Fede Alvarez ผู้กำกับหนังสั้นชาวอุรุกวัย ได้โพสต์หนังความยาว 4:48 นาทีลงใน YouTube โดยหนังมีชื่อว่า "Ataque de Panico!" (ชื่อภาษาอังกฤษคือ Panic Attack!) มีเนื้อหาเกี่ยวกับหุ่นยนต์ต่างดาวบุกถล่ม Montevideo เมืองหลวงของประเทศอุรุกวัย
หนังเรื่องนี้ใช้ทุนสร้างเพียง 300 ดอลลาร์ (10,000 บาท) แต่โปรดักชันอลังการมาก และมีคนดูบน YouTube ไปแล้วว่า 1.6 ล้านครั้ง
Alvarez โพสต์วิดีโอนี้เมื่อวันพฤหัสที่แล้ว และวันจันทร์ถัดมา เขาก็ได้รับข้อเสนอจากสตูดิโอฮอลลีวู้ดจำนวนมาก ในที่สุดเขาตัดสินใจรับข้อเสนอให้สร้างหนังไซไฟเรื่องใหม่ ทุนสร้าง 30 ล้านดอลลาร์ และสปอนเซอร์โดย Sam Raimi ผู้กำกับสไปเดอร์แมน
Alvarez บอกว่า ในเมื่อผู้กำกับต่างชาติอย่างเขาสามารถเกิดได้แค่เพียงอัพโหลดวิดีโอลง YouTube ผู้กำกับสมัครเล่นคนอื่นๆ ก็มีสิทธิ์ทำแบบนี้ได้เหมือนกัน เอ้า ผู้กำกับไทย สู้เค้า (วิดีโอด้านใน)
ที่มา - BBC
Comments
More detail from JEDIYUTH.COM
http://www.jediyuth.com/index.php?option=content&task=view&id=4415
โอ้...สุดยอดอะ
[หลังจากนี้ YouTube อัตตราการอัพโหลด + 200%]
เหอๆ
เจ๋งกว่า transmorpher อีกนะเนี่ย
ไม่น่าเชื่อว่ามีคนดูจริงๆ
มันชื่อ ทรานส์มอเฟียส ป่ะครับ
http://www.youtube.com/watch?v=bK_JdmYAj8M&feature=related
เป็นข่าวที่หัวข้อข่าวเคลียส์ที่สุดของปีเลยครับ รวดเดียวเข้าใจหมด ฮาๆ ;)
my blog
300 $ คงเป็นไปไม่ได้อ่ะ ค่า software ละ
อลังการซะ
เอ่อ เวลาคำนวณต้นทุนสินค้า มีใครเอาค่าโรงงานทั้งหลังไปบวกในสินค้าหนึ่งชิ้นหรือเปล่าล่ะครับ?
555 ชอบ
ผมว่าพี่แกคงมีอยู่ครบแล้ว แต่จ่าย 300us เป็นค่าที่ใช้ในการทำหนังเรื่องนี้มากกว่า
แต่ว่า cg เค้า ดีกว่าหนังไทยตั้งหลายเรื่องนะ แม้จะดูลอยๆ แต่ก็ไม่ได้ลอยเว่อ
แต่ที่เค้าเจ๋งจริงๆ เลยคือ แสงกับมุมกล้องมันอารมณ์ฮอลลีวู้ดเลย
ไม่เชื่อว่า ทุนสร้างเพียง 300 ดอลลาร์
(อย่ามา นาธาน... ขอร้อง)
+1 300 ดอลลาร์ ยังจ่ายเงินเลี้ยงข้าวให้คนที่มาวิ่ง ให้แกถ่ายไม่พอเลย
แต่เค้าฝีมือดีจริงๆนะ
สงสัยไม่นับค่าซอฟท์แวร์กับเครื่องที่ใช้ตัดต่อ เรนเดอร์ เอ๊ะ หรือว่าใช้ OpenSource!!!!
ถึงจะซื้อเครื่องใหม่ ซอฟต์แวร์ใหม่ แต่เวลาคิด มันก็ต้องหักคิดแค่ส่วนเดียวนะครับ ไม่ใช่เอาทั้งหมดมาใส่เป็นต้นทุนหนังเรื่องเดียว
ไม่ต้องเอาเรื่องค่า software มาคิด
ไม่ต้องเอาเรื่องค่าแรงคนมาคิด (สมมติเป็นเด็กมหาวิทยาลัย ใช้แรงงานฟรีหมด)
ให้เก่ง 3D โคตรๆ
ให้เงินเพิ่มเป็น 10 เท่าเป็น $3,000 (100,000 บาท)
ยังนึกไม่ออกเลยว่ามันจะทำได้เท่านี้จริงๆ เหรอ
+1 ครับ
มันเป็นการตลาดครับ และมันได้ผล
สุดยอดครับ ทำเป็นโปรเจคจบได้เลยนะนั่น
อยากดูเรื่องเต็มๆ - -" 4 นาทีเอง เครียดนะนี่มายั่วกันได้
ทุนสร้าง 300 ดอล คือที่ควักออกเองมั้ง
ส่วนที่เหลือ หาสปอนเซอร์เอา ฮาๆ
จะไปสนใจอะไรกับไอ้ 300 ดอลล่า กันนักหนา ถ้าหนังดีก็ดูไปเถิด ไม่ดีก็ไม่ต้องดู จะจริงหรืออย่างไร เขาก็ไปกำกับหนังฮอลลีวูดแล้วละครับ
เอาเพลงจากเรื่อง 28 days later มาใช้เข้ากั๊น เข้ากัน
เค้าคงไม่คิดค่าแรงตัวเอง
ผมว่าเพลงมันไม่เข้า กับหนังเลยนะคับ
โม้ป่าวอ่ะ แสนเดียว ผมขอไม่เชื่อแล้วกันครับ.. (ไม่มีเหตุผลครับ :P)
WE ARE THE 99%
300 us$ จ้างตัวประกอบเยอะแยะขนาดนั้นได้ไงครับ ?
ต่อให้ในอุรุกวัยก็เถอะ ไม่มีทาง
Sam Raimi ตาแหลมมาก ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ CG ดีแค่ไหน แต่เป็นมุมมองในภาพรวมของเขามากกว่า ที่สามารถดึงความสนใจของคนได้ ถ้าได้ทีมงานเก่งๆ ทำ CG ผมว่าเราอาจเห็นผู้กำกับหนัง sci-fi 100 ล้านดอลลาร์หน้าใหม่ก็ได้
อาจเป็น Trend ใหม่ก็ได้นะ เหมือนกับประกวดร้องเพลง สร้างกระแส แล้วรีบปั่นอัลบั้มออกมารองรับกระแส อาจมีทำ Reality สร้างหนังสั้น Post บน Youtube หาผู้ชนะ แล้วก็สร้างเป็นหนังจริงออกมารับกระแสซะงั้น
300 ดอลลาร์ คูณด้วยอัตตราเงิน อุรุกวัย(x20) ก็ประมาณ 60000 อุรุกวัยเปโซ(UYU)
ผมว่าเป็นไปได้น่ะครับ หนัง District 9 ยังลงทุนต่ำเลย
เด็กคนแรกเลี้ยงขนมนิดหน่อยก็ได้แล้ว คนประกอบฉากดูแล้วก็ไม่เยอะอย่างที่คิด (ลองนับแบบคนแสดงไม่เล่นซ้ำในฉากรวมแล้วไม่ถึง 100 ยกเว้นฉากหนีวินาที่ที่ 2.27 นับไม่ทันแต่ก็คงไม่เกิน 100 คนเพราะแต่ล่ะฉากมีคนเล่นซ้ำ) ขอมาช่วยทำหรือจ้างนิดหน่อยผมว่าได้น่ะ
ซอฟแวร์ก็มีแล้ว กล้องถ่ายก็มีแล้ว คุณภาพกล้องก็ไม่ใช่จะดีซะหน่อย อุปกรณ์ประกอบฉากก็แค่สถานที่ที่อุรุกวัย นอกนั้นก็เป็น CG ที่เขาทำเอง คิดเอง สร้างสรรค์เอง ยังต้องลงทุนอะไรอีกหรือครับ
มุมกล้องดูดี สีภาพได้อารมณ์ เสียงไม่เด่นหนัก แต่ก็มีไอเดียในการทำงาน :)
ส่วนตัวผมแล้วชอบมากเลยครับ รอดูผลงาน คนที่มาติดต่อผมว่าแค่ดูมุมมองการทำการคิดหนังแค่นั้นแหละ ไม่ได้สนใจหรอกว่าทำเท่าไหร เพราะยังไงทางนั้นก็ทุ่มทุนได้ถ้ามีไอเดียใหม่ฝีมือดีๆ ทำ
ปล. Autobot ตื่นๆ รีบมาช่วยโลกเร็วๆ ครับ
ปล. ผมก็แค่นักวิแคระห์ไปเรื่อยๆ ต้องรอฟัง @adammy มาวิเคราะห์ว่าจะเป็นไปได้ไหม
ใน Youtube ผมชอบ Escape from city 7 สุดละ
นึกถึงนาธานขึ้นมาทันที
มุมกล้องไม่ธรรมดาจริงๆ CG ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
แล้วเค้าทำยังไงถึงมีคนร่วมแสดงได้มากขนาดนี้
เรื่องต้นทุน $300 หรือเปล่า ผมว่าถ้าทำ CG ได้ขนาดนี้ ถ้าจะทำ CG ให้ฉากที่มีคนวิ่งไปวิ่งมาเยอะๆ คงไม่เกินความสามารถมั้งครับ อันนี้เขาคงไม่ได้คิดต้นทุนค่าแรงการทำ CG ซึ่งอาจจะทำเอง หรือเพื่อนทำให้ก็ได้ครับ ถ้าเป็น Production จริงๆ ต้นทุนตรงนี้คงสูงมาก
แต่ประเด็นคือการที่เขาสามารถบริหารจัดการให้งานออกมาดูดี จากทรัพยากรที่มีอยู่มากกว่าครับ และมุมมอง ไอเดียในการสร้างงาน