จากผลการประกาศของ TOP500 ครั้งล่าสุด [ข่าวเก่า] ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยมอสโกในนามว่า "โลโมโนซอฟ" (Lomonosov) คว้าอันดับที่ 12 ของโลกไปครอง เบื้องหลังของความสำเร็จนี้ มาจากขุมพลังการประมวลผลถึง 350 เทราฟลอป และสำหรับก้าวต่อไปของมหาวิทยาลัยมอสโกก็คือ การอัพเกรดระบบโลโมโนซอฟ เพื่อให้ได้ขุมพลังใหม่ที่คำนวณได้ในระดับเพตาฟลอป (หรือ 1,000 เทราฟลอป) ที่ผ่านมานั้น โลโมโนซอฟถูกนำไปใช้ในงานวิจัยมากมาย อาทิเช่น งานวิจัยโรคมะเร็ง งานพยากรณ์อากาศ จวบจนกระทั่งงานวิจัยด้านการเข้ารหัส-ถอดรหัสข้อมูล เป็นต้น

การสร้างระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์พลังเพตาฟลอปสักเครื่องจำเป็นต้องใช้งบประมาณมหาศาล จวบจนปัจจุบันนี้ มหาวิทยาลัยมอสโกใช้งบไปแล้ว 12 ล้านเหรียญสหรัฐในการพัฒนาระบบของโลโมโนซอฟ แต่หากจะก้าวไปสู่ขุมพลังเพตาฟลอปให้ได้นั้น ทางมหาวิทยาลัยต้องใช้งบอีก 31 ล้านเหรียญในการอัพเกรดฮาร์ดแวร์เลยทีเดียว (ยังไม่รวมค่าไฟและค่าบำรุงรักษาอื่นๆ) ซึ่งคิดเป็น 65 ล้านเหรียญสำหรับงบประมาณรวมทั้งหมดที่ทุ่มให้กับโครงการนี้ โดยขณะนี้ มหาวิทยาลัยกำลังจะของบประมาณดังกล่าวจากรัฐบาลกลางรัสเซีย

ปัจจุบัน ซูเปอร์คอมพิวเตอร์โลโมโนซอฟเลือกใช้สถาปัตยกรรมโปรเซสเซอร์ Xeon รุ่น X5570 แต่การอัพเกรดระบบด้วยการเพิ่มจำนวนโปรเซสเซอร์ Xeon รุ่นใหม่คือ X5670 เพียงอย่างเดียวจำเป็นต้องเพิ่มจำนวนเซิร์ฟเวอร์จำนวนมากเข้าไปด้วย ผลที่ตามมาคือ ค่าบำรุงรักษาและค่าไฟต้องเพิ่มขึ้น แต่ทว่า ประสิทธิภาพการประมวลผลจะได้เพิ่มขึ้นมาเพียง 40% ต่อเซิร์ฟเวอร์หนึ่งเครื่อง (เทียบกับเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ในปัจจุบัน) ดังนั้น ทางทีมพัฒนาจึงศึกษาแนวโน้มของการนำโปรเซสเซอร์ NVIDIA Fermi GPU เข้ามาใช้ในการอัพเกรดระบบ ซึ่งคาดว่าจะสามารถได้พลังเพตาฟลอปด้วยจำนวนฮาร์ดแวร์ที่น้อยกว่า โดยเซิร์ฟเวอร์ตระกูล Xeon X5670 หนึ่งเครื่องให้พลังประมวลผลประมาณ 250 กิกะฟลอป แต่เป็นไปได้ว่าเซิร์ฟเวอร์ตระกูล Fermi หนึ่งเครื่องสามารถให้พลังประมวลผลได้มากกว่า 2 เทราฟลอปเลยทีเดียว ส่วนความคิดเห็นส่วนตัวของผม ผมมองว่าการพัฒนาซอฟท์แวร์เพื่อทำงานให้ได้ประสิทธิภาพสูงบน GPU เป็นปัญหาที่ท้าทายและถือว่ามีต้นทุนสูงพอสมควรในแง่การเรียนรู้และการเปลี่ยนแปลงไปใช้แพลตฟอร์มใหม่

สิ่งที่น่าสนใจจากข่าวนี้คือ รัฐบาลรัสเซียให้ความสำคัญกับการพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์มากพอสมควร อย่างเช่นเมื่อต้นเดือนนี้ นายกรัฐมนตรีของรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ได้จัดสรรงบประมาณ 37 ล้านเหรียญสำหรับพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์ โดยรัสเซียได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะขอชิงแชมป์ 5 อันดับแรกในการจัดอันดับของ TOP500 ครั้งต่อไปด้วย

ที่มา - HPCwire