โนเกียฟ้องร้อง Samsung กับ LG และผู้ผลิตจอภาพรายอื่นๆ เช่น AU Optronics รวมเจ็ดบริษัท โทษฐานรวมกันปั่นราคาจอ LCD ให้มีราคาแพงขึ้น
เมื่อเดือนที่แล้ว บริษัท AT&T ก็ได้ยื่นฟ้องข้อหาเดียวกันนี้กับบริษัทผู้ผลิตจอ LCD เช่นกัน และก่อนหน้านี้ช่วงต้นปี กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้เข้าไปสอบสวนการคงระดับราคาจอของบริษัทผลิตจอภาพหลายแห่ง และ Hitachi Displays, LG, Sharp โดนปรับกันถ้วนหน้าไปแล้วรอบหนึ่ง
Tero Ojanperä ผู้บริหารระดับสูงของโนเกีย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ของโนเกียในตลาดมือถือโลกว่า "เรามีปัญหาของเราจริง แต่เราก็ได้เรียนรู้อะไรมากมายจากมัน" นอกจากนี้ยังมีข้อมูลของ Ovi อีกจำนวนหนึ่ง
ในยุคหนึ่งแล้วโทรศัพท์ที่ใช้ Symbian นั้นเคยแพงจนเกินเอื้อม แถมมีบริการพิเศษต่างๆ มากมาย แต่วันนี้ Symbian นั้นไม่ใช่ OS สำหรับโทรศัพท์ชั้นสูงอีกต่อไป เพราะแม้แต่โทรศัพท์ราคาไม่กี่พันบาทก็ใช้ Symbian กันเป็นเรื่องปรกติ คำถามคือโนเกียจะปล่อยให้ Symbian ถูกใช้ในโทรศัพท์ทุกรุ่นอย่างนี้ไปหรือไม่ และวันนี้ทางโนเกียก็เริ่มเผยแผนการออกมาว่าในอนาคต โทรศัพท์ N-Series ทัั้งหมดจะเลิกใช้ Symbian แล้วหันไปใช้ Maemo แทนภายปี 2012
การเปิดเผยแผนการนี้มีขึ้นมีงาน N900 Meetup London
ผมเคยเสนอข่าว Nokia Surge ไปเมื่อช่วงกลางปี โดยสรุปแล้วมันเป็นโทรศัพท์ QWERTY ที่ราคาถูกที่สุดที่โนเกียเคยวางตลาดมา โดยราคาในสหรัฐอยู่ที่ 129 ดอลลาร์หรือประมาณ 4500 บาทเท่านั้น
วันนี้ผมเดินห้างเล่นๆ พบว่ามีร้านสองร้านที่เอาเครื่อง mock-up ของ Nokia Surge มาวางให้ลองเล่นกันแล้ว แต่พอเข้าไปถามราคาก็พบว่ายังไม่มีการแจ้งราคามาแต่อย่างใด แต่ผมหวังเป็นการส่วนตัวว่าคงไม่เกิน 6,000 บาท และกล้องเปลี่ยนจากตอนที่เปิดตัวว่า 2.0 ล้านพิกเซลเป็น 3.2 ล้านพิกเซล
เท่าที่ลองกดๆ ดูพบว่าคีย์บอร์ดมี layout เดียวกับ Nokia ตัวคีย์บอร์ดด้านข้างอันอื่นๆ แต่คงไม่มีผลนักเพราะถ้าใครใช้ E75 หรือ 5730 อยู่ก็คงไม่เปลี่ยนมาใช้ตัวนี้อยู่ดี
กูเกิลเปิดตัวโปรแกรมค้นหาข้อมูลบนโนเกียที่ใช้ระบบปฏิบัติการชีรี่ย์ 60 เวอร์ชัน 3 สามารถค้นหาได้จากการพิมพ์หรือการใช้เสียง โดยขณะนี้รองรับเฉพาะเสียงภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่เวอร์ชันใหม่จะรองรับเสียงภาษาจีนกลางได้
สำหรับการใช้งานโปรแกรมดังกล่าวก็ง่ายแสนง่าย โดยในหน้าจอโปรแกรมดังกล่าว ให้กดปุ่มโทรออกค้างไว้แล้วพูดลงไปเท่านั้น
หลายๆ คนคงจำมือถือสำหรับเล่นเกม N-Gage ของโนเกียได้ (เคยฮิตในบ้านเราอยู่ช่วงนึงนะ) แม้ว่ามันจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่โนเกียได้สืบทอดชื่อแบรนด์ N-Gage ต่อไป โดยเปลี่ยนมันเป็นบริการร้านขายเกมและชุมชนคนเล่นเกมบนมือถือของโนเกีย ซึ่งเปิดทำการตั้งแต่เดือนเมษายน 2008 ใช้ได้บนมือถือ Nokia ที่เป็นรุ่น N ทั้งหลาย และรุ่นอื่นๆ อีกนิดหน่อย
อย่างไรก็ตาม N-Gage ภาคถือกำเนิดใหม่ ก็ยังไม่ค่อยประสบความสำเร็จอีกเช่นกัน เปิดมาได้เกือบ 2 ปี มีเกมวางขายทั้งหมด 49 เกม โนเกียก็ประกาศปิดร้านขายเกมนี้แล้ว โดยจะโอนการขายเกมไปยัง Ovi Store แทน ส่วนเกมเดิมที่ซื้อไปแล้วยังใช้ได้ตลอดไป
หลังการประกาศให้ Symbian กลายเป็นโครงการโอเพนซอร์สเมื่อปีที่แล้ว วันนี้ทาง Symbian Foundation ก็ประกาศว่าซอร์สโค้ดทั้งหมดสามารถดาวน์โหลดมาคอมไพล์ได้แล้วในวันนี้
เครื่องมือที่จะมาพร้อมกับ Symbian EKA2 นี้ได้แก่
โนเกียแถลงข่าวว่าบริษัทได้ยื่นฟ้องต่อแอปเปิลฐานละเมิดสิทธิบัตรของทางโนเกีย 10 ใบ ครอบคลุมตั้งแต่เทคโนโลยี GSM, WCDMA, WiFi, การเข้ารหัสข้อมูล, และการเข้ารหัสเสียง (ทุกอย่างที่คุณจะใช้ทำโทรศัพท์มือถือสักเครื่อง) ทำให้ iPhone ทุกรุ่นเข้าข่ายการละเมิดที่โนเกียอ้าง
โนเกียระบุว่าบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์กว่า 40 บริษัทได้มีข้อตกลงกับทางโนเกียเพื่อใช้งานสิทธิบัตรเหล่านี้ แต่แอปเปิลนั้นไม่ได้ทำข้อตกลงใดๆ
โนเกียเพิ่งประกาศผลประกอบการติดลบ ส่วนแอปเปิลนั้นกำไรยังคงเป็นดาวรุ่งในไตรมาสที่ผ่านมา
มีภาพหน้าจอข้อมูลสินค้าคงคลัง โนเกีย Booklet 3G ของร้านขายสินค้าออนไลน์ Best Buy ในสหรัฐฯ รั่วออกมา ระบุราคาขาย 599 ดอลล่าร์ (ราว 20,200 บาท) ซึ่งถูกกว่าราคาขายในยุโรปที่ขายอยู่ราว 810 ดอลล่าร์ (ราว 28,000 บาท) แต่ยังไม่รู้วันวางขายอยู่ดี
ราคาขายอาจต่ำกว่านี้ หากขายคู่กับสัญญาผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ
เป็นสัญญาณที่ดีว่าเมื่อนำเข้ามาขายไทย ราคาน่าจะอยู่ประมาณ 2 หมื่นบาท ซึ่งก็ไม่แพงจนเกินไป
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา Wireless Power Consortium (WPC) ได้ประกาศว่าโนเกียได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกแล้ว ซึ่งมีการคาดหมายกันว่าโนเกียต้องการจะใช้มาตรฐานการชาร์จแบบไร้สาย "Qi" ที่สมาคมนี้ทำอยู่มาเร่งการพัฒนาของโนเกียเอง ส่วนสมาคมเองก็ได้ผู้สนับสนุนรายใหญ่มาสนับสนุนมาตรฐานแบบเปิดนี้มากขึ้น
หวังว่าจะได้เห็นที่ชาร์จแบบไร้สายที่ใช้ร่วมกันทั้งคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์อื่นๆ ในเร็ววันนะ
ที่มา: Electronista
หลังปาล์มได้ประกาศผลประกอบการเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งผลคือขาดทุนน้อยกว่าที่คาด แต่ก็มีข่าวลือออกมาในแวดวงนักลงทุนหนาหูทีเดียวว่าโนเกียสนใจจะเข้ามาซื้อกิจการของปาล์ม?
Darcy Travlos นักวิเคราะห์หุ้นอิสระ จึงเขียนบทความลงในหน้าเว็บของ Forbes วิเคราะห์ถึงโอกาสและความเป็นไปได้ของข่าวลือนี้
นอกจากการเปิดเน็ตบุ๊กและโทรศัพท์มือถือหลากหลายรุ่นในช่วงงาน Nokia World 09 แล้ว (ดูข่าวเก่า 1: Nokia Booklet ตั้งราคาแล้ว ที่ 570 ยูโร โดยคุณ toandthen, ข่าวเก่า 2: Nokia X6 โทรศัพท์จอ capacitive ตัวแรกจากโนเกีย โดยคุณ lew) โนเกียยังเปิดตัว Ovi SDK รวมถึง API ชุดใหม่คือ Ovi Navigation Player API ทำให้นักพัฒนาสามารถเรียกใช้ฟีเจอร์การนำทางได้
Ovi SDK ที่ลักษณะเป็นกล่องเครื่องมือบนหน้าเว็บ ให้นักพัฒนาสามารถเว็บเซอร์วิสและแอปพลิเคชันสำหรับโทรศัพท์มือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Symbian และ Maemo ได้
ถ้าใครรำคาญใจที่ต้องออกแรงกดใน Nokia 5800 และรำคาญยิ่งกว่าเมื่อโนเกียออกโทรศัพท์มาเป็นจอ resistive ที่อาศัยแรงกดจากนิ้วทั้งหมด Nokia X6 ก็เป็นตัวที่อาจจะน่ารอ
สำหรับเสปคอื่นๆ นั้นก็ตามแบบฉบับของโนเกียทั่วไป (ที่ผมพิมพ์ซ้ำไปมาจนเริ่มๆ จะเบื่อ) ได้แก่
ราคา 640 ดอลลาร์หรือ 22,000 บาท วางตลาดช่วงคริสตมาสนี้
หลังจากโนเกียเปิดเผยข้อมูล Booklet 3G เน็ตบุ๊กมาบ้างแล้ว (ดูข่าวเก่า) วันนี้ในงาน Nokia World 09 โนเกียได้เปิดตัวเน็ตบุ๊กดังกล่าว พร้อมทั้งรายละเอียดและราคาอย่างเป็นทางการ ดังนี้
Engadget รายงานว่าโนเกียได้ทำการแจ้งราคาของเน็ตบุค Nokia Booklet 3G แล้ว และยังได้เปิดเผยรายละเอียดอื่น ๆ อีกเล็กน้อย
แบตเตอรี่ของ Booklet 3G นั้นจะสามารถใช้ได้นานถึง 12 ชั่วโมง ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Intel Atom 1.6GHz (รุ่น Z530) ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7 มี Wi-Fi และสามารถเปลี่ยนซิมการ์ดได้โดยไม่ต้องปิดเครื่องแต่อย่างใด (Hot-swap)
ตัวเครื่องมีความหนาอยู่ที่ 0.78 นิ้ว เครื่องที่ขายมีทั้งหมดสามสี ได้แก่ สี "Ice" (ขาว) สีดำ และสี "Azure" (ฟ้า) นอกจากนี้แล้วตัวเครื่องไม่มีพัดลม แรมมีให้ 1GB ฮาร์ดดิกส์ขนาด 120GB (ขนาด 1.8 นิ้วที่ความเร็ว 4200 รอบต่อนาที) มาพร้อมกับโปรแกรมชุด Ovi
มีข่าวลือจากผู้ผลิตโทรศัพท์ในประเทศไต้หวันว่า นอกจากโนเกียเตรียมจะปล่อยโน้ตบุ๊ก (หรือที่ใครต่อใครก็เข้าใจเป็นเน็ตบุ๊ก) ชื่อ Booklet 3G ที่มีหน่วยประมวลผลกลางเป็นอินเทลอะตอม (ดูข่าวเก่า) โนเกียยังเตรียมเอาต์ซอร์สให้ผู้ผลิตอื่นทำการผลิตสมาร์ทบุ๊กที่ใช้หน่วยประมวลผลกลางเป็น ARM อีกด้วย
แหล่งข่าวได้ระบุว่าสมาร์ทบุ๊กดังกล่าวจะลงทำตลาดในช่วงกลางปีหน้า ถัดจาก Booklet 3G เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น
ปีที่ผ่านมาโนเกียนำ Symbian กลับมาอยู่ในกระแสได้ค่อนข้างดีจากการเปิดตัว Nokia 5800 และตอนนี้โนเกียน่าจะรู้ตัวแล้วว่าอย่างไรเสียก็ปฎิเสธกระแสโทรศัพท์จอสัมผัสไม่ได้ ทำให้มีการเปิดตัวโทรศัพท์จอสัมผัสออกมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึง Nokia 5230 นี้ก็มีราคาเพียง 149 ยูโร หรือประมาณ 7250 บาทเท่านั้น
จุดที่ 5230 จะต่างจากโทรศัพท์จอสัมผัสรุ่นอื่นคือกล้อง 2 ล้านพิกเซล, ไม่มี WiFi, และ 3G รองรับความเร็ว 384kbps เท่านั้น
แต่จะว่าไปราคานี้ไม่ติดสัญญาก็น่าใช้ทีเดียวนะ
ที่มา - Nokia
เว็บไซต์ Boy Genius Report รายงานข้อมูลจากเอกสารภายในของ Verizon โอเปอเรเตอร์รายใหญ่ของสหรัฐ ว่ากำลังจะมีมือถือรุ่นใดบ้างออกวางจำหน่ายกับเครือข่าย Verizon ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ความเดิม: โนเกียเข้าซื้อกิจการของ Symbian ประกาศโอเพนซอร์ส และยกอำนาจการดูแลให้ Symbian Foundation เมื่อการทำงานเริ่มลงตัว Symbian Foundation ได้ออกมาประกาศว่าจะออกรุ่นใหม่ทุก 6 เดือน
เวลาผ่านมาเกือบครึ่งปี Symbian เผยแผนการเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการของตัวเองเพิ่มมากขึ้น วันนี้จะเล่าถึงแผนของ Symbian^2 จนถึง Symbian^4 ครับ
จากข่าวลือ N900 Internet Tablet ตัวใหม่จากโนเกีย? (ข่าวจากคุณ mk) ขณะนี้ข่าวนี้ได้รับการยืนยันแล้วว่าโนเกียเตรียมออก N900 จริง โดยมีข้อมูลเพิ่มเติมว่าเป็นโทรศัพท์ด้วย ราคาอยู่ที่ประมาณ 26,632 บาท (550 Euro) แต่ราคายังไม่ได้รับการยืนยัน
หลายๆ คนเวลาซื้อโทรศัพท์คงจะมองหาว่าสามารถเปิดไฟล์เอกสารที่สร้างจาก Office ได้หรือเปล่า มาวันนี้ไมโครซอฟท์ได้แถลงข่าว (จากข่าวเก่าที่ประกาศเป็นพันธมิตรกัน) ว่า กำลังจับมืออยู่กับโนเกียในการผลิตซอฟต์แวร์ด้านเอกสารสำหรับโทรศัพท์ที่ใช้ Symbian ของโนเกียแล้วครับ
การจับมือร่วมกันในครั้งนี้นั้นมีเป้าหมายในการสร้าง Office Mobile สำหรับ Symbian (ที่แต่เดิมมีแต่บน Windows Mobile) ที่มีจุดประสงค์คือการดู, สร้าง, แก้ไข, แบ่งปันเอกสารของ Word, PowerPoint, Excel และ OneNote นอกจากนี้ ยังมีสร้างแพลตฟอร์มสำหรับการสนับสนุน Microsoft Office Communicator Mobile อีกด้วย
ทาง Engadget ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการแถลงข่าวออนไลน์ที่ประกาศการเป็น "พันธมิตร" ระหว่างไมโครซอฟท์และโนเกีย โดยไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมใดๆ
งานนี้ทาง Engadget เองก็ได้แต่เดาเช่นว่าโทรศัพท์โนเกียรุ่นที่ใช้ Windows Mobile, หรืออาจจะเป็นการประกาศรองรับ Microsoft Exchage แต่ทั้งหมดก็แค่เดา
พรุ่งนี้รู้เรื่องครับ
ที่มา - Engadget
Wall Street Journal รายงานว่าจากการวิจัยของ Deutsche Bank พบว่ากำไรกว่า 38% ของทั้งอุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมดตกอยู่ในมือของสองบริษัท (เมื่อนำตัวเลขของสองบริษัทมารวมกัน) คือแอปเปิลและ RIM แม้ว่าทั้งสองบริษัทนี้จะมีส่วนแบ่งตลาดในอุตสาหกรรมเพียงแค่ 3% เท่านั้น
หากมาดูแต่แอปเปิลอย่างเดียว จะพบว่ากำไร 20% ของทั้งอุตสาหกรรมอยู่กับแอปเปิล ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดเพียงแค่ 1%
นอกจากนี้แล้ว ในรายงานเดียวกันคาดว่าภายในปีนี้ส่วนแบ่งตลาดของแอปเปิลและ RIM รวมกันน่าจะสูงถึง 5% ในขณะที่จะคว้า 58% ของกำไรทั้งหมดของอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือ