Apple เผยแพร่วิดีโอการใช้ Apple Watch Series 4 สำหรับการออกกำลังกายและใช้ SOS ฉุกเฉิน

iPhonemod - 15 October 2018 - 08:45
Apple Share Apple Watch Series 4 How To Workout And Sos Emergency Video

Apple ได้เผยแพร่วิดีโอใหม่ 2 วิดีโอผ่าน Official YouTube เกี่ยวกับการใช้ Apple Watch Series 4 สำหรับออกกำลังกายและใช้ SOS ฉุกเฉิน

ทั้ง 2 วิดีโอเป็นการแนะนำการใช้ Apple Watch Series 4 กับการออกกำลังกายและใช้ SOS ฉุกเฉินแบบสั้นๆ เข้าใจง่าย

Apple Watch Series 4 — วิธีการออกกำลังกายด้วยแอป Workout

Apple ได้แนะนำให้ใช้เวลาสักสองสามชั่วโมงเพื่อเริ่มต้นออกกำลังกาย ในวิดีโอนำเสนอการใช้แอป Workout เริ่มต้นการวิ่งกลางแจ้ง และตั้งเป้าหมายการวิ่ง ไฮไลท์ของวิดีโอคือการแสดงข้อมูลระหว่างออกกำลังกายเพื่อติดตามการวิ่ง และข้อมูลสรุปผลหลังจากออกกำลังกาย

Apple Watch Series 4 — วิธีใช้ SOS ฉุกเฉิน

Apple ได้นำเสนอวิธีการใช้ SOS ฉุกเฉินหรือ Emergency SOS แบบรวดเร็ว เพียงแค่กดปุ่ม Power ด้านข้างค้างไว้ จากนั้นก็เลื่อนปุ่ม Emergency SOS เพื่อเรียกบริการฉุกเฉินได้ทันที นอกจากนี้ยังสอนการดู ID ทางแพทย์ (Medical ID) ของผู้ใช้ ยามเกิดเหตุฉุกเฉิน ผู้ช่วยเหลือจะสามารถดู ID ทางแพทย์และสามารถให้ความช่วยเหลือได้อย่างถูกต้อง

การเผยแพร่วิดีโอวิธีการใช้งานฟีเจอร์ที่สำคัญบน Apple Watch อย่างการออกกำลังกาย (Workout) และการเรียกใช้ SOS ฉุกเฉิน (Emergency SOS) นี้ สามารถใช้ได้ใน Apple Watch เหมือนกันทุกรุ่น

ขอบคุณ 9to5mac

The post Apple เผยแพร่วิดีโอการใช้ Apple Watch Series 4 สำหรับการออกกำลังกายและใช้ SOS ฉุกเฉิน appeared first on iPhoneMod.

ราคา iPad Pro, iPad 9.7 และ iPad mini ล่าสุด ประจำเดือนตุลาคม 61

iPhonemod - 15 October 2018 - 08:00
Ipad Price List Oct 2018

ข้อมูลนี้จะแสดงราคา iPad ที่วางจำหน่ายแต่ละรุ่น จาก Apple และค่ายอื่นๆ ประจำเดือน ต.ค. 61 มีทั้งราคาปกติ ราคาโปรโมชันและราคาสำหรับนักศึกษา สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย

Ipad Pro 10.5

Apple Store Online ประเทศไทย iPad 9.7 นิ้ว 2018

รุ่น Wi-Fi ราคาปกติ

  • iPad 9.7 นิ้ว 2018 นิ้ว รุ่น Wi-Fi 32GB – ราคา 11,500 บาท
  • iPad 9.7 นิ้ว 2018 นิ้ว รุ่น Wi-Fi 128GB – ราคา 14,900 บาท

รุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาปกติ

  • iPad 9.7 นิ้ว 2018 รุ่น Wi-Fi + Cellular 32GB  – ราคา 16,500 บาท
  • iPad 9.7 นิ้ว 2018 รุ่น Wi-Fi + Cellular 128GB – ราคา 19,900 บาท

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPad 9.7 นิ้ว 2018 สำหรับราคาปกติ

รุ่น Wi-Fi ราคาสำหรับนักศึกษา

  • iPad 9.7 นิ้ว 2018 นิ้ว รุ่น Wi-Fi 32GB – ราคา 10,800 บาท
  • iPad 9.7 นิ้ว 2018 นิ้ว รุ่น Wi-Fi 128GB – ราคา 14,200 บาท

รุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาสำหรับนักศึกษา

  • iPad 9.7 นิ้ว 2018 รุ่น Wi-Fi + Cellular 32GB  – ราคา 15,800 บาท
  • iPad 9.7 นิ้ว 2018 รุ่น Wi-Fi + Cellular 128GB – ราคา 19,200 บาท

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPad 9.7 นิ้ว 2018 สำหรับนักศึกษา

iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว

รุ่น Wi-Fi ราคาปกติ

  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi 64GB – ราคา 29,900 บาท
  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi 256GB – ราคา 35,300 บาท
  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi 512GB – ราคา 42,500 บาท

รุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาปกติ

  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 64GB 34,900 บาท
  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 256GB 40,300 บาท
  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 512GB 47,500 บาท

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPad Pro 12.9 นิ้ว สำหรับราคาปกติ

รุ่น Wi-Fi ราคาสำหรับนักศึกษา

  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi 64GB – ราคา 29,200 บาท
  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi 256GB – ราคา 34,600 บาท
  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi 512GB – ราคา 41,800 บาท

รุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาสำหรับนักศึกษา

  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 64GB 34,200 บาท
  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 256GB 39,600 บาท
  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 512GB 46,800 บาท

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPad Pro 12.9 นิ้ว สำหรับนักศึกษา

iPad Pro รุ่น 10.5 นิ้ว

รุ่น Wi-Fi ราคาปกติ

  • iPad Pro 10.5 นิ้ว รุ่น Wi-Fi 64GB – ราคา 24,500 บาท
  • iPad Pro 10.5 นิ้ว รุ่น Wi-Fi 256GB – ราคา 29,900 บาท
  • iPad Pro 10.5 นิ้ว รุ่น Wi-Fi 512GB – ราคา 37,100 บาท

รุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาปกติ

  • iPad Pro 10.5 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 64GB  – ราคา 29,500 บาท
  • iPad Pro 10.5 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 256GB  – ราคา 34,900 บาท
  • iPad Pro 10.5 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 512GB  – ราคา 42,100 บาท

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPad Pro 10.5 นิ้ว สำหรับราคาปกติ

รุ่น Wi-Fi ราคาสำหรับนักศึกษา

  • iPad Pro 10.5 นิ้ว รุ่น Wi-Fi 64GB – ราคา 23,800 บาท
  • iPad Pro 10.5 นิ้ว รุ่น Wi-Fi 256GB – ราคา 29,200 บาท
  • iPad Pro 10.5 นิ้ว รุ่น Wi-Fi 512GB – ราคา 36,400 บาท

รุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาสำหรับนักศึกษา

  • iPad Pro 10.5 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 64GB  – ราคา 28,800 บาท
  • iPad Pro 10.5 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 256GB  – ราคา 34,200 บาท
  • iPad Pro 10.5 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 512GB  – ราคา 41,400 บาท
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPad Pro 10.5 นิ้ว สำหรับนักศึกษา
iPad mini 4

รุ่น Wi-Fi ราคาปกติ

  • iPad mini 4 รุ่น Wi-Fi 128GB – ราคา 14,900 บาท

รุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาปกติ

  • iPad mini 4 รุ่น Wi-Fi + Cellular 128GB  – ราคา 19,900 บาท

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPad Mini 4 สำหรับราคาปกติ

รุ่น Wi-Fi ราคาสำหรับนักศึกษา

  • iPad mini 4 รุ่น Wi-Fi 128GB – ราคา 14,200 บาท

รุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาสำหรับนักศึกษา

  • iPad mini 4 รุ่น Wi-Fi + Cellular 128GB  – ราคา 19,200 บาท

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPad Mini 4 สำหรับนักศึกษา

TrueMove H iPad 9.7 นิ้ว 2018

รุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาปกติ

  • iPad 9.7 นิ้ว 2018 รุ่น Wi-Fi + Cellular 32GB  – ราคา 16,500 บาท
  • iPad 9.7 นิ้ว 2018 รุ่น Wi-Fi + Cellular 128GB – ราคา 19,900 บาท

รุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาติดโปร

  • iPad 9.7 นิ้ว 2018 รุ่น Wi-Fi + Cellular 32GB  – ราคา 11,500 บาท
  • iPad 9.7 นิ้ว 2018 รุ่น Wi-Fi + Cellular 128GB – ราคา 14,900 บาท

ดูข้อมูลเพิ่มเติม iPad 9.7 นิ้ว 2018 รุ่น Wi-Fi + Cellular ที่ Truemove H

iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว

รุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาปกติ

  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 64GB 34,900 บาท
  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 256GB 39,900 บาท
  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 512GB 47,500 บาท

รุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาติดโปร

  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 64GB 26,400 บาท
  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 256GB 31,400 บาท
  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 512GB 39,000 บาท

ดูข้อมูลเพิ่มเติม iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular ที่ Truemove H

iPad Pro รุ่น 10.5 นิ้ว

รุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาปกติ

  • iPad Pro 10.5 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 64GB  – ราคา 29,500 บาท
  • iPad Pro 10.5 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 256GB  – ราคา 32,900 บาท
  • iPad Pro 10.5 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 512GB  – ราคา 41,900 บาท

รุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาติดโปร

  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 64GB 21,000 บาท
  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 256GB 24,400 บาท
  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 512GB 33,400 บาท

ดูข้อมูลเพิ่มเติม iPad Pro 10.5 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular ที่ Truemove H

iPad mini 4

รุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาปกติ

  • iPad mini 4 รุ่น Wi-Fi + Cellular 128GB  – ราคา 19,900 บาท

รุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาติดโปร

  • iPad mini 4 รุ่น Wi-Fi + Cellular 128GB  – ราคา 11,400 บาท

ดูข้อมูลเพิ่มเติม iPad mini 4 รุ่น Wi-Fi + Cellular ที่ Truemove H

AIS iPad 9.7 นิ้ว 2018

รุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาปกติ

  • iPad 9.7 นิ้ว 2018 รุ่น Wi-Fi + Cellular 32GB  – ราคา 16,500 บาท
  • iPad 9.7 นิ้ว 2018 รุ่น Wi-Fi + Cellular 128GB – ราคา 19,900 บาท

รุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาติดโปร

  • iPad 9.7 นิ้ว 2018 รุ่น Wi-Fi + Cellular 32GB  – ราคา 12,500 บาท
  • iPad 9.7 นิ้ว 2018 รุ่น Wi-Fi + Cellular 128GB – ราคา 15,900 บาท
iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว

รุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาปกติ

  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 128GB 32,900 บาท
iPad Pro รุ่น 10.5 นิ้ว

รุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาปกติ

  • iPad Pro 10.5 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 64GB  – ราคา 29,500 บาท
  • iPad Pro 10.5 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 256GB  – ราคา 34,900 บาท
  • iPad Pro 10.5 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 512GB  – ราคา 41,900 บาท

รุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาติดโปร

  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 64GB 24,500 บาท
  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 256GB 27,900 บาท
  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular 512GB 36,900 บาท
iPad mini 4

รุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาปกติ

  • iPad mini 4 รุ่น Wi-Fi + Cellular 64GB  – ราคา 20,900 บาท

ดูข้อมูลเพิ่มเติม iPad ที่ AIS

—–

ข้อมูลล่าสุดเมื่อ 15 ตุลาคม 2561 : 08.00 น.

หมายเหตุ*

  • ราคาที่นำมา เป็นราคาเริ่มต้นที่มีราคาถูกที่สุด ณ เวลาที่เผยแพร่ข้อมูล
  • ราคาที่นำมา เป็นราคาจาก Store ออนไลน์ของผู้จำหน่ายเป็นหลัก ราคาสุทธิ (ราคารวมต่างๆ) อาจมีการเปลี่ยนแปลงจากผู้จำหน่าย ทางทีมงานจึงไม่สามารถลงราคาสุทธิได้

เพิ่มเติม วิธีซื้อ iPad Mac MacBook ราคานักเรียน นักศึกษา ทำง่ายๆ แถมได้ส่วนลด

The post ราคา iPad Pro, iPad 9.7 และ iPad mini ล่าสุด ประจำเดือนตุลาคม 61 appeared first on iPhoneMod.

ราคา Apple Watch ทุกซีรีย์ ล่าสุดจาก Apple, True, AIS, Dtac ประจำเดือนตุลาคม 61

iPhonemod - 15 October 2018 - 08:00
Apple Watch Price List Oct 2018

ข้อมูลนี้จะแสดงราคา Apple Watch ทุกซีรีย์ที่วางจำหน่าย ณ ปัจจุบัน มีทั้งราคาเครื่องเปล่าและราคาที่ถูกสุดที่มาพร้อมแพ็กเกจของแต่ละเครือข่าย คือ Apple, True, AIS, Dtac (ไม่รวมร้านค้าอื่นๆ นอกจากนี้) ประจำเดือนตุลาคม 61 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย

Apple Watch Series 3 Price New

Apple Store Online ประเทศไทย Apple Watch Series 3 GPS + Cellular (2018)
  • Apple Watch Series 3 GPS + Cellular ขนาด 38 มม. — ราคา 13,400 บาท
  • Apple Watch Series 3 GPS + Cellular ขนาด 42 มม. — ราคา 14,400 บาท
Apple Watch Series 3 GPS + Cellular Nike+ (2018)
  • Apple Watch Series 3 GPS + Cellular Nike+ ขนาด 38 มม. — ราคา 13,400 บาท
  • Apple Watch Series 3 GPS + Cellular Nike+ ขนาด 42 มม. — ราคา 14,400 บาท
Apple Watch Series 3 GPS (2017)
  • Apple Watch Series 3 GPS ขนาด 38 มม. — ราคา 9,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 GPS ขนาด 42 มม. — ราคา 10,900 บาท
Apple Watch Series 3 Nike+ (2017)
  • Apple Watch Series 3 GPS Nike+ ขนาด 38 มม. — ราคา 9,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 GPS Nike+ ขนาด 42 มม. — ราคา 10,900 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม Apple Store Online ประเทศไทย

TrueMove H Apple Watch Series 3 GPS + Cellular (2018) ตัวเรือนอะลูมิเนียม ราคาเครื่องเปล่า
  • Apple Watch Series 3 GPS + Cellular ขนาด 38 มม. — ราคา 14,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 GPS + Cellular ขนาด 42 มม. — ราคา 15,900 บาท
ราคาเครื่องติดโปร*
  • Apple Watch Series 3 GPS + Cellular ขนาด 38 มม. — เริ่มต้น 12,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 GPS + Cellular ขนาด 42 มม. — เริ่มต้น 13,900 บาท
Nike+ ราคาเครื่องเปล่า
  • Apple Watch Series 3 GPS + Cellular Nike+ ขนาด 38 มม. — ราคา 14,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 GPS + Cellular Nike+ ขนาด 42 มม. — ราคา 15,900 บาท
ราคาเครื่องติดโปร*
  • Apple Watch Series 3 GPS + Cellular Nike+ ขนาด 38 มม. — เริ่มต้น 12,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 GPS + Cellular Nike+ ขนาด 42 มม. — เริ่มต้น 13,900 บาท
ตัวเรือนสแตนเลสสตีล พร้อมสายแบบ Sport Band ราคาเครื่องเปล่า
  • Apple Watch Series 3 Stainless Steal ขนาด 38 มม. — ราคา 21,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 Stainless Steal ขนาด 42 มม. — ราคา 23,900 บาท
ราคาเครื่องติดโปร*
  • Apple Watch Series 3 Stainless Steal ขนาด 38 มม. — ราคา 19,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 Stainless Steal ขนาด 42 มม. — ราคา 21,900 บาท
ตัวเรือนสแตนเลสสตีล พร้อมสายแบบ Milanese Loop ราคาเครื่องเปล่า
  • Apple Watch Series 3 Stainless Steal ขนาด 38 มม. — ราคา 25,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 Stainless Steal ขนาด 42 มม. — ราคา 27,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 Stainless Steal สีดำสเปซแบล็ค ขนาด 38 มม. — ราคา 27,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 Stainless Steal สีดำสเปซแบล็ค ขนาด 42 มม. — ราคา 29,900 บาท
ราคาเครื่องติดโปร*
  • Apple Watch Series 3 Stainless Steal ขนาด 38 มม. — ราคา 23,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 Stainless Steal ขนาด 42 มม. — ราคา 25,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 Stainless Steal สีดำสเปซแบล็ค ขนาด 38 มม. — ราคา 25,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 Stainless Steal สีดำสเปซแบล็ค ขนาด 42 มม. — ราคา 27,900 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม Apple Watch Serie 3 GPS + Cellular ที่ Truemove H

Apple Watch Series 3 (2017) ราคาเครื่องเปล่า
  • Apple Watch Series 3 ขนาด 38 มม. — ราคา 11,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 ขนาด 42 มม. — ราคา 12,900 บาท
ราคาเครื่องติดโปร*
  • Apple Watch Series 3 ขนาด 38 มม. — เริ่มต้น 9,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 ขนาด 42 มม. — เริ่มต้น 10,900 บาท
Apple Watch Series 3 Nike+ (2017) ราคาเครื่องเปล่า
  • Apple Watch Series 3 ขนาด 38 มม. — ราคา 11,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 ขนาด 42 มม. — ราคา 12,900 บาท
ราคาเครื่องติดโปร*
  • Apple Watch Series 3 ขนาด 38 มม. — เริ่มต้น 9,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 ขนาด 42 มม. — เริ่มต้น 10,900 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม Apple Watch Serie 3 GPS ที่ TrueMove H

AIS Apple Watch Series 3 GPS + Cellular (2018) ตัวเรือนอะลูมิเนียม ราคาเครื่องเปล่า
  • Apple Watch Series 3 GPS + Cellular ขนาด 38 มม. — ราคา 14,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 GPS + Cellular ขนาด 42 มม. — ราคา 15,900 บาท
ราคาเครื่องติดโปร*
  • Apple Watch Series 3 GPS + Cellular ขนาด 38 มม. — เริ่มต้น 13,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 GPS + Cellular ขนาด 42 มม. — เริ่มต้น 14,900 บาท
Nike+ ราคาเครื่องเปล่า
  • Apple Watch Series 3 GPS + Cellular Nike+ ขนาด 38 มม. — ราคา 14,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 GPS + Cellular Nike+ ขนาด 42 มม. — ราคา 15,900 บาท
ราคาเครื่องติดโปร*
  • Apple Watch Series 3 GPS + Cellular Nike+ ขนาด 38 มม. — เริ่มต้น 13,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 GPS + Cellular Nike+ ขนาด 42 มม. — เริ่มต้น 14,900 บาท

สำหรับ Apple Watch Series 3 Stainless Steal ยังไม่มีรายละเอียดในเว็บไซต์

Apple Watch Series 3 (2017) ตัวเรือนอะลูมิเนียม ราคาเครื่องเปล่า
  • Apple Watch Series 3 ขนาด 38 มม. — ราคา 11,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 ขนาด 42 มม. — ราคา 12,900 บาท
ราคาเครื่องติดโปร*
  • Apple Watch Series 3 ขนาด 38 มม. — เริ่มต้น 10,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 ขนาด 42 มม. — เริ่มต้น 11,900 บาท
Nike+ ราคาเครื่องเปล่า
  • Apple Watch Series 3 ขนาด 38 มม. — ราคา 11,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 ขนาด 42 มม. — ราคา 12,900 บาท
ราคาเครื่องติดโปร*
  • Apple Watch Series 3 ขนาด 38 มม. — เริ่มต้น 10,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 ขนาด 42 มม. — เริ่มต้น 11,900 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม Apple Watch ที่ AIS

DTAC Apple Watch Series 3 GPS + Cellular (2018) ตัวเรือนอะลูมิเนียม ราคาเครื่องเปล่า
  • Apple Watch Series 3 GPS + Cellular ขนาด 38 มม. — ราคา 14,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 GPS + Cellular ขนาด 42 มม. — ราคา 15,900 บาท
ราคาเครื่องติดโปร*
  • Apple Watch Series 3 GPS + Cellular ขนาด 38 มม. — เริ่มต้น 13,900 บาท
  • Apple Watch Series 3 GPS + Cellular ขนาด 42 มม. — เริ่มต้น 14,900 บาท
Nike+ ราคาเครื่องเปล่า
  • Apple Watch Series 3 GPS + Cellular Nike+ ขนาด 42 มม. — ราคา 15,900 บาท
ราคาเครื่องติดโปร*
  • Apple Watch Series 3 GPS + Cellular Nike+ ขนาด 42 มม. — เริ่มต้น 14,900 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม Apple Watch ที่ DTAC

ข้อมูลล่าสุดเมื่อ 15 ตุลาคม 2561 : 07.00 น.

หมายเหตุ*

  • ราคาโปรโมชั่นที่นำมา เป็นราคาเริ่มต้นที่มีราคาถูกที่สุด ณ เวลาที่เผยแพร่ข้อมูล
  • ราคาโปรโมชั่นที่นำมา เป็นราคาจาก Store ออนไลน์ของผู้จำหน่ายเป็นหลัก ราคาสุทธิ (ราคารวมต่างๆ) อาจมีการเปลี่ยนแปลงจากผู้จำหน่าย ทางทีมงานจึงไม่สามารถลงราคาสุทธิได้

The post ราคา Apple Watch ทุกซีรีย์ ล่าสุดจาก Apple, True, AIS, Dtac ประจำเดือนตุลาคม 61 appeared first on iPhoneMod.

ราคา iPhone 7 (ไอโฟน 7) ล่าสุดจาก Apple, True, AIS, Dtac ประจำเดือน ต.ค. 61

iPhonemod - 15 October 2018 - 07:32
Iphone7pricelist Oct 2018ราคา iPhone 7 (ไอโฟน 7) ล่าสุดจาก Apple, True, AIS, Dtac ประจำเดือน ต.ค. 61

ข้อมูลนี้จะแสดงราคาเครื่องเปล่าและราคาที่ถูกสุดที่มาพร้อมแพ็กเกจของแต่ละเครือข่าย คือ Apple, True, AIS, Dtac (ไม่รวมร้านค้าอื่นๆ นอกจากนี้) ประจำเดือน ต.ค. 61 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย

Iphone 7 Apple Store Online ประเทศไทย ราคาเครื่องเปล่า

iPhone 7

  • iPhone 7 32GB — ราคา 17,500 บาท
  • iPhone 7 128GB — ราคา 21,500 บาท

iPhone 7 Plus

  • iPhone 7 Plus 32GB — ราคา 22,500 บาท
  • iPhone 7 Plus 128GB — ราคา 26,500 บาท

*Apple เลิกขาย iPhone 7, 7 Plus  สีดำ Jet Black แล้ว

ข้อมูลเพิ่มเติม Apple Store Online ประเทศไทย

TrueMove H ราคาเครื่องเปล่า

iPhone 7

  • iPhone 7 32GB — ราคา 17,500 บาท
  • iPhone 7 128GB — ราคา 21,500 บาท

iPhone 7 Plus

  • iPhone 7 Plus 32GB — ราคา 22,500 บาท
  • iPhone 7 Plus 128GB — ราคา 26,500 บาท
ราคาเครื่องติดโปร*

iPhone 7

  • iPhone 7 32GB — เริ่มต้น 10,000 บาท
  • iPhone 7 128GB — เริ่มต้น 14,000 บาท

iPhone 7 Plus

  • iPhone 7 Plus 32GB — เริ่มต้น 15,000 บาท
  • iPhone 7 Plus 128GB — เริ่มต้น 20,000 บาท

ข้อมูลเพิ่ม iPhone 7iPhone 7 Plus ที่ TrueMove H

AIS ราคาเครื่องเปล่า

iPhone 7

  • iPhone 7 32GB — ราคา 17,500 บาท
  • iPhone 7 128GB — ราคา 21,900 บาท

iPhone 7 Plus

  • iPhone 7 Plus 32GB — ราคา 22,500 บาท
  • iPhone 7 Plus 128GB — ราคา 26,500 บาท
ราคาเครื่องติดโปร*

iPhone 7

  • iPhone 7 32GB — เริ่มต้น 11,000 บาท
  • iPhone 7 128GB — เริ่มต้น 16,000 บาท

iPhone 7 Plus

  • iPhone 7 Plus 32GB — เริ่มต้น 16,000 บาท
  • iPhone 7 Plus 128GB — เริ่มต้น 21,000 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม iPhone 7 / 7 Plus ที่ AIS

Dtac ราคาเครื่องเปล่า

iPhone 7

  • iPhone 7 32GB — ราคา 17,500 บาท
  • iPhone 7 128GB — ราคา 22,000 บาท

iPhone 7 Plus

  • iPhone 7 Plus 32GB — ราคา 22,500 บาท
  • iPhone 7 Plus 128GB — ราคา 26,500 บาท
ราคาเครื่องติดโปร*

iPhone 7

  • iPhone 7 32GB — เริ่มต้น 11,000 บาท
  • iPhone 7 128GB — เริ่มต้น 16,000 บาท

iPhone 7 Plus

  • iPhone 7 Plus 32GB — เริ่มต้น 16,000 บาท
  • iPhone 7 Plus 128GB — เริ่มต้น 21,000 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม iPhone 7, 7 Plus ที่ DTAC

ข้อมูลล่าสุดเมื่อ 15 ต.ค. 2561 : 07.30 น.

หมายเหตุ*

  • ราคาโปรโมชันที่นำมา เป็นราคาเริ่มต้นที่มีราคาถูกที่สุด ณ เวลาที่เผยแพร่ข้อมูล
  • ราคาโปรโมชันที่นำมา เป็นราคาจาก Store ออนไลน์ของผู้จำหน่ายเป็นหลัก ราคาสุทธิ (ราคารวมต่างๆ) อาจมีการเปลี่ยนแปลงจากผู้จำหน่าย ทางทีมงานจึงไม่สามารถลงราคาสุทธิได้

The post ราคา iPhone 7 (ไอโฟน 7) ล่าสุดจาก Apple, True, AIS, Dtac ประจำเดือน ต.ค. 61 appeared first on iPhoneMod.

ราคา iPhone 8 (ไอโฟน 8) ล่าสุดจาก Apple, True, AIS, Dtac ประจำเดือน ต.ค. 61

iPhonemod - 15 October 2018 - 07:20
Iphone8pricelist Oct 2018ราคา iPhone 8 (ไอโฟน 8) ล่าสุดจาก Apple, True, AIS, Dtac ประจำเดือน ต.ค. 61

ข้อมูลนี้จะแสดงราคาเครื่องเปล่าและราคาที่ถูกสุดที่มาพร้อมแพ็กเกจของแต่ละเครือข่าย คือ Apple, True, AIS, Dtac (ไม่รวมร้านค้าอื่นๆ นอกจากนี้) ประจำเดือน ต.ค. 61 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย

Iphone 8 Price Apple Store Online ประเทศไทย ราคาเครื่องเปล่า

iPhone 8

  • iPhone 8 64GB — ราคา 23,900 บาท
  • iPhone 8 256GB — ราคา 29,900 บาท

iPhone 8 Plus

  • iPhone 8 Plus 64GB — ราคา 27,900 บาท
  • iPhone 8 Plus 256GB — ราคา 33,900 บาท

*Apple เลิกขาย iPhone 8, 8 Plus สีแดง PRODUCT(RED) แล้ว

ข้อมูลเพิ่มเติม Apple Store Online ประเทศไทย

TrueMove H ราคาเครื่องเปล่า

iPhone 8

  • iPhone 8 64GB — ราคา 23,900 บาท
  • iPhone 8 256GB — ราคา 29,900 บาท

iPhone 8 Plus

  • iPhone 8 Plus 64GB — ราคา 27,900 บาท
  • iPhone 8 Plus 256GB — ราคา 33,900 บาท
ราคาเครื่องติดโปร*

iPhone 8

  • iPhone 8 64GB — ราคา 14,400 บาท
  • iPhone 8 256GB — ราคา 18,900 บาท

iPhone 8 Plus

  • iPhone 8 Plus 64GB — ราคา 18,400 บาท
  • iPhone 8 Plus 256GB — ราคา 24,400 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติมที่ TrueMove H สำหรับ iPhone 8iPhone 8 Plus

AIS ราคาเครื่องเปล่า

iPhone 8

  • iPhone 8 64GB — ราคา 23,900 บาท
  • iPhone 8 256GB — ราคา 29,900 บาท

iPhone 8 Plus

  • iPhone 8 Plus 64GB — ราคา 27,900 บาท
  • iPhone 8 Plus 256GB — ราคา 33,900 บาท
ราคาเครื่องติดโปร*

iPhone 8

  • iPhone 8 64GB — ราคา 15,900 บาท
  • iPhone 8 256GB — ราคา 20,400 บาท

iPhone 8 Plus

  • iPhone 8 Plus 64GB — ราคา 19,900 บาท
  • iPhone 8 Plus 256GB — ราคา 25,900 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม iPhone 8, 8 Plus ที่ AIS

Dtac

*Dtac ขาย iPhone 8 64GB เครื่องเปล่าแพงกว่า iPhone 8 Plus 64GB เครื่องเปล่า ข้อมูล ณ วันที่ 15 ต.ค. 61 7.00 น. ที่ Dtac Store Online

ราคาเครื่องเปล่า

iPhone 8

  • iPhone 8 64GB — ราคา 29,000 บาท
  • iPhone 8 256GB — ราคา 30,500 บาท

iPhone 8 Plus

  • iPhone 8 Plus 64GB — ราคา 28,500 บาท
  • iPhone 8 Plus 256GB — ราคา 39,000 บาท
ราคาเครื่องติดโปร*

iPhone 8

  • iPhone 8 64GB — ราคา 19,000 บาท
  • iPhone 8 256GB — ราคา 19,000 บาท

iPhone 8 Plus

  • iPhone 8 Plus 64GB — ราคา 19,900 บาท
  • iPhone 8 Plus 256GB — ราคา 29,900 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติมที่ DTAC สำหรับ iPhone 8, 8 Plus

ข้อมูลล่าสุดเมื่อ 15 ต.ค. 2561 : 07.00 น.

หมายเหตุ*

  • ราคาโปรโมชันที่นำมา เป็นราคาเริ่มต้นที่มีราคาถูกที่สุด ณ เวลาที่เผยแพร่ข้อมูล
  • ราคาโปรโมชันที่นำมา เป็นราคาจาก Store ออนไลน์ของผู้จำหน่ายเป็นหลัก ราคาสุทธิ (ราคารวมต่างๆ) อาจมีการเปลี่ยนแปลงจากผู้จำหน่าย ทางทีมงานจึงไม่สามารถลงราคาสุทธิได้

The post ราคา iPhone 8 (ไอโฟน 8) ล่าสุดจาก Apple, True, AIS, Dtac ประจำเดือน ต.ค. 61 appeared first on iPhoneMod.

คิดใหม่ทำใหม่! UNIQLO งบปีล่าสุด กำไรโตกว่า 30% ยอดขายต่างประเทศยังโต

Brand Inside - 14 October 2018 - 23:46

Fast Retailing บริษัทแม่ของ UNIQLO ได้รายงานงบปีล่าสุด โดยกำไรโตกว่า 30% ได้ปัจจัยจากยอดขายที่เติบโดในทวีปเอเชียและสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยอดขายในประเทศญี่ปุ่นยังกลับมาเติบโตได้อีกด้วย

ภาพจาก Uniqlo

Fast Retailing ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ UNIQLO ร้านขายเสื้อผ้าชื่อดังได้รายงานงบปี 2018 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานในปีนี้บริษัทมีกำไรสุทธิ 154,811 ล้านเยน หรือประมาณ 45,107 ล้านบาท กำไรเติบโตถึง 30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

สำหรับรายได้งบปีล่าสุดอยู่ที่ 2.13 ล้านล้านเยน มากกว่าในปี 2017 ที่บริษัททำรายได้อยู่ที่ 1.86 ล้านล้านเยน

ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา แบรนด์เสื้อผ้าจากประเทศญี่ปุ่นประสบปัญหาแรงกดดันจากแบรนด์เสื้อผ้าคู่แข่งอย่าง H&M และรวมไปถึง Inditex ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์อย่าง Zara ที่พยายามขยายสาขาเข้ามาในทวีปเอเชียมากขึ้น แรงกดดันนี้ทำให้ Tadashi Yanai ซึ่งเป็น CEO บริษัทต้องตั้งเป้าหมายใหม่คือทำให้ Fast Retailing เป็นบริษัทที่ใหญ่กว่า Inditex ในด้านของสาขา

บทความที่เกี่ยวข้องกับ UNIQLO

เปิดสาขาต่างประเทศมากขึ้น

ในรอบปีที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่คือเน้นยอดขายจากสาขาต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาที่บริษัทได้เปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ คือยกเลิกสาขาที่ไม่ทำกำไร ยังรวมไปถึงการเปิดสาขาในทวีปเอเชียที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีผลดีจากยอดขายในประเทศญี่ปุ่นที่กลับมาดีขึ้นด้วย

นอกจากนี้งบปีล่าสุด UNIQLO ได้รายงานว่าในประเทศไทยทั้งสิ้น 40 สาขา แต่สำหรับจำนวนสาขาที่มากที่สุดนั้นอยู่ในประเทศจีน ซึ่งในงบปีล่าสุดสาขาในประเทศจีนมีสาขาทั้งสิ้น 623 สาขา โดยรวมสาขาทั้งหมดของ UNIQLO ล่าสุดมีอยู่ทั้งสิ้น 2,068 สาขา เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 148 สาขา

สำหรับเป้าหมายของบริษัทในงบปี 2019 บริษัทคาดว่าจะสามารถทำรายได้รวมไปถึงกำไรที่มากกว่าในปีนี้ โดยเฉพาะหลังจากการเปลี่ยนกลยุทธ์ในการเพิ่มสาขาใหม่

ที่มาSouth China Morning Post, รายงานบริษัท, Reuters

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

เปิดเบื้องหลัง Galaxy A7/A9 : ทำไมสมาร์ทโฟนรุ่นกลางจะมีนวัตกรรมล้ำๆ ไม่ได้

Brand Inside - 14 October 2018 - 22:52

เพิ่งเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ไปหมาดๆ สำหรับ Samsung Galaxy A7 และ Galaxy A9 งานนี้มีเบื้องหลังที่น่าสนใจ เป็นการเดินเกมด้วยสมาร์ทโฟนรุ่นกลางที่แท้จริง

นวัตกรรมไม่ได้อยู่แค่รุ่นแฟล็กชิพอีกต่อไป

Samsung ขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนระดับโลกที่สามารถเบียดคู่แบรนด์ใหญ่อย่าง Apple มาได้แบบสูสีโดยตลอด ในแต่ละปีจะมีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆออกสู่ตลาดจำนวนมาก จุดเด่นของ Samsung คือมีสมาร์ทโฟนในทุกเซ็กเมนต์ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกกลุ่ม

ในอดีตนั้น Samsung จะนำนวัตกรรมใหม่ๆ หรือนวัตกรรมล้ำๆ ใส่ไว้ในสมาร์ทโฟนรุ่นแฟล็กชิพ ซึ่งมี 2 รุ่น ก็คือ Galaxy Note และ Galaxy S นั่นคือในทุกๆ ปีจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของทั้ง 2 ตระกูลนี้ที่เรียกเสียงว้าวในวงการได้

แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปทำให้ Samsung ต้องเรียนรู้และปรับตัวอยู่พอสมควร การเดินเกมใหม่ในครั้งนี้ถือว่าเป็นความท้าทายครั้งใหญ่เช่นกัน ด้วยการนำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้าสู่สมาร์ทโฟนระดับกลาง หรือ Mid-tier

สิ่งที่ได้เห็นจากการเดินเกมครั้งนี้ก็คือสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ทั้ง Galaxy A7 มาพร้อมกับนวัตกรรมกล้องกล้องหลัง 3 ตัว ในราคา 10,990 บาท และ Galaxy A9 ที่มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัวเป็นครั้งแรกของโลก ในราคา 19,990 บาท

วิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคม และไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เล่าให้ฟังว่า

“การที่นำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใส่ในสมาร์ทโฟนรุ่นกลาง ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของ Samsung ทำให้เห็นว่ามีการทำเทคโนโลยีใส่ไปในสมาร์ทโฟนทุกระดับ ไม่ได้เจาะจงแค่รุ่นแฟล็กชิพอย่างเดียวอีกต่อไป เพราะเรามีการ R&D อยู่ตลอด มีนวัตกรรมที่พร้อมลงสู่ตลาดเสมอ ไม่จำเป็นต้องยัดนวัตกรรมใหม่ในรุ่นแฟล็กชิพอย่างเดียวอีกต่อไป”

ตลาดแข่งหนักที่รุ่นกลาง ต้องเข้าใจอินไซต์ให้ได้

ปกติตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยจะถูกขับเคลื่อนด้วยสมาร์ทโฟนระดับกลางเป็นหลัก เพราะเป็นตลาดใหญ่มีกลุ่มผู้ใช้ค่อนข้างกว้าง ซึ่งสมาร์ทโฟนระดับกลาง หรือเรียกว่าระดับแมสที่ราคาอยู่ระหว่าง 6,000-20,000 บาท จะกินสัดส่วน 50-60% ของตลาด ส่วนตลาดระดับล่าง หรือ Entry ราคาต่ำกว่า 6,000 บาทมีสัดส่วน 30-40% และตลาดระดับพรีเมี่ยมที่ราคา 20,000 บาทขึ้นไป มีสัดส่วน 20-25%

แต่ละตลาดจะมีกลุ่มผู้ใช้แตกต่างกันมีความต้องการที่ต่างกันคนที่ใช้สมาร์ทโฟนระดับแฟล็กชิพหรือพรีเมี่ยมก็จะไม่ลงมาใช้ระดับกลางยอมจ่ายในสิ่งที่ตัวเองต้องการจริงๆ

ซึ่งตลาดตรงกลางมีความคึกคักมากที่สุด เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มคุ้นชินกับเทคโนโลยีมากขึ้น เริ่มมองโทรศัพท์มือถือเป็นมากกว่าโทรศัพท์ จากคนที่เล่นในตลาด Entry ก็ขยับขึ้นมาระดับกลางมากขึ้น อัตราการใช้สมาร์ทโฟนก็สูงขึ้น โดยที่ตลาดระดับราคา 7,000-8,000 บาทคึกคักมากที่สุด

ตอนนี้ Samsung มีตระกูล Galaxy Note และ Galaxy S ในเซ็กเมนต์แฟล็กชิพ ส่วนระดับ Entry มีรุ่น Galaxy J2, J4 และ J6 โดยที่เซ็กเมต์กลางมี J8, A6+, A7 และ A9

วิชัยมองว่า ตลาดรุ่น Galaxy A9 ที่จะวางจุดยืนในระดับ Mid-tier ค่อนข้างไปทางบน ราคาไม่ถึง 20,000 บาทเป็นตลาดที่น่าสนใจเพราะตลาดนี้ยังไม่มีผู้เล่นที่แอคทีฟมากมีช่องว่างในตลาดอยู่

ซึ่งตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางมีการเติบโตอย่างมากในกลุ่มประเทศ Emerging Markets หรือประเทศกำลังพัฒนาอย่างอาเซียน และลาตินอเมริกา สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่นี้จึงทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศมาเลเซีย เพื่อเป็นการบุกตลาดอย่างเต็มที่

“ตอนนี้เซ็กเมนต์ของมือถือเคลื่อนไหวเร็วมาก มีการเปลี่ยนแปลงเร็ว ตลาดกลางคึกคักเพราะไซส์ตลาดใหญ่ สินค้านี้ถูกไดร์ฟด้วยเทคโนโลยี จะมีกี่บริษัทสร้างนวัตกรรมได้เอง Samsung ได้ใช้เงินลงทุนสัดส่วน 6% ของรายได้ไปกับการทำ R&D ทำให้นวัตกรรมอยู่กับเรา ชิปเซ็ตอยู่กับเรา มีทั้งนวัตกรรมในบ้าน สมาร์ทโฟน จึงอยากให้มีการแข่งขัน อยากให้มีนวัตกรรมใหม่ในตลาดตรงกลาง

สมาร์ทโฟนสำหรับ Gen M

ความสำคัญของการจับตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางนั้นก็เพื่อต้องการจับกลุ่มวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ หรือ Gen M ให้มากขึ้นเป็นกลุ่มผู้ใช้หลักของตลาดนี้

พฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ต้องการใช้สมาร์ทโฟนเพื่อบอกตัวตนของตัวเอง ใช้ชีวิตบนโซเชียลเป็นส่วนใหญ่ ต้องการเล่าเรื่องราวผ่านโซเชียลมีเดีย ใช้บางอย่างมากกว่าการพูด เพราะฉะนั้นเรื่องกล้องถ่ายรูปจึงสำคัญ ทำให้ Samsung ต้องจับอินไซต์ของคนกลุ่มนี้แล้วมาพัฒนาเป็นสินค้าให้ตอบโจทย์

Galaxy A7 และ A9 จึงต้องมีกล้อง 3 ตัว และ 4 ตัว เพื่อตอบโจทย์การใช้งานหลายรูปแบบ ไม่ต้องพกกล้องมิลเลอร์เลสอื่นๆ ไม่ต้องเชื่อมต่อกล้องกับสมาร์ทโฟน ทำให้ไร้รอยต่อมากขึ้น

จะเห็นว่าตลาดสมาร์ทโฟนในตอนนี้มีการแข่งขันกันดุเดือดไม่มีทีท่าจะเบาลงเลยทีเดียว แต่ละค่ายต่างงัดหมัดเด็ดกันออกมา ตลาดจะแข่งขันกันที่กล้องถ่ายรูป และ AI จะเป็นฟีเจอร์หลักที่มาไดร์ฟตลาด ทำให้สมาร์ทโฟนเป็นมากกว่าสมาร์ทโฟนมากขึ้น

สรุป

การที่ Samsung ออกสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในระดับกลางนี้ แล้วใส่นวัตกรรมที่ถือว่าเรียกเสียงว้าวในตลาดได้อย่างกล้อง 4 ตัว ถือเป็นความท้าทายอย่างหนัก แต่ก็เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่จะทำให้ตลาดมีสีสัน เพราะ Samsung เองก็ต้องปรับตัวอย่างหนัก เพราะต้องยอมรับว่าโดนสมาร์ทโฟนแบรนด์จีนตีตลาด และชิงส่วนแบ่งตลาดไปพอสมควร ทำให้ Samsung ต้องลุกขึ้นมาปกป้องตลาดของตัวเองบ้าง

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

อ่านกลยุทธ์ปั๊ม Rating ของช่อง One กับการฉายละครย้อนหลังทั้งวัน ทุกวัน (หยุด)

Brand Inside - 14 October 2018 - 22:06

ช่องโทรทัศน์ปกติแล้วก็จะมีรายการหลากหลาย เพื่อรับต้องการผู้ชมทุกกลุ่ม แต่ตอนนี้การทำอะไรเพื่อตอบโจทย์คนแต่ละกลุ่มไปเลยก็เริ่มมีประสิทธิภาพมากขึ้น และนั่นอาจเป็นที่มาของการฉายละครย้อนหลังทั้งวันหยุดของช่อง One

การรับชมโทรทัศน์ // ภาพจาก Shutterstock ทั้งวันทั้งคืนเอาให้จบเป็นเรื่องๆ

ในประเทศไทยก็คงมีแต่ช่อง Mono 29 ที่ฉายภาพยนตร์ และซีรีส์ทั้งวัน ไม่ก็สถานีช่องข่าวต่างๆ ที่มีแต่รายการข่าวสาร ซึ่งรายแรกนั้นดูเหมือนจะค่อนข้างสำเร็จ เพราะสามารถครองเรตติ้งเฉลี่ยอันดับ 3 ของทีวีดิจิทัลไทยเอาไว้ได้ และมันก็แสดงให้เห็นว่าคนไทยนั้นอาจชอบเปิดโทรทัศน์แช่เอาไว้เพื่อรับชมรายการประเภทเดียวเป็นเวลานานๆ

ยิ่งเป็นช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ การนอนเอกเขนกอยู่ในห้อง พร้อมเปิดแอร์เย็นๆ และนั่งดูโทรทัศน์ไปเพลินๆ ก็คงดีไม่น้อย ซึ่งเนื้อหารายการเหล่านั้นก็คงไม่พ้นภาพยนตร์ หรือซีรีส์ เพราะสามารถนั่งแช่ดูไปเรื่อยๆ จนหมดวันได้ไม่ยาก ดังนั้นจะดีกว่าหรือไม่ถ้าช่องทีวีดิจิทัลเอาความต้องการแบบนี้มาปรับเป็นกลยุทธ์การวางผังรายการ

ถกลเกียรติ วีรวรรณ

และนั่นอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ช่อง One ของ “บอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ” ปรับผังช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์เป็นการแพร่ภาพละครย้อนหลังทั้งวันทั้งคืน ไม่ว่าจะเป็นละครที่ฉายจบไปแล้ว หรือกำลังฉายอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งการทำแบบนี้นั้นมีมานานกว่า 1 ปีแล้ว

เรตติ้งขึ้นแบบไม่ต้องสงสัย เพราะเลิกดูไม่ได้

เมื่อการนำละครอย่าง “ชายไม่จริงหญิงแท้”, “บัลลังก์เมฆ”, “เธอคือพรหมลิขิต” รวมถึงละครกระแสแรงอย่าง “พิษสวาท” และ “เมีย 2018” มาฉายในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ ก็ไม่แปลกที่ Rating ในช่วงนั้นของช่อง One จะพุ่งขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากรับชมแล้ว ก็ต้องรับชมต่อเรื่อยๆ ผ่านระยะเวลาการจบที่ชัดเจน

ยิ่ง Rating ดี โฆษณาก็เข้า และถือว่า Win-Win กับทุกฝ่าย ผ่านการที่ช่อง One ก็สามารถขายโฆษณาในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่อาจดูสำคัญน้อยกว่าวันปกติ รวมถึงแบรนด์สินค้าต่างๆ ก็สามารถยิงโฆษณาได้อย่างต่อเนื่องระหว่างที่ผู้บริโภครับชมละครต่างๆ รวมถึงผู้บริโภคก็ใช้เวลาในช่วงวันหยุดที่บางครั้งก็หารายการสนุกๆ ดูไม่ได้ด้วย

ล่าสุดในช่วงวันหยุดยาว 13-15 ต.ค. ทางช่อง One ก็ยังเดินกลยุทธ์นี้อยู่ ผ่านการฉายละคร “เนตรนาคิน” ที่ยังแพร่ภาพอยู่ตอนนี้ โดยการฉายจะเป็นการฉายย้อนหลัง เพื่อให้ผู้ชมที่ไม่เคยติดตามเรื่องนี้มาก่อน สามารถรับรู้ถึงความสนุก และติดตามต่อได้ในวันธรรมที่ทางช่อง One จัดฉาย

การรับชม LINE TV ในประเทศไทย อาจเป็นกลยุทธ์ใหม่ของช่องอื่นๆ ที่ทำตาม

ในอดีตรายการในวันหยุดนักขัตฤกษ์ก็จะเป็นรายการเพลง, เอาภาพยนตร์ดีๆ มาฉาย หรือไม่ก็เป็นซีรีส์เรื่องพิเศษที่ทำเฉพาะเวลานั้นๆ ซึ่งมันอาจไม่ถูกจริตกับคนในยุคนี้แล้ว เพราะสิ่งเหล่านี้ต่างหารับชมได้บนอินเทอร์เน็ตทั่วไป แล้วทำไมคนถึงต้องมาดูละครย้อนหลังทางโทรทัศน์กันล่ะ

ส่วนตัวเชื่อว่าเวลาว่างๆ แล้วเกิดเปลี่ยนช่องไปเจอ ยิ่งถ้าเป็นเรื่องที่สนุก หรือมีฉากที่ดึงดูด ก็น่าจะตรึงใจให้ผู้ชมนั้นหยุดการเปลี่ยนช่อง และยิ่งรู้ว่าละครเรื่องนี้ฉายแบบมาราธอน ก็ไม่แปลกที่จะยอมเปิดช่องเดียวเอาไว้ และนั่งดูไปเรื่อยๆ จนกว่าการฉายนั้นจะจบลง

โทรทัศน​์ // ภาพจาก Shutterstock

ดังนั้นโอกาสที่ช่องทีวีดิจิทัลอื่นๆ จะเดินกลยุทธ์นี้บ้างก็มีโอกาสเหมือนกัน เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ยาก ยิ่งถ้าทางช่องมีละครดีๆ อยู่ในมือ การนำมาฉายแบบมาราธอนก็คงทำได้เหมือนกัน ส่วนถ้าช่องไหนไม่มี การซื้อซีรีส์ที่เนื้อเรื่องดำเนินแบบไม่จบในตอนมาฉาย ก็น่าจะเป็นอีกโอกาสสร้าง Rating ในช่วงวันนักขัตฤกษ์เช่นกัน

สรุป

กลยุทธ์ในการฉายเนื้อหาแบบมาราธอนนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะกลุ่มช่องเคเบิลทีวีก็มีกันมาก่อนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์, ข่าว หรือกีฬา ดังนั้นการนำวิธีดังกล่าวมาประยุกต์ใช้กับทีวีดิจิทัลก็คงน่าจะทำได้เหมือนกัน และมันน่าจะดีถ้าสามารถดึงผู้ชมให้อยู่ในช่องของเรานานๆ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

ชมความสวยงามของสาย Sport Loop ที่มาพร้อมกับ Apple Watch Series 4 Nike+ ใหม่

iPhonemod - 14 October 2018 - 13:20
Nike Sport Loop Reflect Apple Watch Series 4

สัปดาห์ที่แล้ว Apple Watch Series 4 Nike+ ก็ได้เริ่มวางขายในต่างประเทศ และเราได้พูดคุยถึงประเด็นความแตกต่างกันแล้ว วันนี้เราจะมาชมสาย Sport Loop ที่มาพร้อม Apple Watch Series 4 Nike+ กัน

ชมความสวยงามของสาย Sport Loop ที่มาพร้อมกับ Apple Watch Series 4 Nike+ ใหม่

สาย Nike Sport Loop รุ่นใหม่มีด้วยกัน 2 สี คือ สีขาวและสีดำ ที่มีคุณสมบัติสะท้อนแสงได้ เป็นสายที่ต้องซื้อพร้อมกับตัวเครื่อง Apple Watch Series 4 เท่านั้น ไม่มีแยกขายเหมือนกับสาย Sport Band หรือสาย Sport Loop รุ่นเก่า

How Apple Watch Series 4 Nike Difference 4

ซึ่งปีที่แล้ว Apple ได้เปิดขายสายรุ่น Nike แบบแยกต่างหากหลังจากที่ Apple Watch Series 3 Nike+ เปิดตัวได้ 6 เดือน แต่สำหรับปีนี้ไม่แน่ว่าจะมีการแยกขายสายอีกหรือไม่

เปรียบเทียบกับสาย Sport Loop สีดำรุ่นเก่า

เมื่อเปรียบเทียบระหว่างสาย Nike Sport Loop สีดำรุ่นเก่ากับสาย Nike Sport Loop สีดำรุ่นใหม่ เห็นได้ชัดว่าสายใหม่มีการทอเส้นด้ายสีดำสลับกับสีเทาที่มีคุณสมบัติสะท้อนแสงได้

Nike Sport Loop Reflect Apple Watch Series 4 4

และสาย Sport Loop รุ่นใหม่ของ Apple Watch Series 4 Nike+ 44 มม. มีขนาดสั้นกว่าสาย Sport Loop ที่มาพร้อมกับ Apple Watch Series 3 Nike+ 42 มม. เล็กน้อย

การสะท้อนแสง

ไฮไลท์ของสาย Nike Sport Loop ก็คือการสะท้อนแสง ที่ให้คุณสามารถสวมใส่เวลาออกกำลังกายในที่มืดได้ เช่น วิ่งบนถนนหรือปั่นจักรยานในช่วงเช้ามืด เมื่อรถขับผ่านมาก็จะมีการสะท้อนให้รู้ว่ามีคนอยู่บนถนน และรูปภาพด้านล่างเป็นการทดสอบการสะท้อนแสงของสาย Nike Sport Loop รุ่นใหม่

เมื่อเคลื่อนไหวในแสงปกติ ก็ดูเป็นสายสีดำธรรมดา

Nike Sport Loop Reflect Apple Watch Series 4 2

เมื่อเคลื่อนไหวในแสงปกติ และถูกส่องด้วยแสงแฟลช iPhone ก็จะมีแสงสะท้อนสีขาวอย่างเห็นได้ชัด

Nike Sport Loop Reflect Apple Watch Series 4 1

คุ้มค่าสำหรับการออกกำลังกาย

ด้วยคุณสมบัติของสาย Sport Loop ที่เราทราบกันดีกว่ามีน้ำหนักเบา ปรับสายได้ตามใจต้องการ สวมใส่ได้กระชับ และระบายอากาศได้ดี จึงเหมาะกับการใส่ออกกำลังกาย และด้วยคุณสมบัติการสะท้อนแสงก็เหมาะกับคนที่ชอบออกกำลังกายในช่วงเช้ามืดหรือช่วงค่ำๆ ช่วยให้รถที่ผ่านไปผ่านมาเห็นทัศนวิสัยจากแสงสะท้อนและทราบได้ว่ามีคนกำลังออกกำลังกายอยู่

Nike Sport Loop Reflect Apple Watch Series 4 3

Apple Watch Series 4 Nike+ ที่มาพร้อมกับสาย Sport Loop แบบสะท้อนแสง คงเป็นที่ถูกคอถูกใจนักวิ่งและนักปั่นจักรยานกันมากเลยทีเดียว คาดว่าจะเปิดขายในประเทศไทยประมาณปลายเดือนตุลาคม-พฤศจิการยนนี้ สำหรับใครอยากได้ก็อดใจรอกันอีกนิดนะคะ เปิดขายเมื่อไหร่ ทีมงานจะรีบอัปเดตให้ทันที รอติดตามกันนะคะ

ขอบคุณ 9to5mac

The post ชมความสวยงามของสาย Sport Loop ที่มาพร้อมกับ Apple Watch Series 4 Nike+ ใหม่ appeared first on iPhoneMod.

สำรวจกล้องหลัง 3 ตัวของ Samsung Galaxy A7 เมื่อมีเลนส์ Ultra-Wide ก็เห็นอะไรได้มากขึ้น

MXPhone - 14 October 2018 - 09:11
หลังจากที่เมื่อวันก่อนเราได้มีการพรีวิวสัมผัสเครื่องจริงของ Samsung Galaxy A7 หนึ่งในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จากแบรนด์ดังจากเกาหลีใต้กันไป ในวันนี้ก็ถึงคราวที่เราจะมาทำความรู้จักกับลูกเล่นการถ่ายภาพของรุ่นนี้ ในฐานะของมือถือรุ่นแรกของค่ายที่ใช้กล้องหลัง 3 ตัว ตามที่เกริ่นกันไปตั้งแต่การพรีวิวตัวเครื่องของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกของ Samsung ที่มีกล้องหลัง 3 ตัว วางเรียงเป็นแนวตั้งติดอยู่มุมบนซ้ายของเครื่อง ซึ่งกลุ่มลูกค้าของรุ่น Galaxy A7 รวมถึงรุ่น Galaxy...

Sygic Car Navigation แอปแผนที่ รองรับการใช้งานบน Apple CarPlay แล้ว

iPhonemod - 14 October 2018 - 08:42
Sygic Support Apple Carplay

เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว Sygic Car Navigation ได้ปล่อยคลิปวิดีโอตัวอย่างการใช้งานแอป Sygic บน Apple CarPlay มาให้ชมกันแล้ว และก็มีแอปแผนที่อื่นๆ อย่าง Google Maps และ Waze ได้อัปเดตให้รองรับกับ Apple CarPlay ตอนนี้ก็มาถึงคิวของ Sygic กันบ้าง

Sygic Car Navigation แอปแผนที่ รองรับการใช้งานบน Apple CarPlay แล้ว

แอป Sygic Car Navigation ก็เป็นอีกหนึ่งแอปแผนที่นำทางที่สามารถใช้งานร่วมกับ Apple CarPlay เพียงแค่เลือกสถานที่ที่ต้องการบน iPhone จากนั้นก็เชื่อมต่อ iPhone กับรถยนต์ และเริ่มการนำทางบนหน้าจอรถยนต์ทันที ทีนี้เราก็สามารถดูการนำทางบนแผนที่ Sygic บนหน้าจอใหญ่ๆ ได้เลย

Sygic Support Apple Carplay 2

ซึ่งแอป Sygic Car Navigation มีการแสดงผลที่สวยงาม คุณสมบัติการนำทางขั้นสูงจำนวนมากที่ช่วยให้ประสบการณ์การขับขี่ระหว่างการเดินทางของคุณสะดวกและปลอดภัย

Sygic Support Apple Carplay 1

คุณสมบัติของแอป Sygic Car Navigation

Sygic Support Apple Carplay 3

  • เชื่อมต่อกับรถยนต์ที่มี Apple CarPlay
  • ใช้แผนที่ 3D แบบออฟไลน์ได้
  • มีจุดที่น่าสนใจหลายล้านจุด (POI : Point of Interest)
  • ดาวน์โหลดและอัปเดตฟรี
  • ให้ข้อมูลการจราจรแบบ Real Time (ต้องมีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต)
  • แจ้งเตือนจำกัดความเร็ว
  • แนะนำจุดจอดรถ
  • เปรียบเทียบราคาน้ำมัน
  • แนะนำการนำทางและชื่อถนนด้วยเสียง
  • นำทางแบบการเดินเท้าและแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว

ผู้ใช้สามารถตรวจสอบรถยนต์ที่รองรับ Apple CarPlay ได้ที่นี่ แล้วก็ลองดาวน์โหลดแอป Sygic มาลองนำทางบน Apple CarPlay กันได้เลย ดาวน์โหลดแอป Sygic Car Navigation ฟรี

Sygic Support Apple Carplay Download

ขอบคุณ iclarified

The post Sygic Car Navigation แอปแผนที่ รองรับการใช้งานบน Apple CarPlay แล้ว appeared first on iPhoneMod.

Apple อาจเปิดขายเคสใสสำหรับ iPhone XR ราคาประมาณ 1,400 บาท

iPhonemod - 14 October 2018 - 07:56
Iphone Xr Clear Case Apple

มีรายงานว่า Apple อาจเปิดขายเคสใสสำหรับ iPhone XR โดยเฉพาะ เพื่อโชว์ความสวยงามของสีตัวเครื่อง ราคาอยู่ที่ประมาณ 55 ดอลลาร์แคนาดา

Apple อาจเปิดขายเคสใสสำหรับ iPhone XR

9to5Mac รายงานข้อมูลว่า Apple ได้ประกาศว่าจะมีการเปิดขายเคสใสสำหรับ iPhone XR ด้วยในบางประเทศ เช่น แคนาดา โดยเคสใสตัวนี้จะมีราคาอยู่ที่ 55 ดอลลาร์แคนาดา (ประมาณ 1,400 บาท)

Iphone Xr Clear Case Apple Img 1

ในรายงานยังไม่มีข้อมูลว่า Apple จะเปิดขายเคสใสในประเทศอื่นๆ หรือไม่และ 9to5Mac ก็ได้เผยภาพตัวอย่างเคสใสมาให้ชมกัน

Iphone Xr Clear Case Apple Img 2

Apple จะเปิดขาย iPhone XR ในกลุ่มประเทศแรกวันที่ 26 ต.ค. 2018 นี้ โดยจุดเด่น iPhone XR จะอยู่ที่มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี และหากมีเคสใสเปิดขายด้วยก็จะโชว์ด้านหลังตัวเครื่องที่สวยงามได้

ที่มา – iclarified9to5mac

The post Apple อาจเปิดขายเคสใสสำหรับ iPhone XR ราคาประมาณ 1,400 บาท appeared first on iPhoneMod.

Starbucks ไต้หวันสร้างจากตู้คอนเทนเนอร์ รับนโยบายร้านเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

Brand Inside - 14 October 2018 - 00:40

Starbucks สาขานี้สร้างจากตู้คอนเทนเนอร์รีไซเคิลทั้งหมด 29 ตู้ ตั้งอยู่ที่ Hualien Bay Mall ประเทศไต้หวัน

ที่สาขานี้ได้ออกแบบโดย Kengo Kuma สถาปนิกชาวญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้ได้เคยออกแบบร้านในเมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว แต่ในครั้งนี้ก็พยายามที่จะหลุดกรอบออกไปอีก ด้วยดีไซน์ที่ต่างออกไป

สาขาที่ทำจากตู้คอนเทนเนอร์นี้ เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายของ Starbucks ที่มีแผนในการสร้างร้านที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในไห้ภายในปี 2025 โดยมีการนำตู้คอนเทนเนอร์รีไซเคิลมาใช้งานใหม่

แต่จริงๆ แล้วสาขานี้ที่ไต้หวันไม่ใช่สาขาแรกที่นำเอาตู้คอนเทนเนอร์มาใช้ แต่ที่สหรัฐอเมริกาที่ด้วยกัน 45 ร้านแล้ว Kengo Kuma จึงนำแนวคิดนี้มาปรับใช้ที่ไต้หวัน โดยใช้ตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมด 29 ตู้ มีด้วยกัน 2 ชั้น ดีไซน์ตกแต่งด้วยสีขาวเพื่อดูธรรมชาติ คลาสสิค และยังสามารถมองวิวภูเขาได้ด้วย

Source

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

SCB10X แนวทางการ Disrupt ตัวเอง สร้าง Future Bank ด้วยพลังคนรุ่นใหม่

Brand Inside - 13 October 2018 - 22:20

สิ่งที่ธนาคารและสถาบันการเงินกลัวในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา (และน่าจะยังหวั่นๆ กันอยู่) คือ การถูก Disrupt จากอุตสาหกรรมอื่นๆ จากเดิมที่ตลอดหลายสิบปีแข่งขันกันเองภายในธุรกิจการเงิน แต่ตอนนี้คู่แข่งใหม่ๆ กำลังมาแรง โดยเฉพาะที่มาจากต่างประเทศ เช่น Alipay, WeChat Pay และอีกหลากหลายบริการที่เข้ามา

วิธีแก้ไขทางหนึ่งคือ การ Disrupt ตัวเอง หรือการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร ไม่รอให้มีคนอื่นมาบังคับ และนั่นคือที่มาของ SCB10X (เอสซีบีเท็นเอ็กซ์) ฝ่ายใหม่ในธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ก่อตั้งโดย CEO ขึ้นตรงกับ CEO เพื่อทำลายข้อจำกัดเดิมๆ ของธนาคาร สร้างอนาคตใหม่ให้กับ SCB

แรงบันดาลใจจาก GoogleX สู่ SCB10X

อาทิตย์​ นันทวิทยา CEO ของ SCB บอกว่า SCB10x ได้แรงบันดาลใจจากการไปเยี่ยมชมบริษัท Google ได้ดูแผนก GoogleX ซึ่งเปิดโอกาสให้พนักงาน Google สามารถทดลองสร้างอินโนเวชั่น ทดลองไอเดียและความท้าทายเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่นำไปสู่ธุรกิจและบริการใหม่

ประเด็นสำคัญคือ ต้องสร้าง Impact ในเชิงบวกต่อองค์กร แต่ไม่มีการบังคับว่าสิ่งนั้นต้องสำเร็จ หรือต้องสร้างรายได้ เพราะจะเป็นข้อจำกัดให้กับความคิดสร้างสรรค์ในการออกจากกรอบเดิมๆ

ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา องค์กรอย่าง SCB ทำธุรกิจการเงินการธนาคาร มีการพัฒนาในสิ่งที่ทำให้ดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถนำพา SCB เปลี่ยนไปสู่องค์กรที่ดีขึ้นได้

SCB10X จึงเป็นการสร้างแผนก Startup ขึ้นมาภายในองค์กร มีหลักการคือ ทุกสิ่งที่สร้างขึ้นมา ต้องสร้าง Impact ให้กับองค์กรและลูกค้าเป็นสิบเท่า (10X) ดังนั้น ต้องเป็นแผนกที่จัดตั้งขึ้นมาในวิถีใหม่ ให้ทีมงานมีแนวคิด ความสามารถ และวัฒนธรรมของตัวเอง สามารถลองผิดลองถูก เพื่อสร้างนวัตกรรมที่ไม่เคยมีมาก่อน และกลายเป็นธุรกิจใหม่ของ SCB และนี่คือ Future Bank

อาทิตย์​ นันทวิทยา CEO ของ SCBอาทิตย์​ นันทวิทยา CEO ของ SCB สร้างองค์กรแบบ Startup ที่พร้อมสร้าง Impact ในวงกว้าง

SCB10X เป็นแผนกหนึ่งภายใต้ SCB ที่แยกเป็นอิสระขึ้นตรงกับ CEO เพื่อให้มีวัฒนธรรมองค์กรของตัวเอง สามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว โดยมี กวีวุฒิ เต็มภูวภัทร และ ถิรนันท์ อรุณวัฒนกูล เป็นผู้บริหารในฐานะ Head of SCB10X Project

กวีวุฒิ เต็มภูวภัทร บอกว่า ส่วนตัวไม่ได้มีประสบการณ์ในธุรกิจการเงิน แต่ CEO ย้ำว่า ไม่ว่าจะมีประสบการณ์หรือไม่ ล้วนเป็นเรื่องที่ดี เพราะมีหลายสิ่งที่ต้องเรียนรู้ไปด้วยกันและออกจากกรอบเดิมๆ ทั้งหมด เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ที่จะเป็นธุรกิจ “หลัก” ในอนาคต สร้างสิ่งใหม่ให้กับลูกค้า 16 ล้านรายของ SCB และคนไทยที่ยังไม่มีโอกาสเข้าถึงแบงก์

ภารกิจสำคัญในมุมมองของกวีวุฒิ คือ การสร้าง Human-Centered Design ให้เกิดขึ้นในธนาคาร เช่น การใช้เวลากับลูกค้าให้มากขึ้น เพื่อให้ได้ข้อมูลจากลูกค้าโดยตรงมาใช้สำหรับตัดสินใจแทนความคิดเห็นของผู้บริหาร เพราะการคุยกับลูกค้าจริงๆ ทำให้ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมาย นำไปสู่การแก้ Pain Point ของลูกค้าได้ตรงจุด

ดังนั้นโจทย์ของ SCB10X คือการสร้างนวัตกรรมใหม่ของธนาคาร ที่ต้องช่วยคนไทยที่มีปัญหาเรื่องการเงิน และทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น และ SCB10X กำลังมองหาผู้ร่วมงานที่ชอบความท้าทายแบบนี้

กวีวุฒิ เต็มภูวภัทรกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร Future Bank สำหรับ คนรุ่นใหม่

ด้าน ถิรนันท์ อรุณวัฒนกูล บอกว่า SCB เป็นองค์กรที่กล้าและไม่รอที่จะ Disrupt ตัวเอง ด้วย SCB10X ซึ่งจะเป็น Prototype ของ Future Bank หน้าที่หลักคือ การออกแบบร่วมกันว่า Future Bank จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร มีพนักงานอย่างไร มีรูปแบบของบริการต่างๆ เป็นอย่างไร และจะจัดการกับความคาดหวังของลูกค้าอย่างไร

10X คือ Future Bank สำหรับคนรุ่นใหม่ ที่จะไม่มีวันล้าหลัง

SCB10X จะเป็นแผนกเล็กๆ มีคนประมาณ 30-50 คน เน้นคนที่กล้าคิดกล้าทำ สร้างวัฒนธรรมองค์กรไปด้วยกัน เป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ที่ตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง สามารถสร้างโปรเจคใหญ่ๆ สำหรับคนหลักสิบล้านได้

ถิรนันท์ อรุณวัฒนกูลถิรนันท์ อรุณวัฒนกูล สรุป

SCB10X เป็นแนวคิดที่ไม่ธรรมดา ที่ CEO ของ SCB กล้าคิดและกล้าทำให้เกิดขึ้นจริง การจะเปลี่ยนแปลงองค์กร โดยเฉพาะธนาคารที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ให้เป็นองค์กรยุคใหม่ ไม่ใช่เรื่องง่าย และถ้าในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า มีผลงานเป็นรูปธรรมออกมาด้วย ไม่ว่าจะประสบผลแค่ไหน แต่ก็ถือเป็นก้าวที่น่าติดตามอย่างยิ่งสำหรับการเปลี่ยนแปลงของ SCB ใครอยากท้าทาย เขาบอกให้ส่งเมลไปที่นี่ Join10X@scb.co.th หรือดูคลิปนี้

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

KBank ติดอันดับ 8 สุดยอดนายจ้างแห่งปีระดับโลก World’s Best Employers 2018

Brand Inside - 13 October 2018 - 18:32

เป็นประจำทุกปีที่นิตยสาร Forbes จะทำการจัดอันดับสุดยอดนายจ้างดีเด่น โดยล่าสุดปี 2018 อันดับ 1 ยังคงเป็นของ Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล แต่ที่น่าสนใจคือ บริษัทไทยอย่างธนาคารกสิกรไทย หรือ KBank ติดอันดับ 8 ของโลกด้วย

KBank ธนาคารกสิกรไทยKBank Photo: Shutterstock กสิกรไทยยืน 1 สุดยอดนายจ้างในอุตสาหกรรมธนาคารระดับโลก

KBank ติดอันดับ 8 ของโลก บริษัทสุดยอดนายจ้างแห่งปีจากการจัดอันดับของนิตยสาร Forbes โดยขยับขึ้นมาจากปีก่อนหน้าที่อยู่อันดับที่ 16 ของโลก

ถ้าดูจากอันดับทั้งหมด KBank ถือเป็นธนาคารที่อยู่ในอันดับสูงสุดในอุตสาหกรรมธนาคารระดับโลก เนื่องจาก 7 อันดับสุดยอดนายจ้างของโลกในปีนี้อยู่ในอุตสาหกรรมอื่น (ไม่ใช่ธนาคาร) ได้แก่

  • อันดับที่ 1 คือ Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิลที่อยู่ในอุตสาหกรรมบริการคอมพิวเตอร์และครองอันดับ 1 มาหลายปี
  • อันดับที่ 2 คือ Microsoft อยู่ในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และโปรแกรมมิ่ง
  • อันดับที่ 3 คือ Apple อยู่ในอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์
  • อันดับที่ 4 คือ Walt Disney อยู่ในอุตสาหกรรมโทรทัศน์และเคเบิล
  • อันดับที่ 5 คือ Amazon อยู่ในอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตและค้าปลีก
  • อันดับที่ 6 คือ CNOOC อยู่ในอุตสาหกรรมน้ำมันและแก๊ส
  • อันดับที่ 7 คือ Daimler อยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์

ส่วนบริษัทไทยที่ติดอันดับ Top 100 ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB ในปีนี้ติดอันดับที่ 20 ถือว่าทำคะแนนได้ดีแล้ว เพราะขยับขึ้นมาจากปีก่อนที่ติดเพียงอันดับที่ 222 ของโลกเท่านั้น รองลงมาจากนั้นคือ บริษัทผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) อยู่อันดับที่ 68 ตามมาด้วย ธนาคารกรุงเทพ ที่อยู่ในอันดับที่ 70 ส่วน CP All อยู่ในอันดับที่ 84 และ AIS ตามมาติดๆ ด้วยอันดับที่ 86

อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมรางวัลสุดยอดนายจ้างแห่งปีที่จัดโดยนิตยสาร Forbes บริษัทจากสหรัฐอเมริกายังคงครองอันดับได้เป็นส่วนใหญ่ เพราะใน Top 500 กวาดไปได้ถึง 185 อันดับ

ที่มา – Forbes 1Forbes 2

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

ไปสิงคโปร์ยังไงให้โก้! ไม่ต้องพกเงินสดเยอะก็เที่ยว กิน ช้อปสบาย จ่ายได้ด้วย Rabbit LINE Pay ผ่านแอปฯ GLOBAL Pay

MXPhone - 13 October 2018 - 14:35
เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา หลายคนน่าจะจำกันได้ที่มีข่าวการจับมือกันระหว่าง AIS กับ Singtel เปิดตัวบริการ “VIA” ซึ่งเป็นเครือข่ายชำระเงินผ่านมือถือข้ามประเทศ โดยเริ่มต้นระหว่างสิงคโปร์และไทย ที่ให้ลูกค้าสามารถใช้จ่ายผ่าน e-Wallet ของค่ายมือถือตัวเองได้ระหว่างอยู่ต่างประเทศ โดยที่ชาวสิงคโปร์เมื่อมาประเทศไทยจะจ่ายด้วย Singtel Dash ส่วนชาวไทยเมื่อไปสิงคโปร์จะจ่ายด้วย Rabbit LINE Pay ผ่านแอปพลิเคชัน...

Triple Hearts เกมมือถือแนว RTS วางแผนดันป้อมชิงไหวพริบ เปิดให้ลงทะเบียนล่วงหน้าแล้ว

iPhonemod - 13 October 2018 - 14:02
Triple Hearts Pre Register Cover

ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 กันยนยน 2561 ที่ผ่านมา ทาง SunnySide Games ก็ได้ออกมาประกาศเปิดให้ลงทะเบียน (Pre-register) เล่นเกม Triple Hearts ล่วงหน้าแล้ว ทั้งในระบบ iOS และ Android

Triple Hearts

เกมมือถือใหม่แนว RTS หรือแนววางแผนดันป้อม ต่อสู้บนอารีน่าสุดมันแบบ 1 ต่อ 1 ออนไลน์เรียลไทม์ ที่ผู้เล่นจะต้องจัดทีมฮีโร่ถึง 3 ตัวละคร เพื่อนำออกไปต่อสู้ดันเลนร่วมกับยูนิต (ทหาร) อื่นๆ โดยมีเป้าหมายคือ การทำลาย 3 ฮีโร่ของฝ่ายตรงข้ามและป้อมปราการอีก 2 อัน

โดยความมันของเกม Triple Hearts ก็คือ การชิงไหวพริบในการจัดส่งกองกำลังและตัวละครที่มีความสามารถแตกต่างกันออกไปกำจัดคู่ต่อสู้ ซึ่งผู้เล่นต้องอาศัยไหวพริบ จังหวะ และการแพ้ทางของตัวละคร เพื่อชิงโอกาสในการกำจัดคู่ต่อสู้ให้ได้

Triple Hearts Pre Register Content1

ซึ่งในเกม Triple Hearts เองก็จะมีฮีโร่ให้เลือกมากถึง 30 ตัวละครที่มีสกิลเป็นเอกลักษณ์ และสามารถนำมาใช้งานคู่กับยูนิต คอยเสริมความแข่งแกร่งให้แก่กัน

Triple Hearts Pre Register Content7

โดยทาง SunnySide Games ได้เปิดให้ลงทะเบียนล่วงหน้า (Pre-register) เพื่อรับไอเทมสุดพิเศษแล้ว ผ่านเว็บไซต์ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2561 เป็นต้นมา

ลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่ –> bit.ly/3heartsTH

——————–

ในส่วนของวันที่จะเปิดทดสอบ CBT นั้นยังไม่มีกำหนดที่แน่ชัด แต่ทางผู้ให้บริการได้บอกไว้ว่า เร็วๆ นี้อย่างแน่นอน

ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่:

Triple Hearts Pre Register Content2

Triple Hearts Pre Register Content3

Triple Hearts Pre Register Content4

Triple Hearts Pre Register Content5

Triple Hearts Pre Register Content6

The post Triple Hearts เกมมือถือแนว RTS วางแผนดันป้อมชิงไหวพริบ เปิดให้ลงทะเบียนล่วงหน้าแล้ว appeared first on iPhoneMod.

Plant Nanny แอปช่วยเตือนให้ดื่มน้ำ พร้อมกับปลูกต้นไม้แสนน่ารัก

iPhonemod - 13 October 2018 - 12:56
App Plant Nanny Cover

เพราะน้ำคือ 70% ของร่างกาย ดังนั้นคนเราจึงต้องการน้ำที่เพียงพอต่อการหล่อเลี้ยงร่างกายในแต่ละวัน และแอป Plant Nanny จะเป็นตัวช่วยคำนวณและแจ้งเตือนให้คุณดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวัน ไปพร้อมๆ กับการปลูกต้นไม้น่ารักๆ อีกด้วย

Plant Nanny

แอปช่วยแจ้งเตือนให้คุณดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวัน โดยวิธีการคำนวณจากน้ำหนักตัวและกิจกรรมประจำวัน

โดยคุณสามารถเลือกขนาดและปริมาณของแก้วน้ำที่ใช้ดื่มเองได้ ทั้งแบบมิลลิลิตร (ml) หรือแบบออนซ์ (oz) ช่วยให้คุณดื่มน้ำได้อย่างเหมาะสม สุขภาพดียิ่งขึ้น

App Plant Nanny Content1

แต่ !! แอป Plant Nanny ไม่ได้มีดีแค่การช่วยเตือนให้คุณดื่มน้ำเพียงเท่านั้น เพราะตัวแอปยังมาพร้อมกับการปลูกต้นไม้ ที่เมื่อคุณดื่มน้ำเมื่อไหร่ต้นไม้ก็จะยิ่งโตมากขึ้นเท่านั้น และขอบอกเลยว่า ต้นไม้น่ารักมากๆ มีหลายแบบให้ปลูกอีกด้วย รวมไปถึงกระถางต้นไม้ก็ยังสามารถเปลี่ยนได้ตามที่ชอบ

App Plant Nanny Content2

นอกจากนั้นตัวแอปยังเก็บข้อมูลสถิติในการดื่มน้ำของคุณในแต่ละวันไว้อีกด้วย ทั้งแบบกราฟวงกลมสวยงาม หรือแบบกราฟแท่งสุดคลาสิก และแอปนี้กวาดรางวัลอันดับ #1 ด้านสุขภาพมาเพียบกว่า 15 ประเทศ ในปี 2013

App Plant Nanny Content4

App Plant Nanny Content3

คุณสมบัติแอป Plant Nanny
  • แอปใช้งานง่ายมาก เพียงคุณดื่มน้ำและเข้าแอปเพื่อกดดื่มน้ำ (รดน้ำต้นไม้)
  • ต้นไม้น่ารักๆ และดอกไม้นานาชนิดให้เพาะพันธุ๋
  • กระถางดอกไม้หลากหลายแบบ
  • สามารถเปลี่ยนฉากต่อวันได้
  • เก็บบันทึกข้อมูลสถิติการดื่มของคุณโดยอัตโนมัติ
  • ปรับตั้งค่าหน่วยเป็น ml หรือ oz ได้
  • โปรดอย่าลืมเปิดการแจ้งเตือนในเมนูการตั้งค่าด้วยครับ
ดาวน์โหลดแอป Plant Nanny

เนื้อที่: 85.5 MB รองรับ iOS 7.0 ขึ้นไป (ใช้ได้กับ iPhone เพียงเท่านั้น)
สามารถดาวน์โหลดแอปได้ฟรี: Plant Nanny on App Store

App Plant Nanny Footer

The post Plant Nanny แอปช่วยเตือนให้ดื่มน้ำ พร้อมกับปลูกต้นไม้แสนน่ารัก appeared first on iPhoneMod.

รีวิว iON GO แอปให้คะแนนการขับขี่ ขับดีแลกรับรางวัล ส่วนลด และสิทธิพิเศษมากมาย

iPhonemod - 13 October 2018 - 12:01
Ion Go App Review Cover5

จะดีแค่ไหน ที่เพียงแค่ขับรถก็มีสิทธิ์ได้กาแฟฟรี ! แถมของรางวัลและสิทธิพิเศษอีกเพียบ !! แค่เพียงมีแอป iON GO ก็ทำให้คุณสนุกไปกับการขับรถได้อย่างแน่นอน แอปนี้ดีแค่ไหน ชมรีวิวการใช้งานจริงได้เลยครับ

iON GO

ก่อนที่เราจะไปชมรีวิวการใช้งานจริง เรามาทำความรู้จักกับแอป iON GO ให้มากขึ้นกันก่อน กับหัวข้อที่น่าสนใจเหล่านี้

  1. iON GO คืออะไร ?
  2. iON GO ทำงานอย่างไร ?
  3. หลักการคำนวณคะแนนและแลกไอออนคอยน์
  4. ไอออนคอยน์ใช้ทำอะไร ?
  5. สะสมคอยน์จากที่ไหนได้บ้าง ?
  6. รีวิวการใช้งานจริง
  7. สรุป
  8. ดาวน์โหลดแอป iON GO

1. iON GO คืออะไร ?

แอปที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ด้วยระบบการให้คะแนนการขับขี่ แจ้งเตือนจุดอันตราย และแจกไอออนคอยน์เพื่อแลกรับของรางวัล ส่วนลดประกันภัย หรือสิทธิพิเศษจากร้านค้าชั้นนำมากมายทั่วประเทศไทย

ยิ่งผู้ใช้ขับขี่ปลอดภัย ใช้ความเร็วถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด ยิ่งได้คะแนนมากยิ่งขึ้น สามารถนำคะแนนสะสมที่ได้มาแลกรับไอออนคอยน์ เพื่อใช้เป็นส่วนลดหรือแลกรับสินค้าจากร้านค้าที่ร่วมรายการ

2. iON GO ทำงานอย่างไร ?

เพียงดาวน์โหลด เข้าแอป และอนุญาติให้แอปเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้ง จากนั้นก็เริ่มขับรถตามปกติ ตัวแอปก็จะเริ่มจับความเร็วและอัตราการเร่งของคุณให้โดยอัตโนมัติ โดยมีข้อแม้ว่าคุณจะต้องขับด้วยความเร็ว 25 km/h และรอให้แอปคำนวนข้อมูลสักพักถึงจะได้คะแนน

Ion Go Driving History

3. หลักการคำนวณคะแนนและแลกไอออนคอยน์

คะแนนจะถูกคำนวณ เมื่อเริ่มขับรถด้วยความเร็ว 25 km/h และจะเพิ่ม/ลดตามพฤติกรรมการขับขี่ของคุณ

คะแนนจะเพิ่มขึ้นก็ต่อเมื่อ

  • ใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด (ไม่เกิน 80 km/h)
  • ใช้อัตราเร่งในเกณฑ์ปกติ
  • เมื่อขับรถนาน (ยิ่งได้คะแนนมากขึ้น)

คะแนนจะลดก็ต่อเมื่อ

  • ขับรถเกินความเร็วที่กฎหมายกำหนด (ช่วงกลางคืนจะลดมากกว่าปกติ)
  • ใช้อัตราเร่งมากกว่าคนทั่วไป

การแลกไอออนคอยน์

  • ผู้ที่ได้คะแนนขับรถรายวันมากกว่า 990 คะแนนขึ้นไป จะได้รับ 10 คอยน์ หากติดชาร์ต 1 ใน 10 อันดับประจำวัน จะได้รับ 35 คอยน์ (จะได้รับคอยน์เมื่อเวลาเที่ยงคืนของวัน)
  • หากคะแนนเท่ากัน คนที่ขับรถด้วยระยะทางที่ไกลกว่า จะได้อันดับที่สูงกว่า

4. ไอออนคอยน์ใช้ทำอะไร ?

ไอออนคอยน์ คือ สกุลเงินที่ใช้ในการแลกสิทธิพิเศษต่างๆ ในเมนู Joy Prize เช่น แลกกาแฟ แลกเค้ก หรือเป็นส่วนลดค่าอาหารตั้งแต่ 5-20% หรือจะนำมาแลกบัตรกำนัลหรือบัตรของขวัญจากร้านค้าที่ร่วมรายการได้ เช่น  The Mall Group, Starbucks, Central, Tesco Lotus เป็นต้น

App Ion Go Coint1

หรือนำมาแลกเป็นประกันอุบัติเหตุ ความคุ้มครอง 1 เดือน ในเมนู Joy Service จาก ทิพยประกันภัย ได้อีกด้วย

5. สะสมคอยน์จากที่ไหนได้บ้าง ?
  1. จากการขับรถ โดยผู้ที่ได้คะแนนขับรถรายวันมากกว่า 990 คะแนนขึ้นไปจะได้รับ 10 คอยน์ หากติด 1 ใน 10 อันดับประจำวัน จะได้รับ 35 คอยน์
  2. จากการส่งรหัสเชิญ (โค๊ด) ให้เพื่อนมาใช้งานแอป เมื่อเพื่อนลงทะเบียนใช้งานแอปด้วยรหัสเชิญของคุณ คุณจะได้รับ 50 คอยน์
  3. ร่วมกิจกรรมในเพจ Facebook: iONgoApp
  4. จากการเข้าใช้งานครั้งแรก คุณจะได้รับฟรี 50 คอยน์
  5. จากการเข้าใช้งานประจำวัน (Daily Login)

A อยากได้ Coin ต้องทำอย่างไร 01

6. รีวิวการใช้งานจริง

หลังจากที่รู้จักแอป iON GO กันไปพอสมควรแล้ว เรามาเริ่มกันที่การใช้งานได้เลยครับ และนี่คือหน้าตาแอปหลังจากที่ผมดาวน์โหลด และเริ่มเข้าแอปในครั้งแรก

App Ion Go Howto1

เป็นภาษาไทยแบบนี้ก็ง่ายเลยละครับ โดยแอปจะให้กรอกอีเมลและรหัสผ่าน ซึ่งผมยังไม่มีก็กด “สมัครบัญชีใหม่” นี่เลยครับ (ใครจะใช้ Facebook ในการสมัครก็ได้นะครับ) จากนั้นก็กรอกอีเมล รหัสผ่าน โดยจะมีหน้าให้กรอกรหัสเชิญด้วย ถ้าใครมีโค๊ดที่เพื่อนส่งมาให้ก็นำมาใส่ได้เลยครับ เพื่อนจะได้ 50 คอยน์ไปเลยฟรีๆ

App Ion Go Howto3

จากนั้นระบบจะให้กรอกเบอร์มือถือ เพื่อส่งรหัส OTP มาให้เรายืนยันอีกครั้ง ก็เพียงกรอกเบอร์โทรศัพท์ที่ต้องการให้ส่งรหัสยืนยัน (เบอร์เครื่องที่ใช้อยู่)

App Ion Go Howto4

เมื่อสมัครเสร็จเรียบร้อย แอปก็จะเข้าสู่ระบบและจะให้เรากดอนุญาตให้ “ION GO” เข้าถึงตำแหน่งที่ตั้ง เราก็กด “อนุญาตเสมอ” ไปได้เลยครับ

App Ion Go Howto18

จากนั้นก็จะมีหน้า Daily Login ก็กดรับคอยน์ฟรีไปเลย 1 คอยน์ กดรับคอยน์ได้ทุกวัน ยิ่งเข้าบ่อยยิ่งได้คอยน์เพิ่ม แค่กดครบ28วัน ก็รับคอยน์ไปเลยฟรีๆทั้งหมด 256 คอยน์ แค่เข้าแอปทุกวัน ก็ได้กาแฟดื่มฟรีแล้วครับ

App Ion Go Howto5

เมื่อเข้าได้แล้ว หน้าตาแอปก็จะเป็นอย่างที่เห็นนี่แหละครับ ซึ่งเราจะโฟกัสการใช้งานไปที่เมนู “Joy Trip” เป็นหลักครับ ดังนั้นเราก็แตะเข้าไปได้เลย

App Ion Go Howto6

ในหน้าจอ Joy Trip จะเห็นว่ามีการแสดงอันดับตัวเรากับคนอื่นๆ ที่ใช้งานแอปอยู่ (มีแท็บเพื่อนด้วยนะ) ทั้งแบบคะแนนรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน พร้อมสถานะการขับรถ (รถจอด) ความเร็วเฉลี่ย (0.00 km/hr) รวมถึงประวัติการเดินทาง

App Ion Go Howto7

จากหน้าจอนี้ เราก็วาง iPhone ลง จากนั้นก็เพียงขับรถตามปกติ โดยจะเปิดหน้าจอค้างไว้หรือจะปิดก็ได้ครับ

App Ion Go Howto8

พอถึงที่หมาย ผมก็หยิบ iPhone มาดูอีกที ก็ปรากฎว่า สถิติหรืออันดับของผมขึ้นมาแล้ว (ได้อันดับที่ #54 เกือบจะติด 1 ใน 10 อันดับอยู่แล้วเชียว *o*)

App Ion Go Howto9

App Ion Go Howto10

ทีนี้ผมก็เพียงแตะปุ่ม เมนู (มุมซ้ายบน) เข้าไปที่ “ไอออนคอยน์ของฉัน” ก็จะได้คอยน์มาละครับ (51 คอยน์)  จากการสมัครครั้งแรกและกดรับคอยน์รายวัน ส่วนแต้มการขับวันนี้ก็ต้องรอเที่ยงคืนก่อนนะครับ ถึงจะได้รับ

App Ion Go Howto11

ทีนี้เราลองมาดูวิธีใช้คอยน์แลกของกันหน่อยดีกว่าครับ ก่อนอื่นผมก็แตะไปที่เมนู “Joy Prize” ก่อน เพื่อดูร้านค้าที่ร่วมรายการ

App Ion Go Howto12

พอเข้าสู่เมนู Joy Prize ก็จะเห็นเมนูพร้อมร้านค้าเพียบ แต่ว่าร้านอยู่ไหนละเนี่ย ซึ่งเราสามารถแตะไปที่เมนู “ใกล้เคียง” เพื่อเข้าดูร้านค้าที่อยู่ใกล้ในพื้นที่ที่เราอยู่ได้ครับ (ปรากฎว่ายังไม่มีร้านในบริเวณใกล้เคียง)

App Ion Go Howto13

ผมจึงเลื่อนลงมาข้างล่างเจอร้านและของแลกอีกเพียบเลยครับ เอาแบบที่มีทุกจังหวัดก็ Starbucks นี่เลยครับ ง่ายดี ผมก็แตะเข้าไปเพื่ออ่านรายละเอียด

App Ion Go Howto14

ซึ่งมันต้องใช้แต้มถึง 500 แต้ม เพื่อแลกบัตร Gift Voucher 100 บาท แต่ผมดันมี 51 แต้ม ก็คงต้องขับรถแบบนุ่มนวลเก็บแต้มต่อไปละครับงานนี้

App Ion Go Howto15

สำหรับผู้ที่อยู่กรุงเทพฯ และปริมณฑลก็จะมีร้านที่ใกล้เคียงเป็นจำนวนมากให้คุณได้แลกของรางวัลอย่างแน่นอนครับ ส่วนผมที่อยู่ต่างจังหวัดก็คงต้องรอทางผู้ให้บริการเพิ่มร้านค้าใหม่ๆ เข้ามาอีกในอนาคตต่อไปครับ

App Ion Go Howto16

App Ion Go Howto17

7. สรุป

ถือว่าเป็นแอปที่ดีมากเลยครับ นอกจากจะช่วยให้เราขับรถและแลกของรางวัลได้แล้ว ยิ่งเวลาใช้ไปนานๆ ยังช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับรถของเราให้ดีขึ้นไปในตัวอีกด้วย ลองมาชมข้อดี-ข้อเสียของแอปนี้กันได้เลยครับ

ข้อดี

  • ION GO เป็นแอปฟรีที่ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น แถมมีประโยชน์มาก
  • ช่วยให้การขับรถถูกต้องตามกฎหมายจราจร มีความปลอดภัยมากขึ้นจริง
  • ใช้ประเมินและเก็บสถิติความเร็วในการขับรถของเราได้จริง
  • ช่วยแจ้งเตือนจุดที่อันตรายได้จริง
  • สามารถใช้แลกของรางวัล ส่วนลด และบัตรกำนัลได้จริง
  • สามารถใช้คอยน์แลกเป็นประกันอุบัติเหตุได้
  • มีร้านค้าร่วมรายการเป็นจำนวนไม่น้อย และคาดว่าน่าจะเพิ่มขึ้นอีกในเร็วๆ นี้
  • มีกิจกรรมที่แจกของรางวัลเยอะ สามารถติดตามได้ที่เพจ Facebook: iONgoApp

ข้อเสีย

  • การเปิดใช้งานการติดตามตำแหน่งที่ตั้ง อาจทำให้การใช้พลังงานแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น
  • การวัดความเร็วถึงแม้จะมีความแม่นยำ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นใช้ประเมินความเร็วการขับของเราได้จริงแบบ 100%
  • ร้านค้าที่ร่วมรายการ ณ ตอนนี้ยังมีน้อยเกินไปสำหรับผู้ที่อยู่ต่างจังหวัด

8. ดาวน์โหลดแอป ION GO

เนื้อที่: 72.3 MB รองรับ iOS 11.0 ขึ้นไป (ไม่รองรับ iPad)
สามารถดาวน์โหลดแอปได้ฟรีที่: iON GO on App Store และ Google Play

Ion Go App Download

——————–

ขอขอบคุณ – ion-app.comFacebook: iONgoApp
รีวิวโดยทีมงาน iPhoneMod

The post รีวิว iON GO แอปให้คะแนนการขับขี่ ขับดีแลกรับรางวัล ส่วนลด และสิทธิพิเศษมากมาย appeared first on iPhoneMod.

iPad Pro ใหม่ 2018 อาจใช้ขนาดจอเท่าเดิมคือ 10.5 นิ้ว, 12.9 นิ้วแบบเต็มขอบไร้ปุ่ม Home (พบข้อมูล)

iPhonemod - 13 October 2018 - 11:28
Ipad Pro 2018

รายงานการพบเลขโมเดลและความละเอียดจอของ iPad Pro ใหม่เผยว่า iPad Pro ใหม่ 2018 อาจใช้ขนาดจอเท่าเดิมคือ 10.5 นิ้ว, 12.9 นิ้ว แบบเต็มขอบไร้ปุ่ม Home

iPad Pro ใหม่ 2018 อาจใช้ขนาดจอเท่าเดิมคือ 10.5 นิ้ว, 12.9 นิ้ว แต่เต็มขอบไร้ปุ่ม Home

MacRumors รายงานข้อมูลที่อ้างอิงจาก Appsee ว่าได้มีการพบรหัสโมเดล iPad ใหม่เพิ่มเติมคือ iPad8,1; iPad 8,2; iPad8,3; iPad 8,4; iPad 8,5; และ iPad 8,8 และมีข้อมูลความละเอียดจอด้วย

Ipad Pro 2018 Display

Appsee เผยว่ารหัสโมเดล iPad8,1; จนถึง iPad8,4; มีความละเอียดจอ 1,112×834 จุด และ iPad8,5; จนถึง iPad8,8; มีความละเอียดจอ 1,366×1,024 จุด

เมื่อคุณสองที่ความละเอียดจอของแต่ละโมเดลเข้าไปพบว่ามีความละเอียด 2,224×1,668 และ 2,732×2,048 นั่นคือ iPad Pro 10.5 นิ้วและ iPad Pro 12.9 นิ้ว ตามลำดับ

ในรายงานยังเผยอีกว่า iPad Pro ใหม่ทั้งสองขนาดนี้จะใช้อัตราส่วนการแสดงผลแบบ 4:3 และมาพร้อมจอเต็มขอบ, ไร้ปุ่ม Home, มี Face ID ซึ่งรูปแบบของหน้าจอจะคล้ายกับ iPhone XS

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มีรายงานว่าจอ iPad Pro ใหม่อาจมีขนาด 11 นิ้วและ 12.9 นิ้วซึ่งยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่า iPad Pro รุ่นใหม่จะมีจอขนาดเท่าไหร่กันแน่

ข้อมูลที่เราเพิ่งรายงานไปก่อนหน้านี้คือ iPad Pro ใหม่จะใช้การออกแบบกรอบตัวเครื่องคล้ายกับ iPhone 4 แต่ตัวเครื่องอาจมีขนาดเล็กลงเนื่องจากตัดช่องหูฟัง 3.5 มม ออกไปนั่นเอง

ที่มา – macrumors

iPad Pro 2018

ก่อนหน้านี้ 9to5Mac ได้เผยข้อมูล iPad Pro ใหม่ซึ่งสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ ซึ่งคาดว่าจะมาพร้อมชิพ A12X, Face ID, จอเต็มขอบไร้ปุ่ม Home, มี Port Magnatic, Apple Pencil 2, ส่งภาพ / วิดีโอความละเอียด 4K และอื่นๆ ส่วนวันเปิดตัวนั้นมีรายงานว่า Apple อาจเปิดตัวในงาน Event ที่จะจัดขึ้นในเดือน ต.ค. 2018 นี้

Ipad Pro 2018 Detail Spec By 9to5mac

The post iPad Pro ใหม่ 2018 อาจใช้ขนาดจอเท่าเดิมคือ 10.5 นิ้ว, 12.9 นิ้วแบบเต็มขอบไร้ปุ่ม Home (พบข้อมูล) appeared first on iPhoneMod.

Pages