๆตลอด
คุณจะคิดว่าคุณถูก คุณจะคิดว่าผมตอบไม่ได้ คุณจะอยู่แต่ในโลกของคุณก็แล้วแต่คุณนะ ผมไม่รู้สึกรู้สาอะไร สําหรับคนแบบคุณส่วนตัวแล้วผมไม่ชอบเท่าไรนัก ผมปล่อยวางไปน่าจะดีกว่า << ก็แล้วแต่คุณครับ จะไม่ใช้เหตุผลมาอ้างอิงยังไงก็แล้วแต่ ผมไม่สนใจเรื่องจับต้องไม่ได้อะไรแบบนี้ สำหรับผมไม่มีคำตอบก็คือตอบไม่ได้
ตรงไหนของเรื่องเล่าที่บอกว่าคนขายผ้าจะเชื่อฟังคําตัดสินของขงจื้อ? << แล้วการตัดสินแบบนี้ถือว่าแก้ปัญหาตรงไหนล่ะครับ? ถ้าไม่สามารถทำให้ทุกคนยอมรับได้? ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่เห็นต้องยกเรื่องนี้มาเปรียบเทียบเลยครับ ก็ให้ขงจื๊อแบบคุณบอกให้ยูทูปลบคลิปนี้ไป แล้วก็ให้ยูทูปไม่ต้องเชื่อฟังคำตัดสินของขงจื้อแบบคุณละกัน ก็จบครับ นิทานเรื่องนี้ไม่ได้ช่วยสอนอะไร ไม่มีคุณค่าใดๆให้สนใจเลย ไม่ได้มีประโยชน์หรือเกี่ยวข้องกับกรณียูทูปนี้แต่อย่างใด
ตรงไหนที่บอกว่าคนซื้อผ้ากลับไปซื้อผ้าอีกครั้งโดยยืนยันว่าจะจ่าย 23 เหรียญ ? << มันตรงกับที่ผมบอกเป๊ะๆเลย ว่าไม่มีใครสนใจผลในระยะยาว ในนิทาน คุณจะบอกว่าไม่ได้กลับไปอีกครั้งหรือคนซื้อผ้าโดนฟ้าผ่าตายยังไงก็ได้ แต่ในความจริงมันไม่เป็นแบบนั้นนี่ครับ ถ้าการแก้ปัญหามันทิ้งปัญหาในระยะยาว ผมเรียกว่าซุกไว้ใต้พรมครับ ช่วยให้เอาตัวรอดไปได้แค่สั้นๆ ผมว่าคุณไม่ได้อ่านแล้วทำความเข้าใจด้วยซ้ำว่า ประเด้นที่ผมย้ำคือมันเป้นแค่นิทานเอามาเปรียบเทียบกับความจริงไม่ได้
นอกจากสิ่งที่คุณสมมุติมาตอบจะอ่อนน้ำหนักมากๆ แล้วผมก็ไม่เห็นว่ามันจะตอบครบทุกข้อตรงไหนเลยด้วย
คุณได้เคยลองคิดถึงความเป็นไปได้ที่ว่าผมตอบทุกอย่างไปตามตรงแล้ว แต่ด้วยปัญญาของคุณนั้นทำให้คุณเองไม่เข้าใจสิ่งที่ผมตอบไปบ้างหรือเปล่าครับ ? ต่อให้อาจารย์ที่เก่งแค่ไหนก็ไม่สามารถอธิบายบทเรียนให้เด็กนักเรียนเข้าใจจนสอบได้คะแนนดีทุกคนไปได้
คุณไม่เข้าใจสถานการณ์ในเรื่องเล่า ไม่รู้จักการหยิบหยกข้อคิดมาเปรียบเทียบกับการดำเนินชีวิต ก็ออกมาโวยวายบอกว่ามันเป็นแค่นิทานที่ไม่สามารถนำมาใช้กับชีวิตจริงได้
ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจทฤษฎีสัมพัทธภาพฉันใด ก็คงไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าใจเรื่องเล่านี้ฉันนั้น แม้ว่าเรื่องเล่านี้มันจะไม่ได้เข้าใจยากขนาดนั้นก็ตาม
บัวมี 4 เหล่าอยากอยู่เหล่าไหนก็อยู่ อยากคิดว่าคนอื่นอยู่เหล่าไหนก็คิดไปครับ คงไม่มีใครสามารถไปห้ามความคิดคุณได้
ปล. ถ้าตอนนี้ไม่ติดธุระแล้วจะลองไปตอบเรื่องนี้ก็ได้ครับ
That is the way things are.
ลงท้ายคุณก็เหมือนเดิม คือไม่มีเหตุผลที่จะตอบได้ก็ต้องใช้วิธีด่าโง่บ้าง ด่าว่าเป็นสัตว์บ้าง เพราะคุณตอบไม่ได้ก็เท่านั้น วิธีนี้มันดูดีมีเหตุผลตรงไหนครับ คุณถึงพยายามใช้วิธีนี้สร้างภาพลักษณ์แบบนี้ให้กับตัวเองเสมอๆมา จะไปฟ้องครูอังคณาก็ได้นะครับเข้ากับนิสัยคุณดี
ไอ้เรื่องบัวสี่เหล่านี่ก็เหมือนกัน มันก็เป็นแค่เรื่องสมมุติขึ้นมา เพราะในความเป็นจริง คนที่สมองปกติทำความเข้าใจได้อยู่แล้วถ้ามีเวลามากพอกับความสามารถของคนนั้น สุดท้ายคุณก็ต้องหนีไปซุกในโลกสมมุติโลกนิทานอีกเหมือนเดิม
คุณจะท้าให้คนนอกมาอ่านให้เจ้านายคุณมาอ่านอีกก็ได้ครับ ใครๆก็ตัดสินใจได้ไม่ยากครับ คนที่อวดอ้างว่าตัวเองเก่งจนคนอื่นไม่เข้าใจ แล้วบ่ายเบี่ยงเลี่ยงคำถาม ไปจับผิดประเด็นยิบย่อยว่า พิมพ์ชื่อผิด หรือหยั่งเชิงคำตอบแล้วรู้ตัวว่าพลาดเสียแล้วจึงต้องโวยวายว่าคนอื่นโง่จนไม่เข้าใจตัวเอง ก็คือพวกขี้โม้ยกหางตัวเองเท่านั้นแหละครับ
ในหัวเรื่องที่ผมเขียนเรื่องคำถามทั้งหมดนั้นก็บอกแต่แรกแล้วว่า มันเป็นได้แค่นิทานเพราะไม่เข้ากับความจริง คุณก็แค่อยากจะเอาชนะผมดันทุรังอวดอ้างว่าตอบได้ทุกข้อ แล้วก็วกกลับไปโลกของนิทานอีกรอบ แถมตอบไม่ได้สักข้อเลยด้วย ทำเป็นบอกใบ้ ทั้งที่จริงตอบไม่ได้ก็แค่นั้น ผมว่าผมเข้าใจแล้วล่ะว่าคำด่าของคุณเรื่องอวดอ้าง คิดว่าตัวเองถูกตลอดมาจากไหน คุณถึงมีแต่คำด่าแต่ไม่มีคำตอบสักที
ทฤษฎีสัมพัทธภาพอยู่บนฐานความจริงที่มีเหตุผลรองรับครับ ไม่ใช่อยู่ในนิทานที่ไม่มีเหตุผลรองรับแบบนี้ ถ้าไม่เคยเรียนทฤษฎีสัมพัทธภาพจริงๆอย่าเอามาอ้างครับ พวกไม่รู้จริงที่เอามาอ้างแบบคุณเยอะเกินไปแล้ว เรียนมายังไงครับถึงเอามาอ้างแบบนี้ ไม่เข้าใจก็อย่าเอามายกตัวอย่างส่งเดชครับ ไม่ได้ใกล้เคียงเลยแม้แต่นิดเดียว
ผมไปตอบอันเดิมแล้วนะครับ ผมไม่เคยหนีครับ
ส่วนตัวผมพูดจริง ๆ นะครับว่าค่อนข้างแปลกใจกับความคิดของคุณมาก
การที่คน ๆ หนึ่งเลือกที่จะไม่พูดคุณกลับมองว่าคน ๆ นั้นพูดไม่ได้ สำหรับคุณทุกอย่างบนโลกคงเป็นแบบไม่ 1 ก็ 0 ไปเสียหมด
คนอื่นตอบไปดีแค่ไหนหากเพียงคุณไม่เข้าใจในคำตอบนั้นคุณก็จะบอกว่าคำตอบนั้นผิด เชื่อถือไม่ได้ ตอบไม่ตรงคำถาม ตอบผิดประเด็น ตอบเลี่ยงไปเลี่ยงมา เขาตอบไปอย่างหนึ่งคุณไม่อยากยอมรับก็ถามกลับไปอีกประเด็นหนึ่ง วนเวียนไม่รู้จบ สรุปว่าไม่ว่าอย่างไรแล้วคงมีแต่คำตอบในแบบของคุณเท่านั้นที่คุณเชื่อว่าถูกต้อง
พูดกับคนประเภทนี้ไปก็ไม่ได้อะไร ผมตอบไปคุณก็ไม่เข้าใจ ผมตอบไปผมได้ประโยชน์อะไร ผมถามแบบนี้ไปแต่แรกอยู่ในบรรทัดแรกคุณยังไม่กล้าตอบเลย ดีแต่ท้าให้คนอื่นตอบคำถามของคุณ พอคนอื่นตอบให้คุณเข้าใจไม่ได้ก็หาว่าคำตอบคนอื่นผิด
That is the way things are.
รู้สึกเหมือนกันครับ แว๊บแรก แล้วพ่อค้าล่ะ !?
:: DigiKin8 ::
ถือว่าซืื้อ3ลดให้ 1 ก็ไม่น่ามีผลเสียหายเท่ากับ คนนึงตายนะครับ ถือว่าเป็นโปรโมชั่น กลับทำให้ยอดขายดีขึ้นด้วยนะครับ อันนี้ท่านขงจื้ออาจจะคิดไว้แล้วด้วย ^^
นี่ไม่ใช่เรื่องที่ขงจื๊อจะมีอำนาจมาตัดสินรึเปล่าครับ? เช่นนั้นแล้วทำไมไม่ประกาศให้ไปซื้อกับขงจื๊อด้วยแนวคิด 8*3=23 เสียเอง?
ถ้าคิดว่าชีวิตคนมีคุณค่า เช่นนั้นแล้วทำไมไม่ตัดสินว่า ไม่ให้เอาชีวิตคน แค่สั่งลูกศิษย์ตัวเอง โดยรักษาระบบเอาไว้?
ถ้าสถานการณ์เปลี่ยนจากเอี๋ยนหุยและลูกค้าร้านผ้าต่างก็เดิมพันด้วยชีวิตของตนจะทำยังไงครับ? สุดท้ายก็ต้องบังคับให้ยุติการเดิมพันชีวิตอยู่ดี นิทานตัวอย่างนี้มันก็ทำได้แค่ให้ซาบซึ้งในเรื่องสมมุติแต่ไม่สามารถนำไปใช้ได้จริง
หากคิดง่ายๆก็บอกง่ายๆว่า ซื้อ 24 ลดให้ 1 ถือเป็นโปรโมชัน
ลองคิดถึงผลกระทบที่จะตามมาในระยะยาวรึยังครับ?
ผมเปลี่ยนใหม่เป็น
ซื้อที่นา 8 แปลง แปลงละ 3 ไร่
ซื้อข้าว 8 คันรถ คันละ 3 เกวียน
ซื้อ 24 ล้าน ลดให้ ล้านนึง
ผมให้คุณขายที่ 24 ไร่ แต่คิดราคาแค่ 23 ไร่ละกัน
.....ฯลฯ
งั้นก็ถูกต้องแล้วล่ะครับ ที่ระบบราชการเราควรจะคอรัปชัน กินหัวคิว 1/24 ก็ประมาณ 4.2% จ่ายคืนให้รัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ราชการ สงสัยคงมีคนอ้างอิงท่านขงจื๊อในประเทศไทยกันมากไม่ใช่น้อย
การจะคิดแค่ผลระยะสั้นๆง่ายๆเพื่อความพึงพอใจมันง่ายดีครับ แต่การทำให้ระบบพังเสียหายในระยะยาวมันมีผลใหญ่เกินกว่าที่จะรับผิดชอบไหวรึเปล่าครับ?
นี่มันไม่ต่างอะไรกับเรื่อง 2+2=5 เลยนะครับ
+1 ให้กับ 2+2=5
ขงจื่อก็เป็นแค่คนธรรมดานะครับ ไม่ใช่เทพเทวดาอะไร ไ่ม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงได้ 8*3 ยังไงก็ต้องได้ 24
แม้ขงจื่อมีคนนับถือมากมาย แต่ไม่ใช่ว่าเขาพูดอะไรก็ต้องเชื่อ ทุกคนต้องรู้จักคิด พิจารณา กลั่นกรองด้วยตนเอง
ในสถานการณ์ที่เขายกตัวอย่างมา มีตัวละครแค่ 3 คน ลองคิดดูว่าถ้าคนนั้นต้องถูกตัดหัว ความรู้สึกของเอี้ยนหุยในภายหลังจะเป็นอย่างไร? และอีกอย่าง แม้ขงจื่อจะตัดสินผิด แต่ภายหลังคนผู้นั้นเขาจะไม่สามารถเรียนรู้จากผู้อื่นได้เลยหรือว่าสิ่งที่เขาเขาคิดมันผิด?
คุณลืมตัวละครคนที่ 4 ไปอีกแล้ว........ ผมเขียนไว้ในข้อที่ 1 ว่ามีใครคิดถึง พ่อค้าร้านผ้าหรือไม่?
ในเมื่อรู้แต่แรกแล้วว่า 8*3=23 และ การตัดหัวเพื่อการเดิมพัน ต่างก็ไม่ถูกต้อง ทำไมถึงไม่สอนสิ่งที่ถูกทั้งสองเรื่องไปแต่แรกเลยล่ะครับ?
ขงจื๊อยังห้ามเอี๋ยนหุยไม่ให้ฆ่าใครโดยไม่ชัดแจ้งได้เลย มีเหตุอันใดที่จะไม่สามารถห้ามไม่ให้ฆ่าคนเพียงเพราะการเดิมพันเฉยๆ ลูกค้าร้านผ้าก็จะนับถือในตัวเอี๋ยนหุยว่าไม่ถือโทษเอาชีวิต นับถือในตัวขงจื๊อที่มีเมตตา และไม่ผิดต่อพ่อค้าร้านผ้าด้วย
ไม่ลืมครับ ผมหมายถึงตอนที่เอี๋ยนหุยกับคนซื้อผ้าไปหาขงจื่อให้ตัดสินครับ มีแค่ 3 นะครับ คนขายผ้าไม่ได้ไปด้วย
แล้วจากคำพูดของคนซื้อผ้าที่ว่า "ใครให้เจ้าเข้ามายุ่ง! เจ้าอายุเท่าไหร่กัน! จะตัดสินก็มีเพียงท่านขงจื้อเท่านั้น"
แสดงว่าคนๆนี้เป็นคนมุทะลุ ดื้อด้าน ยโส ไม่ฟังใครนอกจากขงจื่อเท่านั้น
เมื่อขงจื่อต้องตัดสิน ถ้าว่าไปตามความถูกต้อง ผมเชื่อว่าคนซื้อผ้าคงไม่คัดค้านหรอกครับ เพราะเขาศรัทธาในขงจื่ออยู่แล้ว เพียงแต่ว่าคนซื้อผ้าก็ต้องมาตายด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง ขงจื่อมองเห็นแบบนั้นจึงได้ตัดสินผิดไป เพื่อรักษาชีวิตคนซื้อผ้าเอาไว้
แล้วที่คุณมองว่ามันไม่ถูกต้อง ผมเข้าใจครับ แต่ Background เรื่องนี้เกิดที่จีน ซึ่งคนจีนที่เรารับรู้กันจะเป็นคนที่รักษาคำพูดยิ่งกว่าชีิวิต สาบานหรือเดิมพันอะไรไว้ก็ต้องว่าไปตามนั้น ตรงนี้แหละมั้งที่เป็นจุดสำคัญในการตัดสินของขงจื่อ
ผมว่าคุณวิเคราะห์ได้มีเหตุผลดีนะ แต่สรุปแล้วคือจะอย่างไรก็ต้องเลือกระหว่าง ผิดคำสาบานเพื่อบทสรุปที่ดีกว่า หรือ ขงจื๊อกล่าวคำเท็จเพื่อบทสรุปที่ดีกว่า
จะให้ตัดสินว่าอันไหนดีกว่า มันก็ดูจะขึ้นกับมุมมองของใครมากกว่า ว่าคิดในเรื่องไหนบ้าง
แต่ผมเลือกอย่างแรกเพราะมันการันตีตอนจบว่าเอาไปต่อเรื่องใหม่ไม่ได้แค่นั้นแหละครับ จบแบบเคลียร์เงื่อนไข
(ก็คุณบอกว่าเค้าศรัทธาในขงจื้อมากนี่นา:)น่าจะสั่งสอนทั้งคุณค่าของชีวิตและคณิตศาสตร์ได้พร้อมกัน)
ไม่มีใครมาถามซักทีว่าเกี่ยวกับระบบยังไง
ผมขอทิ้งคำถามข้อสุดท้ายไว้ว่า
ถ้าคุณเจอเหตุการณ์นี้ด้วยตัวเอง คุณจะรู้ได้อย่างไรว่า ขงจื๊อในเหตุการณ์ของคุณ เป็นคนเห็นคุณค่าของชีวิต หรือเตี๊ยมกับลูกค้าร้านผ้าเพื่อแบ่งผลประโยชน์กัน?
แล้วถ้านำมาเปรียบเทียบในเหตุการณ์จริง ผู้บังคับใช้กฎหมาย ผู้พิพากษา สามารถตัดสินโดยให้เกิด ความคลางแคลงน่าสงสัยแบบนี้ได้หรือไม่?
ไม่มีใครรู้หรอกว่าถ้าขงจื๊อตอบว่า8x3 เป็น24 แล้วจะมีใครต้องเสียหัว.
คนนั้นอาจจะกลับคำก็ได้. หรือใช้วิธีปั้นรูปตัวขึ้นมาแล้วตัดหัวรูปปั้นก็ได้
หรือแต่งเรื่องว่าคนนั้นจะตัดหัวตัวเองแต่ขงจื้อห้ามไว้แล้วสอนจนเขากลับใจก็ได้
แถมก่อนจะตัดสินขงจื้อสามารถลดมูลค่าเดิมพันก่อนได้ไม่ต้องให้เอาหัวแลกหมวก ซึ่งจะทำให้ตัดสินได้อย่างเที่ยงธรรมมากขึ้น และจะเป็นบรรทัดฐานต่อไป
อ่านแล้วรู้สึกขงจื้อรอบคอบแบบผิดกาละเทศะพิกล
ยอมเขาหน่อยก็ได้นะ แบบว่า มันทำให้คนตายอะครับ
ครั้งนี้ google และ youtube ทำผิดครับ คำถามคือ กฎ คืออะไร ถูก และ ผิด คืออะไร
กฎ คือสิ่งที่ตั้งไว้เพื่อให้ มนุษย์ที่เป็นสัตว์สังคม อยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นสุข หาก กฎนั้นไม่ได้ทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นก็ย่อมผ่อนปรนได้ครับ เพราะ ถูก ผิด เป็นสิ่งที่ไม่มีในโลกนี้อยู่แล้ว ถูก ผิด เป็นเพียงสิ่งที่ สังคมหนึ่งๆกำหนดขึ้นมาเท่านั้นเอง ดังนั้น จึงควรคิดถึง สันติสุข ก่อน เป็นอันดับแรก
ผมรู้สึกว่า.. ตัวของ Google เองเนี่ย ยึดมันกับกฎมาก.. ผมเดาว่าน่าจะเอาไว้ยกเป็นกรณีตัวอย่างในอนาคตเวลามีใครขอให้ทำแบบนี้.. ซึ่งผมก็เห็นด้วยอยู่หน่อยนึง.. แต่เกือบทั้งหมดอยากให้ลบไปซะ กฎที่ทำลายความสงบสุข ก็สมควรได้รับการปรับปรุง..
แต่คำถามคือ คนที่อัพทำไมไม่ลบ ? // หรือว่าเขาลบไปแล้วที่อยู่ตอนนี้เป็นของคนที่เซฟลงมาแล้วอัพขึ้นไปใหม่.. ?
หุ่นก็ยังเป็นหุ่นอยู่เมื่อไรจะคิดเองได้บ้าง
สหรัฐอเมริกากำลังทำร้ายตัวเอง
ผมขำตรรกะหลายๆคนในนี้นะครับ ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถมองปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นมาว่าต้นเหตุจริงๆแล้วมันเกิดจาก "คน" ที่ "คลั่ง" ไม่ใช่ "คลิป"
ดังนั้นเมื่อหันมามองบ้านเมืองตัวเอง...ผมได้แต่ปลงสังเวช
แล้วทำไมถึงคลั่ง?
ว้าววว อยากพูดแบบนี้แหละแต่ไม่กล้าพูด กระทืบไลก์ให้เลยครับ
มันเกิดจากอะไร ต้องคิด วิเคราะห์ แยกแยะให้ออก
ปล. ส่วนที่เม้นท์ข้างบนถามว่าทำไมถึงคลั่ง...นั่นสิครับ น่าคิดนะ? เพราะคลิปหรือ? ถัางั้นคลิปมันก็มีอิทธิพลมากเลยนะครับจนทำให้คนตายได้เนี่ย
สิ่งที่เกิดขึ้นมันเกิดจากน้ำมือและจิตใจของคนกันทั้งนั้นแหละ ถ้าไม่หน้ามืดตามัวคลั่งจนขาดสติ รู้ผิดชอบชั่วดี อะไรถูกอะไรผิด ยึดตามหลักเหตุผล ก็ไม่ต้องมีคนเสียชีวิตเพราะเหตุการณ์แบบนี้หรอก อย่าโทษคลิปเลย
ถ้าตัวอย่างหนังมันไม่ไปล้อเลียนศาสนาเขา(แบบแรงโคตรๆ) มันก็คงจะจริงตามนั้น
อันที่จริงผมก็งงตรรกคุณนะ คำว่าต้นเหตุนี่มันควรจะเกิดขึ้นก่อนไม่ใช่หรือครับ
แต่เหมือนเหตุการณ์ความรุนแรงที่กระทำโดย "คน" มันจะเกิดขึ้นหลัง "คลิป" ที่ถูกเผยแพร่นะครับ
คลิปล้อเลียนสามารถใช้เป็นเหตุผลในการฆ่าคน หรือเผาสถานทูต ได้ด้วยหรือป่าวครับ
http://www.thairath.co.th/content/oversea/291375 ไม่งั้นผมเจอคลิปที่ไม่พอใจ ก็สามารถทำร้าย ฆ่าคนที่ทำคลิป ได้เลยใช่ไหม
ผลจาการปิดกันมากเกินไปมันก็ส่งผลเสียนะครับ
บริการ hangout on air คนไทยใช้ไม่ได้เพราะกฏหมายบ้านเราเข้มข้นเกินไป
ผมจะติวหนังสือกับน้อง ผมใช้ Hangout on air ไม่ได้ ต้องไปใช้เว็บเมืองนอก ทั้งมีโฆษณา ดูในมหาลัยไม่ได้เพราะบล็อคพอร์ต(แต่ดูliveของ youtube ได้) เน็ทบางเจ้าบล็อกไว้ก็มี บอกตามตรง ลำบากครับ ทั้งๆที่อยากใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ แต่กลายเป็นว่า ต้องเจอสิ่งกีดขาวงท่ไม่น่าจะเกิด
อาจไม่เกี่ยวกับข่าวแต่ผมขอบ่นหน่อยละกัน
บางคนยังหลง ไปโจมตีว่าการที่youtubeยึดถือกฎหมายไม่ลบคลิปไปก่อนการพิสูจน์คือสิ่งผิด
แล้วคุณมั่นใจได้อย่างไรว่า ความคิดของคุณไม่ได้ยึดกับหลักการอะไรเลย คือสิ่งที่"ถูก"?
อย่างที่บอกไป หากคลิปมันหมิ่นเหม่ ผิดกฎ ก็แจ้งไป กฎของ youtube เขียนไว้ครอบคลุมกว่ากฎหมายไทยๆเสียอีก(ขอพาดพิงตรงๆ เพราะบ้านเราไม่มีข้อห้ามเรื่องracism โดยตรง แม้จะเขียนไว้ในรธน.กว้างๆ แต่แนวทางปฎิบัติยังไม่ชัดเจน)
ถ้ามันละเมิดมากจริงๆขนาดนั้น ก็น่าจะจะเข้าข่ายผิดกฎหมายแล้วเช่นกัน
ทำไมเราถึงเชื่อว่าคลิปนั้นมันผิด ทั้งๆที่ยังไม่มีการพิสูจนในกระบวนการ แต่เราดันเชื่อผ่านการกระทำของผู้ก่อการร้ายว่าคลิปคือสิ่งผิดแน่ๆ เขาเลยก่อการร้าย!?!?!?!
ลองคิดดูดีๆนะครับ ว่าการทีคุณบอกให้youtube รีบลบคลิปโดยไม่ต้องพิสูจน์ทางกฎหมาย มันก็ไม่ต่างอะไรกับการ"รับรองและยอมรับ" ความคิดและการกระทำของผู้ก่อการร้ายว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องนั่นแหละ?
และลองคิดอีกนิดหนึ่ง แม้ว่าคลิปมันอาจจะละเมิดใครก็ตามจริงๆ แต่การละเมิดด้วยคำพูด มีโทษทัณฑ์สมควรถึง ตาย สมควรต้องก่อการร้ายฆ่าคนจำนวนมาก จริงๆน่ะหรือ?
ผมว่าโลกเราส่วนใหญ่พัฒนามาไกล เลยยุคบ้านป่าเมืองเถื่อน ที่พูดอะไรไม่พอใจก็ฆ่ากันไปอย่างถูกต้อง นานแล้วนะครับ อย่าพยายามสนับสนุนให้ย้อนยุคกลับไปเลย
ผมเห็นด้วย ตอนที่มีภาพล้อเลียนที่สวีเดนก็ทีนึงล่ะ บุกไปทำร้ายถึงบ้าน ยึดติดกับตัวบุคคล มากกว่าหลักธรรมซะอีก
+10000000
มุสลิม = ผู้ก่อการร้าย??
ไม่เกี่ยวกับศาสนาเลยครับ จะเป็นคนที่เชื่ออะไรถ้าไปก่อเหตุฆ่าคนจำนวนมากเพียงเพราะไม่พอใจก็คือการก่อการร้ายครับ
มันก็เป็นตาม ที่คนนี้บอกละครับ
น่าคิด ถ้าเปลี่ยนคำว่าศาสนาเป็นศรัทธานี่จะตรงมากเลย นึกถึงยุโรปสมัยกลางเลย
อยากรู้ว่าคนที่ประท้วงเค้าเรียกร้องอะไรกันหริอเปล่านะ หรือว่าแค่ออกมาปาวๆ ทุบข้าวทุบของ
ผิดที่กฎหมายครับ ก็ไปแก้ที่กฎหมายก่อน เป็นไปตามขั้นตอน อันนี้ก็ถูกของกูเกิล
อีกอย่าง ไม่ได้เสียหายต่อธุรกิจตัวเอง ก็ไม่ต้องสะดุ้งรีบแก้อยู่แล้ว
Google ไม่ยอม ผมว่า ถูกต้องแล้วครับ
อย่าร่วมสร้างมาตรฐาน ให้ความไม่พอใจระหว่างประเทศ ยุติ ได้ด้วยการฆ่าทูต
ต่อให้ตายอีกเป็น หมื่น ระยะ ยาว ย่อมดีกว่า ไม่เชื่อก็ดูมาตรฐานข้างถนน ของประเทศเรา
ทำเนียบขาว สิแปลก แนวทาง ที่ยึดมั่นมาตลอดถึงการไม่เจรจา ไม่ยอม กับ ผู้ก่อการร้าย หายไปไหน
ไม่มี สิ่งไหนในโลก ไม่สมควร ถูกวิจารณ์ ครับ และ คนเราควรจะพูดได้ทุกเรื่อง หากไม่ใช่การใส่ร้าย หรือ ทำให้เสื่อมเสียโดยไม่ได้อยู่บนข้อเท็จจริง
หนังโปรดักท์ชั่นห่วย ยิ่งกว่าหนังเกรดบีลบ หนังลงแผ่น
ไม่เห็นจะน่าแคร์
ถ้าผมเป็นมุสลิมหัวรุนแรง ผมไประเบิดสตูดิโอ จับผู้กำกับมาเชือดคอเล่น เพลินกว่านะ
ถูกแบนจากการแสดงความเห็นสนับสนุนการทำร้ายร่างกายและความรุนแนงนะครับ
lewcpe.com, @wasonliw
ขอโทษคราบบบ __/|__
ผมจะไม่ทำอีกแล้ว
เราจะใช้ความรู้สึกของคนนอก หรือกฎหมายที่ใดเป็นบรรทัดฐานผมว่าก็ไม่ถูกซะทีเดียว ต้องดูผลจากคลิปนั้นที่เกิดกับคนมุสลิมหรือเปล่า เหมือนฝรั่งใช้กม.กับความรู้สึกของคนนอกมาตัดสินเรื่องของไทย
กลับกันถ้าเป็นเรื่อง " Innocence of Sittata " ผมเชื่อว่าชาวพุทธในไทยและประเทศอื่นๆอาจจะไม่พอใจและเรียกร้องให้ YouTube เอาคลิปออกเช่นกัน แต่ยังไงก็ไม่มีทางที่จะเผาสถานทูต หรือฆ่าท่านทูต ของประเทศที่ทำคลิปนั้นแน่นอน
เรายึดถือในหลักธรรมคำสอนเป็นหลัก ไม่ได้บูชาศาสดาจนขนาดห้ามล้อเลียน ตัวอย่าง ฝรั่งเอาพระพุทธรูปไปประดับในห้องน้ำ ถามผมว่าโกรธไหม ไม่เลย ผมมองว่าเป็นแค่หิน ดิน ทราย ที่สร้างมาเป็นรูปเหมือนเฉยๆ ไม่ได่มีอะไรสำคัญไปกว่านั้น
ศาสนาพุทธ สอนให้คนมีทั้ง ศรัทธา และปัญญา ครับ
แต่ก็มีไม่น้อยที่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นชาวพุทธ มีแต่ศรัทธา แถมศรัทธาผิดที่ผิดทาง ไปศรัทธาอะไรก็ไม่รู้
ไม่ได้ศรัทธาที่คำสอน เพื่อเอาไปปฏิบัติ ไปศึกษาเพื่อให้เกิดผลกับตัวเอง เป็นการพ้นทุกข์
แต่ไปศรัทธากรวด หิน ดิน ทราย อะไรมากมายก็ไม่รู้ครับ
ศีลไม่ถือ ธรรมไม่ปฏิบัติ (บางคนท่องไว้ข่มคนอื่น อ่านไปอวดคนอื่น จำไปหลอกคนอื่น)
ส่วนศา่สนาอื่นผมไม่รู้ครับ แต่เพื่อนทั้งชาวคริส และชาวมุสลิมรอบๆ ตัวผมก็ดีนะ นิสัยดี และเคร่งครัดในหลักคำสอน พวกเขารักศาสดาและศาสนาของเขา เหมือนที่ผมรักครับ แต่ไม่เอามาเปรียบเทียบ เพราะต่างคนก็ต่างเห็นสิ่งดีๆ ในศาสนาของตัวเอง (แถมเขายังไม่เห็นด้วยกับศรัทธาประเภทลบหลู่ไม่ได้ ต้องทำลายกัน)
กลับกันมันอาจไม่ใช่อย่างที่คุณคิดครับ
จากภาพ เก้าอี้ฟาด ซึ่งเป็นภาพที่ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ ในปี 1977 และถูกถ่ายจากเหตุการณ์ในกลางเมืองหลวงของประเทศไทย ที่เรารู้จักกันดีในนามของ 6 ต.ค. 2519 ครับ
ซึ่งเราก็สามารถอนุมานได้ว่า คนในภาพส่วนใหญ่ นับถือศาสนาพุทธเช่นกัน และได้กระทำการที่ถูกกล่าวขานได้ว่า เป็นการกระทำที่ที่โหดร้่ายจนติดอันดับ 1ใน10 ภาพช๊อคชาวโลกเลยทีเดียว น่าคิดว่าทำไมแม้แต่เด็กชาวพุทธตัวเล็กถึงสามารถหัวร่อชอบใจกับการฆ่าคนได้ขนาดนั้น
ฉะนั้น จะศาสนาไหน หรือความเชื่ออะไร มันก็ไม่เกี่ยวครับ เพราะสุดท้ายถ้าคนจะทำชั่ว ก็จะแค่เอาศาสนา/ความเชื่อมาเป็นเครื่องมือ/ข้ออ้า่งในการทำชั่ว โดยอ้างว่าทำชั่วเพื่อความดี(ความดีของใครเกิดจากความชั่ว?!?!?) โดยเฉพาะเหตุการณ์ในภาพข้างต้น เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนมากๆ เพราะบุคคลในเหตุการณ์ต่างให้สัมภาษณ์ในหลายสิบปีต่อมาว่า ทำไปด้วยความภาคภูมิใจที่ได้"ทำดี"ด้วยการไล่ฆ่าคนอื่นครับ
ประเด็นที่ผมพูดถึง เกี่ยวกับศาสนา เป็นการวิธีการตอบโต้ทางศาสนา
แต่ภาพที่คุณมาแสดงนั่นมันเรื่องของการเมืองครับ ไม่ต้องเอาภาพเก่าขนาดนั้นก็ได้ 2ปีก่อน 100กว่าศพกลางเมืองกรุงเทพ ภาพมีเยอะแยะครับ นี่แหล่ะเมืองพุทธ แต่หลากสี
เกี่ยวกับศาสนาด้วยครับ
ถ้าคุณลองค้น จะเจอคำว่า "ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป"
และปลุกระดมด้วยคำว่า "นักศึกษาจะล้มศาสนาพุทธ" ฯลฯ
การเอาศาสนามาเป็นเครื่องมือในการปลุกระดม มันก็คือการเมืองแบบหนึ่งนั่นแหละ จะปฎิเสธว่าไม่เกี่ยวกับคนในศาสนานั้นๆเลยก็คงไม่ได้ เพราะเขาใช้ข้ออ้างในการไล่ฆ่าคน ว่าเพื่อปกป้องศาสนาไง
ไม่ต่างจากข้ออ้างของผู้ก่อการร้ายชาวตอ.กลางสักเท่าไรเลยครับ
ป.ล. ถ้ายุคใหม่หน่อย จะเจอคำว่า"ฆ่าเวลาบาปกว่าฆ่าคน" ที่ดันปล่อยquoteนี้ออกมาในช่วงการใช้กำลังเข้าปราบปรามผู้ชุมนุมพอดี จะอ้างว่าปรัชญาเซน แต่เหมาะเจาะกับช่วงเวลาไปหน่อยไหม? ตอนนั้นกิตติวุฒิโธก็อ้างเช่นเดียวกัน ว่าที่ให้ฆ่าคอมมิวนิสต์หมายถึงแนวคิด ไม่ได้หมายถึงให้ฆ่าคน?!?!?!
ถ้าจะอ่านทุกคอมเม้น สงสัยต้องปริ้นไปอ่านบนรถเมล์ ตอนไปทำงาน
เห่อ....
ล่าสุดคลิปเต็มออกมาแล้ว
ผมว่าถ้า Google ลบคลิปนี้ไปจริงๆ ผมกับเพื่อนๆจะไปเรียกร้องลบคลิปเกี่ยวกับการเปรียบเทียบใก้หมด ยกตัวอย่าง Android กับ iOS พวกเนี๊ยเอามาเปรียบเทียบกันอยู่ได้ จนเกิดปัญหา มีคนทำร้ายกัน ด้วยเหตุผลว่า หมั่นใส้ เห็นใครใช้โอเอสฝั่งตรงข้าม ก็เข้าไปทำร้าย และผมจะอ้างเหตุผล 108 อ้างถึงคลิปนู้นคลิปนี้ ให้ Google ลบคลิปออกไป Google จะลบไหม
แล้วถ้า google ลบคลิปไป ปัญหามันจะจบไหม?
ลบคลิปไป ช่วยอะไร ทำให้คนไม่ดีกลายเป็นคนดีได้?
ใครไม่ชอบ ก็ไม่ต้องดู ใครไปกราบเท้าว่าให้ดู
หรือใครเอาคลิปไปเปิดกลางเมืองให้ประชาชนรับรู้
เหนื่อยมากกับคนกลุ่มนึงที่ชอบเอาความคิดส่วนตัวมาตัดสินให้คนโน้นคนนี้ทำตาม
ผมจะไปซื้อรถ 10คัน คันละ 4 ล้าน 10x4=20 เขาบอกว่า มันต้อง 40ล้านสิ ไม่ใช่ 20 ผมบอกว่าถ้าผมคิดผิดผมจะตัดหัวตัวเอง ฟ้องศาลศาลกลัวผมตาย ต้องเอาชีวิตไว้ก่อน จึงตัดสินให้ผมถูก(ผมว่าถ้าเป็นแบบนี้ก็ดีนะ เราผิิดอะไร ก็อ้างชีวิต เราจะได้ถูก)