ผมคิดว่าผู้อ่าน Blognone มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องแอพพลิเคชันบนมือถือเป็นอย่างดี แอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนนี่คงไม่ต้องพูดถึง (เพราะเราโหมข่าวกันอยู่ทุกวัน: P) แต่จริงๆ แล้ว แอพพลิเคชันบนมือถือนั้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยของ feature phone โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเกม Java ME ทั้งหลาย ผมเชื่อว่าสมัยก่อนมีหลายๆ คนซื้อมือถือเพราะมันรัน Java ME ได้แล้วมันรู้สึกดี (ทั้งๆ ที่จริงๆ ก็ไม่ค่อยได้ใช้กันเท่าไร) อย่างน้อยผมก็คนนึงละ
คำว่า "แอพพลิเคชันบนมือถือ" หรือ mobile application เกิดขึ้นมาได้นานพอสมควรแล้ว เพียงแต่มันไม่บูมเมื่อเทียบกับสมัยนี้ เป็นเพราะปัจจัยด้านเทคโนโลยีหลายอย่าง เช่น มือถือยังมีความสามารถต่ำ ซีพียูประมวลผลช้า ไม่มีการ์ดจอแยก (อย่าทำเป็นเล่นไปใน เดี๋ยวนี้มือถือประมวลผล OpenGL ES กันได้แล้ว) วิธีการป้อนข้อมูลยังลำบาก ต้องอิงกับปุ่ม numpad เสียมาก นอกจากปัจจัยด้านเทคโนโลยีแล้วยังมีเรื่องการตอบรับของตลาด ผมเชื่อว่าสมัยที่ผมเล่น Tomb Raider เวอร์ชัน J2ME ยังไม่ค่อยมีใครนึกภาพของการดาวน์โหลดโปรแกรมผ่าน GPRS/EDGE ออกสักเท่าไร ในขณะที่สมัยนี้แพกเกจ BB Chat พร้อมอินเทอร์เน็ตขายกันที่ 300-600 เท่านั้น
เมื่อสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ถือกำเนิดขึ้น ซีพียูเริ่มแรง จอสัมผัส บริการ non-voice กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดา เดินไปแถวไหนในกรุงเทพก็เจอ Wi-Fi Hotspot เต็มไปหมด ฯลฯ ทำให้การสร้าง App Store ไม่ลำบากมากเหมือนเดิม แนวคิดการดาวน์โหลดโปรแกรมผ่านเน็ตบนมือถือจึงเกิดขึ้นได้จริง และเมื่อแอปเปิลทำสำเร็จ จึงสร้างกระแสทำให้มันกลายเป็นฟีเจอร์มาตรฐานของสมาร์ทโฟนแทบทุกค่ายไปในที่สุด
แต่ "สมาร์ทโฟน" ไม่เท่ากับ "มือถือ" นะครับ ตัวเลขล่าสุดที่ผมมีเป็นของ IDC ยอดขายมือถือรวมทั้งโลกในไตรมาสสุดท้ายของปี 2009 อยู่ที่ 325.3 ล้านเครื่อง (ที่มา) ในนี้มีสมาร์ทโฟนอยู่แค่ 54.5 ล้านเครื่องเท่านั้น (ที่มา) ถ้าคิดเป็นสัดส่วนก็แค่ 16.75%
ลองมองไปรอบๆ ตัว ถ้ามองให้เลยผ่าน iPhone, BlackBerry, Android ฯลฯ เราจะเห็นมือถือแบบเดิมที่สามารถรัน Java ME ได้อยู่เต็มไปหมด คำถามคือ เจ้าของมือถือเหล่านี้ต้องการใช้แอพพลิเคชันในลักษณะเดียวกับสมาร์ทโฟนหรือไม่ คำตอบคือ แน่นอน
จริงๆ แล้วแอพพลิเคชันบน Feature phone มันก็ไปของมันได้อยู่เรื่อยๆ นะครับ เพียงแค่ไม่หวือหวามากเท่านั้น แต่ในยุคสมัยที่ data package เริ่มไม่ใช่ของแพงระยับ การสร้าง App Store สำหรับมือถือแบบ feature phone ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร และเราก็เห็นโอเปอเรเตอร์หลายๆ เจ้าเริ่มทำกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโอเปอเรเตอร์ในประเทศหรือต่างประเทศก็ตาม
App Store ที่เอามาแนะนำคราวนี้เป็นของ AIS ครับ ตามตัวเลขที่ทาง AIS บอกมาคือมีโปรแกรมกว่า 10,000 ตัว ซึ่งถือว่าไม่น้อย การใช้งานต้องเข้าทาง WAP ที่ wap.mobilelife.co.th อีกวิธีคือกด *900 แล้วโทรออก ก็จะได้ SMS ที่มี URL ข้างต้น
เนื่องจากว่ามันเป็น WAP และผมเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟนแล้ว เข้า WAP ไม่ได้ T_T ผมเลยต้องกลับไปขุด K750i เพื่อนยากกลับมาใช้ทดสอบอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ผมนึกวิธีการจับภาพหน้าจอจาก K750i ที่ดีกว่าถ่ายรูปไม่ได้ (และผมขี้เกียจถ่าย :P) ดังนั้นขอใช้ภาพประกอบที่ AIS เตรียมไว้ให้แทนละกันครับ
โปรแกรมที่มีใน AIS App Store มีทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน ส่วนมากเป็นเกม Java ME แต่ก็มี Symbian ด้วย (ผมเข้าใจว่าไม่มี BREW แล้วมั้ง) โปรแกรมที่ AIS แนะนำมามี 4 ตัว
เพื่อไม่ให้เสียชื่อ Blognone เราตามไปหาโปรแกรมที่น่าสนใจมาเพิ่มอีกหน่อย
Sponsored Content
Comments
ปกติ wapsite มันเข้าทา wsp:// ได้ครับ แต่ต้องเข้าทาง GPRS (ในกรณีนี้คงได้เฉพาะ AIS MobileNet ผมเข้าผ่าน DTAC Internet ก็ไปโผล่ที่ Dtac Wap Portal ฮ่าๆ)
ความรู้ใหม่เลยนะครับเนี่ย ขอบคุณครับ บน Truemove พอเปิด URL จาก wsp:// ด้วย WM6 แล้ว มันก็ต่อ True GPRS WAP ให้เองเลยด้วย (ทั้งๆ ที่ True GPRS Inet ก็ต่ออยู่แล้ว)
หมายถึงเจ้าของมือถือ "เหล่านี้" หรือเปล่าอ่ะครับ อ่านแล้วแปลกๆ
แก้แล้วครับ
มี JibJib ด้วยมั้ยครับ เหอะๆ
กำลังจะถามเลย
Sponsored Content หมายถึงจ่ายเงินเพื่อลงเนื้ัอหาใน blognone ใช่ไหมครับ?
ครับ
lewcpe.com, @wasonliw
wap ...
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ถ้าจำไม่ผิด ผมหามีโหลด mp3 cutter ด้วยนะ แต่งงๆ ว่าทำไงให้เป็นตัวเต็ม ลงทะเบียนไม่ได้ = =a
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB