โนเกียโพสต์วิดีโอโฆษณาใหม่บน YouTube เนื้อหาเน้นชูภาพลักษณ์องค์กรด้านการเป็นผู้เชี่ยวชาญเครือข่าย โดยมีผลิตภัณฑ์บางตัวของบริษัทร่วมเข้าฉากด้วย เช่น Ozo กล้อง VR ถ่ายภาพ 360 องศา
จุดที่น่าสนใจคือในวิดีโอมี "มือถือ" และ "แท็บเล็ต" ไม่ระบุยี่ห้อโผล่มาด้วย (นาทีที่ 1:19 และ 1:23) ตรงนี้ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าเป็นแค่อุปกรณ์เข้าฉากอย่างเดียว หรือเป็นสินค้าใหม่ที่ยังไม่เปิดตัวกันแน่ครับ
ที่มา - Neowin
เว็บไซต์ Nokiapoweruser เผยภาพหลุดต้นแบบฟีเจอร์โฟนติดโลโก้ Nokia จากเว็บไซต์ในจีน พร้อมระบุว่าต้นแบบนี้น่าจะถูกยกเลิกโครงการไปแล้ว
Nokiapoweruser ยังกล่าวว่า โนเกียกำลังพัฒนามือถือรัน Android ถึงสามรุ่น โดยสองในสามน่าจะมีหน้าจอราว 5-5.5 นิ้ว และน่าจะมากับฟีเจอร์ใหม่อย่างการปฏิสัมพันธ์กับเครื่องด้วยการโบกนิ้ว (hover interaction) กล้อง และเสียง
หวังว่าเราจะได้เห็นมือถือรัน Android จากโนเกียในอนาคตนะ
Nokia ซื้อหุ้น 79.32% ของ Alcatel-Lucent บริษัทอุปกรณ์โทรคมนาคมสัญชาติฝรั่งเศส (คนละอันกับ Alcatel Onetouch) ด้วยมูลค่า 15.6 พันล้านยูโร (ประมาณ 60.6 หมื่นล้านบาท) โดยการรับรองจากคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) และดำเนินการเกี่ยวกับหุ้นในตลาดหุ้นฝรั่งเศส (Autorité des Marchés Financiers - AMF) เรียบร้อย
กระบวนการควบรวมบริษัทจะเริ่มขึ้นในวันที่ 14 มกราคม ซึ่ง Rajeev Suri ซีอีโอของ Nokia เผยว่าจะเป็นการควบรวมเพื่อสร้างสรรค์ยุคถัดไปของเทคโนโลยีและบริการ
โนเกียประกาศข่าวเจรจาซื้อหุ้นของ Alcatel-Lucent ตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2015
เมื่อกลางปีที่แล้วมีภาพเรนเดอร์และข้อมูลสมาร์ทวอทช์โนเกีย โค้ดเนม Moonraker หลุด ล่าสุดมีภาพเครื่องตัวจริงหลุดออกมาแล้ว
จากภาพ จะเห็นว่าตัวเครื่องมีจอสัมผัสสี่เหลี่ยม มี Glance Screen และมีเซ็นเซอร์วัดอัตราเร่ง (accelerometer)
ที่มา: Weibo ผ่าน WMPoweruser
โนเกียเสร็จกระบวนการขายธุรกิจแผนที่ HERE ให้กลุ่มบริษัทรถยนต์จากเยอรมนี 3 ค่ายคือ Audi, BMW, Daimler เรียบร้อยแล้ว ทั้งสามรายจะถือหุ้น HERE ในสัดส่วนเท่ากันหมด
บริษัทรถยนต์รายใหญ่เหล่านี้ต้องการแผนที่ความละเอียดสูง (HD Maps) ของ HERE ไปใช้พัฒนารถยนต์อัตโนมัติของตัวเอง อย่างไรก็ตาม HERE ยังมีสิทธิขายแผนที่ให้บริษัทอื่นๆ ต่อไป คาดว่ารูปแบบการบริหารของ HERE จะเป็นอิสระจากเจ้าของทั้งสามราย
นอกจากจะมีข่าวว่า Nokia จะกลับมาลุยวงการมือถืออีกรอบแล้ว ดูเหมือนภายในของบริษัทเองก็เตรียมพร้อมสำหรับอนาคตอยู่เช่นกัน ล่าสุดออกมาโชว์ผลงานใหม่ที่มาในชื่อแปลกอย่าง Ozo แล้ว
Ozo เป็นกล้อง VR ทรงกลมขนาดเท่าศีรษะมนุษย์ ประกอบด้วยกล้องความละเอียดสูง 8 ตัวรอบตัวเครื่อง โดยใช้กล้องที่กะระยะห่างใกล้เคียงกับดวงตามนุษย์ และเลนส์มุมแสดงผล 195 องศา เพื่อให้สามารถเก็บภาพที่ใกล้เคียงกับที่มนุษย์เห็นตามปกติ รวมถึงมีไมโครโฟนในตัวเพื่อเก็บเสียงสามมิติสมจริง ส่วนด้านท้ายที่ยื่นออกมานั้นมีไว้สำหรับใส่แบตเตอรี่ และ SSD
ด้วยการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์พกพาได้รับความนิยมสูง และมีจำนวนเครื่องที่ใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันจะให้ความเร็วเหลือกินเหลือใช้ แต่เมื่อต้องใช้งานในที่ผู้คนคับคั่ง การใช้งานก็ยังช้าลงอยู่ดีด้วยแบนด์วิดท์จากสถานีฐานที่ยังจำกัด
อินเทล, โนเกีย, และอีริคสัน ร่วมมือกันเสนอมาตรฐาน NB-LTE (Narrow Band LTE) สำหรับการใช้งานกับคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ต้องการส่งข้อมูลไม่มากนัก และสามารถทำงานได้โดยกินพลังงานต่ำ
NB-LTE ใช้คลื่นย่าน 700-900MHz แต่ละช่องใช้ย่านความถี่เพียง 200kHz เท่านั้น และรัศมีการให้บริการเสาส่งจะไกลถึง 15 กิโลเมตร ความเร็วในการดาวน์โหลด 200kbps และอัพโหลด 150kbps ความได้เปรียบของ NB-LTE เทียบกับมาตรฐานอื่นๆ คือมันสามารถอยู่ร่วมกับบริการ LTE ปกติได้ สามารถแชร์ฮาร์ดแวร์และคลื่นความถี่ร่วมกัน
ทางอินเทลระบุว่าชิปที่รองรับ NB-LTE จะเริ่มออกมาในปีหน้า
@evleaks เผยภาพ Nokia Reader โดยระบุแต่เพียงว่า "ราว 2013" เท่านั้น
ไม่รู้ว่า Nokia Reader เกิดขึ้นจากดีลไมโครซอฟท์ร่วมลงทุนใน Nook ที่แยกบริษัทมาจาก Barnes & Noble แต่ก็ไปไม่รอด ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากโนเกียจับมือกับไมโครซอฟท์ ออกมือถือรัน Windows Phone 7 เพียงหนึ่งปีหรือไม่
ที่มา: @evleaks
เว็บไซต์จีนแห่งหนึ่งเผยภาพต้นแบบสมาร์ทโฟน Nokia C1 จากภาพ (ดูได้ท้ายข่าว) จะเห็นว่าตัวเครื่องอาจทำจากโลหะ
แหล่งข่าวยังเสริมว่า Nokia C1 จะมากับหน้าจอ 5 นิ้ว ที่ความละเอียด 1080p ใช้ชิป Intel Atom รัน Android 6.0 (Marshmallow)
อัพเดต แหล่งข่าวเว็บไซต์ Nokiapoweruser เผยว่า มือถือนี้ไม่ใช่สิ่งที่โนเกียออกแบบเพื่อเปิดตัวปีหน้า และไม่ใช่ต้นแบบที่ถูกยกเลิกไป จึงน่าจะเป็นภาพที่ทำขึ้นมากกว่า
ที่มา: CNMO.com ผ่าน Nokiapoweruser
ดีลไมโครซอฟท์ซื้อโนเกียปิดไปตั้งแต่กันยายนปี 2013 ถึงกระนั้นทางคณะกรรมการทางการค้า (FTC) ของเกาหลีใต้เพิ่งจะประกาศรับรองดีลดังกล่าว หลังใช้เวลาพิจารณาการรับรองถึงเกือบ 2 ปี
FTC ให้เหตุผลว่าเกรงว่าไมโครซอฟท์จะทำให้โนเกีย กลายเป็นคู่แข่งของ LG และซัมซุงในเกาหลีใต้ ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้สิทธิบัตรของโนเกีย เล่นงานคู่แข่ง ซึ่งทางไมโครซอฟท์สามารถคลายข้อสงสัยตรงนี้กับทาง FTC ไปเมื่อปีกลายและทำให้ดีลนี้ได้รับการรับรองในเกาหลีใต้ในที่สุด
ที่มา - CNET
หลังจากออกปากไปแล้วว่าโนเกียจะกลับสู่วงการสมาร์ทโฟนแน่นอนในปี 2016 ตอนนี้ยักษ์หลับจากฟินแลนด์ก็เริ่มเสริมทัพเพื่อเตรียมความพร้อมแล้ว
จากแผนตอนนี้ที่กำลังไลเซนส์แบรนด์ให้เจ้าอื่นมาผลิตตัวเครื่องให้ ตอนนี้ทางโนเกียก็เริ่มเปิดรับสมัครหลายตำแหน่งในเว็บไซต์หางานอย่าง LinkedIn โดยมีตำแหน่งในแผนกพัฒนาผลิตภัณฑ์รวมอยู่ด้วย ที่สำคัญคือโนเกียกำลังมองหาวิศวกรที่เชี่ยวชาญด้านแอนดรอยด์ จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าระบบปฏิบัติการตัวใหม่ของโนเกียอาจเลือกใช้แอนดรอยด์จริงๆ แล้ว
หลังจากเจรจากันมานาน ในที่สุดโนเกียก็สามารถขายธุรกิจแผนที่ HERE ให้กลุ่มบริษัทรถยนต์จากเยอรมนี 3 รายคือ Audi, BMW, Daimler (เจ้าของ Mercedes-Benz) ในราคา 2.8 พันล้านยูโร กระบวนการขายจะเสร็จสมบูรณ์ในไตรมาสแรกของปี 2016
Rajeev Suri ซีอีโอของโนเกียระบุว่าการขาย HERE ทำให้โนเกียเสร็จสิ้นกระบวนการเปลี่ยนผ่านตัวเองมาสู่ยุคใหม่ ซึ่งประกอบด้วยการซื้อหุ้นทั้งหมดของ Nokia Siemens Network, การขายธุรกิจโทรศัพท์, และการขายธุรกิจแผนที่ นับจากนี้ไป โนเกียจะกลายเป็นบริษัทใหม่ที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเครือข่ายและบริการ
โนเกียเปิดตัวกล้อง OZO ชุดกล้องที่ติดตั้งเป็นทรงกลมเพื่อการถ่ายภาพรอบทิศทาง โดยตอนนี้ยังไม่มีสเปคชัดเจนนักแต่ทางโนเกียจะประกาศสเปคเต็มอีกครั้ง เบื้องต้น OZO จะมีชัดเตอร์ 8 ชุด และไมโครโฟนอีก 8 ชุด
ซอฟต์แวร์ของ OZO จะสามารถแสดงภาพเป็นสามมิติได้ทันที ไม่ต้องประมวลผลล่วงหน้าที่กินเวลานาน
งานนี้โนเกียเปิดตัวเฉพาะกล้อง ส่วนจอภาพแบบ VR นั้นทางโนเกียระบุว่าจะเข้ากันได้กับจอที่ขายกันในตลาดทุกวันนี้
ตัวกล้องผลิตในฟินแลนด์และจะวางจำหน่ายในปีนี้
ที่มา - Nokia
หนังสือพิมพ์ New York Times รายงานว่า Uber ได้ถอนตัวจากการแข่งขันซื้อธุรกิจแผนที่ HERE จาก Nokia แล้ว - New York Times
ต่อมา หนังสือพิมพ์ Wall Street Journal เผยว่า Nokia ใกล้ปิดดีลขายธุรกิจแผนที่ HERE มูลค่ากว่า 2.71 พันล้านดอลลาร์ กับ Audi, BMW และ Daimler สามผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมัน
เว็บไซต์ Re/code อ้างแหล่งข่าววงในว่า งานแถลงข่าวของโนเกียวันที่ 28 ก.ค. ไม่ได้เป็นการเปิดตัวสมาร์ทโฟน แต่จะเป็นผลิตภัณฑ์ด้าน virtual reality (VR) แทน
ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เป็นผลงานของ Nokia Technologies ฝ่ายพัฒนาเทคโนโลยีและขายไลเซนส์ ซึ่งเคยมีข่าวว่าสนใจทำเรื่อง VR ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา
ที่มา - Re/code
อยู่ดีๆ Nokia Technologies ธุรกิจขายไลเซนส์เทคโนโลยีภายใต้บริษัทโนเกีย ได้ส่งบัตรเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมงานอันเป็นปริศนาที่เมืองลอสแอนเจลิส สหรัฐฯ ในวันที่ 28 ก.ค. นี้ โดยระบุเพียงแค่ "NOWHERE" กับ "NOW HERE" เท่านั้น
มีความเป็นไปได้หลายอย่างที่อาจเกิดขึ้นในงานดังกล่าว ทั้งการเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นถัดไปของ N1, เปิดตัวคู่ค้ารายใหม่, เปิดตัวอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่ไม่คาดคิดมาก่อน หรือบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับ HERE (หากตีความจากข้อความ "NOW HERE")
ที่มา: Android Headlines
หลังจาก Nokia ประกาศจะกลับสู่วงการมือถือในปี 2016 Nokia กำลังมองหาพันธมิตรเพื่อให้สิทธิดำเนินการภายใต้แบรนด์ของ Nokia และมีข่าวลือว่าอาจเป็น Foxconn ที่ได้รับสิทธินี้ไป
การกลับเข้าสู่วงการมือถือของ Nokia จำเป็นต้องพึ่งพาพันธมิตรที่มีศักยภาพพอในการดำเนินการผลิต การตลาด การจัดจำหน่าย และบริการหลังการขายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของ Nokia อย่าง Foxconn ที่ได้สิทธิในการผลิตแท็บเล็ต Nokia N1
งานนี้ต้องคอยติดตามการประกาศพันธมิตรอย่างเป็นทางการของ Nokia ซึ่งคาดกันว่าน่าจะเป็นช่วงปลายปีหน้าเป็นอย่างเร็ว
Nokia ผุดไอเดียพัฒนาโดรนเพื่อช่วยในการตรวจสอบระบบตลอดจนซ่อมบำรุงเสาสัญญาณโทรคมนาคม
งานนี้ Nokia ร่วมมือกับ Du บริษัทด้านโทรคมนาคมในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ออกแบบโดรนเพื่อใช้งานในหลายหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจวัดคุณภาพสัญญาณในบริเวณต่างๆ หรือการตรวจสอบสภาพของอุปกรณ์บนเสาสัญญาณเพื่อประเมินงานซ่อมบำรุง ซึ่งจะช่วยทุนแรงและเวลาในการทำงานของพนักงาน
ล่าสุด Nokia ก็ได้ทำการทดสอบโดรนที่พัฒนาขึ้นใหม่นี้ โดยใช้โดรนที่ติดตั้งกล้องบันทึกภาพและสมาร์ทโฟนไว้ในตัว ทำการบันทึกภาพและจดบันทึกค่าความแรงของสัญญาณจากเสาส่งในพื้นที่สนามกีฬา Dubai International Stadium ทั้งยังใช้ตรวจสอบแนวการมองเห็นซึ่งกันและกันของเสาส่งสัญญาณ ซึ่งผลการทดสอบใช้งานก็เป็นที่น่าพอใจ
ประเด็นความพยายามขายธุรกิจแผนที่ HERE ของ Nokia ยังคงมีข้อมูลเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด Reuters รายงานว่า Nokia เพิ่งไปเจรจาขาย HERE ให้กลุ่มบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของประเทศเยอรมันอย่าง Daimler, BMW และ Audi แต่ดูเหมือนการเจรจาครั้งนี้จะยิ่งทำให้ Nokia ตกที่นั่งลำบากขึ้นไปกว่าเดิม
Bloomberg ได้เอกสารภายในของไมโครซอฟท์ ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับยุทธศาสตร์มือถือ และการปลดพนักงาน 7,800 ดังนี้
Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์ออกมาประกาศตัดบัญชีสินทรัพย์ด้อยค่า (impairment charge) ของทรัพย์สินที่ซื้อมาจากโนเกีย (Nokia Devices and Services) มูลค่า 7.6 พันล้านดอลลาร์ ควบคู่ไปกับการปลดพนักงานรอบใหม่ 7,800 คน
อย่างไรก็ตาม Nadella ยืนยันว่าไมโครซอฟท์จะยังทำฮาร์ดแวร์ของตัวเอง (first party device) ต่อไป ไม่เลิกทำโทรศัพท์มือถือ แต่จะปรับแผนธุรกิจใหม่ จากเดิมที่มองธุรกิจสมาร์ทโฟนเป็นธุรกิจแยกเฉพาะของตัวเอง ก็เปลี่ยนมาเป็นส่วนหนึ่งของ Windows ecosystem แทน
หนังสือพิมพ์ The New York Times รายงานว่าไมโครซอฟท์กำลังจะปลดพนักงานอีกรอบเพื่อลดค่าใช้จ่าย โดยพนักงานกลุ่มหลักที่จะได้รับผลกระทบคือฝ่ายฮาร์ดแวร์ รวมถึงพนักงานที่ย้ายมาจากโนเกียเดิม
ช่วงกลางปีที่แล้ว ไมโครซอฟท์ประกาศปลดพนักงานถึง 18,000 คน มารอบหนึ่งแล้ว โดยส่วนใหญ่ก็เป็นอดีตพนักงานของโนเกียเช่นกัน (ปัจจุบันไมโครซอฟท์มีพนักงานราว 118,000 คนทั่วโลก) และเมื่อเดือนที่แล้ว Stephen Elop อดีตซีอีโอของโนเกียก็เพิ่งลาออกจากบริษัทไป
โจทย์ใหญ่ที่ไมโครซอฟท์ยังแก้ไม่ตกคือไม่สามารถพลิกฟื้นยอดขาย Windows Phone ได้ แม้จะซื้อโนเกียมาแล้วก็ตาม
Matti Makkonen อดีตวิศวกรของโนเกีย เสนอให้โทรศัพท์มือถือสามารถส่งข้อความเป็นตัวอักษรได้มาตั้งแต่ปี 1984 และใช้เวลาถึง 8 ปีกว่าโทรศัพท์มือถือจะสามารถส่งข้อความตัวอักษรได้จริงในปี 1992 เขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 26 ที่ผ่านมาด้วยวัยเพียง 63 ปี
SMS กลายเป็นช่องทางสื่อสารสำคัญที่ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือใช้งานกันต่อเนื่องหลายปี ในปี 2012 เป็นจุดสูงสุดของ SMS ที่มีผู้ส่งข้อความทั่วโลกถึง 7.76 ล้านล้านข้อความ อย่างไรก็ดี Makkonen ไม่ได้จดสิทธิบัตร SMS เปิดทางให้ระบบการส่งข้อความบนโทรศัพท์มือถือ แอพพลิเคชั่นแชต ไปจนถึงเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่เลียนแบบ SMS อย่างทวิตเตอร์เกิดขึ้นในโลกกันมากมาย
ความคืบหน้าต่อจากข่าว โนเกียเตรียมหวนคืนวงการมือถือในปี 2016 โดยจะอยู่ในรูปการพัฒนาต้นแบบ-ให้สิทธิใช้แบรนด์กับบริษัทอื่นไปทำตลาดต่อ
เว็บไซต์ NokiaPowerUser อ้างข่าวลือวงในว่า "บริษัทอื่น" ที่ว่าคือ Foxconn นั่นเอง ข้อมูลนี้ไม่ผิดจากความคาดหมายนัก เพราะก่อนหน้านี้ Foxconn ก็ได้สิทธิแบบเดียวกันทำตลาดแท็บเล็ต Nokia N1 มาก่อนแล้ว
แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่ามือถือโนเกียยุคใหม่จะโฟกัสที่ประเทศจีน อินเดีย และยุโรปบางประเทศก่อน แล้วค่อยขยายมาทั่วโลกในช่วงปลายปี 2016