เชื่อว่าผู้อ่านหลายๆ ท่านคงคุ้นเคยกันดีกับโฆษณาของแอปเปิลที่บอกว่าระบบ Mac OS X ของตนนั้นมีความปลอดภัยกว่าระบบของ Windows แต่ในข่าวนี้ คุณแฮกเกอร์ออกมาบอกเองเลยครับว่า มันไม่ได้ปลอดภัยไปกว่าของคู่แข่ง โดยเฉพาะ Windows 7 ที่กำลังจะวางจำหน่ายสักเท่าไหร่หรอก
หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวปัญหาเรื่องความปลอดภัยของ Flash (ซึ่งได้รับการแก้ไขแล้ว) ผู้เชี่ยวชาญทางด้านความปลอดภัยยังวิจารณ์จุดอ่อนอื่นๆ อีกเช่น firewall ถูกปิดเป็นค่าเริ่มต้น, ขาดระบบ Full automatic update และ ระบบการป้องกัน phishing ที่อ่อนแอของซาฟารี
นอกจากนี้นาย Charlie Miller ผู้เชี่ยวชาญในการแฮก Mac OS X (อ่านวีรกรรม) ยังวิจารณ์ถึงระบบ ASLR ที่มากับ Snow Leopard ว่ายังเป็นตัวเดียวกับใน Leopard และมันก็ยัง"ไม่ค่อยดีเท่าไหร่" ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับฟีเจอร์ ASLR ที่แข็งแกร่งกว่าของ Windows 7 แล้ว Snow Leopard นั้นจะถูกโจมตีจากเหล่าผู้ประสงค์ร้ายได้ง่ายกว่า
อย่างไรก็ตามไม่ใช่จะมาด่าอย่างเดียว นาย Miller ยังชมแอปเปิล ถึงการแก้ไข QuickTime X ให้มีความปลอดภัยขึ้น และเพิ่ม DEP (data execution prevention) แบบเดียวกับของ Windows นั่นเอง ซึ่่งนาย Miller กล่าวสรุปในแง่ระบบความปลอดภัยของ Snow Leopard ว่า
"Snow Leopard นั้นปลอดภัยกว่า Leopard แต่มันก็ยังไม่ปลอดภัยเท่ากับ Vista หรือ Windows 7 หรอก รอให้แอปเปิลแก้สิ่งที่ผมบอกมาก่อน ผมถึงจะเลิกบ่น"
ถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่า แล้วทำไมแอปเปิลถึงยังโฆษณาระบบของตัวเองกว่าปลอดภัยกว่า Windows อยู่ล่ะ?
เค้าตอบว่า..
"การโจมตี Windows มันยากกว่า Mac ก็จริง แต่คุณก็ยังเห็นแต่คนโจมตี Windows นั่นเป็นเพราะว่าพวกเขา(แฮกเกอร์) สามารถโจมตีคอมพิวเตอร์ได้ถึง 90% ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องการจะทำ และคงไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ที่จะต้องวุ่นเป็นสองเท่าเพื่อที่จะเก็บไอ้ 10% ที่เหลือนั่น"
ที่มา - Daily Tech
ASLR (address space layout randomization) : ฟีเจอร์ความปลอดภัยรูปแบบหนึ่งที่ระบบจะสุ่มส่งข้อมูลไปในหน่วยความจำ ทำให้การโจมตีระบบนั้นทำได้ยากขึ้น
Comments
สงสัยจะลืม Linux อีก 1%
ก็จริงของเขานะ
ถ้าหัดแฮกวินโดวส์ จะแฮกคอมพิวเตอร์ได้ 90% แต่ถ้าหัดแฮกแม็ค ก็แฮกได้แค่ 10% เอง
ที่ Mac ปลอดภัย เพราะมันไม่มีค่าพอซะงั้น ใช่มะ?
7blogger.com
อู้ว Rep นี่โดนแฮะ
http://tomazzu.exteen.com
อู๊ย แรง ถูกใจๆ
The Phantom Thief
ถูกใจเช่นกัน
แต่เรื่องกัน phising ของ Safari นี่เห็นด้วยสุดๆ สู้ IE8 ไม่ได้เลย (ไม่เคยใช้ใน Firefox/Chrome เหมือนกันเลยไม่รู้เป็นไง)
ผมว่าประโยคดังกล่าวไม่มี 'ประธาน' นะ อาจแก้เป็น
หรือแก้เป็นอย่างอื่นก็ได้ที่มี 'ประธาน' อยู่ตรงหน้าประโยค
ThinkPad drivers and applications for Windows 7 RTM are available. Check out from this page.
แก้คำผิดและข้อความบางส่วนแล้วนะครับ แต่ผมขอไม่แก้
เพราะรู้สึกว่าใช้คำว่าแฮกมันน่าจะอ่านสบายกว่าน่ะครับ (คล้องจองกันดีด้วย แฮกกับแมค 55)
เพราะส่วนที่แปลมานั้นมันคือการ quote คำพูดมาจริงๆ ใช้ภาษาพูดก็น่าจะดีกว่า
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ
ปล. ผมจะทำ Bullet ต้องพิมพ์ยังไงครับ อ่านใน Daring Fireball ก็ยังงงๆ -*-
พิมพ์เครื่องหมาย '-' ตอนขึ้นต้นบรรทัดนะครับ
ThinkPad drivers and applications for Windows 7 RTM are available. Check out from this page.
ลองมั่งทำไม่เป็นเหมือนกัน
ส่งข้อความไปหาดีกว่าไหมครับ มา post comment ผมว่ามันรกๆตา นะครับ
(เห็นมาหลายวันละ...)
มันเป็นขั้นตอนปรกตินะครับ ในการแก้บทความด้วยการแสดงความเห็น
เรื่องรกตาผมกำลังหาทางออกอยู่ครับ มีทางออกก็เสนอเข้ามาได้ แต่ระบบ pm ผมเคยใช้แล้ว (เมื่อนานมาแล้ว) ไม่เวิร์คครับ สุดท้ายไม่ตอบการแสดงความเห็นกัน
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
จริงๆ ตอนนี้ผมก็ยังงงๆ เหมือนกันนะครับ คือที่เข้าใจตอนนี้คือทุกคนที่เป็น Writer จะ approve บทความที่ไม่ใช่ของ writer ได้ทั้งหมด หรือจะเฉพาะคุณ mk กับ lew ที่ approve ได้อ่ะครับ?
คือรู้สึกว่าถ้ามันยังมีปัญหาก็ยังไม่ต้อง approve ไม่ได้หรอครับ? ถ้าเจ้าของบทความยังไม่ยอมมาแก้ตามที่ pm ไป ก็ไม่ต้องเอาขึ้นไปเลย (คานอำนาจกันหน่อยๆ) แบบนี้มันเหมือนประจานกันยังไงไม่รู้อ่ะครับ
ย่อหน้าแรก คำตอบคืออย่างแรกครับ
ส่วนย่อหน้าที่สอง ผมยกให้เป็นวิจารณญาณของคนที่เป็น writer ที่จะเอาขึ้นน่ะครับ
อ้าว จริงดิ Snow แย่จังไม่ปลอดภัยหรอกหรือเนี่ย
งั้นทิ้ง macbook ไปซื้อ acer ลง window 7 ดีมั้ยเนี่ยเห็นเพื่อนที่มหาลัยใช้เยอะเลย....
ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานของเราด้วยครับ เป็นเรื่องใหญ่กว่าที่ระบบจะมาช่วยเราอีกนะ
@pexza
ไม่ต้องทิ้งก็ได้หนิครับ เครื่อง Apple ลง Windows7 ไม่น่าจะโดนเจาะง่ายไปด้วยนะ
The Phantom Thief
ผมว่าการซื้อ Mac มาลง Windows เป็นอะไรที่ไม่คุ้มค่ามาก ๆ เลยนะครับ ^^
ถ้าจะใช้ Windows ก็ซื้อเครื่องยี่ห้ออื่น
ถ้าจะใช้ Mac ก็ซื้อ Mac (อาจจะลง Windows ไว้บน VM เอาไว้ทำอะไรที่ต้องทำบน Windows)
เจอแบบนี้ สตีฟจ๊อปได้ยินคงปวดตับอ่อน ...
จ๊อบส์ไม่แคร์หรอกครับ เพราะของที่เค้าขายเป็นหลักคือ Hardware ไม่ใช่ OS X ไม่งั้นเค้าจะเปลี่ยนมาใช้ชิพ intel และโฆษณาว่า Mac ก็รันวินโดวส์ได้ทำไม?
ไม่ว่าจะ os อะไร เดี่ยวอยู่ๆ ไปสักระยะ hacker ก็หาช่อง hack จนได้ละครับ.
I'm PC
Windows ถ้าคนใช้เก๋าๆ ไวรัสก็ไม่ได้กินง่ายๆหรอก
+1000 ไม่จำเป็นต้องมี antivirus ก็ได้
ไม่มีอะไรในกอไผ่นอกจาก...หน่อไม้ | @kezuke | Facebook
+1 ไม่ใช้ antivirus เหมือนกัน
ใน EEEpc ทำ EWF เลย...
ไม่เปิดanti-virus แต่ยังเปิด firewall
http://tomazzu.exteen.com
+๑ ตั้งแต่เริ่มเล่นคอมฯ มายังไม่เคยติดไวรัสเลยสักรอบเช่นกันครับ
The Phantom Thief
ซื้อ mac มาลง windows :D
Moss 's blog
ผมรู้ดีว่าไม่ควรสร้างความแตกแยกระหว่างผู้ใช้ OS ต่างๆ แต่ครั้งนี้ขอสักทีนะครับ
อยากจะบอกว่าแอบสะใจนิดๆ ครับ
เพราะว่าเบื่อมากๆ ที่ Apple ชอบมาโฆษณาเรื่องความปลอดภัยแล้วเอาจุดนี้มาขายของเนี่ย
ผมว่าแฮกเกอร์ก็คิดประมาณคุณนี่ล่ะครับ โฆษณาว่าปลอดภัยบ่อยๆ ก็เริ่มน่าลอง ลองสักร้อยคนพันคนมันต้องเจอจุดหนักๆ เข้าสักทีล่ะ
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
ผมอยากให้โดนซักครั้ง ท่าทางจะหนักกว่า windows เยอะ เพราะ User Mac ส่วนใหญ่เข้าใจว่า mac ปลอดภัยสุด แล้วก็ละเลยที่จะป้องกัน ไม่เหมือน windows "ผมโดนมาเยอะ"
เข้ามาสะใจด้วยคน ยังจะมาโฆษณาแนวนี้อีก...(สม'นิดๆ)
เห็นด้วยกับคุณจริงๆครับ มีแฮกเกอร์คนหนึ่งเคยพูดไว้ ไม่มีระบบอะไรที่ป้องกันจากการแฮกได้ทั่วถึง 100% หรอก :P
แต่ผมเห็นว่าที่ Apple โฆษณาอย่างนั้นก็ถูกต้องแล้วนะครับ เนื่องจาก Apple ไม่ได้แต่งเติมข้อมูลนี้ขึ้นมาเอง เป็นข้อเท็จจริงที่ว่าเจ้านี้ปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง ส่วนเหตุผลสนับสนุนว่าทำไมจึงปลอดภัยนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งไม่ต่างจากกรณี Linux เท่าไหร่
ประชดรึเปล่าครับ???
ไวรัสตัวแรกๆ ในโลกนี่ก็เกิดในตระกูล POSIX นี่ล่ะครับ บั๊กในฟังก์ชั่น fgets มั๊ง
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
ไม่ได้ประชดครับ และผมทราบเรื่องประวัติศาสตร์ดี แต่กรณีนี้ผมเข้าข้าง Apple ทำนองว่าคุณใช้ Mac แล้วปลอดภัยนะ โดยละไว้ในฐานที่เข้าใจว่า ที่ปลอดภัยเพราะคนมันใช้น้อย เลยไม่ดึงดูด hacker เท่าไหร่นั่นเอง
แต่อย่างว่า ออกตัวขนาดนี้ก็สุ่มเสี่ยงทำให้ hacker หมั่นไส้เอาได้ :D
เรื่องอื่นผมไม่ค่อยแน่ใจนักนะครับ แต่เรื่อง Firewall ถูกปิดมาเป็น Default
เทียบกับ Windows XP ที่เปิดเป็น Default แล้วก็มานั่งปิดหลังจากที่ลงเสร็จ
การทำให้ปิดมาแต่แรก อาจทำให้การใช้งานของผู้ใช้มีความสุขมากขึ้นก็ได้
เรื่องนี้ไม่แน่ใจว่าดีหรือไม่ดี
คอมพิวเตอร์ Desktop ธรรมดาปกติทั่วๆ ไป จะมีโอกาศโดนโจมตีสักแค่ไหนกันครับ
ข้อนี้อยากทราบจริงๆ เท่าที่เคยเจอมาก็มี Virus ที่วิ่งมาทาง LAN ผ่าน Folder ที่เปิด
share แบบ Full Permission ไว้ (Anti-Virus กันไว้ได้) หรือมีมากกว่านี้แต่ไม่รู้ตัว :P
I'm a DS Lover ^^
:: DigiKin8 ::
ลองลง Windows XP รุ่นต้นฉบับดูสิครับ
XP รุ่นแรก ก็เปิดครับ MK เพียงแต่ firewall มันห่วยมาก จนเปิด ก็เหมือนไม่เปิด (ฮา)
ตอนนั้นเอาไปใช้ที่หอพัก เครื่องใช้ XP รุ่นแรกนี่แหละครับ
ติด Worm / Trojan อะไรอีกสารพัดเลย ... จนสุดท้ายต้องตัดใจไปนั่งเรียนระบบ Lan ซัก2 อาทิตย์กับพวก Technician มา หุหุ ...
Windows XP ตัวที่ออกมาเป็น RTM ไม่เปิดเป็น default ครับ เพิ่งจะเปิดเป็น default ตอน SP1a ครับ
แปลกจังแผ่นที่ผมลงมันเปิดนะครับ
http://tomazzu.exteen.com
ผมว่า ถ้าไม่ซนจริง หรือไม่มั่นจริง ... ก็คงไม่ปิด Firewall กันหรอกครับ
พวกมือใหม่ส่วนใหญ่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะปิด Firewall ยังไง แถมถ้าปิดไปก็โดนจิกตลอดว่าให้เปิดซะ (จนน่ารำคาญ 55)
ส่วนตัวผมไม่เคยปิดนะ ถ้าไม่มีการลง Firewall เพิ่ม
ผมว่าที่ Windows โดนก็เพราะผู้ใช้เนี่ยหล่ะครับ เปิดมาให้ ก็ปิด พอปิด มันแจ้งให้หาตัวอื่นมาลง ก็บ่นรำคาญ แล้วหาทางปิด Security Center เฉยเลย - -"
The Phantom Thief
Apple ต้องเจ็บถึงจะจำสินะ หุหุ
{$user} was not an Imposter
อ่านแล้วคิดถึงประโยค ตำรวจเก่ง เพราะโจรเก่ง ก็เหมือนกัน Windows ปลอดภัย เพราะแฮกเกอร์เก่ง เมื่อฝ่ายนึงพัฒนาการโจมตี อีกฝ่ายก็ต้องพัฒนาการป้องกันสู้
เหน็บได้ใจมาก ฮา ไม่ค่อยสนใจเท่าไร เพราะไม่เคยโดนแฮก แต่แมคทำให้การจัดการง่ายขึ้นเยอะ ทำงานเร็วกว่ามากในยามที่ยุ่งๆ
สงสัยมานานแล้วครับไอ้ที่บอกว่า แมคทำให้การจัดการง่ายขึ้นเยอะ ทำงานเร็วกว่ามากในยามที่ยุ่งๆ นี่ยกตัวอย่างมาให้ดูได้ไหมครับว่ามันแตกต่างกับ windows ยังไงบ้าง
สำหรับผมมันก็เร็วกว่านะครับ ในแง่ของผมนะ
คิดว่ามันเป็นความเคยชินของผมเสียมากกว่า เลยทำให้การทำงานบน Mac มันเร็วกว่าทำบน Windows
สงสัยเหมือนกัน เคยเห็นเจ้านายเก่า ทำหน้าต่างหายไปใน ... เค้าเรียกไรนะ workspace เเหรอ คือหาไม่เจอ ไม่รู้ว่าอยู่หน้าจอไหนน่ะ เห็นแล้วก็ตลกดี
ส่วนเร็วจริงเร็วหลอกนี่ ผมว่าอยู่ที่ความเคยชินเป็นส่วนมากนะ ของมันเคยๆ กันอยู่ :)
เหมือนกันครับ เป็นบ่อย พอเปิดโปรแกรมเดียวนี้เลยไม่ค่อยเปิด full screen
Priesdelly Blog
อย่างน้อยผมก็ชอบ Expose ของแมคน่ะครับ มันแสดงหน้าต่างได้เคลียร์ ทำให้เลือกสลับหน้าต่างได้ง่ายกว่า Flip 3D ของวินโดวส์เยอะเลยครับ แล้วไอเดียของ Expose ที่ลากเคอร์เซอร์ไปมุมต่างๆ ของหน้าจอ แล้วให้ตั้งได้ว่า มุมนี้ลากไปแล้วจะให้เป็นการแสดงหน้าต่างทั้งหมด , Show Desktop, Dashboard ฯลฯ สำหรับผมเป็นอะไรที่สุดยอดมากครับ แม้ว่าคนใช้ Windows หลายๆคนมาใช้เครื่องผมแล้วจะบ่นกัน (เพราะมันเซนสิทีฟมาก) แต่ถ้าเริ่มชิน และมีนิสัยที่จะไม่ไปยุ่งกับมุมหน้าจอถ้าไม่ได้ใช้ ก็จะพบว่ามันสะดวกและง่ายมากทีเดียว แต่ก็ขึ้นอยู่กับนิสัยในการใช้งานของแต่ละคนนะครับ อย่างผมนี่จะใช้ทัชเเพดเป็นหลัก ไม่ค่อยยุ่งกับคีย์บอร์ด
เห็นด้วยครับ expose สุดยอดมากเลย สะดวกขึ้นมากเลย dashboard ก็่ซ่อนอยู่มุม แบบว่าไม่ต้องโชว์บน desktop
ให้รกตาด้วย
ผมเซ็ตไว้ที่เมาส์เลยอะ เร็วกว่ามาก อิอิ
แหะๆ ไม่ได้เป็น fanboy แต่ใช้ mac เพราะชอบ design ของมันน่ะครับ
ส่วนไวรัสนี่ปกติใช้ windows หรือ mac ก็ไม่ค่อยเจอ เพราะโหลดโปรแกรมจากเน็ตมาลงน่ะครับ 555 (ใช้ google apps + web apps อื่นๆก็โอเคละ)
บางคนที่ไม่มี โปรแกรม แอนตี้ทำได้อย่างไร พวกคุณเป็นเด็กนักเรียนหรือเปล่า
เพราะว่า ต้องเสียบแฟลตไดร์กับเครื่องที่โรงเรียนประจำ ถ้าไม่มีตัวแอนตี้ แล้วจะทำอย่างไรอ่ะ
ยังไง ใช้วินโดว์หนีอย่างไรก็ไม่พ้นไว้รัสหรอก นอกเสียจาก ว่าไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรกับเครื่องอื่นเลย ซึ่งเป็นไปได้ยาก
มากสำหรับ ยูเซอร์นักศึกษาทั่วไป
Windows 7 ไม่ autorun แฟลชไดรว์ให้นะครับ
แสดงว่าไม่เคยใช้ Windows 7 ;D
[ JIRAYU.INFO ]
ดูจากแนวคิด สงสัยเวลามีอะไรเตือนก็คงแต่ yes กับ ok
อย่างที่หลายๆคนบอกมันขึ้นอยู่กับพฤติกรรม (อ้างอิงกับ xp ผมใช้ทำงานก็ไม่ติดเหมือนคนโต๊ะข้างๆ)
xp ก็ปิด autorun 100% ได้ครับ
รู้สึกเพิ่งจะมาปิดได้ตอนแพทช์หลังๆนี่แหละ
[ JIRAYU.INFO ]
ใช่เลยครับ พึ่งได้จริงๆเมื่อตอนกุมภาที่ผ่านมา :)
ต่อให้ปิด Autorun ไม่ได้ ก็ใช้วิธีกด Shift ค้างไว้ได้ครับ มันจะไม่ Autorun ต่อมาให้เปิด Mycom พิมพ์บน Address bar แทนการดับเบิ้ลคลิกหรือคลิกขวาเลือก Open (คลิกขวาเลือก Open ก็ไม่ปลอดภัยนะเออ) สุดท้ายเปิดดู Hidden file และยกเลิก hide extension จะมีไฟล์ชื่อ autorun.inf อยู่ ลบซะ ไฟล์ไหนแอบอยู่แล้วไม่รู้จักลบซะ ไฟล์ไหนหน้าตาเหมือนโฟลเดอร์แต่ดูดีๆ ไม่ใช่โฟลเดอร์ มันเป็นไฟล์ ลบซะ ไฟล์ไหนมีชื่อเหมือนโฟลเดอร์ที่มันอยู่ นามสกุล exe ลบมันซะ ไฟล์ไหนไม่รู้จักแต่ไม่กล้าลบก็อย่าคลิก
แค่นี้ก็ปลอดภัยจากไวรัสจาก thumb drive แล้วครับ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
+1
เวลาผมลง os ให้ใครผมจะเปิด show file extension, show hidden, show os protected file ถ้าใครดันไปปิดแล้วทำติดไวรัสมา... ไม่รับแก้!
เคยใช้วิสต้าอ้ะป่าว
onedd.net
onedd.net
ผมว่าปกตินะครับที่ใครโฆษณาบอกดีนักดีหนา หรือดีกว่าคู่แข่งอย่างไร ก็ต้องมีคนอยากลอง
อย่างเรื่องปลอดภัย พวกแฮกเกอร์ก็คงอยากลองว่าจะปลอดภัยสมอ้างหรือเปล่า (ถ้าเกิดว่าไม่สมอ้างขึ้นมานี่ ฮาเลยนะนั่น)
เอาว่าถึง End User Mac มันก็ปลอดภัยกว่านั้นแหละครับ
เหมือน Benz BMW ทำกุญแจมาซับซ้อน computer ยุยยับ ก็ยังโดนขโมยกันอยู่
มีรถบุโรทั่งคันนึงแถวบ้าน เจ้าของจอดนอกบ้านทุกคืน กระจกก็ปิดไม่สนิท เอามือดันกระจกลง ต่อสายตรงก็ขับไปได้ละ ก็ยังเห็นอยู่มาเป็นปีๆ ไม่มีใครเอา
กรณีนี้ก็พูดถึง End user นี่ครับ เช่น Firewall และ Phishing
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
อ่านแล้วนึกถึงรถตัวเองแฮะ ถึงจะไม่บุโรทั่งก็เถอะ แต่ปีนี้ก็จะครบสิบขวบแล้ว ^^
เอากันขโมยออกมาสองปีแล้ว ก็ไม่เห็นมันจะหาย (เอาเข้าจริง ๆ ไม่เปิดกันขโมยมาตั้งแต่ได้รถมาแล้ว ก็สามสี่ปีที่แล้วโน่น)
ปล. ผมไม่ได้ท้านะครับ โจรทุกท่านอย่าขโมยรถผมนะ :-D
อย่าเผลอทิ้งคอมไว้ในรถ
ระวังจะโดนทุบรถ
Acting Reporter & My Elder Brother Blog
คอม (ใหม่) มีค่ามากกว่ารถ (บุโรทั่ง) :P
งั้น Mac ก็เปรียบได้กับรถบุโรทั่งนะซิ โหว่ขนาดนั้นแล้วยังไม่มีคนมาแฮ็ค
http://tomazzu.exteen.com
มีจุดอ่อนมาก หรือมีน้อยก็เหมือนกัน ถ้าผลออกมาเหมือนกัน
เราเป็นแค่คนใช้งานธรรมดา...
อีกเหตุผลคือมันแพง แฮกเกอร์เลยไม่ซื้อมาแฮก :P
osx86...
เบิ้ลซะงั้น - -"
Hacker ไปนิยาม เกี่ยวกับ Flash Drive ซะงั้น
สงสัย ต้องเข้าใจกันใหม่ว่า Windows XP ปัจจุบัน นั้น ตัดทิ้งไปได้เลย ใครใช้ Windows 7 ค่อยมาพูด
กันดีกว่า ผมใช้ 7 ตั้งแต่ หลัง Beta เลยด้วยซ้ำ ก็ ยังไม่ค่อยมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นมาเลย
Flash Drive Virus Flash Drive ที่ทำ Debug เพื่อตัวเอง Windows รัน เปิด Auto run
เลยทำให้ ข้อมูล ไหล เข้ามาได้ง่าย แล้ว Windows Virus ก็มีแสน มากมาย ที่รอ การ Auto run
อยู่แล้ว ก็เลย Run เข้ามาง่ายๆ
ซึ่งจริงๆ แล้ว Windows 7 + Vista ถ้าพูดถึงการ Hack ดักข้อมูล จากน้ำมาเป็นตัวนั้นยากกว่า Mac
ซึ่งจริงๆ Hacker พูดถูก ทั้งหมดครับ
70% ของโลก ใช้ OS ที่เรียกว่า Windows 30% ของโลกใช้ Mac
ถ้ามาพูดก็พูดเถอะ ทำไมคนต้องสร้าง Virus ไว้ใน Windows มากกว่า Mac
เพราะว่า Virus ที่ก่อกวน พวก Anti Virus ได้กำไลซิครับ ได้กินหลายๆ ทอด
คุณ จะไปขาย Anti Virus Mac ก็ได้จะครับ ก็ลองคิดดู เงิน
Windows ซึ่ง Virus บานตะไท ซึ่งคิดเป็น % ที่ผู้ใช้ต้องโดน ถึง เต็ม 65-90%
ส่วน Mac จะโดนก็แค่ 5-20% เอง
แล้ว Mac ใครจะมาซื้อ Anti Virus คุณล่ะ
นัก Hack ก็พูดถูกในเรื่องนี้ เพราะ Windows มัน Hack ยากเลยต้องจำเป็นแพร่ไวรัสให้มากๆ เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์ ในการ ทำงาน Hack ระบบ ไว้ก่อกวน ครับ
Mac ที่เค้าบอกไม่มีค่า เพราะมันง่าย แล้วอีกอย่าง ใครจะมาจ้างคุณ Hack Model กราฟิก ซึ่ง
ในปัจจุบัน คนทำงาน นั้นอยู่ในด้าน Souce code กันเยอะ คงไม่มีใครไป Hack Model กราฟิก หรอกครับ
คุณลองคิดดู Hack Windows พวกนัก Hack จะเป็นต้องตะเกียดตะกาย Hack กันเป็นอย่างมาก
OSX ที่ไม่ Hack เพราะรู้จุดอ่อน ของ Mac ก็เป็นที่รู้ๆ ในวงการอยู่แล้ว
Windows สร้างจากฐาน Souce code ที่ มีจำนวน มหาศาล จึงไม่แปลก ที่ Hack ยาก
เพราะคุณต้องจับจุด แถม กว่าจะทำได้ต้องหา วิธ๊และฝึกฝนใช้เวลานาน
Mac ซึ่งแต่ก่อน เคยไปซื้อ GUI ราคาแพงๆ มาใช้ ซึ่งฐานล่างๆ ก็โหว่ ง่ายอยู่แล้ว
Windows เขียนมาเอง จะโหว่ได้ ก็คนใน MS นั้นแหละครับ กับ Hack เทพๆ แต่มันต้องใช้เวลานานหน่อย
สุดท้าย ความลับอยู่ที่ อินเดีย ครับ