SAP เผยในงาน Global Summit ที่บาร์เซโลน่าว่า ทางบริษัทจะนำบริการซอฟต์แวร์ SAP Hybris Marketing Cloud ร่วมกับผลิตภัณฑ์ SAP Leonardo นำระบบจดจำใบหน้าเสนอแก่ร้านค้าปลีก เก็บข้อมูลเบื้องต้นของลูกค้าเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นอายุ เพศ เสื้อผ้าที่สวมใส่ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อร้านค้าในการนำฐานข้อมูลไปวิเคราะห์และทำสินค้าออกมาได้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น
กลุ่มเซ็นทรัลเปิดตัวแพลตฟอร์ม AVDM หรือ Aux Villies Du Monde เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นรวมข้อมูลท่องเที่ยวและสินค้าในห้างของกลุ่มเซนทรัลที่ตั้งอยู่ใน 8 เมืองในยุโรป พร้อมกันนี้ยังเปิดบริการซื้อสินค้าในห้างดังกล่าว โดยสื่อสารกับหน้าร้านผ่าน WhatsApp และการันตีจัดส่งสินค้าถึงบ้านภายใน 5 วัน
หลังจากที่เห็นข่าวซุปเปอร์มาร์เก็ต Hema (เหอ หม่า) ที่ผสมผสานระหว่างโลกออนไลน์และออฟไลน์ไว้ด้วยกัน ประกอบกับการแชร์เรื่องราวของคุณป้าในเมืองจีนที่คอมเมนท์นักข่าวอย่างเมามันในการตั้งคำถามของการเปิดร้านนี้ ทำให้ผมอยากจะไปดูร้านนี้จริง ๆ ว่าเป็นอย่างไรกันแน่
โชคดีที่ได้เดินทางไปเซี่ยงไฮ้พอดี เลยหาทางไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้เพื่อดูว่ามันพิเศษอย่างไร สมคำร่ำลือหรือไม่
หลังจาก Amazon ประกาศซื้อกิจการ Whole Foods Market ที่เน้นขายอาหารออร์แกนิกด้วยมูลค่า 1.37 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตอนนี้ Amazon เผยออกมาแล้วว่าดีลจะสิ้นสุดลงในวันจันทร์ที่ 28 สิงหาคมนี้ เตรียมลดราคาสินค้าทันทีหลายรายการ
นอกจากนี้ ทีมเทคโนโลยีของ Amazon และ Whole Foods Market เตรียมรวมระบบขายหน้าร้านของทั้งสอง (point-of-sale system) เข้าไว้ด้วยกัน สมาชิก Amazon Prime จะได้รับผลสิทธิพิเศษและผลประโยชน์จาก Whole Foods ด้วย นอกจากนี้ก็จะรวมสินค้าและโลจิสติกส์เข้าไว้ด้วยกันเพื่อทำให้ราคาสินค้าลดลงมากขึ้น
ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ Walmart ขยับขึ้นอีกขั้นเพื่อต่อสู้กับคู่แข่งอย่าง Amazon เต็มที่ โดยยื่นขอจดสิทธิบัตรทำคลังสินค้าลอยฟ้า ซึ่งเอื้อต่อการจัดส่งสินค้าผ่านโดรนให้ถึงมือลูกค้า หลังจาก Amazon จดสิทธิบัตรโกดังคล้ายๆ กันนี้ไปในปี 2016
ในภาพประกอบการยื่นขอจดสิทธิบัตร เป็นรูปคล้ายบอลลูนทรงรีขนาดใหญ่ มีก๊าซธรรมชาติเป็นพลังงานสำคัญเพื่อให้สามารถลอยได้ ตัวคลังสินค้าจะลอยที่ความสูง 500-1,000 ฟุต (ประมาณ 300 เมตร เหนือพื้นดิน) มีช่องทางระบายสินค้าหลายช่อง ควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติ หรือรีโมทควบคุมระยะไกล
Hema stores ที่ Jack Ma เพิ่งจะก่อตั้งมาอย่างเงียบๆ ได้เพียง 2 ปี ตอนนี้ล้ำหน้า Amazon เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่วงการอีคอมเมิร์ซที่เพิ่งประกาศซื้อกิจการ Whole Foods Market เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ปัจจุบัน Hema stores มีทั้งหมด 13 สาขา ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง 2 สาขา เซี่ยงไฮ้ 10 สาขา และหนิงโป 1 สาขา
ใช้โมเดลที่ถือว่าเปิดโลกการตลาดค้าปลีกแบบใหม่ (New Retail) เพราะผสมผสานการช็อปปิ้งแบบออฟไลน์กับออนไลน์ไว้ด้วยกัน ลูกค้าแค่เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Hema และสแกนบาร์โค้ดสินค้าที่ต้องการ จากนั้นก็ชำระเงินด้วย Alipay หรือ Taobao
เว็บไซต์ Recode รายงานว่า Katia Beauchamp ซีอีโอ BIRCHBOX เว็บไซต์ขายผลิตภัณฑ์ความงามแบบให้ลูกค้าสมัครสมาชิก เข้าเจรจาเรื่องความเป็นไปได้ในการซื้อขายกับ Marc Lore ซีอีโอ Walmart หากผลการเจรจาคือตกลงเข้าซื้อ BIRCHBOX จะกลายเป็นอีคอมเมิร์ซที่ห้าที่ Walmart เข้าซื้อนับจากเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
Walmart ดึงสินค้าที่ขายดีในออนไลน์เข้ามาสู่ร้านค้าปลีกอยู่เรื่อยๆ โดยก่อนหน้านี้ก็ประกาศซื้อ Jet.com ด้วยราคาประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์ ด้าน BIRCHBOX ก็ประสบปัญหา คือมีการปรับลดพนักงานเรื่อยๆ
ร้านสะดวกซื้อ Cheers ในเครือ NTUC FairPrice ประกาศเปิดสาขาไร้พนักงานประจำร้านเป็นสาขาแรก แม้จะไม่ใช่ระดับที่ไม่มีแคชเชียร์แบบ Amazon Go แต่ก็มีระบบอัตโนมัติ เช่น การตรวจจับพฤติกรรมของผู้ซื้อ และการตรวจสต็อกสินค้า
ลูกค้าของสาขาทดลองนี้ยังต้องไปจ่ายเงินด้วยตัวเองอยู่ โดยจะมีแคชเชียร์แบบบริการตัวเองเอาไว้ และสามารถจ่ายเงินได้หลากหลายช่องทางยกเว้นเงินสด ตั้งแต่บัตร NETS, NETS QR, EZ-Link, บัตรเครดิต, DBS Paylah, OCBC Pay Anyone, และ UOB Mighty ในแง่ของความปลอดภัยจากขโมย ลูกค้าของสาขานี้จะต้องลงทะเบียนผ่านแอป Shop It Yourself เสียก่อน จากนั้นจึงจะสามารถสร้าง QR เพื่อปลดล็อกประตูเข้าไปซื้อสินค้า
The Wall Street Journal รายงานว่าห้างค้าปลีกรายใหญ่ในอเมริกา Walmart ได้แจ้งบริษัทกลุ่มเทคโนโลยีที่ทำธุรกิจร่วมกับ Walmart ให้เลิกใช้ AWS ของ Amazon ในการรันโปรแกรมต่างๆ เสีย และให้ไปใช้ของผู้ให้บริการรายอื่นแทน
ตัวแทนของ Walmart กล่าวว่าข้อมูลของ Walmart ส่วนใหญ่จะเก็บไว้ในศูนย์ข้อมูลของ Walmart เอง และมีบางส่วนที่ใช้คลาวด์ของคู่แข่ง Amazon อาทิเช่น Azure ของไมโครซอฟท์ อย่างไรก็ตามยังมีแอพของเวนเดอร์บางรายที่ทำงานอยู่บน AWS ซึ่ง Walmart มองว่าข้อมูลใดๆ ของบริษัท ไม่ควรเก็บไว้อยู่ในแพลตฟอร์มของคู่แข่ง แม้ตอนนี้จะมีอยู่ไม่มากก็ตาม
จากข่าวใหญ่เมื่อวันศุกร์ที่ Amazon ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซ ประกาศซื้อกิจการร้านค้าปลีกซูเปอร์มาร์เก็ต Whole Foods ด้วยมูลค่าถึง 13,700 ล้านดอลลาร์ เท่ากับเป็นการประกาศเข้าสู่โลกค้าปลีกแบบออฟไลน์ของ Amazon อีกก้าวหนึ่ง ผลกระทบที่เกิดขึ้นทันทีคือราคาหุ้นค้าปลีกในอเมริกาพากันร่วงเมื่อข่าวนี้ออกมา
แต่เรื่องนี้อาจทำให้สตาร์ทอัพรับฝากซื้อของชำอย่าง Instacart มีความซับซ้อนมากขึ้นไปอีกเช่นกัน
Amazon เปิดร้านขายหนังสือแบบมีหน้าร้านถาวรชื่อ Amazon Books ตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งก็ถูกวิจารณ์ถึงขนาดว่าไม่รู้จะมีไปทำไม โดยในงานฉลองเปิดร้านสาขาที่ 7 ที่นิวยอร์ก Recode ได้สัมภาษณ์ผู้บริหารถึงแนวทางในอนาคตของร้านหนังสือนี้
โดย Jennifer Cast ผู้บริหาร Amazon Books ยืนยันว่าหัวใจของร้านนี้ก็คือการขายหนังสือ ซึ่งเป็นสิ่งที่ Amazon.com ทำตั้งแต่แรก และจากการดำเนินงานมานานกว่า 20 ปี Amazon มีข้อมูลสะสมที่ทำให้รู้ว่าลูกค้าซื้ออะไร ซื้ออย่างไร อ่านอย่างไร อ่านทำไม เมื่อมาเปิดเป็นร้านหนังสือจึงสามารถสร้างความแตกต่างได้ โดยลูกค้าสามารถค้นหาหนังสือที่ต้องการได้ ทั้งในวิธีการดั้งเดิม และวิธีการใหม่ที่ Amazon ใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูล
เมื่อสอบถามว่าร้าน Amazon Books นี้อาจใช้เป็นสถานที่ต่อยอด โดยขายอุปกรณ์ของ Amazon หรือเปิดรับสมาชิกแบบ Prime (ซึ่งก็มีขายและให้บริการ) Jennifer ยืนยันว่าไม่ใช่เป้าหมายหลักของร้านนี้
ที่มา: Recode
Amazon เปิดตัว "influencer program" หนุนบล็อกเกอร์และยูทูบเบอร์ที่เป็นที่รู้จัก ให้เปิดร้านขายของออนไลน์ของตัวเองบนแพลตฟอร์ม Amazon ได้ โปรแกรมนี้ยังอยู่ในช่วงทดลองและไม่เปิดตัวเป็นทางการ
โปรแกรมนี้ต่างจาก Amazon Affiliate หรือการแบ่งส่วนรายได้ให้คนที่แนะนำลูกค้าให้มาซื้อของบน Amazon โดยผู้ที่มาลงทะเบียนผ่าน influencer program จะต้องมีผู้ติดตามหรือแฟนคลับมากพอประมาณ และทีมงาน Amazon จะเป็นผู้คัดเลือกบล็อกเกอร์ หรือ influencer โดยคำนึงถึงปัจจัยแวดล้อม เช่น คอนเทนต์มีคุณภาพหรือไม่ การนำเสนอเป็นอย่างไร มีการใช้โซเชียลมีเดียหลากหลายหรือไม่ เป็นต้น
เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว Amazon ได้เปิดตัวร้านค้าปลีก Amazon Go ที่เพียงลูกค้าเดินเข้าไปหยิบสินค้า ก็เดินออกได้เลย ไม่ต้องรอต่อคิวชำระเงิน โดยร้านต้นแบบเปิดทดลองที่ซีแอตเติล ให้เฉพาะพนักงาน Amazon ใช้บริการ และคาดกำหนดเปิดให้คนทั่วไปในเดือนมีนาคม แต่ล่าสุดกำหนดนี้เลื่อนออกไปไม่มีกำหนด
แหล่งข่าวระบุว่าจากการทดสอบ ร้าน Amazon Go ยังเจอปัญหากรณีมีลูกค้าอยู่ในร้านตั้งแต่ 20 คนไป ซึ่งระบบจะไม่สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงของสินค้าบนชั้นวางได้ทัน และหากลูกค้ามีการเคลื่อนไหวที่เร็วเกินไป ระบบก็ตามไม่ทันเช่นกัน
ตอนนี้ Amazon ยังคงให้พนักงานร่วมทดสอบร้านค้าและคาดว่าจะเปิดให้บริการทั่วไปได้ หลังจากแก้ปัญหาเหล่านี้สำเร็จ
Marc Lore ซีอีโอ Walmart ร้านค้าปลีกรายใหญ่ของอเมริกา ส่วนธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (ซึ่งเขามาจาก Jet ที่ Walmart ซื้อกิจการ) ร้านค้าปลีกรายใหญ่ของอเมริกา ประกาศตั้งโครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพ (incubator) ชื่อ Store No. 8 ซึ่งจะดำเนินงานใน Silicon Valley
เป้าหมายของโครงการนี้เพื่อร่วมมือกับบรรดาสตาร์ทอัพ นักลงทุน VC ตลอดจนสถาบันการศึกษา ในการพัฒนาเทคโนโลยีที่จะมาต่อยอดกับธุรกิจค้าปลีก ซึ่งหัวข้อที่ถูกพูดถึง อาทิ หุ่นยนต์, VR, AR, Machine Learning และ AI
Lore บอกว่าจุดแข็งของ Walmart คือเครือข่ายร้านค้าที่มีอยู่ทั่วประเทศ ต่างจากผู้เล่นอีคอมเมิร์ซอีกรายที่ไม่มีหน้าร้าน ทำให้ Walmart เหนือกว่าในช่องทางจัดจำหน่ายแบบผสมผสาน omnichannel
ที่มา: Bloomberg
เป็นข่าวดีของสายเมาจริงๆ ทาง Amazon ยืนยันกับเว็บไซต์ Recode ว่า จะขายเบียร์และไวน์ใน Amazon Go ด้วย
Amazon Go คือร้านสะดวกซื้อ คอนเซปต์คือ หยิบของและออกไปได้เลยไม่ต้องต่อแถวจ่ายเงิน โดยจะมีใบเสร็จเรียกเก็บเงินผ่านแอพพลิเคชั่นอีกที ลูกค้าต้องสแกนมือถือยืนยันตัวตนว่าเป็นสมาชิก Amazon ตรงทางเข้าร้าน ทาง Amazon มีเทคโนโลยีที่ชื่อว่า Just Walk Out มีเซ็นเซอร์ และปัญญาประดิษฐ์คอยติดตามของในชั้นวางว่ามีอะไรหายไปบ้าง ถึงจะเรียกเก็บเงินลูกค้าได้แม่นยำ
Amazon Go เปิดเป็นที่แรกที่ออฟฟิศ Amazon ในซีแอตเทิล จนถึงตอนนี้ยังจำกัดลูกค้าแค่ในกลุ่มพนักงาน Amazon เท่านั้น
อย่างไรก็ตามถ้าซื้อเบียร์และไวน์ จะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจบัตร แม้ร้านเป็นระบบอัตโนมัติก็จะมีข้อยกเว้นเรื่องการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
แพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่สำหรับงานเฉพาะทางกำลังมาแรง ก่อนหน้านี้เราเห็นอินเทลเปิดตัว Intel Go ชุดฮาร์ดแวร์สำหรับรถยนต์ไร้คนขับกันไปแล้ว ล่าสุดอินเทลออกโซลูชันคล้ายๆ กันแต่เน้นอุตสาหกรรมค้าปลีก ภายใต้ชื่อว่า Responsive Retail Platform (ตัวย่อคือ Intel RRP)
Intel RRP เป็นโซลูชัน IoT ที่ออกแบบมาสำหรับธุรกิจค้าปลีกที่มีหน้าร้าน และมีลูกค้าเดินเข้าร้านตลอดเวลา ในชุดประกอบด้วย
Panasonic และร้านสะดวกซื้อ Lawson ประกาศความร่วมมือเปิดตัวระบบหุ่นยนต์ชำระเงินในร้านสะดวกซื้อ Reji Robo ซึ่งมีจุดเด่นคือมีกลไกช่วยย้ายสินค้าจากในตะกร้า ใส่ลงในถุงพลาสติกให้ลูกค้าอัตโนมัติ
ปัจจุบันในญี่ปุ่นและหลายประเทศ ก็มีระบบที่ลูกค้าสแกนสินค้าและจ่ายเงินได้ด้วยตนเอง แต่ลูกค้าก็ยังต้องจับย้ายสินค้าที่จ่ายเงินแล้วใส่ลงในถุงด้วยตนเอง ทำให้ลูกค้าจำนวนหนึ่งไม่ยอมเปลี่ยนมาใช้ระบบดังกล่าว หุ่นยนต์ Reji Robo นี้จึงถูกพัฒนาเพื่อแก้ปัญหานี้ โดยนำตะกร้าสินค้าวางลงบนแท่น ระบบก็จะเปิดก้นตะกร้า ทำให้สินค้าหล่นลงในถุงพลาสติก และลูกค้าก็แค่หยิบถุงออกไปได้เลย (ดูคลิปได้ที่ท้ายข่าว)
ระบบดังกล่าวเริ่มทดสอบใช้แล้วที่ร้าน Lawson สาขาสำนักงานใหญ่ในโอซาก้า โดยตอนนี้ลูกค้ายังต้องทำการสแกนสินค้าด้วยตนเองก่อน แต่ระบบในเวอร์ชันถัดไปจะมีกลไกการสแกนสินค้าให้เลยอัตโนมัติ โดยใช้วิธีตรวจสอบจากแท็กที่ติดเพิ่มบนสินค้าทุกชิ้น คาดว่าจะเริ่มเปิดให้ทดสอบในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า หากผลตอบรับดีก็จะขยายไปใช้งานใน Lawson ทั่วประเทศต่อไป
วันนี้ Amazon สร้างความฮือฮาด้วยร้านค้าปลีก Amazon Go ที่ไม่ต้องรอคิวคิดเงิน ระบบไอทีจะหักบัญชีเราให้อัตโนมัติ ตอนนี้ร้านต้นแบบเปิดแล้วในซีแอทเทิล และจะเริ่มเปิดให้คนทั่วไปใช้งานในช่วงต้นปี 2017
แต่แผนการของ Amazon ดูจะไม่ได้มีแค่นี้ เพราะ Wall Street Journal รายงานข่าววงในว่า Amazon เตรียมเปิดร้านค้าปลีกในสหรัฐมากถึง 2,000 ร้าน โดยมีรูปแบบหรือลักษณะแตกต่างกัน 3 แบบ ได้แก่
Amazon เปิดตัวร้านค้าปลีกของตัวเองในชื่อ Amazon Go จุดเด่นสำคัญคือไม่ต้องรอคิวคิดเงินอีกต่อไป แต่เดินผ่านจุดคิดเงินแล้วก็จะคิดเงินผ่านบัญชี Amazon ได้ทันที
Amazon เรียกเทคโนโลยีการคิดเงินว่า Just Walk Out ที่ซับซ้อนกว่าการคิดเงินด้วย RFID ที่เราเคยเห็น แต่ใช้ระบบตรวจจับภาพด้วยคอมพิวเตอร์, ปัญญาประดิษฐ์, เซ็นเซอร์, และ deep learning
คอมพิวเตอร์จะตรวจสอบว่าเรากำลังหยิบหรือคืนสินค้าใดจากชั้นบ้าง เมื่อตรวจพบว่าเราถือสินค้าใด ก็จะทำรถเข็นเสมือน (virtual cart) แบบเดียวกับที่เราซื้อของในเว็บ เมื่อเราเดินออกจากร้านก็จะคิดเงินเหมือนเรากด checkout ในเว็บอีกเช่นกัน
ตอนนี้ Amazon Go เป็นร้านทดลองสำหรับพนักงานอเมซอนในซีแอตเติล และจะเปิดต่อสาธารณะในปี 2017
11 Street (อีเลฟเว่นสตรีท) แพลตฟอร์มการค้าออนไลน์จากเกาหลีใต้ ที่เปิดตัวในไทยไปแล้วเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา รุกตลาดไทยที่เห็นการเติบโตของการค้าออนไลน์สูง เปิด "แคมปัส" สถานที่ฝึกอบรมผู้ค้าออนไลน์ในไทยให้แข็งแกร่ง โดยถือเป็นแคมปัสเป็นแห่งที่ 5 จากแคมปัสทั้งหมดของ 11 Street ในประเทศต่างๆ
ล่าสุดทางผู้พัฒนา THQ Nordic ได้ประกาศการเลื่อนวันวางจำหน่ายตัวเกม Quantum Break บน Steam และที่จะวางจำหน่ายตามหน้าร้าน จากเดิมวันที่ 14 กันยายน เลื่อนไปเป็นวันที่ 29 กันยายน แทน
Birchbox บริษัทขายเครื่องสำอางออนไลน์ที่ใช้โมเดลทางธุรกิจแบบ Subscription คือให้ลูกค้าเป็นสมาชิกเพื่อที่จะได้รับสินค้าออกใหม่ไปใช้ทุกเดือน ในปีนี้ปรับลดพนักงานไปแล้ว 50 ตำแหน่ง ล่าสุด Bloomberg รายงานว่า Birchbox จะปรับลดพนักงานอีก 12% จากพนักงานทั้งหมดที่มี 220 คน
เว็บไซต์ข่าว Business Insider เผยแพร่บทสัมภาษณ์ผู้หญิงคนหนึ่งที่อ้างว่าตัวเองเคยทำงานอยู่ที่ Apple Store สาขาหนึ่งในอังกฤษ ตั้งแต่ปี 2011 จนถึงปี 2015 โดยขอให้ปกปิดตัวตนตามสัญญารักษาความลับ ซึ่งในบทสัมภาษณ์ เธอได้เผยเรื่องราวของ Apple Store ทั้งสภาวะการทำงานที่มีแรงกดดันสูงมาก รวมไปถึงสวัสดิการที่ไม่ได้ดีอย่างที่คิด และการต้องจัดการกับลูกค้าซึ่งในบางครั้งอาจลงเอยถึงขั้นมีการต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาควบคุมเหตุการณ์