เคยเป็นกันบ้างไหม กับตอนที่เรากำลังเลื่อนเมาส์อย่างเมามันไม่ว่าจะเป็นตอนทำงานหรือว่าเล่นเกม แต่แล้วทุกอย่างก็ถูกสะกดให้หยุดนิ่ง ไม่สามารถกดอะไรได้อีกต่อไปแม้ว่าเมาส์จะเคลื่อนที่อยู่ก็ตาม หรือว่าจะเป็นการค้างแบบหนักที่ตัวหน้าจอนั้นไม่สามารถขยับอะไรได้เลยแม้แต่นิดเดียว ก็มักจะสร้างความหงุดหงิดให้แก่ผู้ใช้งานอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นต้องรีบแก้ไขเพื่อให้คอมนั้นกลับมาใช้งาน ใครที่กำลังหาวิธีการอยู่นั้นก็ต้องมาดูกับวิธีแก้คอมค้าง Windows 10-11 ทำแบบไหนถึงจะกลับมาใช้ได้ เพื่อไม่ให้ช่วงเวลาทำงานนั้นต้องหยุดชะงัก
สำหรับวิธีแก้คอมค้าง Windows 10-11 นั้นก็มีวิธีทำได้ง่าย ๆ สามารถเลือกได้ถึง 2 วิธีหลัก ๆ ได้แก่
ซึ่งทั้ง 2 วิธีนั้นก็มีขั้นตอนในการทำแตกไปอีกหลายวิธี เพื่อทำให้อาการคอมค้างนั้นหายไป และสามารถกลับมาใช้งานได้อย่างเดิมตามที่ควรจะเป็น ซึ่งหากอยากรู้ว่าแต่ละวิธีนั้นสามารถทำยังไงนั้นก็มาดูกันเลย เพราะเราจะนำมาบอกกันอย่างไม่มีกั๊ก เพื่อให้ตัวคอมไม่ว่าจะเป็น Windows 10 หรือ 11 นั้นสามารถกลับมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องกลัวว่าไฟในการทำงานหรือเล่นเกมจะขาดตอนเลย
มาเริ่มกันที่วิธีแรกอย่าง การแก้ไขด้วยการกดที่คีย์บอร์ด นั่นก็คือการชุดคำสั่งไปที่คีย์บอร์ดเลยทันที เมื่อเจออาการคอมค้าง โดยเป็นวิธีที่เรียกว่าเป็นการแก้ไขเบื้องต้น ที่ทำได้อย่างรวดเร็ว และทุกคนต้องลองทำกันก่อน เพื่อทำให้อาการนั้นหายไปได้อย่างสิ้นเชิง และใช้งานได้ต่อทันที ซึ่งก็มีด้วยกันทั้งหมด 3 วิธี ได้แก่
รีเซ็ตไดรเวอร์วิดีโอ
เริ่มต้นกันที่การรีเซ็ตไดรเวอร์วิดีโอ เนื่องจากทำงานของกราฟิกนั้นมีปัญหา จึงทำให้เกิดสาเหตุหน้าจอค้างขึ้นมา เพราะฉะนั้นจึงต้องมีการแก้ไขตัวไดรเวอร์ให้เรียบร้อยเสียก่อน ซึ่งการกดนั้นก็ต้องกดตามนี้
เมื่อกดแล้วตัวหน้าจอจะดับลงไปสักครู่ เพื่อทำการตรวจสอบความผิดพลาด และเมื่อรีเซ็ตแล้วจะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
ปิดโปรแกรมทันทีด้วย Shortcut
หากว่าหน้าจอที่ค้างนั้นไม่สามารถกดอะไรได้เลย ดังนั้นการเปิดตัว Shortcut ขึ้นมาจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใครหลายคนต่างก็เลือกที่ใช้งาน เพราะสามารถกดปิดโปรแกรมได้เลยทันที เพื่อแก้ปัญหาหน้าจอค้างเพราะโปรแกรมมีปัญหา โดยแค่กดตามนี้
เลือกปิดทีละโปรแกรมด้วย Task manager
ต่อมากับวิธีอย่างการปิดโปรแกรมที่ผิดปกติทีละโปรแกรมอย่างการเข้าไปใน Task manager ซึ่งการเข้ามาที่โปรแกรมนี้จะทำให้คุณเห็นการทำงานของโปรแกรมได้ทั้งหมด ทำให้เห็นตัวโปรแกรมที่มีปัญหา และทำการปิดแบบเลือกโปรแกรมได้ตามต้องการ โดยวิธีการทำนั้นก็ขั้นตอนดังต่อไปนี้
แต่ใช่ว่าการเข้า Task manager จะไม่เจออุปสรรค เพราะบางครั้งโปรแกรม Task manager นี้ก็เกิดปัญหาขึ้นเองเช่นกัน โดยหากตัวโปรแกรมนั้นขึ้น Not Responding ก็ให้กดตามขั้นตอนต่อไปนี้
เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้นวิธีการแก้คอมค้างด้วยโปรแกรม Task manager แล้ว
มาต่อกันที่วิธีที่ 2 ในการแก้ปัญหาของคอมที่ค้าง ซึ่งการใช้วิธีนี้จะต้องทำการลองวิธีข้างต้นให้หมดก่อน เพราะสำหรับขั้นตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นไพ่ลับหรือไม้ตายในการแก้ไขกันเลยทีเดียว เพราะว่าการแก้ไขด้วยการ Restart นี้จะเป็นการเริ่มต้นทำงานของคอมใหม่อีกครั้ง โดยสามารถทำได้ถึง 2 วิธีด้วยกัน เพราะฉะนั้นไปดูกันเลยว่าจะทำแบบไหนได้บ้าง
Restart ผ่าน Task manager
อย่าพึ่งเข้าใจผิดว่า Task manager นี้เป็นโปรแกรมข้างต้น เพราะว่าการ Restart ผ่าน Task manager นี้จะเป็นการ Restart เครื่องคอมเลยทันที ซึ่งการกดเพื่อเข้าสู่กระบวนการ Restart นั้นก็ทำได้ตามนี้เลย
Restart ผ่าน Hardware
และสำหรับวิธีสุดท้าย ที่ไม่อยากแนะนำให้ใช้เท่าไหร่เนื่องจากเป็นการปิดที่ตัวเครื่องโดยตรงแบบไม่ได้ทำการปิดโปรแกรมอะไรลงเลย ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่คือวิธีที่ไม่ถูกต้องแบบเต็ม ๆ แต่หากเครื่องค้างจะทำยังไงก็ไม่หายนั้น ก็ต้องงัดวิธีนี้ออกมาใช้งานกันแล้ว ซึ่งสำหรับการทำนั้นก็คือ
และนี่ก็คือ วิธีแก้คอมค้าง Windows 10-11 ที่ขนกันมาให้ลองใช้งานกันอย่างจุใจ เรียกได้ว่าหากคอมค้างแล้วก็แก้ไขได้เลยอย่างทันท่วงที ทำให้สามารถใช้งานหน้าจอได้อย่างทันที ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือว่าเล่นเกมก็จัดการได้อย่างไม่สะดุด และแน่นอนว่าขอย้ำอีกครั้ง ว่าการแก้ไขนั้นควรทำตามขั้นตอนทั้งหมดก่อน ที่จะทำการ Restart ตัวเครื่องโดยตรง เพื่อให้ตัวเครื่องคอมนั้นสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน