เรียกได้ว่าฝ่ายต่อต้านหลักการ "ความเป็นกลางในการใช้เครือข่าย" (Network Neutrality) นอกจากซีอีโอของเวอไรซอนออกมาต้านแล้ว ล่าสุดวุติสมาชิกจอห์น แมคเคนก็ออกมาต้านเช่นกัน โดยในวันเดียวกับที่ FCC ให้เริ่มต้นการพิจารณาและลงในรายละเอียดของหลักการดังกล่าว คุณแมคเคนก็ได้เปิดประเด็นด้านกฎหมายที่อาจห้ามไม่ให้ FCC ออกกฏหมายควบคุมอินเทอร์เน็ต
คุณแมคเคนได้มองว่าการให้ธุรกิจเป็นอิสระจากกฏระเบียบเป็นแนวทางที่ดีที่สุดในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันนี้ หากภาครัฐเข้าไปควบคุมอินเทอร์เน็ตก็จะทำให้ชะลอ(ต้นฉบับคำพูดของคุณแมคเคนใช้ "stifle") นวัตกรรมใหม่ๆ ส่งผลต่อความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและการจ้างงานของสหรัฐฯ เอง
นอกจากนั้นเขายังกล่าวเสริมว่าหลักการดังกล่าวจะช่วยเหลือผู้ให้บริการการสื่อสารไร้สาย ซึ่งเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ทำให้เครือข่ายของพวกเขารับส่งข้อมูลได้รวดเร็วแต่มีค่าใช้จ่ายต่ำเทียบกับประเทศอื่นๆ แต่ในขณะเดียวกับผู้ให้บริการโทรศัพท์และเครือข่ายที่ใช้สายกลับจะล้มหายตายจากไปเนื่องจากกฎระเบียบที่ยุ่งยากซับซ้อน ความต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมในการให้บริการระดับสากล และข้อจำกัดในการใช้งาน
ที่มา: eWeek
Comments
ถ้าเปลี่ยนคนต่อต้านจาก "จอห์น แมคเคน" เป็น "จอห์น แมคเคลน" คงมีอะไรสะใจกว่านี้ 55+
ทำไมเปลี่ยนแล้วจะสะใจกว่า? (อันนี้ผมแอบไม่รู้จริงๆ)
พระเอก Die Hard ครับ
แล้วเจ้าหนุ่มอัจฉริยะนักแฮกนั่นจะอยู่ฝั่งไหนน้อ...เอ๊ะ ลืมไป รู้กันอยู่แล้วนิ หุหุหุ
ล้อเล่นนะคร้าบบบบบ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
คนละฝั่งกับนายสุกี้ป่าวคับ
ฟ้าวววววววววววว.............
อ่านตอนแรกก็นึกถึง Bruce Willis
Yippee kai yay, m... ใครพูดชื่อแมคเคนๆ จะนึกถึงป๋าแมคเคลนก่อนตลอดเลย
ขำทุกที
แมว แมว แมว ถุงเท้า เมีย
แกคงจะบุกเข้าไปเอาเก้าอี้ทุ่มกลางที่ประชุมแน่เลย ชั้นจะหาแกให้เจอแล้วตื๊บแกซะ นั่นแหละแผนของชั้น
งั้นเปลี่ยนเป็น "จน แมคเคลม" ไปก่อน
ก็อย่างงี้ล่ะ พวก Conservative เอียงขวา คิดได้แค่นี้
@TonsTweetings
ถ้ามี Net Neutrality จริง ISP ก็ต้องลงทุนเพิ่มอีกเยอะ สุดท้ายก็ผู้บริโภคก็ได้ใช้ของแพงขึ้น
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ลงทุนเพิ่มตรงใหนอะครับ
Net Neutrality ก็แค้ห้ามไม่ให้ ISP กีดกันการไช้งาน internet (เช่น Block / Qos เวป) เท่านั้นเอง
ความเร็วในการเชื่อมต่อก็เหมือนเดิม
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
user ที่เล่นเว็บปกติก็จะโดนพวก p2p เบียดตกถนนหมดน่ะสิครับ
ผมเห็นด้วยที่สุดว่า QoS เป็นสิ่งจำเป็นครับ
มันจะกลับมาที่คำถามที่ว่า
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
http file, ftp file ที่คุณว่ามา ก็รวมอยุ่ในกลุ่มที่ควรจะโดน QoS ทั้งหมดนั่นแหละครับ
ตัวอย่างอาจจะเข้าใจยากหน่อย ... ปัญหาที่ถามคือ แล้ว user ที่ไช้บริการที่อยู่บน Qos ชั้นบน ไม่ดูดความเร็วuser ที่ไช้บริการที่อยู่บน Qos ชั้นล้างหรือ
ปัญหามีต่อครับ เช่น
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ลองนึกภาพ สมมุติเน็ต 1 Mbps มีผู้ใช้ 1 ล้านคน แปลว่าถ้าจะให้ทุกคนทำอะไรก็ได้ตามใตชอบ ต้องเตรียมท่อขนาด 1,000,000 Mbps เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งานทุกคนโดยไม่มีปัญหาเรื่อง p2p มาเบียด ssh อะไรเทือกๆนี้
ถ้าเป็นแบบนั้นทุกคนก้จะได้ใช้เน็ตในราคาเท่ากับ leased line
leased line นอกจากเรื่อง bw แล้วเพราะเป็นท่อแยกยังมีเรื่อง latency/ping time ความปลอดภัย และการไช้งานด้านอื่นๆ เช่นโทรฟรีไม่จำกัด
แต่เน็ตระดับ user ไม่ใด้มีท่อแยก และยังไงก็ไม่ต้องเตรียมท่อขนาด 100% เพราะไช้ proxy server โทรก็เสียตัง latency/ping time ก็ช้ากว่า
เรื่อง Qos มันมีปัญหาเรื่องธุรกิจแอบแผง (ถ้าจำไม่ผิด AT&T เคยขู่ google ว่าจะไช้ qos ถ้า google ไม่จ่ายเงินให้)
ปลายทางเรื่องนี้ก็น่าจะเป็นการยอมให้มี Qos ระดับหนึ่ง แต่ isp ไม่ไช้คนตั้งกติกา
เรื่องธุรกิจแอบๆ บ้านเรา isp เจ้าหนึ่งเคยทำ popup ที่ proxy server เมื่อ user เข้า google, มีอถือมี ad sms ทุกวัน แอบชึ่งๆหน้า ... เจริญ -*-
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ผมว่าผมเห็นด้วยกับคุณนะ ที่ว่า "น่าจะเป็นการยอมให้มี Qos ระดับหนึ่ง แต่ isp ไม่ไช้คนตั้งกติกา"
ถ้าเปิดหมด ไม่ block อะไรเลย คิดว่าคนใช้เน็ตปกติจะกระทบหรือเปล่าละครับ โดนบิต p2p ดูดไปหมด แล้วก็ต้องโดนร้องเรียนเรื่องความเร็ว สุดท้ายก็ต้องไปขยายเครือข่าย น่าจะเพิ่มขึ้นมากด้วย
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เห็นชื่อแล้วนึกถึง Die Hard ก่อนสิ่งอื่นใด ใครเป็นบ้าง lol~
ในออสเตรเลีย Net Neutrality ไม่เหลือแล้ว
ถ้าไม่ใช้เน็ตมหาลัย 69.99 ดอลลาร์เล่นเน็ตได้แค่ 80GB ทั้งเดือน แบ่งเป็น 40GB Peak-time กับ 40GB Off-peak อย่างกับมือถือยังงัยอย่างงั้น แต่เวลาเราเล่น PSN หรือ Xbox Live หรือเข้าเว็บ Yahoo 7 เขาจะไม่นับการจำนวน Bandwidth ที่ใช้งานไป นี่ล่ะครับ Net Neutrality ไม่เหลือแล้วจริง ๆ
@TonsTweetings
"O_o!
โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับ unlimit เท่าใหร่นะครับ เพราะไม่มี ISP รายไหนทำได้จริง โดยเฉพาะเมื่อโครงสร้างพื้นฐานมันเป็นแบบ sharing อย่างทุกวันนี้ ดังนั้นการจำกัด 80GB นี่ถ้าจำกัดแล้วทุกคนได้รับบริการที่ดีขึ้น ผมก็โอเคนะ
แต่เรื่องที่ว่าไปให้สิทธิพอเศษกับบางเว็บนี่ รับไม่ได้ครับ
lewcpe.com, @wasonliw
ถ้าได้เดือนละ 80GB แล้วใช้ไม่ถึง ควรจะมีชดเชยมั้ยครับ?
ผมว่ามันก็แบบเดียวกับซื้อ package โทรศัพท์อ่ะครับ ใช้ไม่หมดก็หายไป
ประเด็นสำคัญคือถ้าจำกัดปริมาณการใช้งานอย่างนี้แล้ว สิ่งที่ต้องแลกเปลี่ยนกลับมาคือความเร็วครับ
มันไม่มีทางที่ ISP จะสามารถให้ความเร็วทุกคนเต็มที่ตลอดเวลาได้ อย่าง 3Mbps นี่คนใช้สักแสนคนจะให้ซื้อ uplink 300Gbps คงไม่ใช่เรื่อง
แต่ถ้าบอกว่าดาวโหลดได้ 80GB ปรกติ 3Mbps จะได้ประมาณชั่วโมงละ 1GB ทาง ISP ควรแลกคืนด้วยการประกันความเร็วที่ดีขึ้น ขนาดของ uplink ควรมีความโปร่งใสว่า uplink รวมเท่าใด มี utilization มากน้อยแค่ไหน ได้จัดการให้เพียงพอแล้วหรือยัง
ไม่ใช่มาโฆษณาความเร็ว local แบบไม่ลืมหูลืมตาแบบนี้
lewcpe.com, @wasonliw
ถ้าแลกความเร็ว กับมี limit ผมว่าก็น่าสนใจนะ...
ปล. ตอนนี้ที่ไหนซักที่ไม่แน่ใจว่าหมู่บ้านหรือคอนโด(หรู)
มีเน็ต VDSL จากทรู 30Mbps
+1 ยอมแลก แถวบ้านผมใกล้ร้านเกมส์ กลายเป็นเต่าไปเลยทีเดียว
อ่อ ผมต่อต้านการทำ QoS ครับ ถ้าผมซื้อสิทธิ์ 80GB แล้ว ผมจะใช้อะไรควรเป็นเรื่องของผม
ไม่ใช่ว่า ISP ไปทำสัญญากับ Skype แล้วลดความเร็ว GTalk อะไรอย่างนั้น
lewcpe.com, @wasonliw
เห็นด้วย ถ้าจำกัด file transfer ก็ไม่ควรจำกัดอย่างอื่น
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
แต่ถ้าไม่จำกัด Data Transfer ผมว่าก็ควรทำ QoS นะ
เห็นด้วย ถ้าไม่จำกัด Data Transfer ก็ควรทำ QoS
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมไม่ค่อยเชื่อใน QoS เท่าใหร่น่ะ สุดท้ายแล้วมันจะทำให้เกิดการ tunneling จนจับไม่ได้อยู่ดี
lewcpe.com, @wasonliw
จริงๆ ผมว่า QoS บางอย่างก็มีประโยชน์หรือเปล่า เช่น SSH, DNS, VoIP ควรได้ priority มากกว่า Bulk HTTP
iPAtS
แต่ถ้า SSH ได้ อะไรก็ทำได้เพราะต่อผ่านท่อ
SSH over HTTPS ก็ได้นะ แล้วค่อยทำ SSH Tunneling อีกที
QoS นี่ไม่ทนทานต่อการใช้งานแบบคนหมู่มากหรอกครับ
lewcpe.com, @wasonliw
แต่ปลายท่อมันก็กลายเป็นของเดิมอยู่ดีหนิ ยกเว้นแต่ SSH เข้า HTTP Server เลย อะไรแบบนั้น
แต่จริงๆ เห็นว่ายังไงพวก small package (เช่น SSH ที่ไม่ได้สร้างท่อมาทำอะไร, DNS) มันก็ควรจะ priority สูงกว่า bulk อยู่ดี อะไรที่ไม่ได้ต้องการ latency ต่ำแบบเป็นตายก็ flag ไว้ แล้วแทนที่จะวิ่งผ่าน cable ก็ยิงไปดาวเทียม อะไรแบบนั้นก็พอมีประโยชน์อยู่นี่หน่า สมัยก่อนยังเห็นมีคนพูดว่าใช้ดาวเทียม LEO แบบ store and forward รับส่งอีเมล์อยู่เลย
iPAtS
ถ้า bw มันเกินวิสัย ssh ปกติ ก็โดนเชือดอยู่ดี
คุณแมคเคนได้มองว่าการให้ธุรกิจเป็นอิสระจากกฏระเบียบเป็นแนวทางที่ดีที่สุด ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันนี้ หากภาครัฐเข้าไปควบคุมอินเทอร์เน็ตก็จะทำให้ชะลอ(ต้นฉบับคำพูดของคุณแมคเคน ใช้ "stifle") นวัตกรรมใหม่ๆ ส่งผลต่อความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและการจ้างงานของสหรัฐฯ เอง
ความวุ่นวายเรื่อง 3G ของไทย เข้าข่ายนี้หรือเปล่า?
+1
แต่ในขณะเดียว"กับ"ผู้ให้บริการโทรศัพท์
ตอนนี้ผมอ่านแล้วเ้ข้าใจว่า คนที่สนับสนุน Net Neutrality คือคนที่ยังคิดไม่ออกว่าจะจัดการกับการให้สิทธิ์พิเศษเฉพาะบาง Web อย่างไร แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้อาจจะมี Model ทางธุรกิจซ่อนเร้นแอบแฝงอยู่
ทำให้ผมอนุมานว่าถ้าหากปัญหานี้มีวิธีการป้องกันหรือการจัดการที่เหมาะสม ฝ่ายที่สนับสนุนก็จะหมดข้อโต้แย้งแล้วหรือไม่
ผมว่าบางทีการจำกัดปริมาณ Data ก็เป็นเรื่องที่ดีนะ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความเร็วที่รับได้ด้วยเช่นกัน
ส่วนตัวแล้วผมไม่สนับสนุน Net Neutrality ในกรณีที่เป็น Unlimited แต่ถ้าเป็นแบบจำกัด Data แล้วก็สมควรมี Net Neutrality
That is the way things are.
ยังดีที่เมืองไทยไม่ค่อยมีแบบคิดเป็น Data Transfer นะครับเห็นแต่ไม่จำกัด
*ที่ออฟซี่ค่าเน็ตแพงจริง ๆ นั่นละ จำนวนก็น้อยแถมช้าอีกต่างหาก
ผมอยากได้เน็ตที่จำกัด Data Transfer แต่ขอให้นิ่งๆหน่อย