เมื่อก่อนการใช้ sequencer สำหรับควบคุม MIDI อุปกรณ์ควบคุมมักจะมีแป้นควบคุมในการใช้งานที่มีอยู่อย่างจำกัด แต่ถ้าหากว่าเราไม่ได้ตั้งใจที่จะซื้อมาทำงานเป็นล่ำเป็นสันหรือต้องการฟังก์ชันมากกว่านั้นล่ะ ง่ายมากครับ ถ้าใครมี iPad และ Mac อยู่ในมือก็สามารถใช้งานได้ไม่ต่างกับอุปกรณ์ที่สร้างมาโดยเฉพาะเลย เป็น Multi-touch Midi Controller ที่ iPad นั้นเชื่อมต่อเข้าผ่าน WiFi เข้ากับตัวเครื่อง Mac เพียงแค่โปรแกรมเข้ากับ sequencer ของ iPad ว่าจะให้เล่นเสียงอะไร แล้วเวลาที่ใช้งานโปรแกรมที่ติดตั้งบน Mac แล้วจะผสมเสียง MIDI ออกมาให้ เพียงเท่านี้ก็สามารถเป็นดีเจได้แล้ว ถ้าคิดว่าตัวเดียวไม่พอใช้ก็สามารถเพิ่ม iPad ได้ ส่วนราคาของ midipad ยังไม่ระบุออกมาอย่างเป็นทางการ (ดูตัวอย่างการสาธิตได้หลัง break ครับ)
ที่มา : Cult of Mac, midipad (ผู้ผลิต)
midiPad in action from kai on Vimeo.
Comments
ใช้คำว่า ReMix ฟังดูแปลก ๆ
ผมว่าถ้าเป็น Rearrange ก็ยังอาจจะดูเข้าที แต่ก็อีกน่ะล่ะครับ ความหมายของสองคำนี้มันคือการเอาสิ่งที่มีอยู่แล้วมาทำใหม่
จะบอกว่า Mix ก็ไม่ใช่ เพราะ Sequencer ไม่ได้ทำหน้าที่ Mix เสียง ...
สรุป ผมคิดว่า มันคือ Midi Controller Software ตัวนึงที่ทำงานบน iPad ครับ !! ... ทำหน้าที่ส่งคำสั่ง Midi เข้ากับโปรแกรมที่รองรับ (เช่น Music Workstaion อย่างข้างบนก็น่าจะเป็น Apple Logic มั้ง มองไม่เห็น+ไม่เคยใช้ตัวนี้) ครับ ก็ดูเข้าท่าดีแต่ไม่ได้แปลกใหม่อะไร
จะว่ารีโมทเข้าไปสั่งก็ว่าใช่อีก ไม่รู้จะเรียกมันว่ายังไงดี
ผมเองเคยเขียนโปรแกรมสั่ง MIDI (Java) แทบจะงงจนได้โล่ละ ใช้งานตัวแปรเป็นแค่ไม่กี่ตัว instruments, synthesizer, midi ส่วนตัวอื่นนี่ไม่เข้าใจคอนเซ็ปต์เลยจริงๆ ให้ตายเถอะ
บรรทัดที่มาติดกับย่อหน้าแรก ช่วยขึ้นบรรทัดใหม่ (กด ENTER) ด้วยครับ
ส่วนคำว่า Remix ในข่าวนั้น ช่วยแก้ตามคุณ mr_tawan ด้วยครับ (ในเว็บผู้ผลิตระบุเป็น Multi-touch Midi Controller ครับ)
แก้ไขแล้วครับ (ลืมบอก -*-)
ผมก็รอซื้อเพราะเหตุผลนี้แหล่ะ สู้ราคา Lemur ไม่ไหว
ซื้อชัวร์คับ น่าสนใจมาก โปรแกรมพวกนี้กับ iPhone ผมว่าเฉยๆ แต่พอมาเป็น iPad นี่ใช้งานจริงได้แน่นอน รวมถึง midi control surface ด้วย :D
positivity
นี้เขาเรียกพลังของ app ไหมน่อ