หากนำยอดขายซอสยี่ห้อดังๆ อย่าง Heinz, Kikkoman, Tabasco, Huy Fong และ LKK มารวมกันจะมีมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท ซึ่งนั่นไม่มีชื่อของซอสไทยอยู่เลย ทำให้ Exotic Food มองเห็นโอกาสทางธุรกิจมหาศาล

ตลาดซอสปรุงรสในระดับโลก เริ่มจากเล็กๆ จนก้าวสู่ระดับโลก

Exotic Food หรือบมจ.เอ็กโซติก ฟู้ด นั้นก่อตั้งเมื่อปี 2542 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท แต่ด้วยธุรกิจที่เติบโตจนขยายโรงงาน และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ก็ทำให้ทุนจดทะเบียนของบริษัทเพิ่มเป็นกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งกว่าจะถึงจุดนี้มันไม่ง่ายเลย

เพราะเบื้องต้นตัวธุรกิจนั้นต้องการแค่ผลิตซอสปรุงรสแบบไทยๆ ออกมา แต่ด้วยกระแสอาหารไทยเป็นที่นิยมไปทั่วโลก ทำให้บริษัทได้ขี่คลื่นความนิยมนี้เพื่อส่งออกซอสไทยไปสู่ตลาดโลก ผ่านการส่งออกซอสปรุงรส และน้ำจิ้มแบบไทยๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำจิ้มไก่, ซอสพริก และอื่นๆ ก่อนขยายไลน์ไปที่การผลิตเครื่องแกง กับเครื่องประกอบอาหาร

แบรนด์สินค้าของ Exotic Food

นอกจากนี้ยังทำตลาดเครื่องดื่ม, อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน และอาหารกึ่งสำเร็จรูปอื่นๆ ด้วย แต่ถึงอย่างไรรายได้หลักก็ยังมาจากการจำหน่ายซอสอยู่ โดยคิดเป็น 79.4% ของรายได้ในครึ่งปีแรกที่ 532 ล้านบาท ที่สำคัญรายได้ยังมาจากการส่งออกไปยังกลุ่มยุโรปถึง 86.4% ของทั้งหมดอีกด้วย

ตลาดส่งออกซอสไทยที่ยังเติบโต

เมื่ออาหารไทยเป็น Mega Trend โลก ก็ไม่แปลกที่ตลาดการส่งออกซอส และสิ่งปรุงรสอื่นๆ (ไม่รวมน้ำปลา) จากประเทศไทยยังมีแนวโน้มเติบโต สังเกตจากครึ่งแรกของปี 2561 นั้นมีมูลค่า 6,377 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.3% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ตลาดการส่งออกซอสปรุงรสของไทย

ซึ่ง Exotic Food ก็ยังเกาะกระแสนี้ด้วยการเพิ่มตัวแทนจำหน่าย และพาร์ทเนอร์ค้าปลีกจากปัจจุบันที่ทำตลาดกว่า 60 ประเทศทั่วโลก และมีร้านค้าปลีกกว่า 5,000 แห่งจำหน่ายสินค้าของตัวเองอยู่ โดยตลาดที่น่าสนใจคือแอฟริกาใต้, จีน และสเปน

แต่เพื่อคงการเติบโตไว้เช่นนี้ บริษัทก็ต้องเปิดตัวสินค้าใหม่ ไม่ว่าจะเป็นตัวแกงเขียวหวานสำเร็จรูป และซอสพริกศรีราชาขนาดต่างๆ เพื่อเติมเต็มช่องว่างที่หายไปของผลิตภัณฑ์ ประกอบกับเพิ่มความแข็งแกร่งในการจำหน่ายในประเทศที่ไทยก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของชาวต่างชาติ

ปรับเป้ายอดขายหลังไม่โดน Trade War

แม้บริษัทจะพึ่งพารายได้จากการส่งออกเป็นจำนวนมาก แต่ด้วยตลาดหลักคือกลุ่มประเทศยุโรป ทำให้ไม่มีผลกระทบจาก Trade War ระห่วางจีน กับสหรัฐอเมริกา ทำให้ Exotic Food จึงตัดสินใจปรับเป้าการเติบโตจากต้นปีตั้งไว้ที่ 5-10% เป็น 10-15% นอกจากนี้ยังเตรียมเพิ่มราคาขาย 1.5-6.5% ตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไปด้วย

ส่วนตัวกำไรสุทธินั้นบริษัทคาดว่าจะสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ จากสิ้นปี 2560 ที่อยู่ราว 59 ล้านบาท อย่างไรก็ตามบริษัทไม่ได้มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ตัวเอง เพราะมีหน่วยธุรกิจรับผลิตสินค้า (OEM) ให้กับธุรกิจที่สุดใจด้วย แต่ส่วนนี้คิดเป็นรายได้เพียง 10% เท่านั้น

กำไรสุทธิของ Exotic Food

ทั้งนี้ด้วยตัวค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้ได้เปรียบในเรื่องการส่งออกในราคาที่สูงขึ้นเช่นเดียวกัน ดังนั้นโอกาสที่ Exotic Food จะสามารถพาซอสไทยภายใต้แบรนด์ที่ใช้ชื่อเดียวกับบริษัทออกไปติดตลาดโลกได้นั้นก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถ้าจะเทียบชั้นกับยักษ์ใหญ่ตลาดซอสอาจเร็วไปสักนิดที่จะบอกตอนนี้

สรุป

ตลาดซอสปรุงรสนั้นมีมูลค่ามหาศาล และหากเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในตลาดนี้ได้ก็คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะพิสูจน์ว่าการปรุงรสแบบไทยๆ นั้นได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่ตอนนี้มันยังไม่ถึงจุดนั้น และจะให้แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งทำไม่ได้ เพราะผู้ผลิตซอสสัญชาติไทยต้องช่วยกันปั้นตลาดนี้ให้เติบโตเสียก่อน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

เปิดตัวกันมาเป็นที่เรียบร้อยกับที่สุดของเรือธงที่แฟนๆต่างเฝ้ารอคอยอย่าง Huawei Mate20 Series ที่มีออกมา 3 รุ่น ประกอบด้วยรุ่นที่คุ้นเคยกันอย่างตัวโมเดลพื้นฐาน Mate20 ที่มาคู่กับตัวท็อปอย่าง Mate20 Pro เสริมทีมด้วย Mate20 X ที่เป็นโมเดลระดับกลางของซีรีส์ และเพื่อไม่ให้ต้องรอกันนานตอนนี้เราก็ได้พี่ใหญ่ Huawei Mate20 Pro...

บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC ได้รายงานงบการเงินไตรมาส 3 ของปี 2561 บริษัทได้รายงานงบขาดทุน 921 ล้านบาท พลิกขาดทุนเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากค่าใช้จ่ายในไตรมาสนี้คือเรื่องของค่าใช้จ่ายจากการลงทุนโครงข่าย และค่าใช้จ่ายในการระงับข้อพิพาทกับ CAT ในเรื่องเสาสัญญาณ

ภาพจาก Shutterstock

ไตรมาส 3/18 ของ DTAC ขาดทุน 921 ล้านบาท โดยในไตรมาส 3 ของปีที่แล้วบริษัทมีกำไรอยู่ที่ 601 ล้านบาท

ลูกค้าของทาง DTAC ไตรมาส 2 อยู่ที่ 21.299 ล้านเลขหมาย ลดลง 7.8% และเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีที่แล้ว และเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ลูกค้าของ DTAC ยังลดลง 1.4% ทางด้าน ARPU เฉลี่ยต่อเลขหมายอยู่ที่ 256 บาท เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีที่แล้ว

รายได้รวมของทาง DTAC อยู่ที่ 17,963 ล้านบาท รายได้ลดลงจากไตรมาส 3 ปีที่แล้วอยู่ที่ 4.5% รายได้จากเสียงและข้อมูลเท่ากับไตรมาส 3 ปีที่แล้ว ทางด้านรายได้ให้บริการอื่นๆ และรวมไปถึงรายได้ค่าเชื่อมต่อโครงข่าย ลดลง 28% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีที่แล้ว

ต้นทุนของทาง DTAC เพิ่มขึ้น 15% อยู่ที่ 13,495 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีที่แล้ว ปัจจัยสำคัญของไตรมาสนี้คือเรื่องของค่าใช้จ่ายจากคลื่น 2300 MHz ที่จ่ายให้กับ TOT และค่าใช้จ่ายสำหรับการลงทุนโครงข่าย รวมไปถึงรายการพิเศษค่าตัดจำหน่ายการระงับข้อพิพาทเสาโทรคมนาคมกับทาง CAT ด้วย

ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของ DTAC ไตรมาสนี้อยู่ที่ 3,643 ล้านบาท ถือว่าทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้ว โดยมีการตั้งสำรองหนี้สูญที่ลดลง แต่ค่าใช้จ่ายในการตลาดในไตรมาสนี้ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว เนื่องจากบริษัทต้องสื่อสารกับลูกค้าเรื่องคลื่น 2300

บริษัทยังได้กล่าวถึงพัฒนาการของบริษัทล่าสุดคือบริษัทได้ติดตั้งเสาสัญญาณ 2300 MHz ไปแล้วกว่า 6,000 สถานีฐาน และยังได้เพิ่มเงินลงทุนอยู่ที่ประมาณ 18,000-20,000 ล้านบาท เพื่อเร่งขยายสถานีฐาน โดยเฉพาะคลื่น 2300 MHz

ที่มา – ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

ทุกวันนี้การสร้างแบรนด์ขององค์กรต่างๆ ไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นเรื่องของการดึงดูดบุคลากรเก่งๆ เข้ามาทำงานอีกด้วย

ภาพจาก Shutterstock

มีผลสำรวจพบว่าในบรรดากลุ่ม Millennials มีองค์กรที่ใฝ่ฝันอยากร่วมงานมากที่สุด 10 แห่ง โดยที่ Google เป็นอันดับแรกที่ครองใจคนกลุ่มนี้ รองลงมาคือ Netflix, Microsoft, YouTube, Amazon, Nintendo, Walt Disney, Android, Pixar และ Samsung Electronics

แต่ถ้าสำหรับเจนอื่นๆ องค์กรที่ยัง ครองใจพวกเขามากที่สุดเป็น Amazon, Google, Microsoft และ Walt Disney

ผลสำรวจนี้มาจากการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างจำนวน 6,000 คนในสหรัฐอเมริกา มีการสอมถามถึงสิง่ชาวอเมริกันต้องการในอาชีพ และโอกาสที่จะได้รับจากนายจ้าง

ส่วนองค์กรอื่นๆ ที่ติดอันดับรองลงไปอีกยังมี U.S. Postal Service, Fedex, Sony, UPS, YouTube, Coca-Cola, Universal Studios และ National Geographic เป็นองค์กรที่คนยังอยากร่วมงานด้วยอยู่ แต่อาจจะน้อยกว่า Teh Company ในอันดับต้นๆ ไปแล้ว

ผลสำรวจพบว่า 15% ของพนักงานต้องการที่จะทำงานให้กับบริษัทที่มีจุดยืนที่ชัดเจนในด้านการเมือง ส่วนอีก 35% บอกว่าไม่ต้องการให้บริษัทเกีย่ว้ของกับด้านการเมืองใด และที่เหลือบอกว่าเป็นกลาง อย่างไรก็ได้

ซึ่งจุดยืนในด้านการเมืองนั้น มีประเด็นที่ได้รับการถกเถียงกันมากที่สุดก็คือการสนับสนุน Donald Trump และการทำแท้งอย่างถูกกฎหมายนั่นเอง

ส่วนในเรื่องการทำงานพบว่า 44% ของผู้หญิงต้องการมี Work Life Balance เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำงาน ในขณะที่ผู้ชาย 35% เท่านั้นที่เห็นความสำคัญเรื่องนี้

Source

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

ได้ฤกษ์เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยกับสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปตัวล่าสุดของ Huawei ตระกูล Mate20 Series ซึ่งคราวนี้มาด้วยกัน 4 รุ่นคือ Mate20, Mate20 Pro, Mate20 X (มีหน้าจอใหญ่สุด และมีปากกา) พร้อมทั้ง Mate20 RS (Porsche Design)...

ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา ทาง Triple I Geographic ผู้พัฒนา LING แอปวัดแปลงดินสำหรับคนไทย (หน่วยไทย: ไร่-งาน-วา) ก็ได้ปล่อยตัวอัปเดตเวอร์ชัน 4.0 แล้ว ที่เพิ่มการรองรับภาพความคมชัดสูงจากโดรนและฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมาย

LING เวอร์ชัน 4.0

LING แอปวัดแปลงที่ดิน-ที่นา สำหรับคนไทย ใช้คำนวณขนาดที่ดินออกมาในรูปแบบของหน่วยไทย (ไร่-งาน-วา) ไม่ว่าจะเป็นการวาดแปลงที่ดินเพื่อการซื้อ-ขาย, เพื่อการให้เช่าทำประโยชน์, เพื่อการวัดขนาดงานด้านเกษตรกรรม เป็นต้น ช่วยให้การทำแผนที่ที่ดินสะดวกและง่ายขึ้นอย่างมาก

ซึ่งล่าสุดก็ได้ปล่อยตัวอัปเดตเวอร์ชัน 4.0 และ 4.0.1 ที่มีการปรับปรุงและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามามากมาย โดยรายละเอียดทั้งหมดมีดังนี้

1. UI แบบใหม่

ตัวแอปได้มีการปรับปรุง UI หรือหน้าตาแอปใหม่หมดให้ดูง่ายขึ้น แบ่งสัดส่วนและจัดเก็บข้อมูลที่เป็นระบบระเบียบมากขึ้น

2. รองรับการค้นหาสถานที่จากค่าพิกัด

ในเวอร์ชันก่อนหน้าจะสามารถค้นหาได้เพียงชื่อสถานที่ จังหวัด หรืออำเภอได้เพียงเท่านั้น แต่ในเวอร์ชัน 4.0 นี้จะสามารถค้นหาจากค่าพิกัดได้แล้ว (ตัวอย่าง: 14.3464845, 100.03367)

3. ระบบค้นหาดีขึ้นกว่าเดิม

ในเวอร์ชัน 4.0 ได้ปรับปรุงระบบค้นหาสถานที่ได้ตรงกับความต้องการมากขึ้น แม่นยำขึ้น

4. บันทึกแปลงคนอื่น

ถึงแม้ในเวอร์ชันก่อนจะสามารถบันทึกแปลงของตนเองได้หลายแปลงแล้ว แต่ในเวอร์ชัน 4.0 นี้ คุณยังสามารถบันทึกแปลงของคนอื่นได้อีกด้วย แถมยังสามารถแชร์แปลงของตนเองลง Facebook, Line, Email หรือ iMessage ได้อีก

5. บันทึกและแสดงภาพรายละเอียดสูงจากโดรน

ในเวอร์ชันก่อนหน้าจะสามารถดูแปลงได้จากแผนที่ดาวเทียมจาก Google Map ได้เพียงเท่านั้น ซึ่งในเวอร์ชัน 4.0 นี้ คุณสามารถบันทึกแผนที่หรือที่ดินของตนเองด้วยภาพความคมชัดระดับ HD จากโดรนของคุณได้แล้ว แถมยังสามารถดูแผนที่โดรนของคนอื่นได้อีกด้วย

ชมตัวอย่างภาพจากโดรนของคนอื่น:

• https://lingmaps.com/drone/6817lU8pWLuMcOZqiKlc
• https://lingmaps.com/drone/66oejg55LEanrKlB0VPY

ดาวน์โหลดและอัปเดตแอป LING 4.0

เนื้อที่: 61.7 MB รองรับ iOS 10.3 ขึ้นไป (ใช้ได้กับ iPhone และ iPad)
สามารถดาวน์โหลดหรืออัปเดตแอปได้ฟรีที่: LING 4.0 on App Store

ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูล – TodayMap, Triple I Geographic

The post LING 4.0 แอปวัดแปลงที่ดินอัปเดตใหม่ รองรับภาพจากโดรนแล้ว appeared first on iPhoneMod.

Amazon ไม่เพียงเป็นแค่คลังหนังสือโลก แต่ยังคงเป็นเจ้าของเครื่องอ่านหนังสือที่สะดวกที่สุด เน้นความเรียบง่ายไม่แสบตา ราวกับอ่านบนหนังสือจริง โดยล่าสุดของโมเดลนี้เปิดตัวตั้งแต่ปี 2015 และในตอนนี้ก็ถึงเวลาอัปเดตรุ่นใหม่อีกครั้งของโมเดล Kindle Paperwhite ส่วนจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างไปดูกัน

Amazon เปิดตัว Kindle Paperwhite

แท็บเล็ตอ่านหนังสือของ Amazon ไม่ได้เน้นสเปกและประสิทธิภาพมากมายอะไรเหมือนกับ iPad แต่มีการแบ่งรุ่นออกเป็น Kindle, Kindle Paperwhite และ Kindle Oasis ตามช่วงราคาและประสิทธิภาพ สำหรับความเปลี่ยนแปลงใน Kindle Paperwhite (2018) เริ่มต้นด้วยความสามารถกันน้ำและการสนับสนุนหนังสือเสียง Audible พร้อมกับน้ำหนักเบาลงและบางลงอย่างละเล็กน้อย

หากเทียบกับรุ่นเก่าแล้วมันดีกว่าเดิมทุกแง่มุม เริ่มต้นด้วยหน้าจอไร้รอยต่อขนาด 6″ ความหนาแน่นพิกเซล 300ppi พร้อมกับไฟ LED ที่ปรับปรุงใหม่ มีให้เลือกสองความจุคือ 8GB และ 32GB รองรับการเชื่อมต่อหนังสือเสียงผ่านบลูทูธแบบเดียวกับรุ่น Oasis นอกจากนี้ยังกันน้ำมาตรฐาน IPX8

สำหรับคนที่สนใจสามารถฝากเพื่อนซื้อได้ในต่างประเทศ (ไม่มีขายและไม่ส่งมาไทย) โดยราคาเริ่มต้น 8GB Wi-Fi จะอยู่ที่ $129.99 (ประมาณ 4,222 บาท) และ $159.99 (ประมาณ 5,195 บาท) สำหรับรุ่น 32GB แต่หากใครต้องการรุ่น 32GB Wi-Fi + Celluar จะอยู่ที่ $249.99 (ประมาณ 8,120 บาท)

ที่มา – theverge.com

The post Amazon เปิดตัว Kindle Paperwhite รุ่นใหม่ที่กันน้ำ appeared first on iPhoneMod.

ถือเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ของ Gold City แบรนด์รองเท้านักเรียน ต้องทรานส์ฟอร์มตัวเองออกจากรองเท้านักเรียนเพียวๆ สู่รองเท้าแฟชั่นมากขึ้น แถมมีการใช้พรีเซ็นเตอร์เพื่อสร้างแบรนด์ด้วย

ตลาดรองเท้านักเรียนทรงๆ ต้องขยายสินค้าสู่แฟชั่นมากขึ้น

Gold City เป็นแบรนด์รองเท้านักเรียนที่เก่าแก่อีกแบรนด์หนึ่งในไทย ทำตลาดมา 67 ปีแล้ว ที่มีจุดเริ่มต้นในการเจาะตลาดต่างจังหวัด หรือถิ่นทุรกันดารเพื่อให้มีรองเท้านักเรียนในราคาย่อมเยา เปลี่ยนพฤติกรรมของนักเรียนเหล่านั้นได้

แม้จะไม่ได้เป็นผู้นำตลาด แต่ Gold City ก็ยังสามารถติดท็อป 3 ของตลาดรองเท้านักเรียนได้ โดยมีนันยางเป็นผู้นำตลาด แต่เมื่อหลายปีที่ผ่านมานี้ตลาดรองเท้านักเรียนไม่มีการเติบโตมากนัก เรียกว่ามีอาการทรงๆ เพราะด้วยอัตราการเกิดของเด็กน้อยลง ทำให้การใช้รองเท้านักเรียนน้อยลงเช่นกัน

รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคกลุ่มเด็กในยุคนี้ที่เริ่มนำรองเท้ากึ่งแฟชั่นมาใส่ไปโรงเรียนได้ ทำให้ตลาดรองเท้านักเรียนไม่เติบโต ในปีที่ผ่านมามีมูลค่า 5,000 ล้านบาท

ทางออกของ Gold City จึงต้องกระจายความเสี่ยงไปยังเซ็กเมนต์อื่น จึงเริ่มแตกมายังรองเท้ากลุ่มแฟชั่นให้มากขึ้นตั้งแต่ 7-8 ปีที่ผ่านมา เป็นทั้งรองเท้านักเรียนกึ่งแฟชั่น รองเท้ากีฬา รองเท้าสำหรับผู้สูงอายุ มีการแตกไลน์สินค้าให้ครบทุกเซ็กเมนต์ให้มากที่สุด

สุรศักดิ์ จินาพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลด์ซิตี้ ฟุตแวร์ จำกัด เล่าว่า

“เราเริ่มขยายสินค้ามายังกลุ่มแฟชั่นมากขึ้นเมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว เริ่มจากผ้าใบตลาดล่าง มาเป็นผ้าสีหวาน และเริ่มทำราคาที่สูงขึ้น แต่ทำเป็นรองเท้าราคาถูกสำหรับคนไทย และอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่สำคัญคือการตั้งศูนย์กระจายสินค้าที่มหาชัย ทำให้เก็บสินค้ามากขึ้น ตอนนี้มีสินค้ารวม 30,000 รายการ รวมถึงมีการปรับตัวในเรื่องสินค้าที่มีการดีไซน์ให้แฟชั่นขึ้น อายุการใช้งานสั้นขึ้น เพื่อกระตุ้นให้เปลี่ยนเร็ว”

สุรศักดิ์เสริมถึงเรื่องตลาดรองเท้านักเรียนอีกว่า ตอนนี้ตลาดรองเท้านักเรียนอยู่ตัว ไม่มีการขยายตัว เพราะด้วยจำนวนประชากรทรงตัว การเกิดลดลง บางโรงเรียนเริ่มมีกฎให้ใส่รองเท้าเซฟตี้ รองเท้าหนัง แต่ก่อนโตได้เพราะทางภูธรมีการใส่รองเท้าแตะไปเรียน แต่ทาง Gold City ได้เข้าไปเปลี่ยนพฤติกรรมคนบ้านนอกให้เป็นคนในเมือง

ซึ่งตอนนี้ความเป็นเมืองเข้าไปทุกที่ ทำให้การบริโภครองเท้าผ้าใบอิ่มตัว ไลฟ์สไตล์ของผ้บริโภคก็เปลี่ยนอยากใส่รองเท้ากึ่งแฟชั่นไปเรียน ทำให้ Gold City ขยายมายังรองเท้าอเนกประสงค์ เป็นรองเท้ากึ่งแฟชั่น และรองเท้าแฟชั่น

สร้างแบรนด์ให้คนรู้ว่าไม่ได้มีแค่รองเท้านักเรียน

ในปีนี้ Gold City จึงได้เปิดตัวแคมเปญใหญ่ “เก่งให้สุด…อย่าหยุดเก่ง” เป็นการสื่อสารบทใหม่ที่แบรนด์ไม่เคยทำมาก่อน เหมือนเป็นการทรานส์ฟอร์มบริษัททั้งภายในและภายนอก โดยมีการเริ่มทำแผนนี้มา 3 ปีแล้ว

เบื้องหลังของแคมเปญนี้ต้องการสื่อสารว่า “Gold City มีการผลิตรองเท้ามาหลากหลาย แต่คนส่วนใหญ่รู้จักแค่รองเท้านักเรียน เลยอยากให้ผู้บริโภครู้จักรองเท้าอื่นๆ ด้วย”

ในครั้งนี้จึงมีการใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของแบรนด์ก็คือ “เก่ง ธชย ประทุมวรรณ” เพราะมีคาแรคเตอร์ที่ตรงกับแบรนด์และต้องการสื่อสารให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กวัยรุ่นมากขึ้นด้วย

แคมเปญนี้เป็นการเลือกทำ Music Marketing หวังจับใจวัยโจ๋ของโรงเรียน

ปัจจุบัน Gold City มีรายได้ 1,000 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนรายได้เป็นรองเท้านักเรียน 60-70% และรองเท้าแฟชั่นอีก 30-40%

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

หากจะพูดถึง Smartwatch ในตลาดตอนนี้ ต้องยอมรับว่าเหลือผู้เล่นไม่กี่รายจริงๆ ที่จะสามารถอยู่ในตลาดมาได้ถึงปัจจุบัน แต่หากเอ่ยถึงแบรนด์ Samsung เอง ก็ทำ Smartwatch ออกมาหลากหลายรุ่น แต่ก็ประสบปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ในระยะสั้นมากๆ เป็นปัญหาใหญ่ ของหลายๆ แบรนด์ แต่กระนั้นเอง Samsung ก็ได้ออก Smartwatch ที่ได้แก้ไขข้อบกพร่องหลากหลายจุด...

โหลดฟรี Arena of Arrow เกมมือถือใหม่ในสไตล์ MOBA น่ารักๆ ที่เน้นเล่นเพลิน เล่นแล้วไม่เครียด ด้วยโหมดการต่อสู้ที่ใช้เวลาการเล่นเพียง 3 นาที/เกม จะเล่นคนเดียวหรือเล่นกับเพื่อนก็ได้

Arena of Arrow

เกมมือถือแนว MOBA แบ่งฝ่ายต่อสู้กันแบบ 3 ต่อ 3 ที่ใช้เวลาต่อสู้กันบนสนามประลอง (Arena) เพียงแค่ 3 นาทีต่อหนึ่งเกม เพียงเลือกตัวละครน่ารักๆ เลือกโหมดการเล่นทั้งแบบเดี่ยว (สุ่มผู้เล่นออนไลน์มาเล่นด้วย) หรือแบบทีม (เล่นกับเพื่อน) ก็สนุกและเพลินได้ในเวลาว่างเพียงสั้นๆ

ในเกม Arena of Arrow จะมาในระบบการต่อสู้ที่เน้นการ “ยิง” เพียงอย่างเดียว (ไม่มีการฟันหรือชกต่อย) ดังนั้น ตัวละครทั้งหมดก็จะมีอาวุธประจำตัวที่เน้นการปล่อยในระยไกล เช่น ธนู ปืน หรือการโยนระเบิด เป็นต้น โดยแต่ละตัวก็จะมีเอกลักษณ์และความน่ารักแตกต่างกันออกไปกว่า 12 ตัวละคร

โดยเกม Arena of Arrow จะมาพร้อมโหมดการเล่นหลักด้วยกันทั้งหมด 3 โหมด คือ

1. BOUNTY – กำจัดศัตรูให้ได้มากที่สุด ฝั่งไหนมีคะแนนมากที่สุดเป็นฝ่ายชนะ
2. GEM GRAB – ชิงพื้นที่และเก็บ Gem ให้ครบ ฝั่งไหนครอบครอง Gem ได้มากที่สุดเป็นฝ่ายชนะ
3. SURVIVAL – ผู้อยู่รอดเท่านั้นคือผู้ชนะ

ในส่วนของภาพเกมก็ขอบอกเลยว่า สวยในแบบฉบับการ์ตูนน่ารักๆ ครับ ผสมกับระบบการเล่นแล้วถือว่าเป็นเกมที่เน้นเล่นสนุก เล่นแล้วไม่เครียดจริงครับ

คุณสมบัติเกม Arena of Arrow

• ภาพเกมสวย ตัวละครน่ารัก สามารถเล่นได้ทุกเพศทุกวัย
• เกมเล่นเพลิน ใช้ระยะเวลาการเล่นเพียง 3 นาทีต่อหนึ่งเกม
• เกมเล่นง่ายในสไตล์ MOBA ควบคุมมือซ้าย ยิงและปล่อยสกิลมือขวา
• ฮีโร่ที่มีเอกลักษณ์และความน่ารักแตกต่างกันออกไปกว่า 12 ตัวละคร
• สามารถอัปเกรดสกิลและทักษะติดตัวของฮีโร่ได้
• โหมดการเล่นหลักด้วยกันทั้งหมด 3 โหมด คือ BOUNTY, GEM GRAB และ SURVIVAL พร้อมโหมดเสริม BATTLE FRONT
• มีกิจกรรมและของรางวัลให้กดรับฟรีภายในเกม
• เกมจำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา
• เกมเล่นฟรี แต่อาจมีไอเทมบางอย่างที่สามารถซื้อด้วยเงินจริงได้

ดาวน์โหลดเกม Arena of Arrow

เนื้อที่เกม: 130.4 MB รองรับ iOS 8.0 ขึ้นไป (ใช้ได้กับ iPhone และ iPad)
ดาวน์โหลดเกมได้ฟรีที่: Arena of Arrow-3v3 MOBA Game on App Store

The post Arena of Arrow เกมมือถือ MOBA 3v3 เน้นเล่นชิวๆ ไม่ซีเรียส appeared first on iPhoneMod.

 

ยุคนี้จะเปิดร้านขายของออนไลน์ แม้จะทำได้ไม่ยาก แต่เมื่อวันนึงร้านเริ่มขยายตัว การจัดการก็ไม่ง่าย ไหนจะต้องรับสแกน QR Code, ทำสต๊อกสินค้า, จัดการข้อมูลลูกค้า, โปรโมทร้าน และอีกเพียบ

ตอนนี้มี True Smart Merchant แอปของร้านค้ายุคใหม่ ที่ให้เราสมัครฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย สมัครปุ๊บ เหมือนได้พี่โป๊ปมาช่วยขาย ด้วยหลากหลายฟังก์ชั่นเด่นในแอปเลยจ้า !!

ช่วยทำโปรโมชั่น

ร้านค้าสามารถสร้างแคมเปญการตลาดกับทรูยูได้ด้วยตัวเอง เพียงลงทะเบียนร้านค้า และสมัครเป็นพันธมิตรทรูยู อยากลด อยากแถม อยากแจกเพื่อเรียกลูกค้าเข้าร้านเพิ่ม ก็ทำได้ทันที

พิเศษกับฟังก์ชั่น e-Stamp ที่ร้านค้าสามารถให้ลูกค้าสะสมแต้มหรือยอดใช้ เพื่อรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม

จัดการบัญชี

นอกจากซื้อง่ายขายคล่อง ไม่ต้องทอนเงิน เพราะลูกค้าชำระเงินผ่านทรูมันนี่ วอลเล็ท ด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ดของร้านแล้ว แอปยังช่วยสรุปรายการบัญชีและยอดขายให้ด้วย

ช่วยโปรโมตร้าน

ฟรี! สื่อโฆษณาออนไลน์และหน้าร้าน ทรูโปรโมตร้านให้ในสื่อของทรู และมีป้ายตั้งที่ร้านส่งถึงที่ฟรี และยังทำแคมเปญ จูงใจให้ลูกค้าเข้าร้านมากขึ้นด้วย
พิเศษกับฟังก์ชั่นใหม่ SMS ที่ร้านค้าออกแบบข้อความได้เอง เพื่อประชาสัมพันธ์สู่ e-member ของร้าน

ยิ่งซื้อยิ่งขายยิ่งได้ทรูพอยท์

ภายใต้สัญลักษณ์ True Point & Pay ที่ติดอยู่ภายในร้าน ทุกการซื้อขาย ทั้งคนขายคนซื้อจะได้รับคะแนนสะสมทรูพอยท์เพื่อแลกสินค้ามากมาย ทำให้ลูกค้ายิ่งเข้าร้าน เพราะต้องการได้ทรูพอยท์มากขึ้น

เพียงสมัครเป็นพันธมิตรร้านค้าวันนี้ ยังได้เข้าร่วมโครงการ รับเงินคืน 5 บาท ทั้งร้านค้าและลูกค้า เพียงซื้อขายผ่าน ทรูมันนี่ วอลเล็ท ขั้นต่ำ 30 บาท รับ 5 บาท ทั้งคนขายคนซื้อ ขายดี รับเงินคืนสูงสุด 100 บาท/ วัน และ 1,000 บาท/ เดือน ถึง 31 ธ.ค. 61  ให้ทุกอย่างดูง่าย ร้านขายดี เหมือนมีผู้ช่วย !!

ร้านไหน อยากขายดี อย่าช้า! โหลดฟรี แอป True Smart Merchant #โหลดโป๊ปขายดีปั๊บ -> http://bit.ly/TSM_XB

 

The post เปิดร้านยุคใหม่ด้วย True Smart Merchant ฟรีสื่อโฆษณา, ซื้อขายง่าย, สมัครฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย appeared first on Macthai.com.

ปฏิเสธไม่ได้ว่าวงการยานยนต์ตอนนี้ต่างเดินหน้าไปในฝั่งรถยนต์ไฟฟ้า แต่ปัญหาก็คือเวลาที่ผู้บริโภคนึกถึงรถแบบนี้ Tesla ก็ยังถูกพูดถึงเป็นลำดับแรกๆ อยู่ ซึ่ง Porsche ต้องการจะแก้ไขเรื่องนี้ด้วยการเปลี่ยนตัวเองแบบสุดขั้น

รถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Taycan ของ Porsche เน้นการพัฒนายานยนต์ พร้อมใช้หุ่นยนต์ช่วยเหลือ

Porsche คือแบรนด์รถยนต์สปอร์ตของกลุ่ม Volkswagen ที่อยู่ระหว่างพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเพื่อทำตลาดจริงในชื่อรุ่น Taycan ผ่านการลงทุนกว่า 6,000 ล้านยูโรเพื่อปรับปรุงโรงงานที่ Zuffenhausen ให้ทันสมัยขึ้น ผ่านการติดตั้งระบบ Automated Guided Vehicles (AGV) ที่ใช้หุ่นยนต์เข้ามาช่วยเหลือในการผลิตมากกว่าเดิม

ซึ่งการทำแบบนี้ช่วยให้ Porsche มีความยืดหยุ่นในการควบคุมไลน์ผลิตได้มากกว่าเดิม นอกจากนี้การลงทุนดังกล่าวยังสร้างงานเพิ่มกว่า 1,200 ตำแหน่ง โดยเน้นที่กลุ่มวิจัย และพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ และพวกเขายังได้สิทธิ์ทำงานกับฝั่งรถยนต์สปอร์ตทั่วไปของ Porsche เพื่อคงเอกลักษณ์ของแบรนด์เอาไว้เช่นเดิม

ผลลัพธ์ก็คือ Taycan ยังคงเอกลักษณ์ของ Porsche ไว้เต็มขั้น แถมยังอุดมไปด้วยนวัตกรรมล้ำๆ อย่างเช่นแบตเตอรี่ที่ชาร์จเพียง 4 นาทีก็สามารถวิ่งได้ 100 กม. รวมถึงตัวบริษัทยังเตรียมติดตั้งสถานีชาร์จความเร็วสูงในสหรัฐอเมริกาตามนโยบายของ Volkswagen ทำให้ลูกค้าของ Porsche นั้นได้รับการบริการที่ดีที่สุดอีกด้วย

รถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Taycan ของ Porsche

แต่ที่มาของการที่ Porsche ทำแบบนี้มาจาก Tesla ที่มีการใช้ระบบ AGV ในโรงงาน รวมถึงมีสถานีชาร์จความเร็วสูงของตัวเอง ทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าของแบรนด์รู้สึกพิเศษกว่าการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของแบรนด์อื่นๆ ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดก็คงไม่พ้น Leaf ของ Nissan

อย่างไรก็ตามการที่ Porsche และแบรนด์อื่นๆ เริ่มจริงจังกับรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ประกอบกับ Tesla ยังประสบปัญหาเรื่องกำลังการผลิต ก็มีโอกาสที่ค่ายรถยนต์ดั้งเดิมที่เชี่ยวชาญด้านการผลิต รวมถึงมีความน่าเชื่อถือเป็นทุนเดิมจะมีบทบาทในตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น และสุดท้ายงานหนักที่สุดก็กลับไปอยู่ที่ Tesla เอง

สรุป

Porsche เป็นแบรนด์ที่น่าจับตามอง แม้ตัวแบรนด์นั้นจะสูงกว่ารถยนต์ทั่วไปอย่าง Volkswagen รวมถึงรถยนต์ระดับพรีเมียมอย่าง Audi แต่การวางเอกลักษณ์ที่ชัดเจน ประกอบกับสมรรถนะของรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่แพ้คู่แข่งรายอื่น ก็ทำให้ Porsche อาจก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าก็ได้

อ้างอิง // Jalopnik

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

เมื่อการแข่งขันในสงครามร้านสะดวกซื้อญี่ปุ่นเริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น รวมไปถึงพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ทำให้ FamilyMart ต้องประกาศลงทุนในร้านค้าปลีกอย่าง Don Quijote เป็นมูลค่า 62,000 ล้านบาท!

ภาพจาก Shutterstock

FamilyMart UNY Holdings ประกาศว่าบริษัทเตรียมทุ่มเงินกว่า 1,900 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 62,000 ล้านบาท ลงทุนใน Don Quijote Holdings ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของร้าน Don Quijote ร้านขายสินค้าราคาถูก เป็นสัดส่วนประมาณ 20%

ในช่วงที่ผ่านมา FamilyMart มีนโยบายที่จะเน้นโฟกัสกับร้านสะดวกซื้อมากขึ้น เนื่องจากการแข่งขันในร้านสะดวกซื้อญี่ปุ่นรุนแรงมาก รวมไปถึงพฤติกรรมผู้บริโภคในญี่ปุ่นเปลี่ยนไป ทำให้เกิดการลงทุนครั้งนี้ นอกจากนี้ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถร่วมมือกันใช้ประโยชน์จากเครือข่าย Logistics ได้มีประสิทธิภาพ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้อีก

การลงทุนของ FamilyMart ครั้งนี้จะทำให้ Don Quijote กลายเป็นกลุ่มค้าปลีกอันดับ 4 ของประเทศญี่ปุ่นทันที เนื่องจากในเงื่อนไขการลงทุนคือ FamilyMart จะโอนหุ้นที่เหลืออีก 60% ในธุรกิจซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อของ UNY ให้กับ Don Quijote ซึ่งก่อนหน้านี้ถือหุ้นอยุ่แล้ว 40%

โดยธุรกิจของ FamilyMart มีสาขาในประเทศญี่ปุ่นทั้งสิ้น 16,700 สาขา ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศญี่ปุ่น  สำหรับหน่วยธุรกิจลูก UNY ประกอบด้วยกิจการซุปเปอร์มาร์เก็ต ในชื่อ Apita และ Piago รวมไปถึงร้านสะดวกซื้อ Circle K Sunkus 

บทความ Don Quijote โดย Brand Inside

• ร้าน Don Quijote ที่คนไทยคุ้นเคยกำลังจะมียอดขายกว่า 3 แสนล้านบาทภายในปี 2562
• Don Quijote ประกาศสนใจซื้อ Seiyu ของ Walmart… ถ้าเขายอมขาย

ภาพจาก Pixabay ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างทั้งสอง

ความสัมพันธ์ระหว่าง FamilyMart กับ Don Quijote มีก่อนหน้าที่จะเกิดธุรกรรมการลงทุนนี้ด้วยซ้ำ โดยทั้ง 2 ได้ ทดลองปรับเปลี่ยนซุปเปอร์มาร์เก็ต 6 สาขา ภายใต้ชื่อ Mega Don Quijote โดยมีการเปลี่ยนพื้นที่ขายเสื้อผ้าให้กลายเป็นขายสินค้าทั่วๆ ไป รวมไปถึงเครื่องสำอางค์ ซึ่งกลายเป็นว่ากลยุทธ์นี้ได้ผลดีกว่าที่คิด และยังทำให้ยอดขายของ Don Quijote เพิ่มขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้มุมมองของ Mike Allen นักวิเคราะห์จาก Jefferies มองว่าดีลนี้ทำให้ Don Quijote ไม่เสียอะไรเลยด้วยซ้ำ แถมยังได้กิจการ UNY แทบจะฟรีๆ มาจาก FamilyMart อีกด้วย

ที่มา – เอกสารจาก FamilyMart UNY, The Strait Times, Reuters

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

Adobe ประกาศเปิดตัวแอปใหม่ชื่อว่า Premiere Rush CC เป็นแอปตัดต่อวิดีโอที่สามารถทำงานข้ามแพลตฟอร์มได้ ทั้งบน PC, iPad และ iPhone

แอปใหม่ Premiere Rush CC ตัดต่อวิดีโอออนไลน์ ทำงานร่วมกันได้หลายแพล็ตฟอร์ม

Adobe Premiere Rush CC เป็นแอปสำหรับตัดต่อวิดีโอที่สามารถทำงานได้ในรูปแบบออนไลน์ โดยผู้ใช้ตัดต่อวิดีโอบนแอปที่มีการเก็บข้อมูลไว้บน Cloud จึงทำให้การแชร์ข้อมูลทำได้ง่ายและสามารถทำงานข้ามแพลตฟอร์มได้ เช่น เราล็อกอินแอปพร้อมกับตัดต่อวิดีโอพร้อมกับบันทึกบน PC เมื่อเปิดแอปใน iPhone หรือ iPad ก็สามารถแก้ไขไฟล์เดิมต่อได้เลย

ไฮไลท์และจุดเด่นของแอป Premiere Rush CC

• สร้างวิดีโออย่างมือโปร มีฟังก์ชันการถ่ายภาพภายในแอปที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างวิดีโอได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับตัดต่อและปรับแต่งได้ทันที
• เครื่องมือที่แสนง่าย สามารถปรับแต่งวิดีโอ เสียง ภาพกราฟฟิค และภาพถ่ายอื่นๆ ด้วยการ Drag & Drop รวมถึงเครื่องมือภายในแอปที่ช่วยปรับแต่งวิดีโอได้ง่าย เช่น ปรับสี เพิ่มหัวข้อ การเคลื่อนไหว เสียง และอื่นๆ อีกมากมาย
• มีแทร็คหลายแทร็ค มาพร้อมกับแทร็ควิดีโอ 4 แทร็ค และอีก 3 แทร็คสำหรับการใส่เสียง สามารถสอดแทรกจินตนาการได้อย่างเต็มที่
• ปรับแต่งหัวข้อได้ตามต้องการ ปรับแต่งหัวข้อด้วยเครื่องมือที่ให้เลือก ได้แก่ สี ขนาด ตัวอักษร การเคลื่อนไหว หรือเข้าไปเลือกรูปแบบอื่นๆ เพิ่มเติมฟรีที่ Adobe Stock
• สัมผัสเสียงเพลงที่ยอดเยี่ยม สามารถเพิ่มเพลงหรือเสียงที่บันทึก และใช้เครื่องมือปรับแต่งจาก Adobe Sensei ที่มี AI ในการปรับแต่งบาลานซ์เสียง ลดเสียงรบกวน และควบคุมสัญญาณเสียงอัตโนมัติ
• ง่ายต่อการแชร์ ให้คุณปรับขนาดวิดีโอได้ง่ายๆ ทั้งแบบแนวนอนหรือสี่เหลี่ยมจตุรัส เพื่อให้ขนาดเหมาะสมกับช่องทางที่คุณต้องการแชร์ เช่น Facebook, Instagram, YouTube
• เชื่อมต่อบน Cloud อัตโนมัติ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถตัดต่อวิดีโอได้ทุกที่ กลับมาแก้ไขงานที่บันทึกไว้ล่าสุดได้ทั้งบน iPhone, iPad และ PC ทำงานข้ามแพลตฟอร์ม
• โปรมากขึ้น เมื่อเปิดโปรเจ็ค Premiere Rush CC ในโปรแกรม Adobe Pro CC คุณก็สามารถตัดต่อวิดีโอได้แบบโปรมากขึ้น

ดาวน์โหลดแอป Premiere Rush CC

สำหรับใครที่สนใจแอป Premiere Rush CC ก็สามารถดาวน์โหลดแอปฟรีได้ที่ Premiere Rush CC on App Store รองรับทั้ง iPhone และ iPad ที่อัปเดตเป็น iOS 11 ขึ้นไป สำหรับเดสท็อปสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Premiere Rush CC for Desktop

ขอบคุณ iclarified

The post แอปใหม่ Premiere Rush CC ตัดต่อวิดีโอออนไลน์ ทำงานร่วมกันได้หลายแพล็ตฟอร์ม appeared first on iPhoneMod.

TCL Communication เจ้าของแบรนด์ BlackBerry กับ Alcatel ในปัจจุบัน ได้คืนชีพแบรนด์ในอดีตอย่าง Palm กลับมาทำตลาดอีกครั้ง โดยคราวนี้มากับอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ Android ที่ไม่อาจจะเรียกว่าเป็นสมาร์ทโฟนได้อย่างเต็มปาก ตัวอุปกรณ์ที่ถูกเรียกว่า Palm เป็นแกตเจ็ตมูลค่า 349 เหรียญฯ หรือราว 11,000...

ก่อนหน้านี้รายงานไปว่า Facebook เริ่มปล่อยฟีเจอร์ 3D Photo บน iPhone รุ่นที่มีโหมด Portrait แล้ว วันนี้จะมาสอนิวิธรีการอัปโหลดภาพเหล่านั้นลง Facebook และหากใครยังไม่มีโหมดนี้เรามีวิธีการเปิดโหมด 3D Photo ดังกล่าวมาให้ลองได้ทำตามกันครับ

วิธีอัปโหลดรูป 3D Photo ของแอป Facebook

• กดโพสต์สถานะ
• เลือก 3D Photo
• เลือกภาพ Portrait ที่ต้องการ
• กด Next แล้ว Share

เท่านี้ก็เรียบร้อย

ตัวอย่างที่ได้หากภาพไม่แสดงให้กดลิงก์นี้

ส่วนบัญชีใครยังไม่มีโหมด 3D Photo ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่าง

วิธีเปิดใช้โหมดอัปโหลดรูป 3D Photo ของแอป Facebook

สำหรับบัญชี Facebook ของใครยังไม่มีเมนูการอัปโหลดรูป 3D Photos แนะนำให้ทำตามนี้ครับ

1. ตรวจเช็คว่าต้องใช้ iPhone กล้องคู่ อย่าง iPhone 7 Plus, 8 Plus, X, XS, XS Max
2. เข้าไปกด like เพจ https://facebook.com/Facebook360/
3. ปิดแอป Facebook จาก App Switcher
4. ลองใช้งาน Facebook

จะเห็นเมนู 3D Photo โผล่ขึ้นมา คราวนี้ก็เลือกรูป Portrait ที่ถ่ายไว้มาลงได้เลยครับ

ขอให้สนุก

ขอบคุณคำแนะนำจากน้องคิว

The post วิธีใช้และเปิดใช้โหมดอัปโหลดรูป 3D Photo ของแอป Facebook appeared first on iPhoneMod.

Apple ประกาศราคา iPhone XR ในไทยโดยรุ่นที่น่าสนใจ คือ iPhone XR 128GB ที่ราคาต่างจากรุ่น 64GB เพียง 2,000 บาทแต่ได้ความจุเพิ่ม 1 เท่าตัว

iPhone XR 128GB ราคาไทย 31,900 บาทน่าสนใจมาก!

สำหรับราคา iPhone XR ที่ Apple ประกาศว่าจะเปิดขายในไทยมีดังนี้

• iPhone XR 64GB – 29,900 บาท
• iPhone XR 128GB – 31,900 บาท
• iPhone XR 256GB – 35,900 บาท

เมื่อเราดูการตั้งราคาของ iPhone XR จะเห็นได้ว่า รุ่น 128GB มีราคาต่างจากรุ่น 64GB ราวๆ 2,000 บาท ส่วนรุ่น 256GB ความจุสูงสุดราคาต่างจาก 128GB ราวๆ 4,000 บาท เท่ากับว่าคนที่เล็ง iPhone XR รุ่นความจุกลางไว้ก็ตัดสินใจได้ไม่ยากเลย

ด้านสเปคการใช้งานนั้น iPhone XR มาพร้อมชิพ A12, Face ID แบบเดียวกันกับ iPhone XS, iPhone XS Max แต่หน้าจอ iPhone XR ยังเป็น LCD อยู่และมีกล้องหลังตัวเดียว (ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้) เมื่อเราดูในแง่ของการใช้งานจริงนั้น iPhone XR ก็ใช้งานได้ดีพอๆ กับ iPhone XS (ความเห็นของผู้เขียน)

ที่น่าสนใจอีกอย่าง คือ เมื่อเทียบราคากับ iPhone รุ่นเทียบเคียงช่วงราคาเดียวกันอย่าง iPhone 8 Plus ซึ่งตอนนี้ Apple เปิดขายในราคาเริ่มที่ 27,900 บาท (64GB) นั่นหมายความว่าเพิ่มเงินไม่กี่พันก็ได้สัมผัสฟีเจอร์ Face ID และชิพ A12 ตัวใหม่ของ iPhone XR แล้ว

ผู้เขียนขอแนะนำว่าหากใครเล็งๆ iPhone XR ไว้แนะนำให้ซื้อรุ่น 128GB (แต่ก็ต้องดูกำลังทรัพย์ด้วยนะ) เพราะเป็นรุ่นความจุที่ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป และที่สำคัญ iPhone XR มีให้เราเลือกถึง 6 สี และเป็นรุ่นแรกเลยที่เปิดขายครั้งแรกมาพร้อมกับสีแดง PRODUCT(RED)

Apple จะเปิดให้ผู้ซื้อสั่งซื้อ iPhone XS, iPhone XS Max, iPhone XR ผ่าน Apple Store Online ประเทศไทยวันที่ 19 ต.ค. 2561 นี้ (14.01 น.) รอสั่งซื้อกันได้เลย

เรียบเรียงโดย – มดเต้นท์ (Mod-T) iPhoneMod

The post iPhone XR 128GB ราคา 31,900 บาทน่าสนใจมาก! (ความเห็น) appeared first on iPhoneMod.

ในงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Enjoy 9 Plus และ Enjoy Max ที่ประเทศจีน ทาง Sun Hao ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์ก็ได้มีการอัพเดตความเคลื่อนไหวของตระกูล Huawei Enjoy series ที่ออกมาทำตลาดได้ 3 ปีแล้ว ตามข้อมูลระบุว่าปัจจุบันสมาร์ทโฟนซีรีส์ Enjoy...

แหล่งข่าวแวดวงอุตสาหกรรมเผย Samsung Galaxy Note10 สมาร์ทโฟนระดับเรือธงของปีหน้าจะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.66 นิ้ว โดยที่ข้อมูลดังกล่าวมาจากแผนงานผลิตของ Samsung Mobile ที่ได้สั่งให้ฝ่ายหน้าจอ Samsung Display เริ่มเดินเครื่องผลิตแผงจอ Super AMOLED ขนาดใหญ่สำหรับหน้าจอของรุ่นนี้ Galaxy Note9 มีขนาดหน้าจอ...

Asus แบรนด์จากไต้หวันปล่อยทีเซอร์บนทวิตเตอร์เตรียมจัดงานเปิดตัวสมาร์ทโฟน Zenfone รุ่นใหม่ในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ที่ประเทศอินเดีย โดยที่ตามภาพไม่ได้ระบุว่าจะเป็นการเปิดตัวรุ่นอะไรและมีการเปิดเผยแค่เพียงว่าทั้งสองรุ่นจะวางจำหน่ายที่อินเดียผ่านทาง Flipkart เท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ของแบรนด์ที่จะย้ายจากช่องทางออฟไลน์ไปสู่ออนไลน์ สำหรับสมาร์ทโฟนที่เปิดตัวตามรายงานระบุว่า 1 ใน 2 รุ่นจะเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของโลก และตามข่าวลือก่อนหน้านี้ก็มีการระบุว่ารุ่นที่จะเปิดตัวคือโมเดลที่สานต่อความสำเร็จของ Zenfone Max Pro...