Lennon Ray Brown อดีตพนักงาน Citibank ถูกตัดสินโทษจำคุก 21 เดือนจากการลบคอนฟิกคอร์เราท์เตอร์ 9 ตัวหลัก ทำให้เน็ตเวิร์คของ Citibank ดับไป 90% ของเครือข่ายธนาคารในอเมริกาเหนือ ในเดือนธันวาคม ปี 2013

Brown ส่งคำสั่งลบข้อมูลหลังได้รับผลประเมินประสิทธิภาพการทำงานไม่ดี เขาส่งข้อความไปหาเพื่อนร่วมงานระบุว่ากำลังถูกไล่ออก พร้อมกับแสดงเจตนาว่าจะแก้แค้น

นอกจากโทษจำคุกแล้ว Brown ยังถูกปรับเป็นเงิน 77,200 ดอลลาร์

ที่มา - Justice.gov, The Register

กรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (US Securities and Exchange Commission - SEC) สั่งปรับ Citigroup เป็นเงิน 7 ล้านดอลลาร์หลังจากพบว่าธนาคารส่งรายงานการซื้อขายไม่ครบถ้วนตั้งแต่ปี 1999 ไปจนถึงปี 2014

สาเหตุของความผิดพลาดเนื่องจากระบบการออกรายงานที่เขียนในช่วงปี 1995 มีการกรองหมายเลขสาขา 089 ถึง 100 ออกไป เนื่องจากเลขสาขาเหล่านี้เป็นสาขาปลอมที่สร้างขึ้นเพื่อทดสอบระบบ โค้ดนี้รันต่อเนื่องมาโดยตลอดและทาง Citigroup สร้างสาขาใหม่ๆ เป็นหมายเลขที่มีตัวอักษรได้ด้วย เช่น 10B, 10C ปรากฏว่าโค้ดเดิมกลับกรองสาขาเหล่านี้ออกไปด้วย ทำให้รายงานจากสาขาเหล่านั้นไม่ถูกส่งไปยัง SEC

ตลอดระยะเวลาที่บั๊กนี้มีผล ทำให้ SEC ไม่ได้รับรายงานการซื้อขาย 26,810 รายการ จากการขอข้อมูล 2,300 ครั้ง

Citi สถาบันการเงินรายใหญ่โลก โชว์วิดีโอต้นแบบการซื้อขายหุ้นด้วยแว่น HoloLens ของไมโครซอฟท์ ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อขายหุ้นเห็นความเชื่อมโยงของข้อมูลการเงินแบบเรียลไทม์ด้วยการแสดงผลผ่าน holographic

ต้นแบบของ Citi มาพร้อมกับโต๊ะที่มีมอนิเตอร์ และสามารถแสดงผลให้เพื่อนร่วมงานหรือลูกค้าดูได้พร้อมๆ กัน เพื่อร่วมแสดงความเห็นว่าควรซื้อหุ้นตัวนั้นหรือไม่

วงการธนาคารฮ่องกงเริ่มก้าวข้ามรหัสผ่าน เริ่มด้วย Citi ที่จะยืนยันผู้ใช้ด้วยเสียงภายในสัปดาห์หน้า ทำให้หลังจากนี้ผู้ใช้จะไม่ต้องตอบรหัสผ่านหรือคำถามส่วนตัวอีกต่อไป

ทาง Citi ระบุว่ากระบวนการนี้สามารถลดระยะเวลาทำรายการลงได้ 45 วินาทีในแต่ละการโทรติดต่อ โดยแต่ละปี Citi รับโทรศัพท์ลูกค้าปีละ 35 ล้านสาย ระบบตรวจสอบตัวตนลูกค้าด้วยเสียงจะสามารถยืนยันตัวตนลูกค้าได้ภายในเวลา 15 วินาที โดย Citi จะเปิดใช้เทคโนโลยีนี้ใน ฮ่องกง, ไต้หวัน, และออสเตรเลีย และเตรียมจะเปิดใช้งานในจีนภายหลัง

HSBC ระบุว่าธนาคารกำลังเตรียมใช้งานการยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือหรือเสียงเช่นกัน โดยจะเริ่มให้บริการปลายปีนี้

หลังจากที่ทีมวิจัยตลาดของ Citi ได้ออกมาบอกว่ายอดโตของตลาดพีซีน่าจะติดลบ 10 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ ล่าสุดทีมวิจัยของ IDC ได้ออกมาแสดงความเห็นไปทางเดียวกันว่า ตลาดพีซีน่าจะแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาได้เห็นตัวเลขจากเดือนพฤษภาคม

ในตอนแรก IDC คาดว่า ตลาดพีซีน่าจะแย่ลงไม่มากเท่าไหร่นักในไตรมาสที่สองของปี 2013 แต่หลังจากได้เห็นตัวเลขล่าสุดแล้ว เชื่อว่ายอดเติบโตของตลาดพีซีน่าจะลดลงมากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ในตอนแรก ซึ่งทั้งปีนี้ IDC เชื่อว่าตลาดพีซีน่ามียอดเติบโตอยู่ที่ติดลบ 7.8 เปอร์เซ็นต์

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Watson ของไอบีเอ็มเริ่มขยายงานสู่กลุ่มธุรกิจอื่นเพิ่มเติม จากก่อนหน้านี้ได้

กลุ่มการเงิน Citigroup ออกมายอมรับว่าบัญชีบัตรของลูกค้าประมาณ 1% โดยไม่เปิดเผยจำนวน ถูกแฮกเกอร์เจาะเข้ามาเอาข้อมูลไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยข้อมูลที่นำออกไปได้ประกอบด้วยชื่อลูกค้า หมายเลขบัญชี ข้อมูลติดต่อ และอีเมล แต่ข้อมูลที่สำคัญมากกว่านั้น อาทิเช่น หมายเลขประกันสังคม วันเกิด และรหัสเฉพาะของบัตร (CVV) ไม่ถูกเจาะข้อมูลไปด้วย

Wall Street Journal รายงานข่าว "วงใน" ว่ากูเกิลกำลังร่วมมือกับ MasterCard และ Citigroup พัฒนาให้เจ้าของบัตรเดบิตและบัตรเครดิตในเครือ Citigroup (บ้านเราก็คือบัตร Citibank เป็นหลัก แต่ Citigroup มีธนาคารแบรนด์อื่นๆ ด้วยในบางประเทศ) สามารถใช้มือถือ Android แตะสัมผัสเพื่อจ่ายเงินแทนการรูดบัตรได้

ตามข่าวบอกว่ากูเกิลจะไม่หักค่าใช้จ่ายสำหรับการจ่ายเงินด้วยมือถือ แต่กูเกิลจะได้ประโยชน์จากการโฆษณา โปรโมชัน และส่วนลดต่างๆ ของร้านค้าแทน อีกบริษัทที่ร่วมโครงการนี้คือ VeriFone ซึ่งพัฒนาเครื่องจ่ายเงินที่รองรับ NFC และขายไปตามร้านค้าปลีกต่างๆ ระบบจ่ายเงินผ่านมือถือจะเปิดตัวภายในปีนี้