ข่าวเก่าไปนิด เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ทีมจากเนคเทค (คุณกำธรเจ้าเก่า) ได้นำ OLPC ไปให้เด็กนักเรียนที่ จ. ลำปาง ทดสอบการใช้งาน รายละเอียดอ่านได้จาก OLPC Wiki
ป.ล. ผมชอบรูปข้างบนมาก ในลิงก์ยังมีอีกหลายรูป
ดูรูปเด็กๆ นั่งเล่น นอนเล่น OLPC น่ารักดี ^^ นึกถึงบรรยากาศวิชาศิลปะ แต่เปลี่ยนจากกระดาษวาดเขียนกลายเป็น OLPC แทน
ทำไมคนนั่งกลางไม่มีใช้ล่ะครับ หน้าจ๋อยไปเลย อย่าลืมให้คุณครูยืมใช้บ้างนะครับ เดี๋ยวตามเด็กๆไม่ทัน
ความมหัศจรรย์ของ mesh network
http://laptop.org/laptop/hardware/meshdemo.shtml
ถ้ามีการให้ข้อมูลเบื้องลึกเกี่ยวกับตัวเครื่อง วิธีการใช้งานนอกจากสภาพเดิมๆ และวิธีแก้ไขกลับให้เป็นเหมือนเดิม ..แล้วทำทิ้งไว้ที่ไหนสักแห่งเผื่อเด็กบางคนที่มีแววจะได้ค้นหาไปใช้จะดีไหมนะ
ดูรูปแล้ว น่ารักดีนะ เด็กๆมีความสุขที่ได้ใช้มัน ----- love.lounge my blog
น่ารักดี :)
อยากให้เด็กๆ ที่อาศัยอยู่ตามป่าเขาได้เล่นคอมบ้าง
-------------------------------------------------------- เวบของเค้า...และเพินที่เค้ารัก www.mooling.com
เด๊กน้อยน่ารัก
ถ้ารัฐบาลไม่ยอม support ผมอยากเสนอให้เป็นโครงการ "หนึ่งโรงเรียนหนึ่งบริษัท" คือให้หนึ่งบริษัท เสนอตัวมาว่าจะสนับสนุนโรงเรียนไหน เพราะโดยปกติ ในปีหนึ่ง ๆ บริษัทต่าง ๆ จะมีการตอบแทนสังคมในรูปแบบต่าง ๆ พอสมควรอยู่แล้ว
เราก็ลิสต์รายชื่อมาว่ามีโรงเรียนอยู่ทั้งหมดกี่แห่งทั่วประเทศ โรงเรียนนั้นมีนักเรียนเท่าไหร่ ครูเท่าไหร่ ตั้งอยู่ที่ ตำบลไหน อำเภอไหน จังหวัดไหน
เสร็จแล้วก็ส่งข้อมูลให้บริษัทต่าง ๆ ทั่วประเทศ เช่น AMD, Sony, Hitachi, Seagate, Western Digital, Mitsubishi (Motor, Electric), Toyota, Isuzu, AIS, TOT, CAT, มาม่า, Nokia, ซีเอ็ด, The Mall, Central Group, DCOM, Synex, IT City, Celestica, Thainox, TPI, เครือซีเมนต์ไทย, โรงกลั่นน้ำมันระยอง, สตาร์ ปิโตรเลียม, รีไฟน์นิ่ง, เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม, ออโต้อัลลายแอนซ์, เอเชี่ยนฮอนด้ามอเตอร, ซีซีซี ค้าเคมีภัณฑ์ ฯลฯ (อ้อลืม Intel กับ Microsoft Thailand)
แล้วให้บริัษัทเหล่านั้นลองพิจารณาดูว่า จะให้เงินสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือโรงเรียนไหนได้บ้าง ตามงบประมาณที่ตัวเองมี เสร็จแล้วก็จัดการรวมเงินซื้อเครื่องพร้อมกันทั่วประเทศ ผมว่าถ้าเป็นนโยบายออกมา และได้รับค่าลดหย่อนภาษีอีกแรง บริษัทใหญ่ ๆ ทั่วประเทศมีจำนวนเป็นพันที่จะสามารถซื้อ เครื่อง OLPC แจกนักเรียนทั้งโรงเรียนตามชนบท (ซึ่งมีนักเรียนไม่กี่คน 100 - 300)
ถ้าคิดว่าไอเีดียนี้ใช้ได้ทีมงานลองลุยกันดู ผมจะช่วยเต็มที่อีกแรง เพราะโดยส่วนตัวผมชื่นชมโครงการนี้มาก
ลองเปลี่ยนชื่อโครงการเป็น T-OLPC อะไรๆ อาจจะดีขึ้น :P ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
ผมเห็นด้วยกับคุณ OHM แต่ว่า บริษัท หรือหน่วยงานราชการจะสามารถซื้อ OLPC ได้เหรอ
ให้ซื้อในนามรัฐบาล แต่ไม่ใ่ช่เงินรัฐบาล เป็นเงินบริจาคมาจากเอกชนอีกที ต้องลองเจรจาดู
อืม..อยากทราบจริงๆครับ ว่าเพราะอะไรถึงเลือกโรงเรียนนี้ครับ แล้วตอนนี้มีแค่โรงเดียวเหรอครับ ที่ได้ทดลองใช้แล้ว (ผมเองก็อยู่ลำปางครับ)
ไม่เห็นด้วยนะครับ ยังเด็กเกินไปที่จะมีความรับผิดชอบได้ ถ้ามันเสียทีนี้ละเรื่องใหญ่เลย เข้าใจว่าเป็นโครงการหาเสียงของอดีตนายกฯที่โกงชาติซะจนไม่มีแผ่นดินอยู่
ไม่เห็นด้วยนี่หมายถึงยังไงครับ ไม่เห็นด้วยกับการแจก หรือไม่เห็นด้วยกับการนำมาใช้?
ผมมองว่าสำหรับเด็กในเมืองตอนนี้ เราพร้อมพอสมควรเลยนะครับ เพราะไปดูราคาโทรศัพท์มือถือแล้วอาจจะใช้ความรับผิดชอบไม่ต่างจาก OLPC นี่เท่าใหร่
แต่ถ้าเราไปขีดเส้นกันง่ายๆ ว่าเด็กรวยก็ให้ใช้เด็กจนก็ไม่ต้องใช้ สิ่งที่ตามมาคือความเหล่ือมล้ำทางสังคมที่จะถ่างขึ้นไปอีกขั้น ขณะเดียวกันเราคงไปตอบแบบคอมมิวนิสต์ไม่ได้ว่า "ก็ไม่ต้องไปใช้มันทั้งประเทศ" อะไรอย่างนั้น
ถ้ารัฐบอกว่าตอนนี้เรายังไม่พร้อม ผมมองว่ารัฐต้องบอกได้ว่าเมื่อใหร่จะพร้อม สามปีพอไหม หรือห้าปี หรือสิบปี ไม่พร้อมตรงไหนบ้าง แล้วทำอย่างไรเราจึงจะพร้อม ทำอย่างไรคนด้อยโอกาสเหล่านั้นจึงมีโอกาสเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และเทคโนโลยีอย่างเท่าเทียม
แต่ถ้ารัฐมัวแต่พูดว่าไม่พร้อมเลยไม่ทำนี่ผมมองว่าเป็นรัฐบาลที่แย่ครับ ------ LewCPE
อย่าลืมว่าประเทศไทยไม่ใช่มหาอำนาจนะครับ การสอนให้เด็กฟุ่มเฟือยเนี่ย มันคุ้มไหมกับการที่เอา OLPCมาใช้แล้วคิดว่าจะมาสอนแทนอาจารย์ตัวเป็นๆได้ แล้วทำให้คุณภาพการเรียนการสอนในชนบทมันพัฒนาแบบก้าวกระโดดน่ะ ถามว่าคุ้มไหมกับการให้OLPCทีละคนๆ แทนที่เราจะจัดทำห้องสมุดกลางที่มีคอมพิวเตอร์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต มันจะได้ประโยชน์มากกว่านะครับ การดูแลรักษาในระยะยาวนี่แหละสำคัญ ผมไม่อยากให้เด็กเอาไปเล่นพอถึงเวลามันเสียนี่สิ เอาไปปาหัวกันเล่นมากกว่า
ผมว่าน่าจะเข้าใจกันคลาดเคลื่อนไปกันใหญ่แล้วนะครับ
OLPC ไม่ใช่เครื่องคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุคธรรมดา แต่เป็นเครื่องมือช่วยในการเรียนรู้ ต้นทุนที่ผลิตก็ต่ำ มีความคงทน นอกจากนี้สามารถใช้ได้ในที่ๆ ไม่มีไฟฟ้า มีระบบเครือข่าย mesh network ที่สามารถใช้งานเข้าถึงความรุ้ ใช้ทำงานร่วมกัน หรือแม้แต่อินเทอร์เน็ตได้แม้ว่าจะไม่มีสายโทรศัพท์
ตัว software เองก็เป็น opensource ที่สามารถสร้างต่อยอดเติมความสามารถเข้าไปได้เรื่อยๆ ส่วน content ที่จะป้อนก็มีตามมาเรื่อยๆ (เสียแต่ว่าไม่ใช่ภาษาไทย แต่ยังไงก็สามารถทำ content ภาษาไทยเพิ่มได้ถ้าต้องการ)
แน่นอนว่า เราไม่ได้ใช้เครื่องนี้แทนครูนะครับ เราใช้มันเป็น "เครื่องช่วยในการเรียนรู้" เพราะคุณลักษณะพิเศษของมัน
อย่าพยายามโยงเรื่องนี้เข้าเรื่องการเมือง ผมคิดว่าคงไม่มีใครในเว็บนี้เห็นดีเห็นงามเพราะมันเป็นนโยบายหาเสียงของรัฐบาลก่อน แต่เพราะว่ามันเป็น "โอกาส" ที่จะเรียนรู้ของผู้ที่ด้อยโอกาสครับ
แล้วก็เพราะว่าประเทศไทยไม่ใช่ประเทศมหาอำนาจน่ะสิครับ เค้าถึงได้มีโครงการนี้ออกมาเสนอให้ประเทศไทยด้วย (ถ้าเป็นประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ต้องพูดหรือมาเถียงกันเรื่องนี้แล้ว :P)
ถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติม ที่แรกที่ควรไปอ่านลองไปดูที่นี่ก่อนมั้ยครับ http://gotoknow.org/blog/averageline/tag/olpc
แล้วก็เว็บเจ้าของเรื่อง http://pclab.nectec.or.th/wiki/index.php/Main_Page
We need to learn to forgive but not forget...
หนังสือก็แพงนะ ... ฟุ้มเฟือยหรือเปล่า?
การมีOLPC..ไม่ใช่แค่มี computerเพื่อหัดใช้นะ..มันยังหมายถึง -ค่าใช้จ่ายที่ลดลงเนื่องจาก ค่าหนังสือเรียน, หนังสืออ่านเสริม, หนังสือพิมพ์,นิตยสาร มากมายสำหรับเด็กและฯลฯ (แค่หนังสือเรียน ป.-ม. ก็ซื้อ OLPC ได้หลายเครื่องแล้ว) -เริ่มและพัฒนา ความคิด,ทัศนคติ,ความสร้างสรรค์ในการใช้อุปกรณ์ในลักษณะอย่างนี้ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในอนาคต(อย่างน้อยก็มีแนวโน้ม) ................................ มองดูเลาๆก็..คล้ายๆ..เศรษฐีแก้ปํญหา...แต่ดูให้ดีๆให้รอบๆ..นี้เป็นการแก้ปัญหาในเชิงรุก..ไม่รอให้ปัญหาเกิดก่อน..โดยมองในภาพรวมและวางแผนแก้ให้ตรงจุด ...ชอบ มาก ม๊าก
ที่นี่เป็นเว็บข่าวด้านเท็คโนโลยี ไม่ใช่เวทีการเมืองนะครับ
คุณ foxhound เข้าใจผิดแล้วครับ 'โครงการนี้' ไม่ใช่โครงการหาเสียงของใคร แต่เป็นโครงการที่หวังดีและตั้งใจพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเด็กๆ ทั้งโลก คุณอาจจะมองว่า 'การชักนำ' โครงการนี้เข้ามาในประเทศไทยเป็นการหาเสียง นั่นอาจจะมีส่วนจริงหรือไม่ ผมไม่ทราบและไม่ต้องการจะทราบ แต่อย่าเอาอคติส่วนตัวมาสร้างรอยด่างพร้อยให้กับโครงการดีๆ ครับ
ที่ผมสนับสนุนไม่เกี่ยวหรอกครับว่าเป็นโครงการของนายกฯ คนไหนหรอกครับ แต่ผมคิดตามตรรกะในสมองที่พอมีอยู่บ้าง และด้วยใจที่ไม่มีอคติแล้ว สรุปออกมาว่าสมควรอย่างยิ่งที่จะให้เด็กนักเรียนของประเทศไทยเราได้ใช้เครื่องของโครงการ OLPC นี้
ครั้งแรกที่ผมได้ยินเรื่องนี้ มาจากปากของอดีตนายกฯทักษิณ ในรายการนายกฯคุยกับประชาชน ตอนนั้นผมมีอคติด้านลบด้วยซ้ำว่าคุณทักษิณแกจะมาไม้ไหนของแกอีกเนี่ย แต่หลังจากนั้นผมก็ได้ศึกษาและติดตามดูข้อมูลของโครงการนี้อย่างละเอียด พบว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก ๆ และคนที่ทำโครงการนี้ก็ตั้งใจดีและหวังดีกับเด็ก ๆ ในประเทศที่ยังไม่พัฒนา (แต่ชอบเรียกตัวเองว่าประเทศที่กำลังพัฒนา) อย่างมาก
ถ้าจะถามว่ามันเป็นโครงการหาเสียงของคุณทักษิณหรือเปล่า ไม่สำคัญว่าจะจริงหรือไม่จริง(โดยเฉพาะในปัจจุบัน) แต่สิ่งสำคัญมันอยู่ที่ มันเป็นประโยชน์กับเด็กของเราจริง ๆ หรือเปล่า ผมแนะนำให้คุณ foxhound ไปศึกษาข้อมูลของโครงการนี้ให้ละเอียดดูก่อนนะครับ ถ้าคุณศึกษาดูดีแล้วยังไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ ค่อยออกมาบอกว่า "ไม่เห็นด้วย" แล้วก็ช่วยบอกเหตุผลด้วยว่าไ่ม่เห็นด้วยเพราะอะไร
ส่วนเรื่องปัญหาที่ว่าถ้าเครื่องมันเสียจะมีปัญหา เราก็มาหาทางแก้ไข โดยอาจจะซื้อเครื่องมาสำรองจำนวนหนึ่งถ้าเครื่องไหนเสียก็ส่งเข้าส่วนกลางเพื่อซ่อม ถ้ามันใช้เวลานานหรือซ่อมไม่ได้ก็ส่งเครื่องใหม่ไปทดแทน ผมมองยังไงก็คุ้มถ้ารัฐบาลจะช่วยเหลือในส่วนนี้
เราต้องยอมรับว่าเครื่องเสียมันเป็นเรื่องธรรมชาติ ขนาดนักเรียนมหาวิทยาลัยยังทำเครื่องคอมพิวเตอร์พังยกไปให้ร้านเค้าซ่อมอยู่เป็นประจำ สิ่งที่เราต้องทำก็คือคิดหาวิธีการบริหารจัดการเรื่องนี้ เปอร์เซ็นต์ของเครื่องที่เสียนั้นเราก็คงพออนุมานได้ โดยการทดลองแจกดูซัก 100 - 200 เครื่องไปก่อน แล้วก็ลองมาคำนวนดูว่าจะต้องดำเนินการยังไงต่อไป
ไม่ใช่พอคิดว่าถ้าเครื่องเสียแล้วจะมีปัญหา ก็ไม่ต้องใช้มันดีกว่า แบบนี้เราก็ไม่ต้องได้ใช้อะไรกันพอดี
เปิดหนังสือพิมพ์อ่านหน้าข่าวบันเทิงกันบ้างก็ดีนะครับ
อ่านข่าวบันเทิงเมืองไทยก็เครียดครับ อ่านผู้จัดกวน หรือเปิดไปเว็บผมอ่านดีกว่า (โฆษณาซะ)
----------------------- http://www.seasandsong.com/
อิจฉาเด็ก T_T
ผมก็สนับสนุนโครงการนี้ นะครับ ส่วนเรื่องที่ว่า เป็นโปรเจ๊คหาเสียงทางการเมือง ยังไง ไม่ว่ารัฐบาลไหน เวลามีโครงการดี ๆ เค้าประกาศมา รัฐบาลชุดนั้นก็ได้หน้า ได้ชื่อเสียง อยู่แล้ว แต่ผมกลับมองว่า ต่อให้มันเป็นโปรเจ๊คการเมือง แต่ถ้ามันมาพัฒนาประเทศไทย พัฒนา เด็กไทย ได้ มันก็สมควรจะสนับสนุนนะ ครับ
ถึงผมจะไม่ค่อยชอบรัฐบาลชุด ที่นำเข้ามาก็ตาม
It's my life. Open your mind for the future.
ขอสนับสนุนเรื่องนี้อีกคนครับ (สงสัยจะทะเลาะกับ foxhound อีกแล้ว)
มีตัวเลขที่น่าสนใจมาเปรียบเทียบนะครับ
ปัจจุบันรัฐใช้เงินปีละประมาณ 3,000 ล้านบาทในการซื้อนมสดไปแจกเด็กแต่ละปี ที่เรียกว่า "นมโรงเรียน" นั่นแหละครับ
การซื้อ OLPC ให้นักเรียนทุกคนในหนึ่งชั้นปี (เช่น ม.1 ทั้งหมดทั่วประเทศ) ประมาณกันว่าต้องซื้อประมาณ 700,000 ตัว ถ้าทำได้ที่ 100 US$ ต่อเครื่องก็ใช้เงินเท่าๆกับนมโรงเรียนนั่นแหละครับ
ซื้อนมได้ ผมว่าก็น่าจะซื้อ OLPC ได้นะครับ น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่าด้วยซ้ำ (ไม่ไดหมายความว่าจะเลิกซื้อนมมาซื้อคอมพิวเตอร์นะครับ แต่ยกมาเพื่อเปรียบเทียบว่าโครงการนี้ได้ประโยชน์คุ้มเงินไม่น้อยครับ)
เอ้า ฝ่ายค้าน ว่ามา เดี๋ยวนอนตื่นจะมาเถียงต่อ ...
น่าสนใจ
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ตามเข้าไปอ่านใน olpcwiki ด้วยแล้วครับ ได้รับรู้ว่าเด็กๆเล่นกับมันอย่างสนุกสนาน ก็ดีใจครับ ไม่ว่าใครจะเป็นผู้เริ่มต้นขึ้นมา จะหาเสียงหรือไม่ ตอนนี้ยังไงก็ต้องสานต่อแล้วล่ะครับ อย่าทำให้เด็กๆเสียใจนา เด็กๆเค้าก็อยากจะสร้างผลงานของเค้าเหมือนกัน รู้สึกสนุกไปกับเด็กด้วยเลยนะนี่ :-)
Comments
ดูรูปเด็กๆ นั่งเล่น นอนเล่น OLPC น่ารักดี ^^ นึกถึงบรรยากาศวิชาศิลปะ แต่เปลี่ยนจากกระดาษวาดเขียนกลายเป็น OLPC แทน
ทำไมคนนั่งกลางไม่มีใช้ล่ะครับ หน้าจ๋อยไปเลย อย่าลืมให้คุณครูยืมใช้บ้างนะครับ เดี๋ยวตามเด็กๆไม่ทัน
ความมหัศจรรย์ของ mesh network
http://laptop.org/laptop/hardware/meshdemo.shtml
ถ้ามีการให้ข้อมูลเบื้องลึกเกี่ยวกับตัวเครื่อง วิธีการใช้งานนอกจากสภาพเดิมๆ และวิธีแก้ไขกลับให้เป็นเหมือนเดิม ..แล้วทำทิ้งไว้ที่ไหนสักแห่งเผื่อเด็กบางคนที่มีแววจะได้ค้นหาไปใช้จะดีไหมนะ
ดูรูปแล้ว น่ารักดีนะ เด็กๆมีความสุขที่ได้ใช้มัน ----- love.lounge my blog
น่ารักดี :)
อยากให้เด็กๆ ที่อาศัยอยู่ตามป่าเขาได้เล่นคอมบ้าง
-------------------------------------------------------- เวบของเค้า...และเพินที่เค้ารัก www.mooling.com
เด๊กน้อยน่ารัก
ถ้ารัฐบาลไม่ยอม support ผมอยากเสนอให้เป็นโครงการ "หนึ่งโรงเรียนหนึ่งบริษัท" คือให้หนึ่งบริษัท เสนอตัวมาว่าจะสนับสนุนโรงเรียนไหน เพราะโดยปกติ ในปีหนึ่ง ๆ บริษัทต่าง ๆ จะมีการตอบแทนสังคมในรูปแบบต่าง ๆ พอสมควรอยู่แล้ว
เราก็ลิสต์รายชื่อมาว่ามีโรงเรียนอยู่ทั้งหมดกี่แห่งทั่วประเทศ โรงเรียนนั้นมีนักเรียนเท่าไหร่ ครูเท่าไหร่ ตั้งอยู่ที่ ตำบลไหน อำเภอไหน จังหวัดไหน
เสร็จแล้วก็ส่งข้อมูลให้บริษัทต่าง ๆ ทั่วประเทศ เช่น AMD, Sony, Hitachi, Seagate, Western Digital, Mitsubishi (Motor, Electric), Toyota, Isuzu, AIS, TOT, CAT, มาม่า, Nokia, ซีเอ็ด, The Mall, Central Group, DCOM, Synex, IT City, Celestica, Thainox, TPI, เครือซีเมนต์ไทย, โรงกลั่นน้ำมันระยอง, สตาร์ ปิโตรเลียม, รีไฟน์นิ่ง, เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม, ออโต้อัลลายแอนซ์, เอเชี่ยนฮอนด้ามอเตอร, ซีซีซี ค้าเคมีภัณฑ์ ฯลฯ (อ้อลืม Intel กับ Microsoft Thailand)
แล้วให้บริัษัทเหล่านั้นลองพิจารณาดูว่า จะให้เงินสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือโรงเรียนไหนได้บ้าง ตามงบประมาณที่ตัวเองมี เสร็จแล้วก็จัดการรวมเงินซื้อเครื่องพร้อมกันทั่วประเทศ ผมว่าถ้าเป็นนโยบายออกมา และได้รับค่าลดหย่อนภาษีอีกแรง บริษัทใหญ่ ๆ ทั่วประเทศมีจำนวนเป็นพันที่จะสามารถซื้อ เครื่อง OLPC แจกนักเรียนทั้งโรงเรียนตามชนบท (ซึ่งมีนักเรียนไม่กี่คน 100 - 300)
ถ้าคิดว่าไอเีดียนี้ใช้ได้ทีมงานลองลุยกันดู ผมจะช่วยเต็มที่อีกแรง เพราะโดยส่วนตัวผมชื่นชมโครงการนี้มาก
ลองเปลี่ยนชื่อโครงการเป็น T-OLPC อะไรๆ อาจจะดีขึ้น :P ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
ผมเห็นด้วยกับคุณ OHM แต่ว่า บริษัท หรือหน่วยงานราชการจะสามารถซื้อ OLPC ได้เหรอ
ให้ซื้อในนามรัฐบาล แต่ไม่ใ่ช่เงินรัฐบาล เป็นเงินบริจาคมาจากเอกชนอีกที ต้องลองเจรจาดู
อืม..อยากทราบจริงๆครับ ว่าเพราะอะไรถึงเลือกโรงเรียนนี้ครับ แล้วตอนนี้มีแค่โรงเดียวเหรอครับ ที่ได้ทดลองใช้แล้ว (ผมเองก็อยู่ลำปางครับ)
ไม่เห็นด้วยนะครับ ยังเด็กเกินไปที่จะมีความรับผิดชอบได้ ถ้ามันเสียทีนี้ละเรื่องใหญ่เลย เข้าใจว่าเป็นโครงการหาเสียงของอดีตนายกฯที่โกงชาติซะจนไม่มีแผ่นดินอยู่
ไม่เห็นด้วยนี่หมายถึงยังไงครับ ไม่เห็นด้วยกับการแจก หรือไม่เห็นด้วยกับการนำมาใช้?
ผมมองว่าสำหรับเด็กในเมืองตอนนี้ เราพร้อมพอสมควรเลยนะครับ เพราะไปดูราคาโทรศัพท์มือถือแล้วอาจจะใช้ความรับผิดชอบไม่ต่างจาก OLPC นี่เท่าใหร่
แต่ถ้าเราไปขีดเส้นกันง่ายๆ ว่าเด็กรวยก็ให้ใช้เด็กจนก็ไม่ต้องใช้ สิ่งที่ตามมาคือความเหล่ือมล้ำทางสังคมที่จะถ่างขึ้นไปอีกขั้น ขณะเดียวกันเราคงไปตอบแบบคอมมิวนิสต์ไม่ได้ว่า "ก็ไม่ต้องไปใช้มันทั้งประเทศ" อะไรอย่างนั้น
ถ้ารัฐบอกว่าตอนนี้เรายังไม่พร้อม ผมมองว่ารัฐต้องบอกได้ว่าเมื่อใหร่จะพร้อม สามปีพอไหม หรือห้าปี หรือสิบปี ไม่พร้อมตรงไหนบ้าง แล้วทำอย่างไรเราจึงจะพร้อม ทำอย่างไรคนด้อยโอกาสเหล่านั้นจึงมีโอกาสเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และเทคโนโลยีอย่างเท่าเทียม
แต่ถ้ารัฐมัวแต่พูดว่าไม่พร้อมเลยไม่ทำนี่ผมมองว่าเป็นรัฐบาลที่แย่ครับ ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
อย่าลืมว่าประเทศไทยไม่ใช่มหาอำนาจนะครับ การสอนให้เด็กฟุ่มเฟือยเนี่ย มันคุ้มไหมกับการที่เอา OLPCมาใช้แล้วคิดว่าจะมาสอนแทนอาจารย์ตัวเป็นๆได้ แล้วทำให้คุณภาพการเรียนการสอนในชนบทมันพัฒนาแบบก้าวกระโดดน่ะ ถามว่าคุ้มไหมกับการให้OLPCทีละคนๆ แทนที่เราจะจัดทำห้องสมุดกลางที่มีคอมพิวเตอร์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต มันจะได้ประโยชน์มากกว่านะครับ การดูแลรักษาในระยะยาวนี่แหละสำคัญ ผมไม่อยากให้เด็กเอาไปเล่นพอถึงเวลามันเสียนี่สิ เอาไปปาหัวกันเล่นมากกว่า
ผมว่าน่าจะเข้าใจกันคลาดเคลื่อนไปกันใหญ่แล้วนะครับ
OLPC ไม่ใช่เครื่องคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุคธรรมดา แต่เป็นเครื่องมือช่วยในการเรียนรู้ ต้นทุนที่ผลิตก็ต่ำ มีความคงทน นอกจากนี้สามารถใช้ได้ในที่ๆ ไม่มีไฟฟ้า มีระบบเครือข่าย mesh network ที่สามารถใช้งานเข้าถึงความรุ้ ใช้ทำงานร่วมกัน หรือแม้แต่อินเทอร์เน็ตได้แม้ว่าจะไม่มีสายโทรศัพท์
ตัว software เองก็เป็น opensource ที่สามารถสร้างต่อยอดเติมความสามารถเข้าไปได้เรื่อยๆ ส่วน content ที่จะป้อนก็มีตามมาเรื่อยๆ (เสียแต่ว่าไม่ใช่ภาษาไทย แต่ยังไงก็สามารถทำ content ภาษาไทยเพิ่มได้ถ้าต้องการ)
แน่นอนว่า เราไม่ได้ใช้เครื่องนี้แทนครูนะครับ เราใช้มันเป็น "เครื่องช่วยในการเรียนรู้" เพราะคุณลักษณะพิเศษของมัน
อย่าพยายามโยงเรื่องนี้เข้าเรื่องการเมือง ผมคิดว่าคงไม่มีใครในเว็บนี้เห็นดีเห็นงามเพราะมันเป็นนโยบายหาเสียงของรัฐบาลก่อน แต่เพราะว่ามันเป็น "โอกาส" ที่จะเรียนรู้ของผู้ที่ด้อยโอกาสครับ
แล้วก็เพราะว่าประเทศไทยไม่ใช่ประเทศมหาอำนาจน่ะสิครับ เค้าถึงได้มีโครงการนี้ออกมาเสนอให้ประเทศไทยด้วย (ถ้าเป็นประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ต้องพูดหรือมาเถียงกันเรื่องนี้แล้ว :P)
ถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติม ที่แรกที่ควรไปอ่านลองไปดูที่นี่ก่อนมั้ยครับ http://gotoknow.org/blog/averageline/tag/olpc
แล้วก็เว็บเจ้าของเรื่อง http://pclab.nectec.or.th/wiki/index.php/Main_Page
We need to learn to forgive but not forget...
หนังสือก็แพงนะ ... ฟุ้มเฟือยหรือเปล่า?
การมีOLPC..ไม่ใช่แค่มี computerเพื่อหัดใช้นะ..มันยังหมายถึง -ค่าใช้จ่ายที่ลดลงเนื่องจาก ค่าหนังสือเรียน, หนังสืออ่านเสริม, หนังสือพิมพ์,นิตยสาร มากมายสำหรับเด็กและฯลฯ (แค่หนังสือเรียน ป.-ม. ก็ซื้อ OLPC ได้หลายเครื่องแล้ว) -เริ่มและพัฒนา ความคิด,ทัศนคติ,ความสร้างสรรค์ในการใช้อุปกรณ์ในลักษณะอย่างนี้ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในอนาคต(อย่างน้อยก็มีแนวโน้ม) ................................ มองดูเลาๆก็..คล้ายๆ..เศรษฐีแก้ปํญหา...แต่ดูให้ดีๆให้รอบๆ..นี้เป็นการแก้ปัญหาในเชิงรุก..ไม่รอให้ปัญหาเกิดก่อน..โดยมองในภาพรวมและวางแผนแก้ให้ตรงจุด ...ชอบ มาก ม๊าก
ที่นี่เป็นเว็บข่าวด้านเท็คโนโลยี ไม่ใช่เวทีการเมืองนะครับ
คุณ foxhound เข้าใจผิดแล้วครับ 'โครงการนี้' ไม่ใช่โครงการหาเสียงของใคร แต่เป็นโครงการที่หวังดีและตั้งใจพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเด็กๆ ทั้งโลก คุณอาจจะมองว่า 'การชักนำ' โครงการนี้เข้ามาในประเทศไทยเป็นการหาเสียง นั่นอาจจะมีส่วนจริงหรือไม่ ผมไม่ทราบและไม่ต้องการจะทราบ แต่อย่าเอาอคติส่วนตัวมาสร้างรอยด่างพร้อยให้กับโครงการดีๆ ครับ
ที่ผมสนับสนุนไม่เกี่ยวหรอกครับว่าเป็นโครงการของนายกฯ คนไหนหรอกครับ แต่ผมคิดตามตรรกะในสมองที่พอมีอยู่บ้าง และด้วยใจที่ไม่มีอคติแล้ว สรุปออกมาว่าสมควรอย่างยิ่งที่จะให้เด็กนักเรียนของประเทศไทยเราได้ใช้เครื่องของโครงการ OLPC นี้
ครั้งแรกที่ผมได้ยินเรื่องนี้ มาจากปากของอดีตนายกฯทักษิณ ในรายการนายกฯคุยกับประชาชน ตอนนั้นผมมีอคติด้านลบด้วยซ้ำว่าคุณทักษิณแกจะมาไม้ไหนของแกอีกเนี่ย แต่หลังจากนั้นผมก็ได้ศึกษาและติดตามดูข้อมูลของโครงการนี้อย่างละเอียด พบว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก ๆ และคนที่ทำโครงการนี้ก็ตั้งใจดีและหวังดีกับเด็ก ๆ ในประเทศที่ยังไม่พัฒนา (แต่ชอบเรียกตัวเองว่าประเทศที่กำลังพัฒนา) อย่างมาก
ถ้าจะถามว่ามันเป็นโครงการหาเสียงของคุณทักษิณหรือเปล่า ไม่สำคัญว่าจะจริงหรือไม่จริง(โดยเฉพาะในปัจจุบัน) แต่สิ่งสำคัญมันอยู่ที่ มันเป็นประโยชน์กับเด็กของเราจริง ๆ หรือเปล่า ผมแนะนำให้คุณ foxhound ไปศึกษาข้อมูลของโครงการนี้ให้ละเอียดดูก่อนนะครับ ถ้าคุณศึกษาดูดีแล้วยังไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ ค่อยออกมาบอกว่า "ไม่เห็นด้วย" แล้วก็ช่วยบอกเหตุผลด้วยว่าไ่ม่เห็นด้วยเพราะอะไร
ส่วนเรื่องปัญหาที่ว่าถ้าเครื่องมันเสียจะมีปัญหา เราก็มาหาทางแก้ไข โดยอาจจะซื้อเครื่องมาสำรองจำนวนหนึ่งถ้าเครื่องไหนเสียก็ส่งเข้าส่วนกลางเพื่อซ่อม ถ้ามันใช้เวลานานหรือซ่อมไม่ได้ก็ส่งเครื่องใหม่ไปทดแทน ผมมองยังไงก็คุ้มถ้ารัฐบาลจะช่วยเหลือในส่วนนี้
เราต้องยอมรับว่าเครื่องเสียมันเป็นเรื่องธรรมชาติ ขนาดนักเรียนมหาวิทยาลัยยังทำเครื่องคอมพิวเตอร์พังยกไปให้ร้านเค้าซ่อมอยู่เป็นประจำ สิ่งที่เราต้องทำก็คือคิดหาวิธีการบริหารจัดการเรื่องนี้ เปอร์เซ็นต์ของเครื่องที่เสียนั้นเราก็คงพออนุมานได้ โดยการทดลองแจกดูซัก 100 - 200 เครื่องไปก่อน แล้วก็ลองมาคำนวนดูว่าจะต้องดำเนินการยังไงต่อไป
ไม่ใช่พอคิดว่าถ้าเครื่องเสียแล้วจะมีปัญหา ก็ไม่ต้องใช้มันดีกว่า แบบนี้เราก็ไม่ต้องได้ใช้อะไรกันพอดี
เปิดหนังสือพิมพ์อ่านหน้าข่าวบันเทิงกันบ้างก็ดีนะครับ
อ่านข่าวบันเทิงเมืองไทยก็เครียดครับ อ่านผู้จัดกวน หรือเปิดไปเว็บผมอ่านดีกว่า (โฆษณาซะ)
----------------------- http://www.seasandsong.com/
อิจฉาเด็ก T_T
ผมก็สนับสนุนโครงการนี้ นะครับ ส่วนเรื่องที่ว่า เป็นโปรเจ๊คหาเสียงทางการเมือง ยังไง ไม่ว่ารัฐบาลไหน เวลามีโครงการดี ๆ เค้าประกาศมา รัฐบาลชุดนั้นก็ได้หน้า ได้ชื่อเสียง อยู่แล้ว แต่ผมกลับมองว่า ต่อให้มันเป็นโปรเจ๊คการเมือง แต่ถ้ามันมาพัฒนาประเทศไทย พัฒนา เด็กไทย ได้ มันก็สมควรจะสนับสนุนนะ ครับ
ถึงผมจะไม่ค่อยชอบรัฐบาลชุด ที่นำเข้ามาก็ตาม
It's my life. Open your mind for the future.
ขอสนับสนุนเรื่องนี้อีกคนครับ (สงสัยจะทะเลาะกับ foxhound อีกแล้ว)
มีตัวเลขที่น่าสนใจมาเปรียบเทียบนะครับ
ปัจจุบันรัฐใช้เงินปีละประมาณ 3,000 ล้านบาทในการซื้อนมสดไปแจกเด็กแต่ละปี ที่เรียกว่า "นมโรงเรียน" นั่นแหละครับ
การซื้อ OLPC ให้นักเรียนทุกคนในหนึ่งชั้นปี (เช่น ม.1 ทั้งหมดทั่วประเทศ) ประมาณกันว่าต้องซื้อประมาณ 700,000 ตัว ถ้าทำได้ที่ 100 US$ ต่อเครื่องก็ใช้เงินเท่าๆกับนมโรงเรียนนั่นแหละครับ
ซื้อนมได้ ผมว่าก็น่าจะซื้อ OLPC ได้นะครับ น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่าด้วยซ้ำ (ไม่ไดหมายความว่าจะเลิกซื้อนมมาซื้อคอมพิวเตอร์นะครับ แต่ยกมาเพื่อเปรียบเทียบว่าโครงการนี้ได้ประโยชน์คุ้มเงินไม่น้อยครับ)
เอ้า ฝ่ายค้าน ว่ามา เดี๋ยวนอนตื่นจะมาเถียงต่อ ...
น่าสนใจ
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ตามเข้าไปอ่านใน olpcwiki ด้วยแล้วครับ ได้รับรู้ว่าเด็กๆเล่นกับมันอย่างสนุกสนาน ก็ดีใจครับ ไม่ว่าใครจะเป็นผู้เริ่มต้นขึ้นมา จะหาเสียงหรือไม่ ตอนนี้ยังไงก็ต้องสานต่อแล้วล่ะครับ อย่าทำให้เด็กๆเสียใจนา เด็กๆเค้าก็อยากจะสร้างผลงานของเค้าเหมือนกัน รู้สึกสนุกไปกับเด็กด้วยเลยนะนี่ :-)