วันนี้ผมเจอบล็อกของคุณ angelsong ใน exteen เกี่ยวกับการใช้งบประมาณทางด้านไอทีของประเทศ
สรุปสั้นๆ ว่าเนคเทคได้รับงบ 350 ล้านบาทจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และวางแผนจะจัดอบรมคน 15,000 คนจาก อบต. ทั่วประเทศเกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์เบื้องต้น การเขียนเว็บเพจ และดูแลระบบเครือข่าย แต่เจ้าของบล็อกแนะนำให้สร้างระบบขึ้นมาจัดการงานแทน เพราะประหยัดงบประมาณและพัฒนาได้ยั่งยืนกว่า พร้อมทั้งยกตัวอย่างความสำเร็จจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย
ตอนท้ายเจ้าของบล็อกแจ้งว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใหญ่ขององค์กร และขอความคิดเห็นเพิ่มเติม ผมคิดว่าถ้าได้ความคิดเห็นจากที่นี่ด้วยน่าจะดีไม่น้อย มีความคิดเห็นอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คอมเมนต์ไว้ได้เลยครับ (เดี๋ยวจะไปวางลิงก์ข่าวนี้ไว้ที่บล็อกผู้เขียนครับ)
ที่มา, อ่านเนื้อหาเต็ม - angelsong.exteen.com
Comments
nectec คิดได้แค่นี้ หรือ เพราะเป็นงานที่ง่าย เขียนโครงการง่าย ดำเนินการง่าย วัดผลง่าย จบงานง่าย
ถ้าทำแค่นี้... เปลืองงบเปล่า... ไม่ยั่งยืนดังที่เจ้าของ blog ว่า
หาอะไรที่มันทำแล้วได้ประโยชน์ต่อประเทศชาติมากกว่านี้เหอะครับ...
ถ้ามีเงินแล้วไม่รู้จะทำอะไร เอามาวางไว้เป็นกองทุนทาง IT ให้ นักพัฒนา software อิสระเขียนโครงการพัฒนา software มาแล้ว ให้เป็นทุนไป แล้วผลงานนั้นก็ open source หรือให้เป็น freeware ผมว่ายังดีกว่าเอางบไปทิ้งเล่น
350 ล้านบาท เชื่อว่าได้งานดีๆ ออกมาเยอะแน่ๆ
ตามคุณ angelsong บอกก็คิดว่าโอเคแล้วนะครับ แต่อยากให้เพิ่มพวก Web Service น่ะครับ
เพื่อให้หน่วยงานเอกชนสามารถนำข้อมูลที่จำเป็นไปใช้ได้น่ะครับ เช่น อย่างเว็บ pantip ตอนจะสมัครน่ะครับ จำเป็นต้องใส่ id หากมี service ให้สามารถเช็คได้เลย ก็อาจจะดี แต่ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของแต่ละบุคคลด้วยครับ
350 ล้าน เยอะพอดู น่าจะเอาไปทำระบบ webbase ERP/MRP ได้เลยนะ
ทำเป็น opensource ภาคภาษาไทยให้บริษัทห้างร้าน SME สามารถเอาไปต่อยอดใช้งานได้เลย
เอาไปอบรมเหรอ ผมว่าเขาใช้กันเป็นอยู่แล้วน่า
ผมว่าล่มแน่ๆ - -"
สอนแล้วไงครับ ทำยังกะสอนแล้วพวกเค้าจะเอาไปทำอะไรต่อ ?
ผมว่าเอาตังค์ไปพัฒนาให้คนที่เค้าอยากพัฒนาจริงๆ ดีกว่า ... เอาไปลงอบต. แบบนี้เหมือนแบ่งเค้กกันกินปล่าวๆ อ่ะ
ผมว่านะ
จัดประกวด/นิทรรศการ ด้านการพัฒนา Hardware (Robotic/Engineer) และ Software ควบคู่กันไป โดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียน/นักศึกษา เป็นการวางพื้นฐานการพัฒนา
จัดโครงการเพื่อร่วมมือกับองค์กรเอกชน เพื่อพัฒนาฝีมือแรงงานในราคาประหยัด (เอกชนออกครึ่ง/รัฐออกครึ่ง) เพื่อต่อยอดจากอันแรก
พัฒนาโครงสร้างอินเทอร์เน็ตพื้นฐานให้ทั่วถึงทั้งประเทศ และเอื้อต่อการใช้ประโยชน์ให้เต็มที่ เช่น การใช้ teleconference เพื่อการเรียนการสอน... และการอบรม (ประหยัดงบน้ำมัน ได้อีก...)
: เหอะๆๆๆ แต่ผมว่าเหมือนจะน้อยไปนะสำหรับ เมืองไทย 350 ล้าน
โกงกินกันไปพอควร เหลือเข้าจริงๆ ไม่เท่าไรหรอก ผมว่า
@watcharate.w
++
:→♀MOSS♂←:A LITTLE PLANT ON THE ROCK.
เห็น ด้วยกับคุณ dafty มากๆๆๆ เลยอะคับ 350ล้านบาท เอาไปไช้อบรม15000 คน มันไม่รอดแน่ๆๆคับ เสียเงิน ปล่าวๆ ใน15000 ที่เข้าอบรมจะมีกี่ คนที่ได้เอาความรู้ไปใช้จริงๆจัง สู้เอางบนี้ไปสนับสนุนคนหรือกลุ่มคนที่เค้าทำ,วิจัยหรือพัฒนาในเรื่องเหล่านี้อยู่แล้วไม่ดี หรอคับ อาจต่อยอดให้พวกเขาได้ แล้วผลงานของพวกเขา ก้เอามาใช้ในงานชองรัฐก็ยังได้คับ ดีกว่าไปอบรม15000คนที่ไม่รู้ว่ามีความรู้ในเรื่องเหล่านี้เท่าไร่ ผมกลัวเงินมันจะหายไปโดยปล่าวประโยชน์
....Edit คับ ผมไปอ่านBlogเนื้อหามา เห็นด้วยกับ การทำ platform มากๆๆคับ ผมมี2 ขั้นตอนจะเสนอ
1.ใช้งบส่วนหนึ่งจ้างนักพัฒนาsoftware ทำApplicationหลายๆplatform สำหรับงานหลายๆประเภท เช่น โปรแกรมเก็บภาษีของ อบต โปรแกรมเก็บข้อมูลต่างๆของ อบต แล้วนำโปรแกรมเหล่านี้ไปใช้งาน กับ อบต. ทั่วประเทศ
2.ใช้งบอีกส่วน จัดอบรมคนที่คิดว่ามีความรู้คอมพิวเตอร์มากที่สุดใน อบต. แต่ละแห่ง สอนใช้งาน Application ทุกๆplatformที่จัดทำใว้
...ผมว่าแค่นี้งานทุกอย่างที่ อบต.แต่ละแห่งทำก็จะเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด แถมยังสามารถส่งเอกสารงานต่างๆให้สถานที่ราชการอื่นๆใด้อย่างรวดเร็ว งานราชการไทยคง รวดเร็วและเป็นมาตรฐานแถมยังมีความถูกต้องอีกด้วย
ขอเว้นบรรทัดหน่อยครับ
อบรมผมเคยเห็นบ่อยนะ อบรมทีละเยอะๆ แล้วคนได้ก็มีไม่กี่คน(คือคนที่ใช้เป็นอยู่แล้ว!!)
:→♀MOSS♂←:A LITTLE PLANT ON THE ROCK.
ขอเสริมหน่อยครับ
สำหรับ App ที่จะทำให้อบต.ใช้เป็นระบบเดียวกัน
ในความเป็นจริงมีคนทำแล้ว แต่...
ทำแล้วเขาต่อต้าน ไม่ยอมใช้ เขากลัวการตรวจสอบ
เนคเทคคงไม่สามารถบังคับอบต.ได้ ถ้ารัฐบาลสั่งเองอาจจะได้ครับ
เข้าทำนอง ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำอีกแล้ว
ก็อย่างว่าแหละครับ
"การเมืองคือเรื่องของผลประโยชน์"
ผมยังไม่แน่ใจครับว่าจะดีขนาดไหน
แต่ควรจะประกาศด้วยนะว่าโครงการกินเงินเยอะขนาดนี้เนี่ย
ได้ผลลัพท์อย่างไรบ้าง และควรจะตรวจผลเป็นระยะยาว
แล้วตีพิมพ์ส่วนที่ได้ลงสื่อต่างๆ
จะได้รู้ว่าเงินของประชาชนนั้นไม่ได้ละลายหายไป
เห็นด้วยว่าควรเอางบไปลงให้กับ "คนที่อยากพัฒนา" มากกว่า
ผมเชื่อว่าการสร้าง Developer หรือสร้าง Software สำคัญกว่าสร้าง User ครับ
จะอบรม User แค่ทำ VCD จัดอบรม แล้วก็บังคับสอบ ใช้งบไม่ถึงล้านก็ได้แล้วมั้ง
edit ผมอ่านไม่ละเอียดเอง
แนวคิดของเจ้าของ blog นั้นน่าสนใจครับ และน่านำไปปฏิบัติมากกว่า
แถมงบประมาณ 350 ล้าน สามารถเอาไปทำได้หลาย platform เลยด้วยซ้ำ
ระดับจังหวัดก่อน อบต ดีไหมครับ?
@TonsTweetings
คำตอบง่ายนิดเดียว
เอาไปลงทุนจัดอบรม มันกินได้ง่ายที่สุด กินกันแบบเลือกพรรคพวกวางตัวได้ซะด้วย เริ่มตั้งแต่
สถานที่การจัด อบรม คุณจะเลือกของใคร ที่นั่นก็รับเงินไปเต็มๆ
ต่อด้วย หน่วยงาน หรือ ผู้ที่จะได้เป็นผู้อบรม (รับค่าจ้าง) อันนี้เล่นพรรคพวกแน่นอน
ตามด้วย หน่วยงานท้องถิ่นที่จะเลือกคนเข้าอบรม
สุดท้ายคนที่ได้ไปอบรม พร้อมรับเบี้ยเลี้ยงเนี่ย ก็ยังเส้นกัน
ท้ายสุดคนแล้วเหลือบางส่วนที่ได้ไปแบบตั้งใจจริง ได้ความรู้กลับมาบ้างตามสภาพ
ก็เอามาทำอะไรไม่ได้ เพราะ เขียนรายงานไปเจ้านายก็ไม่เข้าใจ สรุปคือ ไม่ได้อะไรเลยตามสไตล์ การทำงานแบบที่ว่า มีชื่อว่าทำแล้ว แต่ไม่ได้ผล ผมคิดว่าท่านที่อายุซะ 30-40 คงจะคุ้นเคยการทำงานของรัฐแบบนี้เป็นอย่างดี เพราะเกิดขึ้นบ่อยๆ เมื่อก่อนหน้า 7 ปีที่แล้ว
ผมมองว่า ที่เนคเทคทำอบรมนะดีที่สุดแล้ว
ต้องมองจุดมุ่งหมายเสียก่อนว่า ที่มาของงบประมาณคืออะไร
"เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ"
ในระบบราชการ การเบิกจ่ายงบประมาณที่เร็วที่สุด คือการฝึกอบรม
จากข้างบนที่เสนอมา นั้นก็ดีโดยหลักการแล้วควรทำ แต่เงินตั้ง 350 ล้าน จะให้ หมดจากมือภายในปีงบประมาณ 2552 (30 กันยายน 2552) เป็นเรื่องที่ยากมาก ทั้งกระบวนการ และวิธีการ
ดังนั้น การฝึกอบรมย่อมเป็นวิธีการรวดเร็วที่สุด
1 เงินลงไปสู่ โรงแรมที่พัก
2 เงินลงไปสู่ ภาคขนส่ง การเดินทาง
3 เงินลงไปสู่ ผู้เข้าอบรม(ค่าเดินทางเบิกเกินจริง)
4 เงินลงไปสู่ ตลาด(ผู้เข้าอบรม ซื้อของฝาก)
สำหรับ การฝึกอบรมยังไงก็ต้องทำตามระเบียบการเบิกจ่ายงบประมาณ ไม่ว่าจะเป็น กรมบัญชีกลาง สตง. ส่วนจะตกหล่นตรงไหน
มันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้อยู่แล้วทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะทำวิธีไหน
ก็ขึ้นอยู่ว่า สตง กับกรมบัญชีกลาง ว่าจะจับได้ไล่ทันหรือเปล่า
ผมว่า การใช้ ผลพลอยได้ มาเป็นจุดประสงค์หลักก็ไม่ถูกนะครับ
350 ล้าน เอามาเทรนคน เศรษฐกิจอาจจะดีขึ้น แต่คนที่ได้รับผลประโยชน์ตรงนั้นอาจจะแค่ โรงแรมที่พัก (แค่โรงแรมเดียวก็น่าจะอยู่แล้ว) ร้านค้า (ก็อยู่ในที่พัก) ภาคขนส่ง (ก็คงได้อยู่ไม่กี่บริษัท) ตลาด (แห่งเดียว)...(คนที่ได้ผลประโยชน์จริง ๆ ก็แค่หยิบมือย่อม ๆ นิดเดียว)
ยังไงก็ยังเห็นด้วยการคุณ angelsong ครับ ...
ThaiGameDevX -- The First Game Developer Community in Thailand.
ผมว่า การหาโรงแรมที่จะให้คนพักคราวละ มากๆ ไม่ใช่หาง่ายๆ
ที่อบรมอีก ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ คุณจะอบรมคน 15000 คนยังไง
ในคราวเดียวหรือ ?
มีโรงแรมไหนละ ?
เป็นไปได้ไหม ?
อย่างดี ก็จัดรุ่นละ 500 30 รุ่น
รุ่นละ 1 สัปดาห์ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย
ถ้ามองในด้านนี้ก็ถูกต้อง ใช้การอบรมเป็นการหว่านเงินให้ชาวบ้านเพื่อประตุ้นเศรษฐกิจ
เรื่องนี้จะไม่น่าเกลียด ถ้าทางเนคเทคมีงบที่สร้างสรรค์อยู่ก่อนแล้ว(หรือว่ามีแล้ว?)
ล่าสุด สนง.สถิติแห่งชาติก็จัดอบรมคล้ายๆกันนี้ เมื่อต้นเดือน มกรา เราสามารถดูงบได้
จาก พรบ.งบประมาณ ถ้าพรุ่งนี้ว่างผมจะเอามาให้ดู
อยากให้ SIPA สนับสนุนค่าสอบ Cert. อีก (เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย) :P
ชอบที่เจ้าของ blog เขียนครับ
ทำ software ให้ดีๆ แล้วให้ใช้ง่าย สอนง่ายอบรมน้อย
คนทำงานสายนั้นไม่ได้ อยากเรียนรู้ "คอมพิวเตอร์เบื้องต้น การเขียนเว็บเพจ และดูแลระบบเครือข่าย"
ซักเท่าไหร่หรอกครับเท่าที่ผมรู้จัก
มีฝ่ายไอทีซักคนก็พอแล้ว (คนที่ใช้คอมเป็นแถวนั้นนะ ไม่ใช่ตำแหน่ง)
มีคนบอกมาอีกทีว่า "โปรแกรมที่ต้องมีการอบรมผู้ใช้เพื่อให้ใช้เป็น คือโปรแกรมใช้งานยาก"
:→♀MOSS♂←:A LITTLE PLANT ON THE ROCK.
เห็นด้วยกับการสร้างแฟลตฟอร์มอย่างที่คุณ angelsong ว่าได้
หากแต่
อยากให้พิจารณาด้วยว่าเงินจำนวนนี้ที่ได้รับมาจากรัฐบาล
ถูกกำหนดมาให้ดำเนินการในเรื่องใดกันแน่นะครับ
จริงอยู่ที่ทางเนคเทคน่าจะมีสิทธิเสนอหรือนำงบประมาณจำนวนนี้
ไปทำสิ่งที่สร้างประโยชน์สูงสุดได้
หากแต่ก็ต้องคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของงบประมาณจำนวนนี้ด้วย
ว่าถูกกำหนดมาจากผู้บริหารไว้ว่าต้องนำไปทำอะไร
อย่าเพิ่งตำหนิเนคเทคขนาดนั้นเลยครับ คุณๆ
อย่าตามกระแสของบล๊อกเลยครับ
อยากให้หยุดคิดกันหน่อยว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร
และวัตถุประสงค์ของงบประมาณจำนวนนี้ก็
เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาบุคลากร อบรมคน
ให้มีความรู้ทางด้านไอที เพื่อสร้างงานครับ
หากจะนำมาใช้แฟลตฟอร์มก็ต้องดูกันว่า
จะนำปรับเปลี่ยนได้อย่างไร
และการสร้างแฟลตฟอร์มหากใช้เวลานานๆ
8 9 หรือ 10 เดือน ก็อาจจะนานเกินไปครับ
อีกประการ การจะมีแฟลตฟอร์มใช้ในหน่วยงาน
ราชการต้องคำนึงถึงการเข้ากันได้ของข้อมูลด้วย
ใช่ว่าจังหวัดนี้ใช้แบบนี้ จังหวัดนั้นใช้แบบนั้น
มันต้องกำหนดเป็นรูปแบบข้อมูลเป็นเื่รื่องเป็นราว
ทำทีเดียวให้ใช้กันได้หมดทั้งประเทศ
ให้ทางมหาดไทยยอมรับรูปแบบข้อมูลเหล่านั้น
ให้เกิดการแลกเปลี่ยน แบ่งปัน ข้อมูลกัน
ได้ทั้งประเทศ
โชว์เคสบางทีมันก็ดีครับหากจะทำขึ้น
แต่หลายๆ ครั้งมันจบตรงแค่เคลนั้น
หากไม่ได้การยอมรับจากส่วนกลางครับ
คิดเหมือนกันครับ จริงๆ ผมก็ตอบคล้ายๆประเด็นนี้ใน blog ของแหล่งข่าว
จริงๆ แล้วระบบราชการในการทำโครงการที่ยากคือ การบริหารเวลากับการบริหารเงิน
อย่างที่ทราบกันดีว่ากว่าเงินจะผ่านออกจากหน่วยงานต้นทางได้มันต้องมีกระบวนการตั้งมากมายตั้งแต่การขออนุมัติหลักการ การขออนุมัติดำเนินการ ระเบียบคุมทุกส่วน มิหนำซ้ำ ยังมีระเบียบย่อยคุมวงเงินอีก ดังนั้นการสร้างอะไรที่ผลกระทบเยอะ ในลักษณะเป็นการเปลี่่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะดำเินินการภายในแปดเดือน (สิ้นสุดปีงบประมาณ 30 กันยายน 2552) ดังนั้นการเบิกจ่ายงบประมาณที่เร็วที่สุดคือการฝึกอบรม
เพราะ ขออนุมัติทั่วประเทศคราวเดียว ระยะเวลาทางหนังสือประมาณ 45 วัน อบรมแบ่งเป็น 30 รุ่น รุ่นละ 1 สัปดาห์ ก็เกือบ 8 เดือน ถือว่าหนักเอาการเหมือนกัน
แสดงว่า เป็นกระประกาศใช้ Platform(ปิด) ของ Microsoft ???
อย่างไม่เป็นทางการว่างั้น ...
เห็นด้วยกับคุณ angelsong มากๆ แต่ลำพังกำนัน ผู้ใหญ่บ้านคงไม่มีเวลามาทำ คงต้องอบรมผู้ช่วยมากกว่า เรื่องอบรมคนนี้คงต้องมีอบรมบ้าง แต่ควรอบรมพวกนี้ก็พอแล้ว (อบรมการใช้คอมเบื้องต้น การเล่นอินเทอร์เน็ต กับอบรมการใช้งานระบบนั้นๆ) และระบบควรมีเว็บเซอร์วิสด้วย ข้อมูลจะได้ลดการซ้ำซ้อนข้อข้อมูลกันครับ
---- มีความสุขที่พอดี กับชีวิตที่พอเพียง
ผมขอมองในแง่ ของ ตาสีตาสา
ขอบอกว่า ... ไร้ประโยชน์ครับ
มันไม่ยั่งยืนหนะครับ
สุดท้ายมันไม่ได้ใช่ประโยชน์
เอาเงินมาอบรมเยาชน มาใช้ Linux
หรือว่า ไปหาทางให้ การใช้ OO เป็นโปรแกรมมาตรฐาน แทนจะ work กว่ามา
เขาคงได้แต่ เกาหัว แกรกๆ ฉันจะอัพเดท webpage ไปทำไม??
คนชุมชน จะสนใจเหรอ??
http://tomazzu.exteen.com
จริงที่ง่ายสุด อบรม เงินออกเร็ว...
แต่...
อบรมแบบหว่าน... ไร้ทิศทาง... ต่างกับอบรมเฉพาะเรื่องนะครับ...
สร้าง platform แล้วอบรมเฉพาะเจาะจงไปสิครับ...
เอางบ อบต.จ้างนัก IT มาได้งาน ได้คนเฉพาะกับงาน
เวปไซด์ภาครัฐแต่ละที่เป็นอย่างไร... จะมีข้อมูลอะไรบ้าง มีประโยชน์แค่ไหน เราก็น่าจะพอรู้ๆกันอยุ่
เดาได้ว่าจะมี ที่อยุ่ติดต่อ ผู้บริหาร ประวัติ พันธกิจ วิสัยทัศ เบอร์โทร bla bla bla และคงทน static ไม่มี update สวัสดีปีใหม่เป็นหน้าแรก 6 เดือนบ้าง
link ไป kapook sanook hunsa hotmail gmail (เอ๊ะ เค้าให้เลิกใช้เมล์ฟรีเมืองนอกแล้วนี่นา) มี link มากกว่าสาระ เอาข่าวมาแปะ จนเหมือนเวปท่า
ไอ้ที่จะให้อบรมทำเวปไซด์ แล้วมาบอกว่าข้าวที่นี่ผลิตผลดีเพราะอะไร มันจะมีในเวปไซด์ไหนบ้างไม๊ล่ะครับ ถ้าจะให้เค้าทำอบต.นี้เลี้ยงปลาเด่น อบต.นี้ทำน้ำพริก อบต.นี้ต้มเหล้า (สุราชุมชน) คนทำทำไป แล้วคนที่ไปอบรมเนี่ย จะเขียนวิธีการทำยังไงให้มันดีไม๊ล่ะครับ
ตราบใดที่เราไม่กำหนด scope เค้าก็ทำไปๆๆ ได้สาระบ้าง ได้ประโยชน์นิดหน่อย
ลองเข้าไปใน google ครับ search คำว่า อบต.
แล้วดู url ของแต่ละที่ ใช้ freehost บ้าง freedomain บ้าง (ที่จริงต้องบอกว่า free subdomain มากกว่ามั้ง) เละเทะ
บางที่เน่าไปเพราะจด domain แต่ไม่ได้ต่ออายุ เนื่องจากนโยบายต่างตามผู้บริหาร ไม่ได้ทำงบต่ออายุ domain (ไม่กี่บาทแต่ตูไม่ได้ทำงบไว้ ไม่จ่าย) มันต้องต่ออายุด้วยเหรอ คนทำย้ายไปไหนแล้วไม่รุ้ bla bla bla ...
แทนที่จะให้ตัวใครตัวมัน ทำ domain กลาง XXX.XXX.go.th ของอบต.ทุกที่ มีพื้นที่ให้ มี template ให้แต่งได้ มี guide ให้ว่า content ควรจะเป็นแบบไหน input data อะไรเข้าไป แล้วจะแสดงอะไรให้สาธารณะทราบบ้าง
ดีกว่าให้ไปทำเอง ทำอะไรก็ได้ตามใจคนไปอบรม
+100
อันนี้ตอบได้โดนใจจริง ๆ ครับ
เห็นหลายหน่วยงาน (ภาครัฐ) ชอบทำเว็บแบบ Portal ลิงค์เต็มเว็บไปหมด (อันนี้ไม่รู้ได้ค่าโฆษณาหรือเปล่า ???) ไม่รู้ว่าใครไปกำหนดว่าเว็บของหน่วยงานราชการต้องเป็นอย่างนี้ ... สวัสดีปีใหม่ กับยินดีต้อนรับ อยู่หน้าแรกมาหลายเดือนนี่ก็เห็นบ่อยครับ
ก็ใช่อยู่ว่า เศรษฐกิจไม่ดี นโยบายเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ลองคิดอีกมุมหนึ่งว่า
เงินทุกบาททุกสตางค์ (ภาษีประชาชนทั้งนั้น) ควรใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ดีกว่าไหม ???
อีกอย่าง รัฐบาลก็ยังไม่มีนโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับ Format เอกสาร ... น่าจะประกาศอย่างเป็นทางการได้แล้วประเทศไทยจะได้มีคำว่า "มาตรฐาน" กับเขาสักที
จัดประกวดซอฟท์แวร์แห่งชาติ ให้รางวัลแบบเดียวกับที่กูเกิ้ลใช้วิธีจัดแข่งขันให้รางวัล เปิดกว้าง กระตุ้นเด็กรุ่นใหม่ ขจัดกรอบของการประมูลและฮั้วงาน หากโปรแกรมใช้งานได้ค่อยนำไป Implement กับหน่วยงานรัฐอีกต่อก็ได้ครับ
\(@^_^@)/ M R T O M Y U M
NSC เขาจัดทุกปีอยู่แล้วครับ...
ดูรายละเอียดที่ http://www2.nectec.or.th/nsc/
เงินรางวัลเท่าไรดีครับ? อย่างน้อยมีเงิน 350ล้าน แบ่งมาเป็นรางวัลโครงการนี้สัก 50ล้านก็พอ แล้วก็ไม่ต้องเป็นโครงการซอฟท์แวร์ขนาดเล็กอย่างเดียวก็ได้เปิดกว้างหน่อย ของ NSC เห็นให้แค่หลักหมื่นเองนะ สมมุติเล่นๆ แจกรางวัลใหญ๋สัก 10 รางวัลๆละ 1-10 ล้านบาท รางวัลย่อยอีกสัก 100 รางวัล รางวัลละหลักแสน รางวัลชมเชยสัก 1,000 รางวัล เป็นรางวัลละหลักหมืื่น ขี้คร้า่นเด็กนักเรียนจะหันมาเขียนเข้าประกวดกันตรึม(รวมถึงเด็กโข่งแถวๆนี้ด้วย) กระจายรายไ้ด้เห็นๆ เหุอๆ \(@^_^@)/ M R T O M Y U M
ก็ทำสิครับ
NERD GOD
ผมอยากให้ทำศูนย์กลางข้อมูลความรู้ โดยซื้อ book ที่ดีๆจากเมืองนอกมาแปลเป็นภาษาไทยให้หมด หรือซื้อลิขสิทธ์หนังสือที่แปลหรือเขียนได้ดี มาแปลงให้อยู่ในรูปแบบเว็บและ สามารถดาวโหลดได้ฟรี เวลาค้นหาข้อมูลจากกูเกิลจะได้ความรู้ที่ถูกต้อง
.......
350 ล้าน คงได้ครังความรู้มากมาย สามารถทำต่อยอดโครงการนี้ต่อไปได้อีกเยอะ
เขียนโปรแกรมชิวๆกับ www.codeburning.com<www.codeburning.com>
+1
Ford AntiTrust’s Blog | PHP Hoffman Framework
ชอบความคิดเห็นดีๆ ที่สามารถเอาไปสร้างสรรค์ต่อ ดีกว่าพวกติเหลือเกิน ทำอะไรก็ติ ทำอะไรก็ไม่ดี
ระบบ อบต ตัวนึงที่มีการพัฒนาแล้วครับ http://ossn.rdsi.in.th/
ความตั้งใจของงบนี้คิดว่าอยู่ที่การกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่าครับ
เวลา 9 เดือนในการที่จะทำ Platform + Training ทั่วประเทศเนี่ยเวลาคงน้อยเกินไป
เหมือนกันงบ 2000 บาท คนด่าก็เยอะแยะ แต่คนได้ประโยชน์ก็ไม่ใช่ว่าไม่มี เสนออย่างสร้างสรรค์แบบนี้ดีครับ คงมีคนที่เกี่ยวข้องได้เก็บไปคิดอีกเยอะ
จากบทความที่เขียน เจ้าของ blog ได้เข้าไป "คุย" กับคนที่เจ้าของ blog บอกว่าเป็น "ผู้ใหญ่" ที่เนคเทค
ไม่ทราบว่าไปคุยแบบที่เป็นทางการ หรือว่าคุยเป็นการส่วนตัวครับ?
ถ้าคุยกันแบบเป็นการส่วนตัว ผู้เขียน มั่นใจแค่ไหนครับว่าผู้ใหญ่ท่านนั้นพูดข้อมูลทั้งหมดครับ
ข้อความที่เจ้าของ blog กล่าวว่า "เทรนให้เปิดเครื่องเปิด แสกนไวรัสเป็น เขียน homepage เป็น ดูและ network อบต ได้"
// ผมอ่านแล้วยัง งงๆ
ผู้เขียน แน่ใจมั้ยครับว่าทางเนคเทคทำเพียงเท่านี้ครับ ผู้เขียน ได้ดูรายละเอียดของงานดังกล่าวแล้วหรือยังครับ
ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพราะข้อมูลที่ทางผู้เขียนให้มามันไม่ครบในรายละเอียด ทำให้ผมไม่กล้า comment และเอาข้อมูลที่มีอยู่ในกะลาเล็ก ๆ ไปตัดสินผู้อื่นครับ
ผมว่ามันไม่ยุติธรรมต่อทางเนคเทคเท่าไหร่หน่ะครับ
ปล. ผมไม่มีความเกี่ยวข้องกับทางเนคเทคใด ๆ ทั้งสิ้น และผมต้องขออภัยจริง ๆ หากผมเข้าใจอะไรผิดพลาดครับ