System Stone สตาร์ทอัพดีแทค รับเงินลงทุนจาก Expara Thailand

MXPhone - 10 June 2019 - 11:46

ซิสเต็มส์สโตน (System Stone) แอคเซอเลอเรท batch 7 ผู้ปฏิวัติรูปแบบการซ่อมบำรุงในโรงงาน ประกาศรับเงินลงทุนจาก Expara Thailand บริษัท VC ชั้นนำของอาเซียน

The post System Stone สตาร์ทอัพดีแทค รับเงินลงทุนจาก Expara Thailand appeared first on mxphone.

[Review] OPPO Reno 10x Zoom ดีไซน์หรู จอใหญ่สุดขอบ มีกล้องหลังซูม 60 เท่า

MXPhone - 10 June 2019 - 11:35

เป็นสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยมที่มีความละเอียดกันตั้งแต่งานดีไซน์ไปจนถึงเรื่องของนวัตกรรม สำหรับ OPPO Reno 10x Zoom รุ่นใหญ่ของตระกูล Reno

The post [Review] OPPO Reno 10x Zoom ดีไซน์หรู จอใหญ่สุดขอบ มีกล้องหลังซูม 60 เท่า appeared first on mxphone.

ZTE เตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G ในจีนช่วงเดือนกรกฏาคมนี้

MXPhone - 10 June 2019 - 11:29

ZTE Axon 10 Pro 5G เตรียมเข้าไปวางจำหน่ายที่ประเทศจีนผ่านทางผู้ให้บริการด้านเครือข่าย China Telecom, China Mobile, และ China Unicorn ช่วงเดือนกรกฏาคมนี้

The post ZTE เตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G ในจีนช่วงเดือนกรกฏาคมนี้ appeared first on mxphone.

Samsung Galaxy Fold อาจได้ฤกษ์พร้อมขายในกรกฏาคม

MXPhone - 10 June 2019 - 11:03

อัพเดตข้อมูลล่าสุดเผย Galaxy Fold สมาร์ทโฟนจอพับได้รุ่นแรกของ Samsung อาจจะได้ฤกษ์กลับมาวางจำหน่ายในเดือนกรกฏาคมนี้ หลังกลับไปตั้งหลักแก้ปัญหาพักใหญ่

The post Samsung Galaxy Fold อาจได้ฤกษ์พร้อมขายในกรกฏาคม appeared first on mxphone.

Facebook ระงับการติดตั้งแอปฯล่วงหน้าบนสมาร์ทโฟน Huawei รุ่นใหม่

MXPhone - 10 June 2019 - 10:35

Facebook ได้ตัดสินใจระงับการติดตั้งแอปพลิเคชั่นล่วงหน้า (Pre-installing) บนสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Huawei โดยที่ผู้ใช้ยังสามารถดาวน์โหลดติดตั้งได้เอง

The post Facebook ระงับการติดตั้งแอปฯล่วงหน้าบนสมาร์ทโฟน Huawei รุ่นใหม่ appeared first on mxphone.

ลือ! รัฐบาลจีนเรียกบริษัทเทคโนโลยีจากต่างประเทศเข้าพูดคุย หลังกรณีแบน Huawei

Brand Inside - 10 June 2019 - 10:17

รัฐบาลจีนเรียกตัวแทนบริษัทเทคโนโลยีต่างชาติเข้าพูดคุย ซึ่งเป็นผลหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐได้ออกมาแบนอุปกรณ์โทรคมนาคมที่เป็นภัยต่อความมั่นคง ซึ่งกระทบกับ Huawei

Chinese Government Hall Of Peopleภาพจาก Shutterstock

หนังสือพิมพ์ The New York Times และสำนักข่าว Reuters ได้รายงานอ้างอิงจากแหล่งข่าวไม่ระบุตัวตนว่าทางรัฐบาลจีนได้เรียกตัวแทนจากบริษัทเทคโนโลยีต่างชาติเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Samsung SK Hynix Dell Technologies รวมไปถึง ARM เพื่อพูดคุยและทำความเข้าใจ

การเรียกบริษัทเทคโนโลยีต่างชาติเข้าพูดคุยนั้นเนื่องจากรัฐบาลจีนต้องการที่จะกดดันทางอ้อมให้บริษัทเหล่านี้ไม่ทำตามคำสั่งบริหารแบนอุปกรณ์โทรคมนาคมที่เป็นภัยต่อความมั่นคง ซึ่งเรื่องกระทบกับบริษัทผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมอย่าง Huawei และเพิ่มแรงกดดันในการเจรจาเรื่องของสงครามการค้าระหว่างทั้ง 2 มหาอำนาจทันที หลังจากต่างฝ่ายหันมาตอบโต้ด้วยความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น

โดยแหล่งข่าวไม่ระบุตัวตนรายแรกได้กล่าวว่า “จีนยังต้องการให้บริษัทเทคโนโลยีต่างชาติยังคงอยู่ในจีนต่อไป เนื่องจากการที่จีนจะพัฒนาเทคโนโลยีจนพึ่งพาตัวเองได้นั้นต้องใช้เวลานาน ถ้าถึงตอนนั้นแล้วจีนคงไล่บริษัทเหล่านี้ออกมาทันที”

ขณะที่แหล่งข่าวไม่ระบุตัวตนอีกรายยังได้กล่าวว่า “ตัวแทนรัฐบาลจีนค่อนข้างที่จะพูดคุยเป็นมิตรมากกว่าที่คาด และไม่มีการกล่าวถึงเรื่องของ Huawei ไม่มีการยื่นคำขาด และตัวแทนของรัฐบาลจีนยังต้องการให้บริษัทเหล่านี้อยู่ในประเทศจีนต่อไป รวมไปถึงต้องการที่จะให้การเจรจาการค้าระหว่างทั้ง 2 ประเทศเป็นไปแบบ Win-Win”

หน่วยงานของรัฐบาลจีนไม่ว่าจะเป็น คณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน หรือ NDRC มีแนวคิดที่จะตอบโต้สหรัฐไม่ว่าจะเป็น การจำกัดการส่งออกแร่หายาก และการเตรียมที่จะทำรายชื่อเทคโนโลยีในจีนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เพื่อที่จะจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีไปสหรัฐ รวมไปถึงกระทรวงพาณิชย์ของจีนก็กำลังจัดทำรายชื่อ บริษัทและองค์กรรวมไปถึงบุคคลที่เป็นภัยต่อความมั่นคงและไม่น่าเชื่อถือ เพื่อที่กดดันสหรัฐกรณีการแบน Huawei ด้วยอีกทาง

อย่างไรก็ดีบริษัทเทคโนโลยีที่มีรายชื่อในข้างต้นได้ออกมาปฏิเสธเรื่องที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกัน Reuters ได้ติดต่อไปยังรัฐบาลจีนเพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด

ที่มาEuronews

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

เผยเบาะแส OPPO เตรียมเปิดตัว Reno Z กับ Reno F ในยุโรป

MXPhone - 10 June 2019 - 09:58

OPPO ยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า Reno Z และ Reno F กับทาง EUIPO คาดจะมีการเปิดตัวทั้งสองรุ่นในฝั่งยุโรปเร็วๆนี้ และอาจจะเป็นโมเดลที่มีราคาเข้าถึงง่าย

The post เผยเบาะแส OPPO เตรียมเปิดตัว Reno Z กับ Reno F ในยุโรป appeared first on mxphone.

ชาร์จให้กันได้แล้ว! Rivian ออกเทคโนโลยีให้รถยนต์ไฟฟ้าชาร์จไฟให้กันได้

Brand Inside - 10 June 2019 - 08:17

การแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้านั้นดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในมุมเทคโนโลยีที่เป็นปัจจัยในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ทำให้ล่าสุด Rivian หนึ่งในแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่เน้นรถกระบะ และ SUV ส่งเทคโนโลยีใหม่ออกมา

Rivianรถยนต์ไฟฟ้า Rivian ตกแต่งพิเศษ ชาร์จให้กันได้ กับการยกระดับการขับขี่

ปกติแล้วรถยนต์ไฟฟ้ามีจุดบอดคือหากไม่มีสถานีชาร์จไฟแล้วเกิดแบตเตอรี่หมด คุณก็จะไปต่อไม่ได้ทันที ต่างกับรถเครื่องยนต์สันดาปที่หากน้ำมันหมดก็เรียกหาใครสักคนนำน้ำมันมาเติมให้ได้ แต่ปัจจุบันปัญหานี้จะหมดไป เมื่อประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Rivian ออกมายืนยันว่าตัวรถยนต์ไฟฟ้าของค่ายจะมีฟีเจอร์ใหม่ที่แก้ปัญหานี้

RJ Scaringe ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Rivian เล่าให้ฟังว่า การไม่มีสถานีชาร์จไฟ หรือปั๊มน้ำมันคือปัญหาเวลาเชื้อเพลิงใกล้หมด ทำให้ Rivian พยายามแก้ปัญหานี้ด้วยการส่งแบตเตอรี่เสริมที่ผู้ซื้อรถกระบะไฟฟ้ารุ่น R1T จะได้สิทธิ์ซื้อเพิ่ม และตัวแบตเตอรี่เสริมนี้เองก็สามารถชาร์จไฟให้กับรถยนต์ไฟฟ้าของ Rivian รุ่นอื่นได้

รถยนต์ไฟฟ้าR1T ของ Rivian

“คุณสามารถใช้รถกระบะไฟฟ้าได้หลากหลายวัตถุประสงค์ แต่เพื่อทำได้มากกว่านั้น Rivian จึงออกแบบแบตเตอรี่เสริมขึ้นมา เพื่อใช้ชาร์จระหว่าง Rivian ด้วยกัน ทำให้ข้อจำกัดด้านการเดินทาง หรือการหาสถานีชาร์จไม่เจอนั้นไม่มีอีกต่อไป ถือเป็นการก้าวข้ามขีดจำกัดในการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย”

ก่อนหน้านี้ Rivian เปิดตัวรถกระบะไฟฟ้ารุ่น R1T ที่ติดตั้งเต็นท์ และชุดแคมปิ้ง รวมถึงสามารถปรับแต่งช่วงกระบะให้เหมาะสมกับการใช้งานแบบต่างๆ ได้ ที่สำคัญตัว R1T นั้นขับขี่ได้ไกลถึง 640 กม. หลังจากชาร์จเต็ม ดังนั้นเมื่อวิ่งได้ไกลขนาดนี้ มันก็คงดีถ้าช่วยชาร์จไฟให้คันอื่นได้ด้วย

สรุป

R1T ของ Rivian นั้นเริ่มต้นที่ 2.16 ล้านบาท และจะเริ่มผลิตในปี 2563 ที่สำคัญทางแบรนด์ยังได้รับการสนุนจาก Ford และ Amazon เมื่อนำปัจจัยต่างๆ มารวมกันทำให้แบรนด์นี้น่ากลัวขึ้นอีกเล็กน้อย ยิ่งฟีเจอร์ใหม่ที่คล้าย Power Bank ก็ยิ่งสร้างความน่าสนใจให้กับ Rivian มากขึ้นไปอีก

อ้างอิง // Electrek

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

Apple ประเทศไทย ปล่อยโฆษณาชุด “สวัสดีวันจันทร์” ทุกรูปถ่ายที่ไทย ด้วยคนไทย

MacThai - 10 June 2019 - 08:00

hello monday iphone xs ads apple thailand

ไม่น่าเชื่อว่าจะมีแอปเปิลจะเอาใจใส่ประเทศไทยขนาดนี้ เพราะล่าสุด Apple ไทย ได้ปล่อยโฆษณาชุด “สวัสดีวันจันทร์” เพื่อสื่อถึงความเป็นประเทศไทยของเรา

โดยแอปเปิลได้ปล่อยโฆษณาความยาวประมาณ 15 วินาที รวม 7 ตัว เรียงตามวัน ได้แก่ สวัสดีวันอาทิตย์, สวัสดีวันจันทร์, สวัสดีวันอังคาร จนไปถึง สวัสดีวันเสาร์ ซึ่งโฆษณาทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้แคมเปญ Shot by iPhone XS คือรูปทั้งหมดที่โฆษณาถ่ายด้วย iPhone XS และยังไม่หมด รูปทุกรูปถ่ายโดนคนไทยทั้งหมด

และพิเศษที่สุดคือในคลิป สวัสดีวันพฤหัสบดี นั้นแอปเปิลได้เลือกใช้เพลงไทยในการโฆษณาด้วย ส่วนป้ายโฆษณาตามตึก อาคารต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ แอปเปิลก็เริ่มขึ้นป้ายโฆษณาแคมเปญนี้แล้วเช่นกัน

สำหรับใครที่ต้องการดูภาพทั้งหมดชัด ๆ สามารถเข้าไปดูในเว็บไซต์ Apple (TH)

 

ที่มา – YouTube Channel, apple.com/th

The post Apple ประเทศไทย ปล่อยโฆษณาชุด “สวัสดีวันจันทร์” ทุกรูปถ่ายที่ไทย ด้วยคนไทย appeared first on Macthai.com.

ศึกษาโอกาสใหม่ในโลก E-Sport กับการสร้าง Stadium เพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน

Brand Inside - 10 June 2019 - 02:00

ตอนนี้ E-Sport นั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว และปีนี้คาดว่าเงินจะสะพัดถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 31,000 ล้านบาท) แต่สิ่งที่ค่อนข้างขาดในตลาดคือ E-Sport Stadium ที่ได้มาตรฐาน และนั่นคือสิ่งที่จะมีมากขึ้นจากนี้

E-Sportรายการ ESL หนึ่งในการแข่งขัน E-Sport ที่ใหญ่ที่สุด แม้จะดูออนไลน์เป็นหลัก แต่สนามมาตรฐานก็จำเป็น

ปฏิเสธไม่ได้ว่า E-Sport ไม่ว่าจะระดับโลก หรือในประเทศไทยนั้นเริ่มได้รับความนิยม และได้รับความสนใจในแง่มุมต่างๆ มาขึ้น แต่ถึงอย่างไรการรับชม E-Sport ส่วนใหญ่มาจากช่องทางออนไลน์ เช่น Twitch หรือ YouTube ทำให้เม็ดเงินข้างต้นนั้นมาจากการจำหน่ายตั๋วเข้าชม และสินค้าลิขสิทธิ์เพียง 10% จากเงินสะพัดปีนี้ทั้งหมด

เมื่อเหตุการณ์มันเป็นอย่างนี้ก็ไม่แปลกที่การลงทุนทำ E-Sport ใหญ่ๆ จะไม่ค่อยเกิดขึ้นมาก เน้นการเช่าสนามการแข่งขันกีฬาในร่ม หรือกลางแจ้งเพื่อจัดแข่งมากกว่า หรือเต็มที่คือการนำอาคารเก่าที่พอจะมีพื้นที่ เช่น Nightclub หรืออาคารสำนักงานเพื่อมาปรับปรุงพื้นที่ให้จัดการแข่งขัน E-Sport ได้

แต่ด้วยภาพรวมตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้มีคนสนใจลงทุนสร้าง E-Sport Stadium หรือสนามกีฬาที่ทำขึ้นเพื่อใช้แข่ง E-Sport โดยเฉพาะ เช่นในสหรัฐอเมริกาก็มี Esports Stadium Arlington ที่มูลค่าสร้างอยู่ที่ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 312 ล้านบาท) และเปิดใช้เดือนพ.ย. 2561 เพราะตลาดนี้มันต้องการจริงๆ

E-Sport Stadium กับการจัดวางเก้าอีก และสถานที่ที่แตกต่าง

สำหรับ E-Sport Stadium นั้นจะแตกต่างกับสนามกีฬาในร่มอื่นๆ เช่นสามารถจัดวางเก้าอี้ผู้ชมได้หลากหลายรูปแบบ และต้องมีพื้นที่ขามากกว่าปกติ, การทำให้เก้าอี้ผมชมเน้นมองไปที่จอตรงกลางมากกว่าบริเวณสนามแข่งขัน รวมถึงต้องมีไวไฟความเร็วสูง และการเดินในสนามที่สะดวกในการเข้าถึงพื้นที่จำหน่ายอาหาร หรือของที่ระลึก

“บางเกมการแข่งขัน E-Sport นั้นยาวนานถึง 8 ชม. ถ้าจะให้นั่งแคบๆ ก็คงไม่ดี และผู้ชมก็ต้องการติดตามข่าวสารการแข่งขันตลอดเวลา ทำให้มันต้องมีไวไฟความเร็วสูง รวมถึงเรื่องแสงสีเสียงที่มันต่างกับสนามกีฬาปกติชัดเจน” Rashed Singaby Senior Project Desiner ของ HOK บริษัทออกแบบ E-Sport Stadium กล่าว

นอกจาก Esports Stadium Arlington ยังมี HyperX Esports Arena ที่เปิดตัวเมื่อปีก่อนเช่นกัน ผ่านการมีพื้นที่ 2,800 ตร.ม. ผ่านการดัดแปลงจากโรงแรม และคาสิโนเก่า รวมถึง Fusion Arena พื้นที่ 5,600 ตร.ม. ที่เตรียมเปิดใช้งานในปี 2564 และจุได้ 3,500 ที่นั่ง มูลค่าลงทุน 50 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,600 ล้านบาท)

Fusion ArenaFusion Arena E-Sport Stadium กับการตั้งอยู่ใกล้สนามกีฬาอื่นๆ

ที่สำคัญ E-Sport Stadium เหล่านี้ยังตั้งอยู่ใกล้ๆ สนามกีฬาดั้งเดิม เช่น Fusion Arena ที่ตั้งอยู่ใน South Philadelphia Sports Complex ที่มีสนาม Wells Fargo Center ที่ใช้แข่งบาสเกตบอล และฮอกกี้น้ำแข็งด้วย จุดนั้นเองทำให้คนอื่นๆ น่าจะรับรู้ว่า E-Sport ไม่ใช่แค่เด็กเล่นเกม แต่มันคือการแข่งขันกีฬาจริงๆ

“กลุ่มคนชื่นชอบ E-Sport นั้นมีกำลังซื้อ แต่พวกเขาเข้าถึงยาก เพราะไม่ได้ใช้สื่อดิจิทัลเดิมๆ หรือ Facebook และอื่นๆ จึงไม่แปลกที่แบรนด์สินค้าต่างๆ เริ่มลงทุนใน E-Sport Stadium เพื่อเข้าถึงกลุ่มดังกล่าว และสามารถต่อยอดธุรกิจได้อีกมุม” Eric Haggstrom นักวิเคราะห์ของ eMarketer กล่าว

Thailand E-Sports Arenaภายในสนาม Thailand E-Sports Arena

ในสหรัฐอเมริกามีการคาดการณ์ว่า มูลค่าสนับสนุนการแข่งขัน E-Sport จะอยู่ที่ 457 ล้านดอลลาร์ (ราว 14,000 ล้านบาท) ดังนั้นมันก็มีโอกาสที่จะเกิด E-Sport Stadium อันใหม่มากขึ้นด้วย ส่วนในไทยนั้นปัจจุบันยังมีน้อยอยู่ และจุดอ่อนของ E-Sport Stadium ตอนนี้คือ จะหารายได้เวลาไม่มีการแข่งขันอย่างไร

สรุป

E-Sport Stadium เป็นอีกเรื่องที่น่าจับตามอง เพราะยังมีค่อนข้างน้อย ซึ่งสวนทางตลาด E-Sport ที่เติบโตอย่างชัดเจน ซึ่งในไทยถ้าให้เห็นจริงๆ ก็คงมีแค่ที่เดียวที่รองรับได้ จึงเชื่อว่าหลังจากนี้ต้องมี E-Sport Stadium มากกว่านี้แน่นอน

อ้างอิง // New York Times, Fusion Arena

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

มุมมองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ Global Times “จีนควรควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีไปยังสหรัฐ”

Brand Inside - 9 June 2019 - 14:58

มุมมองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ Global Times มีมุมมองล่าสุดว่า จีนควรควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีไปยังสหรัฐ นอกจากนี้คณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน เตรียมที่จะใช้มาตรการนี้เช่นกัน

Circuit Board Mainboard อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ภาพจาก Unsplash

Hu Xijin บรรณาธิการของ Global Times หนังสือพิมพ์ภาคภาษาอังกฤษและเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลจีน ได้กล่าวในบทบรรณาธิการว่า “จีนควรที่จะควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีไปยังสหรัฐอเมริกา” ตอบโต้กรณีที่สหรัฐได้ออกคำสั่งบริหารแบนอุปกรณ์โทรคมนาคมที่เป็นภัยต่อความมั่นคง ซึ่งเรื่องกระทบกับบริษัทผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมอย่าง Huawei ทันที

เหตุผลที่ Hu มองนั้นมองว่า “เพื่อที่จะปกป้องเทคโนโลยีสำคัญของจีน และโต้ตอบสหรัฐ” เขายังมองว่าถ้าหากจีนออกกฎนี้ออกมาจะทำให้กระทบกับบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐทันที โดยช่วงที่ผ่านมา คณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน หรือ NDRC มีแนวความคิดในการตอบโต้เรื่องของ Huawei ไม่ว่าจะเป็น การจำกัดการส่งออกแร่หายาก เป็นต้น

ล่าสุดหนังสือพิมพ์ Global Times ได้รายงานว่าทาง NDRC เตรียมที่จะทำรายชื่อเทคโนโลยีในจีนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เพื่อที่จะตอบโต้สหรัฐ หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ของจีนได้เตรียมจัดทำบัญชีดำรายชื่อบริษัท หน่วยงาน และบุคคล ที่ไม่น่าเชื่อถือ รวมไปถึงเป็นภัยต่อความมั่นคงของจีนด้วย

นอกจากนี้ Global Times ยังมีมุมมองว่า สหรัฐเป็นประเทศที่ไม่ได้มีเทคโนโลยีขั้นสูงทุกอุตสาหกรรม แต่จีนเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกซึ่งมีความเชี่ยวชาญและมีนวัตกรรม และห่วงโซ่อุตสาหกรรมต่างๆ ไม่สามารถขาดจีนไปได้ ฉะนั้นจีนสามารถที่จะควบคุมห่วงโซ่อุตสาหกรรมของสหรัฐผ่านการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีได้

ที่มาReuters

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

ค่อยเป็นค่อยไป Sony Xperia 1 เปิดพรีออเดอร์จีน ล๊อตแรกยุโรปหมดสต๊อก

MXPhone - 9 June 2019 - 14:41

ทยอยเปิดตัววางจำหน่ายแล้วอย่างเป็นทางการสำหรับ Sony Xperia 1 โดยประเดิมที่ยุโรปได้ดีและกำลังเปิดพรีออเดอร์ในจีนตามลำดับ

The post ค่อยเป็นค่อยไป Sony Xperia 1 เปิดพรีออเดอร์จีน ล๊อตแรกยุโรปหมดสต๊อก appeared first on mxphone.

ในที่สุด ทุเรียนมาเลเซียก็เตรียมส่งขายในจีนได้แล้ว ล่าสุด Alibaba ออกหน้าช่วยเหลือเต็มที่

Brand Inside - 9 June 2019 - 13:19

วงการทุเรียนไทยจะสั่นสะเทือนหรือไม่? ?

Musang King Durianทุเรียน Musang King ของมาเลเซีย Photo: Shutterstock Alibaba ออกหน้าช่วยเหลือ ดันทุเรียนมาเลเซีย เข้าไปขายในจีน

อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า รัฐบาลมาเลเซียได้ทำข้อตกลงร่วมกับรัฐบาลจีน เพื่อตกลงกันรับซื้อทุเรียนจากมาเลเซียมากขึ้น ที่สำคัญจะไม่ได้รับซื้อทุเรียนแบบแช่แข็งเท่านั้น เพราะจะรับเป็นลูกๆ ด้วย อย่างไรก็ดีข้อตกลงใหม่นี้ได้เริ่มต้นแล้วนับตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา

  • ทุเรียน Musang King (อันที่จริงมีชื่อเท่ๆ ในวงการว่าเป็น Hermès แห่งวงการทุเรียน เพราะมีราคากิโลกรัมละ 1,000 บาท) เตรียมเข้าตลาดจีนด้วยความช่วยเหลือจาก Alibaba 

ล่าสุด Alibaba ประกาศว่า พร้อมออกหน้าช่วยเหลือเต็มที่ในการนำเอาทุเรียนมาเลเซียเข้ามาขายในจีน โดยทางบริษัทจะส่งเครื่องมือทางการตลาดมาช่วยผลักดันผู้ผลิตทุเรียนท้องถิ่นในมาเลเซียเพื่อนำทุเรียนเข้ามาขายในตลาดจีนผ่าน ecosystem ที่มีอยู่ เช่น ซุปเปอร์มาร์เก็ต Freshippo หรือเหอหม่า (Hema) ที่รู้จักกันดี ซึ่งเราก็รู้กันอยู่ว่า พลังของ Alibaba นั้นยิ่งใหญ่และมีพลังมหาศาลแค่ไหน ดูอย่างต้นปี 2018 ที่ Tmall (แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของ Alibaba ในจีน) ได้นำเอาทุเรียนไทยไปขาย แค่เพียง 1 นาทีเท่านั้น มีคนจีนสั่งซื้อไปกว่า 80,000 ลูก คิดเป็นมูลค่ากว่า 3,000 ล้านหยวน

ตัวเลขของตลาดทุเรียนจีน หากอ้างอิงจาก United Nations Commodity Trade ระบุว่าในปี 2017 มีมูลค่าการนำเข้ากว่า 552 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท) เติบโตกว่า 8 เท่าในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา

ส่วนมาเลเซีย ในปัจจุบันส่งออกทุเรียนไปขายในต่างประเทศเพียงแค่ 5% เท่านั้น ดังนั้นคาดการณ์ได้เลยว่าการที่ได้นำทุเรียนเข้าไปขายในจีนครั้งนี้ จะทำให้มูลค่าการส่งออกทุเรียนของมาเลเซียจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดอย่างแน่นอน

ทุเรียน Durianทุเรียน Photo: Shutterstock

คำถามที่น่าสนใจคือ ไทยที่เป็นผู้ส่งออกทุเรียนไปยังจีนเบอร์ต้นๆ โดยครองส่วนแบ่งตลาดนำเข้าทุเรียนมากกว่า 90% จะได้รับผลกระทบจากการมาถึงของทุเรียนมาเลเซียที่ตอนนี้ยังคงครองตลาดจีนเพียงแค่ 1% เท่านั้น

จะมากน้อยเพียงใด ยังไม่มีใครรู้ แต่นี่คือศึกทุเรียนอาเซียนที่น่าติดตาม

อ้างอิงข้อมูล – Alizila

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนกล่าว มีนโยบายทางการเงินกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีก ถ้าสงครามการค้าแย่กว่าคาด

Brand Inside - 8 June 2019 - 21:43

ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีถ้าหากสงครามการค้าแย่กว่าที่คาด จีนยังมีนโยบายทางการเงินสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจจีนได้อีกมาก

People's Bank of China PBoC ธนาคารกลางจีนอาคารสำนักงานใหญ่ของธนาคารกลางแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (ธนาคารกลางจีน) – ภาพจาก Shutterstock

Yi Gang ผู้ว่าการการธนาคารกลางจีน หรือ PBoC ได้กล่าวกับสำนักข่าว Bloomberg ว่า ธนาคารกลางจีนยังมีนโยบายทางการเงินที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจจีนได้อีกมาก ถ้าหากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนทำให้เศรษฐกิจจีนย่ำแย่กว่าคาด

จีนเป็นธนาคารกลางที่พร้อมจะดำเนินนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายทันที ถ้าหากเศรษฐกิจจีนโตไม่เป็นไปตามที่คาด โดยก่อนหน้านี้ธนาคารกลางของประเทศเช่น อินเดีย รวมไปถึงออสเตรเลีย ได้ประกาศลดดอกเบี้ยนโยบายลงมา เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่เปราะบางมากขึ้นกว่าเดิม

ผู้ว่าการการธนาคารกลางจีนยังได้เสริมว่า นโยบายทางการเงินที่จีนจะนำมาใช้ เช่น การปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ หรือที่เรียกว่า RRR ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินและสภาพคล่องไหลเข้าระบบการเงินได้อีกมาก โดยผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจีนจะปรับลด RRR อีกประมาณ 1% ภายในปีนี้

เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาธนาคารกลางจีนพึ่งจะอัดฉีดเงินเข้าระบบธนาคารผ่านการขยายสินเชื่อระยะกลาง หรือ MLF อีกประมาณ 2 แสนล้านหยวน ทำให้ล่าสุดจีนมีเม็ดเงิน MLF สูงถึง 3.6 ล้านล้านหยวน โดย MLF จะมีอัตราดอกเบี้ยที่ 3.3% ต่อปี และจะทำให้ธนาคารต่างๆ สามารถปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น

นอกจากนี้นโยบายที่ธนาคารกลางจีนสามารถนำมาใช้ได้คือ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย คาดว่าจีนอาจปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงประมาณ 0.5% รวมไปถึงนโยบายทางการเงินอื่นๆ ที่จีนอาจนำมาใช้ได้อีก นอกจากนี้ผู้ว่าการการธนาคารกลางจีนไม่ได้กล่าวว่า มีเงื่อนไขทางเศรษฐกิจอะไรบ้างที่จะทำให้จีนสามารถใช้นโยบายทางการเงินได้ทันที

ขณะเดียวกันค่าเงินหยวนที่อ่อนมากขึ้น ผู้ว่าการการธนาคารกลางจีนได้กล่าวว่า เกิดจากแรงกดดันในเรื่องของสงครามการค้า ส่งผลให้ค่าเงินหยวนอ่อนลง ขณะเดียวกันเขายังได้กล่าวว่า จีนจะไม่พยายามที่จะแทรกแซงค่าเงินหยวนอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ดีมุมมองของผู้ว่าการการธนาคารกลางจีนเป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้คือผลกระทบจากสงครามการค้าที่ทำให้การว่างงานเพิ่มสูงขึ้น โดยจีนเตรียมที่จะจัดโปรแกรมฝึกอาชีพให้กับผู้ว่างงานเนื่องจากปัจจัยสงครามการค้า ด้วยงบประมาณสูงถึง 1 แสนล้านหยวน

ที่มาSFGate, China.org.cn, Gulf Times

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

แอป Noise วัดเสียงรบกวนรอบข้าง เผยรองรับแค่ Apple Watch Series 4 ขึ้นไปเท่านั้น

MacThai - 8 June 2019 - 18:00

noise watchos6 apple

หนึ่งฟีเจอร์หนึ่งที่น่าสนใจบน watchOS 6 เกี่ยวกับด้านสุขภาพนั่นก็คือ Noise หรือการตรวจวัดความดัง หรือเสียงรบกวนรอบข้าง ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของระบบการได้ยิน

ซึ่งทีมงาน MacThai ได้ลองลง watchOS 6 Beta 1 ที่แอปเปิลพึ่งปล่อยหลังงาน WWDC 2019 ที่ผ่านมา บน Apple Watch Series 3 ผลปรากฏว่า ไม่มีแอป Noise อยู่ใน Apple Watch ซึ่งคาดว่าแอปเปิลน่าจะปล่อยฟีเจอร์ดังกล่าวให้กับ Apple Watch Series 4 ขึ้นไปเท่านั้น

ซึ่งสาเหตุที่แอปเปิลไม่ปล่อยฟีเจอร์ Noise ดังกล่าวให้กับ Apple Watch รุ่นเก่า ๆ คาดว่าน่าจะมาจาก มีการปรับปรุงย้ายตำแหน่งของ Microphone ซึ่งแอปเปิลเคยเคลมว่า ทำให้สามารถลดเสียง Echo และทำให้การสนทนาชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ถึงแม้ว่า Apple Watch Series 1-3 นั้นจะไม่มีฟีเจอร์ Noise มาให้ แต่ก็ยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ ที่แอปเปิลประกาศอีกเพียบ ดังนี้

  • หน้าปัดนาฬิกาใหม่ 2 แบบ คือ Numerals Duo และ Numerals Mono

watch face watchos 6

  • มาพร้อม 5 แอปใหม่: App Store, AudioBooks, Calculator, Voice Memos และ Cycle tracking

watchos 6

  • การค้นหาของ Siri สามารถแสดงผลลัพธ์หน้าเว็บได้เต็มรูปแบบ
  • สามารถส่ง Animoji หรือ Memoji ที่มีอยู่บน iPhone จาก Apple Watch ได้แล้ว
  • รองรับ Activity Trends ที่ใช้งานร่วมกับ iOS 13

สำหรับใครที่ต้องการอัปเดต watchOS 6 และ iOS 13 ให้อดใจรอนิดนึง เพราะตอนนี้แอปเปิลได้ให้นักพัฒนาได้ทดสอบกันเท่านั้น ซึ่งถ้าใครสนใจสามารถอัปเดตกันได้ในช่วง Public Beta ในเดือนกรกฎาคม หรือเวอร์ชันเต็มในช่วง กันยายนปีนี้

รายงานโดย
ทีมงาน MacThai

The post แอป Noise วัดเสียงรบกวนรอบข้าง เผยรองรับแค่ Apple Watch Series 4 ขึ้นไปเท่านั้น appeared first on Macthai.com.

Apple นำ Dashboard ออกจาก macOS Catalina แล้ว

MacThai - 8 June 2019 - 16:00

Dashboard เป็นหนึ่งในฟีเจอร์บน macOS ซึ่ง Apple ใส่มาตั้งแต่ Mac OS X 10.4 Tiger ซึ่งมีช่วงหนึ่งที่คีย์บอร์ดปุ่ม F4 เป็นปุ่มเรียก Dashboard ด้วย (ตั้งแต่ 10.7 Lion มา ปุ่มนี้กลายเป็นปุ่มเรียก Launchpad) แต่ช่วงหลังมานี้ Apple ก็แทบไม่ได้เน้นฟีเจอร์นี้เลย แถมยังเอากลับไปซ่อนไว้ค่อนข้างลึก

macos-catalina-have-no-dashboard

ใน macOS Catalina นี้ ผู้ที่ทดสอบก็พบว่าฟีเจอร์ Dashboard นี้หายไปสนิทแล้ว ซึ่งแม้ว่าจะพยายามเปิดออกมาจาก Terminal ก็ไม่สามารถทำได้ และถ้าเปิด Launchpad ก็จะพบกับแอป Dashboard พร้อมเครื่องหมายคำถาม ซึ่งหมายความว่า Dashboard ได้หายไปแล้ว

Dashboard เปิดตัวครั้งแรกพร้อมกับ Mac OS X 10.4 Tiger โดยจุดประสงค์ของ Dashboard คือศูนย์รวมวิดเจ็ตที่แสดงข้อมูลแบบง่าย ๆ เช่น นาฬิกา, สภาพอากาศ, โน้ต และอื่น ๆ ซึ่งปัจจุบันแทบทั้งหมดสามารถหาได้จาก Notification Center ในส่วน Today แล้ว ทำให้ Dashboard จึงแทบไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป

ทั้งนี้ macOS Catalina ยังอยู่ระหว่างการทดสอบเบต้า ซึ่ง Apple อาจจะใส่ Dashboard กลับมาในรุ่นปล่อยจริงก็ได้ แต่คาดว่าคงไม่เนื่องจากท่าทีของ Apple ที่ช่วงหลังนำเมนูนี้ไปซ่อนลึกขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นถ้าจะถอดฟีเจอร์นี้ออกใน macOS Catalina ก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลก

ที่มา – 9to5Mac

The post Apple นำ Dashboard ออกจาก macOS Catalina แล้ว appeared first on Macthai.com.

นับถอยหลัง CEO Huawei คอมเฟิร์มได้ฤกษ์เปิดตัว HongMeng / ARK OS

MXPhone - 8 June 2019 - 15:01

ความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบปฏิบัตืการ Huawei HongMeng OS ที่ล่าสุด ดูเหมือนว่าจะได้ฤกษ์กำหนดการเปิดตัวแล้ว

The post นับถอยหลัง CEO Huawei คอมเฟิร์มได้ฤกษ์เปิดตัว HongMeng / ARK OS appeared first on mxphone.

Mercedes-Benz เตรียมเปิดตัว GLB บุกตลาด SUV 7 ที่นั่งขนาดกระทัดรัด

Brand Inside - 8 June 2019 - 12:18

ตอนนี้รถยนต์แบบ SUV นั้นมีความต้องการในตลาดที่สูงมาก อาจเพราะมันตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย ทำให้ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ต่างให้ความสำคัญกับ SUV เต็มที่ และนั่นก็คือที่มาของ Mercedes-Benz รุ่น GLB

Mercedes-Benz GLBMercedes-Benz GLB ซอยรุ่นจนแทบจะไกล้เคียงรถเก๋ง

ในอดีตค่ายผู้ผลิตรถยนต์ต่างๆ มักให้ความสำคัญกับ Sedan หรือรถเก๋งมากกว่า สังเกตจากการซอยรุ่นออกมาจำนวนมาเพื่อตอบโจทย์ทุกการใช้งาน หรือตั้งแต่รถเก๋งเล็กสำหรับคนโสด, รถเก๋งขนาดกลางกับคนเริ่มมีครอบครัว รวมถึงรถเก๋งขนาดใหญ่สำหรับผู้บริหาร

แต่ปัจจุบันมันไม่ใช่อย่างนั้นเพราะเทรนด์รถ SUV หรือ Sport Utility Vehicle นั้นกลับมาอีกครั้ง ผ่านความต้องการของผู้บริโภคที่อยากซื้อรถแบบนี้มากขึ้น จนในที่สุดแล้วค่ายผู้ผลิตรถยนต์ทุกรายก็ต้องซอยรุ่นย่อยออกมามากกว่าเดิม หรือจากที่ SUV มีแต่รถขนาดใหญ่ ก็กลายเป็นมีขนาดกลาง และขนาดเล็กด้วย

Mercedes-Benz คืออีกตัวอย่างที่ดีของการเร่งทำตลาดรถยนต์ SUV เพราะปัจจุบันมีการซอยรุ่นออกมาแทบจะเท่ากับการทำตลาด Sedan ไล่ตั้งแต่ GLA กับ SUV แบบ Crossover, GLC กับ SUV ขนาดเล็ก, GLE กับ SUV ขนาดกลาง และ GLS กับ SUV ขนาด Full-Size

แถมล่าสุดยังเตรียมเปิดตัว GLB ในตำแหน่ง SUV แบบ Crossover ขนาด 7 ที่นั่ง คล้ายกับ B Class ที่ออกมาตอบโจทย์ผู้ซื้อที่ต้องการรถยนต์ขนาดเล็ก แต่ยังอยากบรรทุกคน และของได้มากกว่าปกติ ซึ่งตัวเครื่องยนต์นั้นจะใช้เครื่องเดียวกับ A220 Sedan ที่เพิ่งเปิดตัวต้นปี 2562 แบบ 2.0 ลิตรเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 224 แรงม้า

Mercedes-Benz GLBภายในห้องโดยสารของ Mercedes-Benz GLB

ที่สำคัญ GLB ยังมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออีกด้วย โดย GLB จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 มิ.ย. ที่สหรัฐอเมริกา และคาดว่าการซอยรุ่นย่อยครั้งนี้น่าจะยกระดับการทำตลาด SUV ของ Mercedes-Benz ขึ้นไปอีกขั้น นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่แบรนด์อื่นๆ จะทำตลาด SUV ขนาดเล็กแต่ 7 ที่นั่งออกมาแข่งด้วย

สรุป

ตอนนี้ที่ SUV ได้รับความนิยมอย่างสูง ก็ไม่แปลกที่ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ทุกรายต้องเร่งผลิต SUV รุ่นใหม่ๆ ออกมาตอบรับความต้องการ และแม้ BMW จะเปิดตัว X2 ออกมาเพื่อเป็น SUV ขนาดเล็กที่ดูสปอร์ต แต่ในอนาคตมันก็อาจมีรุ่น X2 ที่ออกแบบสำหรับครอบครัว คล้ายกับ 2 Series Gran Tourer ก็เป็นได้

อ้างอิง // CNET, Mercedes-Benz

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

แตกหัก! FedEx ประกาศไม่ต่อสัญญา ยกเลิกการส่งสินค้าทางอากาศทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาให้กับ Amazon

Brand Inside - 8 June 2019 - 11:13

ความน่าสนใจ คือจังหวะของการไม่ต่อสัญญาของ FedEx กับ Amazon ในครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงที่ Amazon กำลังรุกหนักกับการสร้างบริการขนส่งและเดลิเวอรี่สินค้าของตัวเอง

FedExFedEx Photo: Shutterstock FedEx โบกมือลาขนส่งสินค้าทางอากาศกับ Amazon

FedEx บริษัทขนส่งสินค้ารายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ประกาศไม่ต่อสัญญาส่งสินค้าเดลิเวอรี่ทางอากาศ (air services) กับ Amazon ในสหรัฐอเมริกาโดยให้เหตุผลว่า การประกาศในครั้งนี้เป็น “การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์” โดยจะไม่กระทบกับสัญญาส่งสินค้าในบริการอื่นๆ อย่างเช่น การขนส่งเดลิเวอรี่ทางบก

FedEx ระบุในประกาศว่า Amazon ไม่ใช่ลูกค้าเบอร์ใหญ่ของบริษัท เพราะถ้านับในแง่รายได้ของปี 2018 จาก Amazon คิดเป็นเพียง 1.3% เท่านั้น

ด้านตัวแทนของ Amazon ออกมาให้ความเห็นว่า “เราเคารพการตัดสินใจของ FedEx และขอขอบคุณการทำหน้าที่เพื่อช่วยเหลือลูกค้าของ Amazon มาตลอดหลายปี”

สำหรับ Amazon ในช่วงหลายปีมานี้ อย่างที่ทราบกันดีว่า Amazon ได้รุกหนักในบริการขนส่งโลจิสติกส์ของตนเอง (in-house) โดย Amazon ได้สร้างคาร์โก้ใหม่ มูลค่ากว่า 47,000 ล้านบาท ลดเวลาส่งของเหลือเพียง 1 วัน หรือดูได้จากตัวอย่างล่าสุดคือการที่ Amazon Prime ประกาศส่งสินค้าภายใน 1 วัน ทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา หรือแม้กระทั่งการเผยโฉมโดรนส่งของดีไซน์ล่าสุด

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ FedEx ประกาศโบกมือลาไม่ต่อสัญญา Amazon ในการขนส่งทางอากาศ ก็ทำให้หุ้นของ FedEx ตกลงไป 1% ส่วนหุ้นของ Amazon ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

ที่มา – CNBC

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

IKEA เริ่มเปลี่ยนแค็ตตาล็อกสินค้าแบบเล่ม สู่ Pinterest

Brand Inside - 8 June 2019 - 00:10

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ IKEA ที่มีการปรับเปลี่ยนแค็ตตาล็อกเล่มหนาแบบนิตยสาร สู่แพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Pinterest

จุดเด่นของ IKEA นอกจากจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ราคาย่อมเยา สามารถประกอบเองได้แล้ว ยังมีในส่วนของแค็ตตาล็อกสินค้าที่ IKEA ได้ออกเป็นประจำทุกปี รวบรวมสินค้าใหม่ๆ กว่า 200 หน้า แล้วทำการแจกให้กับลูกค้าแต่ละบ้าน

ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ เมื่อทำการแจกแค็ตตาล็อกแล้ว ลูกค้าบางรายก็อาจจะไม่ได้สนใจ ไม่ได้เป็นกลุ่มเป้าหมายของ IKEA ไม่แม้กระทั่งเปิดดู ถูกทิ้งไว้ในกล่องจดหมาย อีกทั้งรูปแบบของการเสพสื่อได้เปลี่ยนไป แค็ตตาล็อกแบบรูปเล่มอาจจะไม่ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคยุคนี้แล้ว

IKEA จึงปิ๊งไอเดียใหม่ขึ้นมาด้วยการสร้างแค้ตตาล็อกเวอร์ชั่น Pinterest แพลตฟอร์มแชร์รูปภาพขวัญใจคนรุ่นใหม่ โดยมีแนวคิดที่ต้องการให้แค็ตตาล็อกมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น แถมยังสามารถเลือกสินค้า หรือปรับแต่งตามความชอบ หรือสไตล์ส่วนตัวได้

Kerri Longarz, Media Project Manager ของ IKEA ได้บอกว่า จริงๆ IKEA มีแค็ตตาล็อกออนไลน์อยู่แล้ว แต่ในเรื่องของการโปรโมต หรือการเข้าถึงลูกค้ายังไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ จึงต้องการทำอะไรที่แตกต่างไปจากเดิม

เขามองว่า Pinterest เป็นเหมือนพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจของใครหลายๆ คน ครอบคลุมทั้งเรื่อง DIY, How to และเลือกสไตล์ความชอบส่วนตัวได้ เพราะฉะนั้น Pinterest จึงคำตอบในโปรเจ็คต์นี้

งานนี้ IKEA ได้ทำงานร่วมกับ Wavemaker ที่เป็นดิจิทัล เอเยนซี่ และมีทีมงานด้านครีเอทีฟ และกลยุทธ์ของ Pinterest ด้วย

กระบวนการของแค็ตตาล็อกนี้ก็คือ IKEA จะสร้างแบบสอบถามชุดหนึ่งขึ้นมา เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมการช้อปปิ้งของผู้บริโภค ดูว่าชอบเฟอร์นิเจอร์สไตล์ไหน มีความสนใจอะไรบ้าง รวมถึงข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ จากนั้น IKEA จะนำเสนอเฟอร์นิเจอร์ตามสไตล์ที่สนใจ และมีเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ของ IKEA เพื่อดูรายละเอียดสินค้าต่อ

แค็ตตาล็อกบน Pinterest ได้ทดลองเปิดตัวเมื่อเดือนสิงหาคม 2018 ที่ผ่านมา มีบอร์ดที่ถูกสร้างขึ้นบน Pinterest กว่า 25,000 รายการ มีการตอบแบบสอบถามสำเร็จในอัตรา 100%

ทาง Wavemaker ได้ให้ความเห็นว่า จากเดิมที่ Pinterest อาจจะเป็นพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจ ตอนนี้ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญของแบรนด์ไปแล้ว ผู้บริโภคมีการค้นหาสินค้า รวมถึงวิธีการแต่งบ้าน แบรนด์จึงต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในตรงนี้ให้ได้

สำหรับในอนาคตนั้น IKEA มีแผนที่จะสร้างแพลตฟอร์มสำหรับโฆษณาบนโลกดิจิทัลแบบใหม่ๆ มีฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์การช้อปปิ้งมากขึ้น หรืออาจจะเป็นแอพพลิเคชั่นก็ได้ ซึ่งจะลดการพิมพ์แค็ตตาล็อกที่เป็นหนังสือลงด้วย

ถือเป็นความท้าทายครั้งสำคัญของ IKEA เมื่อต้องเปลีย่นรูปแบบของสื่อ แต่เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป การที่มีแต่แค็ตตาล็อกที่เป็นหนังสืออย่างเดียวยิ่งสร้างความเสี่ยงมากกว่าหลายเท่า

Source

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

Pages