ปัจจุบันแอปเปิลถือเป็นผู้นำกลายๆ ของตลาดสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ทุกคนต้องการโค่น รวมถึงแอปเปิลมีพฤติกรรมไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับคนอื่นมากนัก ดังนั้นเมื่อพลาดแบบกรณี iPhone 4 สัญญาณหด ค่ายอื่นก็ไม่เสียเวลา ตามมาถล่มซ้ำทันที
โนเกีย ผู้ผลิตมือถืออันดับหนึ่งของโลก เขียนลงบล็อกอย่างเป็นทางการของบริษัท Nokia Conversations ถามผู้ใช้โนเกียว่า "คุณจับมือถือของคุณอย่างไร" พร้อมนำเสนอท่าจับมือถือ 4 ท่าซึ่งมีชื่อเรียกต่างกันไป (ท่าสุดท้ายสุดฮา จับขอบทั้งสี่ด้าน Four Edge Grip)
โนเกียปิดท้ายบล็อกว่าไม่ว่าจะจับท่าไหน มือถือของโนเกียไม่มีปัญหาสัญญาณหดหาย และฟีเจอร์สำคัญของมือถือโนเกียคือ "มันโทรออกได้" ดังนั้นเราถึงเรียกมันว่า "โทรศัพท์"
ที่มา - Nokia Conversations
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
:)
อืม โทรศัพท์ ยังคง ต้องเป็น โทรศัพท์ ให้ได้ก่อนสินะ
Want dumb phone, Buy Nokia!
แสดงว่าผู้ใช้มือถือ 35% ในโลกนี้ โง่?
dumb phone ไม่ใช่ dumb user นี่ครับ บางคนก็อยากใช้โทรศัพท์แค่โทรออก รับสาย คนมีตังค์หลายคนใช้โทรศัพท์ธรรมดาๆ ก็มี
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมว่า nokia ก็ไม่ได้เลวร้ายนะครับ 6630 ผมใช้มา 5 ปีกว่าได้ละ โทรเข้าโทรออกดีกว่า Milestone เครื่องใหม่อีก T-T ทำใจทิ้งเครื่องเก่าไม่ลงเลย
แปลว่ามือถือทุกเครื่องของโนเกีย เป็น dumb phone?
น่าจะแปลว่า โนเกียทำ dumb phone ได้ดี
Smart Phone ของ Nokia ปัจจุบันด้อยกว่าเจ้าอื่น (โดยเฉพาะ OS) และคนที่ซื้อ Nokia เพราะหวังความเป็น Smart phone ผมเห็นน้อยนะครับ ดังนั้นผมจึงเห็นด้วยกับด้านบนที่บอกว่า dumb phone buy nokia (คือซื้อสำหรับใช้งานทั่วไป เพราะตรงนี้ Nokia ทำได้ดี) แต่ความเป็น smart phone ของ nokia ยังทำได้ไม่ดี
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
มันเป็นความเห็นที่ดูถูกแฟนๆ Symbian แถวนี้ไปหน่อยหรือเปล่าครับ? ผมไม่เคยใช้ Symbian ต้องขอให้แฟนๆ มาตอบแล้วกัน
ไหนๆ ถามแล้วขอถามอีกข้อ smart phone เจ้าไหนดีครับ?
ผมเห็นจากหลายๆ ข่าวและความเห็นนะครับ หลายคนก็ยอมรับว่า Symbian ปัจจุบันสู้พวก iOS, Android ไม่ได้ แม้แต่ใน Ask Blognone: Are you Symbian หลายๆ คนก็ยังอยากปันใจไป Android หรือรอ Symbian^3 Syambian^4 เลย
Smart Phone เจ้าไหนดี ณ เวลานี้ผมก็เชียร์ iPhone และ Android แหละครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมว่าเราตั้งประเด็นให้ชัดเจนก่อนดีกว่า ว่าตอนนี้เรากำลังถกกันเรื่อง "phone" หรือ "smart phone" (ไม่ต่างกัน แต่ smart phone scope เล็กกว่า)
ผมว่าถ้าพูดเรื่อง "phone" ยังไง nokia ก็น่าจะชนะเลิศ
ส่วนที่เป็น feature phone Nokia ทำได้ดีไงครับ เค้าอาจจะเรียกแรงไปเป็น dumb phone แต่ฟังก์ชั่นในส่วนของ feature phone นั้น Nokia โอเค แต่ส่วน Smart Phone สำหรับผม และหลายๆ ความเห็นที่พบยังไม่โอเค ดังนั้นหากจะบอกว่าถ้าหวังการใช้งานโทรศัพท์แบบ feature phone ให้เลือกซื้อ Nokia คงจะไม่ผิดนะครับ แค่คำที่ใช้มันดูแรงได้อรรถรสนิดนึง กลายเป็นดูถูกว่าคนใช้โง่ซะงั้น ผมว่าคนใช้พวกแพงๆ feature เยอะๆ แต่ไม่ได้ใช้ feature แย่กว่าอีก
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมใช้ symbian มา 2 อาทิตย์
ไม่คิดว่ามันโง่นะ แค่หน้า Home มันไม่สวย
และ usably ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นวันนี้ไปหน่อย
แต่ก่อนผมก็คิดแบบคุณนะว่า Symbian มันไม่ได้เรื่อง
แต่พอมาลองใช้ดู มันว่ามันก็ OK
แค่ไม่มี wow factor แค่นั้น
+1 ไม่มี WOW factor
What is series of ur Symbian, S^1 right ?
Please explain, in your opinion, that make Symbian weaker than other Smart phone OS.
Your opinion may increasing in quality of Symbian phone.
Because I like a more efficient resource usage OS and Symbian is do well in complicated environment so I tried to suggest a usability problem from severe to moderate level to Symbian foundation espectially for Thai localization. For improve quality in use for Symbian based phone.
จุดด้อย หรือข้อที่ควรปรับปรุงถามจากสาวก Symbian หรืออดีตสาวก Symbian น่าจะตอบได้ดีกว่านะครับ ผมไม่ได้สัมผัสขนาดนั้น ซึ่งหาจากกระทู้ ask blognone เรื่อง symbian ได้ครับ แต่มุมผมที่จะบอกได้ก็คือในฐานะผู้บริโภคคนนึงที่เลือกซื้อโทรศัพท์ เหตุผลที่ผมจะไม่เลือก symbian คือ 1 ช้าครับ อันนี้นอกจากจะทำให้ระบบเร็วขึ้นแล้วอาจช่วยได้ด้วย transition หรืออะไรก็ได้ให้ไม่รู้สึกว่ารอ เช่นนโปรแกรมกล้องของ iPhone เวลาเปิด หรือเวลาเพิ่งถ่ายจะเป็นรูป shutter หมุน เวลาปิด เปิด หมุนจอทุกอย่างมี transition คือถ้าช้าแล้วจอหยุดนึง หรือเป็นจอโหลดเฉยๆ ให้ความรู้สึกช้ากว่ามาก (ของ iPhone ที่ยกมาคนจับเวลามันก็เร็วนะ และมี transition มันทำให้ดูเนียนและลื่นขึ้นอีก) 2. แฮ้ง ไม่รู้ว่าอัพ firmware ช่วยได้หรือเปล่าและอัพง่ายแค่ไหน แต่คนที่ทำงานทำไม่เป็น มีปัญหารอไปร้านอย่างเดียว ทุกวันนี้ถ้าเปิด app อื่น หรือพิมพ์ sms อยู่ คนโทรเข้ามีโอกาสแฮ้งสูง เทียบกับ iPhone เรื่องความเสถียรดีมากอยู่แล้ว เรื่องการอัพ firmware และการ backup ทำได้ง่ายมาก (หากไม่เจลเบรค) แค่กด update ปุ่มเดียวอัพเดตเสร็จพร้อม setting และ media ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม 3. เรื่อง app สู้ android และ iPhone ไม่ได้ ขนาด App store ที่ว่าหินๆ app เข้ายากแล้ว Ovi นั้นยากกว่า (อ่านจาก blog คุณเนย) ต้องมีการ sign ต้องเป็นบริษัท เห็นข่าวว่าจะดีขึ้น แต่เทียบปัจจุบันก็คงยังนับไม่ได้ และคงหวังเรื่อง app ดีๆ ยากกว่า iOS และ Android 4. UI รองรับการใช้งานด้วยนิ้ว (ตามสมัยนิยม) ซึ่ง Symbain^3, 4 คงดีขึ้น แต่เหตุผลเดิม เทียบปัจจุบัน)
ส่วนสิ่งที่อาจทำให้ผมเลือกคือ ราคาคุ้ม feature ครับ ฟังก์ชั่นพื้นฐานดี และครบ ราคาไม่แพง
จริงๆ ถ้าสรุปสั้นๆ ของเรื่องความเป็น smart phone หลักๆ ของ smart phone ที่เด่นคือ app นั้นแหละครับ เพราะเรื่องอื่น feature phone ทำได้เหมือนกัน app น้อย ทำอะไรได้น้อยกว่า ก็แพ้ด้าน smart phone แล้ว
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
Good jobs krub thx a lot
In fact, Nokia is the weakest in inform and present their product and its functionality. If I were Nokia, I may find a new advertising agency.
I found that more than 10 users around me that use S^1 devices but only 2 of them use a latest firmware that unlock cpu clock from 375 to 432.
Most of people dont know thier handset can update device fw Over the air in a few clicks.
Some of them dont know about Mail for exchange that help S^1 to connect with active sync protocol that support by Outlook, Google sync as same as BB and Android.
Some of them dont use the Share online function to upload their image directly to facebook or picasa without any require of pc browser. So they connect the device through cable and upload it be them self.
Some of them dont use backup function that can backup their information in a minutes. Moreover, its help to migrate from the old nokia device to the new one and ready to use as an old device after done.
Nokia also provide online services name Ovi that more than app marget and music store. Ovi files allow you to access your files directly from your handset over internet connection.
Online phonebook service for online sync between mobile contacts, online calendar and also mobile task and note. Sure, needs only web browser.
Some ที่บอกมาเกือบทุกอัน (ยกเว้นเรื่อง facebook) คนรู้จักผมไม่ได้ใช้เลยหล่ะครับ เค้าใช้กันฟังก์ชั่นระดับ feature phone และผมหาข้อมูลยากมากเลย ตอน Ovi เปิดใหม่ๆ เห็นว่าร่วมกับ AIS มีโปรด้วย แต่เก็บทั้งค่า Ovi และ gprs แยกกัน ปัจจุบันผมจะหาข้อมูลหาไม่ได้ว่าใช้ ovi เสียเงินเพิ่มจาก gprs หรือเปล่า (เคยคิดจะซื้อ C5 มาใช้ดู กะขาย iPhone มาใช้ iPad คู่โทรศัพท์ราคาไม่แพงซึ่งดูแล้ว C5 คุ้มมากๆ สุดท้ายหาข้อมูลไม่ได้ก็เลิกโครงการ ไม่รู้ตั้งเช็คเมลอย่างไร เสียเงินเพิ่มหรือเปล่า) และคนรอบตัว แม้แต่ในเน็ตก็หาคนใช้ให้ถามยาก คงคาดเรื่องการ PR และ present จริงๆ แหละครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
I'm using Nokia 5230 and I think it is S^1.And I will blog about it soon. So please wait.
อยากตอบนะครับ แต่ขอเรียบเรียงก่อน
ไม่ได้ว่ามันโง่นะครับ dumb phone เรียกเล่นๆ ของ feature phone (ก็ความหมายมันตรงข้ามกับ smart หนิ) feature phone มันพอจะใช้งานโทรศัพท์ทั่วไป + ฟังก์ชั่นที่คนทั่วไปใช้ได้สบายๆ และเป็นโทรศัพท์ที่คุ้มค่าคุ้มราคากว่าพวก smart phone ด้วยซ้ำ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
แสดงว่าญี่ปุ่นนี่ใช้แต่ dumb phone ซิเนี่ยย
แต่เอ๊ะ! ทำไม iphone ขายได้กระจิดริด เทียบกับ dumb phone
สงสัยจะยัง "smart" ไม่พอ
เพราะ feature phone ของญี่ปุ่นตรงกลุ่มเป้าหมายมากกว่า และ feature phone ของญี่ปุ่นมันทำอะไรได้มากกว่า smart phone หลายๆ รุ่นซะอีก
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เพิ่งรู้ว่า C5 ที่เราใช้อยู่นี่มันโง่แฮะ สาวกยังไงก็สาวกล่ะเนอะ
ผมชอบประโยคท้ายมากเลย +1
อืมมมม 77% ... ^^
อืมมมม 77% ... ^^
อืมมมม 77% ... ^^
จริงๆผมก็สาวกนะ free world เต็มหัวใจ ^u^
Want Social Decoration, Buy iPhone!, (Also All Apple Brand)
5555＋
พี่โนเกียเล่นแบบนี้เลยเหรอนี่
もういい
ผมใช้ท่าสุดท้ายจับเป็นปกติวิสัยเลยนะครับ เหมาะกับมือถือฝาพับมาก โทรเสร็จดันนิ้วชี้ขึ้นพับเก็บเนียนๆ -*-
ปล. ตอกกลับได้แสบมาก
อย่าว่าแต่สัญญาณหลุดเลยครับ มีอะไรแย่กว่านี้ โผล่ออกมาก็ยังมีคนซื้อ
โนเกียเองก็อาการไม่ค่อยดีสวนทางกับสำนักของศาสดา แต่ยังจะมา...อีกแฮะ :P
Apple โทรศัพท์โทรออกมีปัญหา โทรได้ รับได้ แต่ขายได้(ดีด้วย)
Nokia โทรศัพท์โทรออกได้ ทุกท่าทุกลีลา แต่ขายไม่ค่อยได้
ขายได้ไม่ได้ ขายเพิ่มขายลด อย่าใช้ความรู้สึกครับ อันนั้นมันวิธีคิดแบบสาวกแอปเปิล
ผมไม่เคยใช้มือถือโนเกียเลย แต่ถ้าเขามีตัวเลขแบบนี้ ก็ต้องยอมรับ
ถ้าหาข้อมูลไม่เป็น ลองดู Gartner
ถ้า nokia รับ android จะได้ครองโลกพร้อม google เลย
ผมก็ว่างั้นนะ
ร่วมมือกับข้ามั้ย ข้าจะแบ่งโลกให้ครองครึ่งนึง
>Yes No
:: DigiKin8 ::
ใหญ่ขนาด Nokia จะพึ่ง Google ก็คงผิดปกติแล้วล่ะครับ
@TonsTweetings
รับ android ก็เท่ากับยอมแพ้แล้วหล่ะครับ มี resource ที่ตัวเองคุมได้อยู่ ถ้าต้องยอมไปตามคนอื่น การกำหนดทิศทางอะไรของบริษัทก็ลำบาก ได้แค่ตาม Google อย่างเดียว (แม้ Android จะ open source แต่ก็ต้องยอมรับว่า มันเหมือนเป็นของ Google นั่นแหละ กำหนดได้หมด อยากให้เป็นยังไง ใครแยกสายไปทำก็น่าจะยาก ไม่มี Google Experience อีก) ถ้าพอจะมีช่องทางหรือมีความหวังยังไงก็คงต้องรักษา symbian, meego ต่อไป
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
การดำเนินธุรกิจ อะไรๆก็เป็นได้ครับ
บางทีถ้าโนเกียอีโก้ไปหน่อย อาจจะดับเอาง่ายๆกว่านะครับ
ไม่อย่างนั้นหลายๆธุรกิจเค้าจะจับมือพันธมิตรกันทำไมล่ะครับ จริงมะ :D
ผมไม่รู้หรอกครับว่าคิดแบบไหนมันเป็นการคิดแบบสาวก Apple เพราะผมไม่ใช่
และผมก็ใช้ Nokia มานานมาก แต่หลังๆ ก็เลิก เพราะผลงานหลังๆ ของโนเกียทั้งไม่สวย ไม่ทน และแต่ละรุ่นออกมาก็ล้าหลังคู่แข่งทั้งนั้น
แต่ไม่ชอบโนเกียที่ทำแบบนี้ ก็เท่านั้น เพราะถึง iphone มันจะห่วยกว่านี้ยังไง มันก็มีคนซื้อ มันจะมีประโยชน์อะไรที่โนเกียออกมาด่า(แบบนั้น)
แล้วผมก็เห็นว่าหุ้นของศาสดาขึ้นมาสูงมากสวนทางกับหุ้นโนเกีย มันก็บอกเป็นนัยๆ ได้หลายอย่าง ไม่เห็นจะต้องตีความว่าเป็นความรู้สึกอะไรตรงไหนเลยนิครับ
คิดต่างไม่ได้แปลว่าต้องเป็นสาวกศาสดานะครับ...
ผมไม่ได้บอกว่าคุณเป็นสาวกนะครับ ผมบอกแค่ว่า "การคิดเอง" โดยไม่มีข้อมูลสนับสนุน เนี่ยมันเป็นพฤติกรรมแบบสาวกแอปเปิลครับ (แอปเปิลดีสุด เลิศสุด) ไม่ควรทำอย่างนี้ จะแสดงความเห็นอะไรที่มันฟันธง ก็ควรมีข้อมูลมาสนับสนุนด้วย
ผมไม่มีปัญหาถ้าคุณคิดต่างครับ ผมคิดต่างจากคุณ แต่ผมมีข้อมูลมารองรับการคิดผมเท่านั้นเอง ถ้าคุณไม่มีอะไรมารองรับ ข้อคิดเห็นของคุณก็จะไม่มีน้ำหนักในสายตาคนอ่าน
ในสายตาผม ข้อคิดเห็นของคุณไม่มีค่าเพราะดีแต่ตามแขวะคนอื่นๆ อยู่ได้
ผมว่าคุณ MK เขาตอบโต้ด้วยข้อมูลนะครับ ไม่ใช่ฟองอากาศในสมอง อันไหนไม่จริงยังไงเอามาเถียงกันได้ เป็นกิจกรรมปรกติบนบอร์ดนะครับ
ความเห็นเค้าไม่มีค่า
แต่ตามอ่านเวบเค้าอยู่ได้
คุณก็ตลกนะครับ
เอาข้อมูลที่สนับสนุนความคิดเห็นของคุณมาโชว์เลยครับ จะได้ช่วยให้พวกผม (ผู้อ่านทั่วไป) พิจารณาได้ถึงข้อความจริง ดีครับคุยกันด้วยเหตุผล+ข้อมูล ^o^
ผมว่า mk ค้าน (ที่คุณเรียกว่าแขวะ) ได้ถูกต้องแล้วนะครับ มีข้อมูลสนับสนุนชัดเจน
บางคนอาจจะเห็นว่า mk แรงแต่ผมคิดว่าแรงเพราะไม่ได้คิดเข้าข้างตนมากกว่านะครับ
เรื่องมือถือผมเคยใช้หลายยี่ห้อ สุดท้ายผมก็กลับมาใช้โนเกียเหมือนเดิม เหตุผลสั้นๆ ทน อึด เสียงชัดเจน
ไม่ต้องหรู ไม่ต้องเริ่ด ผมซื้อเท่าที่ใช้ครับ
ของอย่างหนึ่งที่เขาบอกว่าดีที่สุดอาจจะเหมาะกับคนกลุ่มหนึ่ง แต่อาจจะไม่ดีกับคนอีกกลุ่มหนึ่ง
ผมเชื่อว่าแต่ละคนมีความเอนเอียงในความคิดแอบแฝงอยู่ ในความเอนเอียงนั้นถ้ามีข้อมูลสนับสนุนก็น่าเชื่อถือ จะถูกหรือไม่ก็อีกเรื่อง แต่ถ้าเอนเอียงแล้วถ่ายทอดออกมาโดยไม่มีข้อมูลนั่นคือความรู้สึก ศาลไม่รับฟัง
อย่างที่เขียนไปข้างล่างแล้วครับ ว่าชีวิตนี้ผมไม่เคยใช้โนเกียเลยแม้สักเครื่องเดียว ไม่มีเหตุต้องมาเชียร์โนเกียเลย (โดยส่วนตัวก็ไม่ได้พิสมัยอะไร)
แต่รับไม่ได้กับพวกที่วิจารณ์ว่าขายดี-ไม่ดีแบบไร้ข้อมูลอะ
แล้วตกลงเอาข้อมูลนี้มาจากไหนละ
"Apple โทรศัพท์โทรออกมีปัญหา โทรได้ รับได้ แต่ขายได้(ดีด้วย)
Nokia โทรศัพท์โทรออกได้ ทุกท่าทุกลีลา แต่ขายไม่ค่อยได้"
ตอนแรกเขียนไว้ซะยาว แต่ไม่โพสดีกว่า เดี๋ยวเถียงกันไม่จบ
เอาสั้นๆนะครับ คือ เทียบยอดขายและแนวโน้มของโทรศัพท์ในระดับเดียวกันของทั้งสองบริษัทเท่านั้น(อาจจะแค่ในไทย)
ปล..ตะก่อนผมโคตรเบื่อพวกคลั่งแอปเปิ้ลเลยนะครับ แต่หลังๆ ชักเริ่มรู้สึกตะงิดๆกับสิ่งที่เมื่อก่อนตัวเองเคยเป็นเหมือนกัน..
ถ้ามีตัวเลขยอดขายและแนวโน้มที่ว่า มาเผยแพร่แถวนี้จะเป็นประโยชน์มากเลยครับ
ป.ล. ผมเคยพยายามเลียบๆ เคียงๆ ถามผู้บริหารของโนเกียไทย เงียบสนิทกันทุกคน คุณอาจจะทำสำเร็จก็ได้
ตารางของการ์ทเนอร์ อันที่ 2 ตรงที่แสดง market share ใน Q1 2009 เทียบกับ Q1 2010 ของ Symbian เทียบกับ Android แล้วก็ iPhone OS ถือว่าเป็นข้อมูลหรือตัวเลขที่สนับสนุนสิ่งที่ผมเขียนไปได้ไหมครับ
หรือไม่ก็ข่าวเกี่ยวกับผลิตภัณท์ที่เด่นๆของทั้งสองค่ายที่จะออกมาเทียบกันแล้ว มันก็ไม่น่าจะขัดแย้งกับสิ่งที่ผมเขียนนะครับ
ปล..ผมยอมรับว่าขี้เกียจไปหาลิงค์มาแปะครับ แต่ที่เขียนไปก็ได้ข้อมูลจากการอ่าน ข่าวทั้งจากในนี้และที่อื่นแล้วเขียนสิ่งที่คิดออกมา ก็แค่นั้น(ผมไม่เคยฟันธงเลยนะครับ ไม่ว่าจะความเห็นไหน)
อันนี้ก็แล้วแต่คุณน่ะครับ ผมอ่านๆ ที่คุณเขียนมา เข้าใจเอาเองว่าคุณจะมีหลักฐานในเวอร์ชันของคุณเอง ที่จะมาค้านหลักฐานของผมได้น่ะครับ
แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรครับ
จากตารางคุณ mk nokia ยอดขายเพิ่มก็จริง แต่ market share มันลดลงนะครับ เข้าใจว่าเวลาเปรียบเทียบกันทางธุรกิจเค้ามักจะมองที่ market share นะ
ผมไม่มีปัญหากับเรื่องยอดลด-ยอดเพิ่มนะครับ อันนี้มีตัวเลขชี้ชัด และผมก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับโนเกีย ที่จะต้องมาปกป้องว่าโนเกียยังดีอยู่
ผมมีปัญหากับการบอกว่า "ขายไม่ค่อยได้" โดยไม่มีตัวเลขหรือหลักฐานสนับสนุนครับ
+1 ครับ
เพื่อนผมกว่า 70% ทื่เป็น user ธรรมกาใช้โนเกีย
เพื่อนภาคคอมฯ ที่ต้องเขียนโปรแกรมบน android ยังใช้ nokia จีนก๊อปเลย - -" (แล้วไปทดสอบ app บนเครื่องอาจารย์)
แถมถ้าไม่ใช่ power user จริงๆ เวลามาขอคำแนะนำมือถือใหม่จากผม เค้าจะบอกว่าอยากได้ nokia ครับ
คุณลืมอะไรไปลืมเปล่าครับ ว่าสังคม IT ที่พวกเราอยู่นั้นเป็นสังคมคนส่วนน้อยนะครับ
วันๆมันมีแต่ข่าว iphone ขายได้ๆ ก็เพราะถ้าเป็น nokia ขายได้ใครจะสนใจล่ะครับ
แล้วที่เห็นคนใช้ iphone เกลื่อนทั่วกรุงเทพ อย่าพึ่งไปคิดว่าคนส่วนใหญ่ใช้ iphone นะครับ
ลองไปดูต่างจังหวัดคนใช้ iphone ไม่ค่อยจะมี
บริษัท Apple น่ะเข้าเน้นตลาดระดับบนครับซึ่งเป็นคนส่วนน้อยครับ
อย่าใช้ความรู้สึกของคนระดับบนตัดสินนะครับ
+1
もういい
+1
ตรงประเด็นมากครับ
+1
ปล. พวกระดับล่างแอ๊บบนด้วยการใช้ iPhone ก็เยอะนะจ๊ะ ไม่รู้เอาเงินไหนซื้อเหมือนกัน
+1 อันนี่ยอมรับโดยดุษฏี (วิ่งไปขำก่อนนะ)
แน่ใจนะครับว่าที่เห็นนั่นน่ะ iPhone แท้ ^^
บางเครื่องปลอมซะเนียนเลย ถ้าไม่ดูจอ ดูไม่ออก
หัวหน้าผมไงใช้ไอโฟนปลอม ตอนแรกแอบตื่นเต้นเห็นหัวหน้าถอยไอโฟนมา
ของปลอมซะงั้น
ตำแหน่งหน้าที่การงานแบบนั้นถือไปใครๆก็คิดว่าของแท้แน่นอน 555+ (หัวหน้าประหยัดกว่าลูกน้องอีก)
ผมเห็นเขาใช้บีบีแล้วอึ้ง คิดอยู่ว่าเงินเดือนครึ่งหมื่นเอาปัญญาที่ไหนไปซื้อ
แล้วมันก็แกะเครื่องให้ดู แป่วววววววว บีบีจีน เลียนแบบซะเหมือน 2 ซิมอีกต่างหาก อ้อ...มีทีวีด้วย
ไอโฟนก็เช่นเดียวกัน ไม่รอด
แต่ก็มีบางคนจริงๆ แหละที่ใช้ของแท้ รายได้ต่ำแต่รสนิยมสูงปรี๊ด
ถ้าไปสืบสาวให้ลึกแล้วจะรู้ที่มาของไอโฟนหรือบีบีเครื่องนั้น
ยัง...ยังไม่หมด บางคนอาศัยเงินกู้เพื่อการศึกษา หรือทุนที่ได้รับจากกองทุนต่างๆ
ตอนเขียนรายงานแกล้งเขียนให้น่าสงสาร อัตคัต ยากจน แต่งตัวมอซอ
แต่ลับหลังแหละแม่คุณพ่อคุณเอ้ย กระดี่ดีๆ นี่เอง
+1 ถูกต้องครับ
+1
smart กว่า smart phone
+1 ด้วยคนว่าจะตอบแบบนี้เหมือนกันมีคนตอบซะแล้ว xD
โนเกียมีโอกาสในการบุกตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่มากี่ปี? ทำมากี่ปี? มีมากี่รุ่่น?
กูเกิ้ลมีโอกาสในการบุกตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่มากี่ปี? ทำมากี่ปี? มีมากี่รุ่่น?
แอปเปิลมีโอกาสในการบุกตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่มากี่ปี? ทำมากี่ปี? มีมากี่รุ่่น?
ความไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้บริโภค บริษัทไหนจะมีมากที่สุด? เอามาทียบกันแบบนี้คงยาก
แร๊งส์
กัดเจ็บจริงๆ
ไม่ว่าจะจับท่าไหน มือถือของโนเกียไม่มีปัญหาสัญญาณหดหาย และฟีเจอร์สำคัญของมือถือโนเกียคือ "มันโทรออกได้" << +1 แรงๆเลยตรงนี้ ชอบมาก ฮ่าๆ
ลายเซ็นผิดระเบียบนะครับ รบกวนแก้ไขด้วย
pittaya.com
ทนไม่ไหวแล้ว มันฮามาก :-D
แรงงงง
แอปเปิลจะสวนกลับมั้ยว่า "ขอให้ขายได้ 1.7 ล้านเครื่องในสามวันด้วยนะ"
(อุ๊บส์)
เอายอดขายที่ mk เอามาโชว์
แล้วหารด้วยวันดู
ผมว่าทิ้งกันไม่เห็นฝุ่นนะ
อิอิ
Is it be a reliable index for comparison ?
The number may seems to be good but what the meaning to do that ?
Is it nonsenseible or not?
That are a common question when u try to use uncommon index for comparison in reseach or presentation practice.
เมื่อวาน กั้ง จาก Siampod ไปลองจับ iPhone4 ที่ MBK สัญญาณก็ไม่หายนะครับ.. ค่อยๆ ดูกันไป ว่าปัญหาจริงๆ มันเกิดจากอะไร และมีปัจจัยอะไรบ้าง..
แต่ที่น่าตกใจกว่าคือ iPhone4 ที่ MBK เครื่องละ 50,000 ยังขายออก!
แม้หลายคนจะไม่เป็น แต่ถ้ามีส่วนนึงที่เป็น ที่มีจำนวนพอที่จะมีนัยสำคัญ ก็คือมีปัญหาแล้วหล่ะครับ ที่เห็นในเน็ตก็หลายรายอยู่
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
แล้วนัยสำคัญนี่ควรจะเป็นเท่าไรหรอครับ? 5 clip, 10 clip หรือ 554 clip? (อ้างอิงตัวเลข search จากใน youtube ด้วย keyword iphone4 signal)
ยังไงซะถ้าจะซื้อก็ต้องระแวงเอาไว้ก่อนดีกว่าครับ ของแบบนี้ซื้อแล้วคืนไม่ได้
อะไรที่เป็นผลประโยชน์ของตัวเองรับฟังไว้บ้างก็ดี
เหมือนกับมีคนมาเตือนภัยว่าซอยนั้นโจรชุม ซอยนี้ยาเสพติด ถึงแม้ข้อมูลจะไม่ชัดเจนแต่ถ้ารู้ไว้ก็ไม่เสียหาย
เขียนได้เมามันส์ดีคับ 55+ มันเรื่องจริงนี่ smartest phone but can't make call?
1.7 ล้าน หิ้วออกไปซะครึ่งหนึ่ง
1.7 ล้าน
ย้ายมาจาก 3G, 3GS สัก 1.5 ล้านแล้วครับ อิอิ
คุณ mk ไม่ลองเปลี่ยนจากจำนวนเครื่อง
เป็นรายได้ กับ กำไร ดูบ้างล่ะครับ
มองในแง่บริษัท รายได้กับกำไรมากจำนวนเครื่องน้อย ย่อมดีกว่าครับ แต่ผมว่าสำหรับผู้ใช้น่าจะมองว่าจำนวนเครื่องมากรายได้กับกำไรน้อยเป็นบริษัทที่เป็นมิตรกับผู้ใช้มากกว่า
ไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไรครับ เพราะแอปเปิลทำอย่างอื่นขายด้วย ไม่ใช่ทำมือถือขายอย่างเดียว
แต่อยากได้ก็จัดให้
ตัวเลขผมใช้จาก Wikipedia นะครับ
จะมีคนบอกว่า Nokia ก็มียางรถยนต์หรือเปล่าหว่า??? (เข้าใจว่าน่าจะแยกกันไปแล้ว)
แต่เคยเห็นทีวี เห็นเครื่อง mp3 ปะตรา Nokia อันนี้ไม่รู้ว่าบริษัทเดียวกันหรือเปล่า (ยกมาขำๆ เฉยๆ เพราะไม่ได้เป็นผลกับ revenue อยู่แล้ว)
เท่าที่จำได้ Nokia ก็ไม่ได้ผลิตแต่มือถืออย่างเดียวเหมือนกันนะครับ
พวก Backend ของ Mobile Solution ที่ก็ทำหลายอย่างนะ จำได้ว่า Firewall ยังมีทำด้วยเหมือนกัน
ถูกแล้วครับ Nokiasiemens ทำ network solution ครับ
ผมถึงบอกว่ามันไม่ยุติธรรมไงครับ ถ้าจะเอาตัวเลขยอดขาย หรือกำไร มาเทียบกันแบบที่คุณ boys_zero เสนอ
ส่วน Nokia Siemense นี่เป็นบริษัทร่วมทุนครับ (ชื่อก็บอกชัดเจน)
Apple ขายรุ่นเดียว
Nokia ขายเป็นร้อยรุ่น
เหอๆ :((
A chemical rush''
จะขายรุ่นเดียวหรือกี่รุ่นก็ไม่มีผลต่อการแพ้ชนะ หรือส่วนแบ่งตลาดนี่ครับ
ถ้าไม่เชื่อ ลองดูกรณีของแมคอินเทอช vs พีซี ดูได้ครับ
แล้วมันจะมีผลต่อรายได้มั้ยครับ? อันนี้ถามเพื่อความรู้นะครับ ผมไม่เคยได้ศึกษา :(
A chemical rush''
เอาแบบง่ายๆ เลย รายได้ = (ราคาขาย x จำนวน) ครับ สองอย่างนี้ยิ่งเยอะยิ่งดี ไม่เกี่ยวกับว่ามีกี่รุ่น
ถ้า iPhone ออกใหม่ปีละหลายๆ รุ่น ยอดขาย (จำนวนเครื่อง) มากขึ้นแน่นอนครับ
แต่กำไรอาจไม่โตตามยอดขายอย่างที่ควรจะเป็น เพราะเชื่อเถอะว่าคนจำนวนไม่น้อยจะเลือกแค่รุ่นล่างๆ ประหยัดงบ
และจากข่าวที่ apple ต้องออกมายกเลิกการสั่งจอง iPhone 4 ไปบ้าง ทำให้เห็นว่า apple ไม่มีกำลังการผลิตเพียงพอต่อ demand
ทีนี้ อะไรจะเกิดขึ้น ถ้า apple ตัดสินใจขาย iPhone ปีละหลายๆ รุ่นหละครับ ^^
ก็จะมี demand แต่ iPhone แบบถูกๆ ส่วนกำลังการผลิตก็ไม่เพียงพอที่จะผลิตได้ทันอีก
แน่นอนว่า apple ยังไงก็มีเงินทุนไปเปิดโรงงานผลิตใหม่อยู่แล้ว แต่การสร้างโรงงานใหม่นั้นมันไม่ใช่คิดปุ๋ปได้ปั๋ปนะครับ
ซึ่งถ้าเรามีข้อมูลอย่างละเอียดมากๆ แบบฝ่ายตลาดของ apple แล้ว คำตอบอาจเป็นยังไม่ควรที่จะเปิดโรงงานเพิ่มก็ได้
แล้วผลจากการเร่งการผลิต iPhone มากเกินไป อาจทำให้คุณภาพ iPhone ต่ำลง และเสียชื่อเสียงได้ครับ
ผลสุดท้ายอาจส่งให้ iPhone มียอดขายน้อยลงได้ในระยะยาวอีก เพราะด้วยความโหล/ไม่แปลกใหม่ของมันนัแหละ
ตอนนี้ ผมเห็นว่า ยังไง apple ก็ยังสู้ nokia ไม่ได้ครับ (แง่ของจำนวนเครื่องที่ขายได้)
เพราะ nokia มีฐานในตลาดนี้มานานกว่ามากๆ แล้ว ทำให้มีโรงงานมากกว่า มีกำลังผลิตมากกว่า
ถึงแม้ว่าจะผลิตมือถือไม่เหมือนกัน แต่ถ้าจำเป็นต้องปรับตัวจริงๆ ก็ใช้ทุนและเวลาน้อยกว่า apple ครับ
nokia มีดีด้านศักยภาพการผลิต และการที่อยู่ในตลาดมานานกว่ามากๆ ทำให้ได้เปรียบด้านต้นทุนต่างๆ
apple มีดีที่ความคิดสร้างสรรค์ การที่ออกโทรศัพท์เพียงแค่รุ่นแรกแล้วติดใจคนนั้นทำได้ไม่ง่ายนะครับ
คห.ส่วนตัว nokia เหมือนยังไม่เอาจริงเต็มที่แฮะ
คิดเหมือนกันเรื่องโนเกีย
ในแง่การขายโทรศัพท์ คนที่โนเกียต้องกลัวจริงๆคือ ซัมซุม ไม่ใช่ แอปเปิล
อ๊ะ ขาดท่าคีบของ L
+1
ชอบ................
555555+
เฮอะ ๆ
"และฟีเจอร์สำคัญของมือถือโนเกียคือ "มันโทรออกได้" ดังนั้นเราถึงเรียกมันว่า "โทรศัพท์""
ประโยคโดนใจ เดี๋ยวนี้เด็กๆ บ้านเรา ใช้โทรศัพท์เพื่อการอื่นมากกว่าไว้ใช้โทรออก หรือรับสาย ซะอีก ไม่เชื่อลองเข้าไปในลิฟท์พร้อมนักศึกษาที่มี BB ซักคนดิ น้องนักศึกษาคนนั้นอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเราโดยสารลิฟท์ด้วยกันด้วยซ้ำ!!!...
ไม่ใช่แค่บ้านเราหรอกครับ trend โลกมันเปลี่ยนไปทางเดียวกัน คือการใช้งาน voice ลดลง การใช้งาน data เพิ่มขึ้น ดังนั้นผมเห็นว่าแม้ voice จะทำได้ดีกว่า แต่ถ้าเรื่อง data ยังพัฒนามาสู้ยี่ห้ออื่นที่การใช้งาน data ดีกว่าได้ ก็คงสู้ยากอยู่ดี เดี๋ยวนี้คนจะซื้อมือถือไม่ค่อยถามกันแล้วว่าเครื่องไหนคุยดี ที่แต่ถามเครื่องไหนถ่ายรูปดี ฟังเพลงดี เล่นเน็ตดี เล่นเกมดี ทั้งนั้น
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
อันนี้ก็ไม่น่าแปลกใจนะครับ คือรูปแบบการสื่อสารมันเปลี่ยนไปจาก voice call เพียงอย่างเดียวแล้ว การยึดติดกับมันไปตลอดอาจไม่ถูกนัก
ตัวอย่างที่ดีมากคือฟิลิปปินส์ เค้าซื้อมือถือมา SMS คุยกัน
ถ้า smart phone จะพัฒนาจากพื้นฐานการโทรออก - โทรเข้า ได้อย่างสมบูรณ์ก่อนค่อยทำอย่างอื่นได้มันจะดีมากๆเลยครับ เพราะเท่าที่เห็นมาส่วนใหญ่ smart phone จะสอบตกเรื่องความสามารถพื้นฐาน
เรื่องจะไม่ให้ยึดติดผมว่าบางทีมันก็คงไม่ได้ เพราะยังไงการประสานงานโดย voice call มันก็มีประสิทธิภาพดีกว่า message คุยกันเกือบทุกด้าน
ผมคิดว่า Smart Phone นั้นสิ่งที่ Smart อาจไม่ใช่ตัวเครื่องครับ แต่เป็นที่ User ต่างหากที่ต้อง Smart เพราะความสามารถพื้นฐานของ Smart Phone นั้นน้อยและแทบทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ
I need healing.
อันนี้คงต้องแยกระหว่าง voice call กับเทคโนโลยีที่ใช้ทำ voice call นะครับ
ประเด็นแรก
ทุกวันนี้เรามีเทคโนโลยีหลายอย่างที่เอาไว้คุยเสียง เช่น cellular, VoIP (SIP, FaceTime, Skype, etc.)
โดยทั่วไปแล้ว เวลาพูดถึง voice call เรามักหมายถึง cellular แต่ถ้าในอนาคต ผมสามารถคุย voice call ผ่าน Skype ได้ดีกว่าถูกกว่า cellular ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายน่ะครับ
ประเด็นที่สอง
ถ้าเรามองในมุมที่สูงขึ้น อนาคตมันคงเป็น integrated communication มากกว่าจะมาแยก voice call น่ะครับ เช่น โทรไม่ติดก็ฝาก voicemail แล้วแปลงเป็นข้อความ (แบบที่ Google Voice ทำอยู่ในปัจจุบัน)
ผมว่าพื้นฐานการโทรฯเข้า-ออก น่าจะเกือบสมบูรณ์กันหมดแล้ว แต่ฟีจเจอร์งานสมาร์ทโฟนหลายอย่าง(งานแบรคกราวน์-มัลติทาสก์-BT-WiFi-Push-Blockเบอร์-Location ฯลฯ)อาจไปแย่งทรัพยากร+กวนเครื่อง ซึ่งต้องหาโซลูชั่นกันให้ดี(ผมว่าApple มีความพยายามค่อนข้างดี) ต่อไป
ตอบทั้งสองท่าน
ผมไม่ได้คัดค้านการใช้งาน data ครับ (เพราะจริงๆ แล้ว ผมก็ใช้เยอะเหมือนกัน) แค่อยากชี้ประเด็นไปว่า เด็กสมัยนี้มันจะอะไรนักหนา โลกส่วนตัวกันสุดๆ ไปเลย แถมบางส่วนยังซื้อมือถือเพียงเพราะว่าตามแฟชั่น ผมว่ามันออกจะพิกลอยู่นา (ยอมรับว่าหัวโบราณพอสมควร) เพียงแต่อาจจะยืมต้นเรื่องมาผิดประเด็นไปหน่อยเท่านั้นเอง เหะๆ
ผมว่าสมัยนี้เหมือนจะพึ่งพาเทคโนฯ กันมากเกินไปหน่อย
คนใกล้คือคนไกล
คนไกลคือคนใกล้ ...
ปรัชญา bb เลย
ผมถ้าไม่รู้จักกันก็ขอเล่นโทรศัพท์ดีกว่านะ
แต่ถ้าเป็นสาวๆๆสวยๆก็ว่าไปอย่าง แบบว่ามีพินใหมเอ๋ย
แสดงว่าคนที่เข้าไปแล้วไม่มีไครสนใจสมควร... ล้อเล่น
จับท่าอื่นมันไม่เท่สิครับ
Apple คงเข้าใจความรู้สึก Microsoft มากขึ้น (ชอบไปแขวะเค้า) จากการที่ตัวเองโดนแขวะอย่างหนักกรณี iPhone 4 อ่ะ! หรือว่าเฉยๆ
น่าจะชินแล้ว โดนบ่อย แค่คราวนี้หนักหน่อย พลาดเองเต็มๆ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมว่าสิ่งสำคัญกว่าคือ สาวกแอปเปิลต้องหัดเรียนรู้กันเสียทีว่า
ดูท่าจะประสบความสำเร็จยาก เพราะข้างบนยังมี dumb phone อยู่เลย
แตไม่เป็นไรครับ ผมจะพยายามต่อไป!
Anti zealot (หมายถึงคนอื่นๆ นะครับ) ก็ควรเลิกคิดว่าคนใช้สินค้าแอปเปิล เพราะความรู้สึกเหนือกว่าเหมือนกัน บางคนคิดมาแต่ต้นแบบนั้น ก็ไม่รับเหตุผลอะไรแล้ว ทั้งที่หลายคนก็ใช้เพราะสินค้าจริงๆ ไม่ใช่เพราะแบรน คนที่ไม่ใช้เหตุผลไม่ได้มีแค่สาวก แต่พวกต่อต้านสาวกแบบไร้เหตุผลก็มีเยอะเช่นกัน (ไม่นับพวกมีเหตุผลนะ ความคิดแต่ละคนไม่เหมือนกันอยู่แล้ว)
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
แต่พวกต่อต้านสาวกแบบไร้เหตุผลก็มีเยอะเช่นกัน +1 ครับ
จริงเหรอครับ
ผมเข้าใจว่ามีผมเป็น anti zealot อยู่คนเดียวเสียอีก
ต้องมีความภูมิใจและความจงรักภักดีในแบรนด์ที่ใช้ครับ
จงรักภักดีในแบรนด์ที่ใช้ แต่แบรนด์กลับเห็นแก่ได้และไม่ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ก็ไม่ไหวนะครับ
ผมเคยเป็นอาการ "รู้สึกเหนือกว่าของตน และเหยียดคนที่ใช้ของยี่ห้ออื่นเสียที" มาแล้ว และสุดท้ายก็ ... รู้ความจริงว่า "เค้าไม่เห็นหัวเราเลย" ผมขออยู่ประทับใจกับสินค้าที่เค้าเห็นค่าของเราดีกว่า ถึงแม้มันจะไม่ดีที่สุด แนวสุด แต่ก็สบายใจที่จะใช้ ออกแนว ง้อทำไม ไม่ขายก็ไม่ซื้อ แค่ภาษาไทย คีย์บอร์ดไทย เค้ายังไม่ใส่ใจ "เพื่อ user experience ของใคร?" ... แค่นั้นจริงๆ ครับ
ผ่านมาแล้วเหมือนกันครับ
สินค้ามีปัญหา ดันบอกว่าลูกค้าใช้ไม่เป็นเอง
ลาขาดครับ
+10 ประโยคที่ว่า สินค้าของ Apple มีปัญหาได้
ไม่เคยมีใครทำอะไรได้ perfect หรอกครับ แต่ตอนนี้ผมหวังว่าวิศวกรของ Apple
จะรีบหาสาเหตุการลดลงของสัญญาณเพราะเห็นว่ามีคลิบที่สัญญานลดแม้ใช้ Bumper แล้ว
เพราะการออกมาปฎิเสธว่าสินค้าของตัวเองไม่มีปัญหา เป็นวิธีคิดที่จะทำให้
การพัฒนาขององค์กรตกต่ำลง
ปล.หวังว่าจะหาสาเหตุกันได้ก่อน แก้ได้ เร็วๆ
เข้าไทยผมจะได้อุดหนุน หลังจากอยู่กับ Window mobile มา 3-4 ปี
และมีปัญหาเรืื่อง App มาตลอด
เอาใจช่วยครับคุณมาร์ค !!
งานนี้ Apple มัน Fail จริง ๆ เหอ ๆ เล่นทดสอบแต่ใน Case .. lol
@TonsTweetings
อาจจะเป็นเพราะว่า Apple รู้ว่าคนซื้อ iPhone ไป ส่วนใหญ่จะใส่เคสรึเปล่า :P
เจ็บจี๊ดส์ >.<
ยอมให้ Nokia Win ไปหนึ่งงานละกัน ก็ของเค้าดีจริงนี่หน่า (แง่การเป็นโทรศัพท์)
ผมกับเห็นว่า ปัญหานี้มันเป็นกันหมดแหละ บางรุ่นของตัวโนเกียเองก็มีปัญหา คนส่วนใหญ่รู้หรือเปล่า เท่านั้นเอง
HTC Droid Incredible:
Nexus One:
Nokia E71:
Nokia 6230:
Nokia 6720:
แต่สัดส่วนการเกิดปัญหา ไม่น่าจะมากเท่าของ Apple มั้งครับ อันนี้เห็นชัดๆ เลย แต่ก็ไม่มีข้อมูลมาเปรียบเทียบเหมือนกัน
รึไม่ก็ช่วงกำลังดัง เลยโดนเยอะหน่อย
ก่อนจะว่าโง้นงี้ ว่าผมเป็นสาวก
ผมก็สาวกตัวจริงแหละครับ :P
ของมันก็เป็นปัญหาได้ทั้งนั้นแหละ เพียงแค่ iPhone คนมันคาดหวังกันเยอะไปหน่อย เห้ออ ผมก็สาวกเหอะ แต่ไม่เคยใช้ของ Apple เลย 5555
A chemical rush''
งานนี้แลกหมัดกันมันส์...
ปล. จริงๆ ไอโฟนกะเรื่องโทรเข้าออกนี่ก็มีปัญหามาทุกยุคทุกสมัยนี่นะ
nokia งานประกอบดี hardware ก็พอใช้ได้
และใช้แล้วยังรู้สึกว่ามีความคุ้มแค่อีกต่างหาก
แต่ที่รับไม่ได้คือคือ software ใน smart phone นี่แหละครับ
อย่างไรก็ดี ตลาด feature phone มันใหญ่กว่า smart phone ยิ่งนัก
แม้ว่าจะมีมาจิ้นน้อยกว่าก็เถอะ
I need healing.
ของแบบนี้ได้ทีขี่แพะไล่
แต่ผมแอบสะใจ XD
ใจเย็นๆ มันเป็นช่วงกำลังเปลี่ยนยุคของมือถือ
ก็อารมเสียใส่กันซะและ ปล่อยวางบ้างเถอะครับบางเรื่อง ถ้ามันไม่ได้ร้ายแรงอะไร
บางทีทะเลาะกันไป สุดท้ายเราชนะ ก็ไม่ได้อะไร แค่ได้ความ "สะใจ" แค่นั้นเอง
แล้วเราก็อาจจะเสีย "มิตร" ดีๆไปอีก 1 คนอะนะ
Nokia ทนดีจริงๆ ถ้าเป็นรุ่นธรรมดานะครับ แต่ smart phone ผมเคยใช้ e71 ทีแรกก็ดี แต่พอนานเข้าข้อมูลเยอะขึ้นพวก email , contacts เริ่มเยอะเนี่ยมันห่วยมากๆเลย รีิเซ็ตวันละหลายๆ รอบ อืดก็อืดจนทนไม่ไหวเปลี่ยนเป็น BB ก็ไม่ไหวอีกแบตหมดเร็ว7 hrs ตอนนี้ใช้ htc hd + htc hd2
กระทู้ ดัก สาวก !!!
มีมือถือ 6 ยี่ห้อ (ตัวเลขข้างบน) ที่ขายดีกว่าแอปเปิล
^
^
^
ขำขำ
แต่บางยี่ห้อด้านบน ขาดทุนจนแทบจะล้มละลาย บางยี่ห้อรายได้กับกำไรทรุดลงทุกปี แต่แอปเปิิ้ลสามารถสร้างรายได้กับผลกำไรได้เป็นกอบเป็นกำเพิ่มขึ้นทุกปี
ตอบแบบสาวกใช่มั้ยเนี่ย ... ไม่อ่านข้อมูลอะไรเลย
แต่ไม่ว่าแอปเปิลจะกำไรดีแค่ไหน เป็นบริษัทใหญ่เพียงไร ก็ยังไม่สามารถลบล้างความจริง (ในขณะนี้) ว่าแอปเปิลขายดีเป็นแค่อันดับ 7 ได้ครับ
ถึงแม้มันจะขาดทุนทุกปี แต่มันก็ไม่เคยแขวะใครแล้วกันล่ะน่า
ตอบแบบไม่เคยอ่านข่าวละซิ ฮ่ะๆๆ :))
A chemical rush''
ขอข่าวหน่อยซิครับ ผมไม่เคยเห็น SE แขวะใครนะ หรือผมตกข่าวไปเอง หรือคุณหมายถึงค่ายอื่น
SE ผมก็ไม่แน่ใจ แต่ Sony นี่เคยแน่ครับ :)
A chemical rush''
"มันโทรออกได้" <<< ที่บ้านเคยซื้อ Nokia ตัวใหม่ เดือนเดียวสัญญาณ ต้องส่งศูนย์ไปแก้ระบบในเครื่องใหม่ ประทับใจไม่รู้ลืม =__=' (เพราะเป็นรุ่นหรูแพง ดีแค่หน้าตาภายนอก ด้วยนะเน้นโทรอย่างเดียวดันโทรไม่ออกซะงั้น )
อีกปัญหา คือ Nokia แบตกากมาก ใช้ 1-2 แบตมันบวมได้...(แถมราคาแบตแท้ใช่ว่าจะถูกด้วยนะหลักพัน)
แบตแท้ BL-5C ตอนนี้เหลือแค่ 790 นะครับ
ทำเอาของเก๊กระจายไปเลย
I need healing.
เข้าใจที่มันมีข่าวลดราคา 50% (กว่าจะลด- -') แต่รอไม่ไหวซื้อแบตจีนไปแทนตั้งกะต้นปีแล้ว
มือถือของโนเกียไม่มีปัญหาสัญญาณหดหาย และฟีเจอร์สำคัญของมือถือโนเกียคือ "มันโทรออกได้" ดังนั้นเราถึงเรียกมันว่า "โทรศัพท์"
ถึงผมจะหันหลังให้ symbian ไปแล้ว
ถึงแม้nokia อาจจะไม่ไ่ด้ดีที่สุดในตลาดสมาร์ทโฟน
แต่เค้าก็พูดถึงจุดแข็งของตัวเองได้ถูกนะ
ผมถึงผมชอบวรรคนี้จริงๆ...ชาบู ชาบู
+1 เช่นกันครับ
แต่ไม่ว่าแอปเปิลจะกำไรดีแค่ไหน เป็นบริษัทใหญ่เพียงไร ก็ยังไม่สามารถลบล้างความจริง (ในขณะนี้) ว่าแอปเปิลขายดีเป็นแค่อันดับ 7 ได้ครับ
^
^
^
ขำขำ
ใช่ครับ แล้วก็ไม่สามารถลบล้างความจริงได้ว่า แอปเปิ้ลเข้ามาเป็นอันดับ 7 ด้วยการขายแต่ Smart Phone เพียงอย่างเดียว แถมออกปีละรุ่น :P
งั้นก็ผิดที่แอปเปิลเองล่ะครับ ที่ไม่ยอมออกหลายๆ รุ่น ปีละหลายๆ เครื่อง
ความคิดนี้ดีแฮ๊ะ ถ้า apple ออกซักปีล่ะ 12 รุ่น ยอดขายคงเท่ากับ nokia เลยล่ะ ทำไมไม่คิดล่ะ
ใช่ครับ อันนี้เป็นความเก่งอย่างมากของแอปเปิลครับ
มันไม่เกี่ยวกับเก่งไม่เก่งไม่ใช่เหรอ เพราะมันเป็นการตลาดล้วนๆเลย
จำนวนรุ่นชี้วัดความเก่งไม่ได้นะผมว่า
ผมหมายความว่าแอปเปิลเก่งการตลาดไงครับ อะไรที่เขาทำดีจริง เราก็ต้องชมเชย
อ่านคอมเม้นท์ข่าวนี้แล้วรู้สึกว่าเหนื่อยแทนครับ แต่ละคนต่างพยายามหาเหตุผลเืพื่อสนับสนุนความคิดความเชื่อตัวเอง มันก็เลยหาทางจบยาก
ถ้าหา "เหตุผล" มาสนับสนุนความคิดตัวเองนี่ มันไม่ดีอย่างไรหรือครับ?
lewcpe.com, @wasonliw
นั่นดิ
ก็ไม่ผิดนะครับ
เค้าอาจจะหมายถึง สนับสนุนเฉพาะความคิดเห็นของตัวเองจนไม่รับความคิดเห็นของคนอื่นมั้งครับ ก็เลยทำให้จบยาก
จบยากไม่ใช่ปัญหา ไม่ใช้เหตุผลสิปัญหา
จบยากยังมีทางจบ
แต่ไม่ใช้เหตุผลนี้ ลาขาดไม่ต้องพูดกันแล้วครับ
ถ้ากระทู้ยาวข้ามปี แต่เต็มไปด้วยข้อมูล เหตุผล และความรู้ ผมจะให้ทะเลาะกันไม่เลิกเลยครับ เล่นไปเลยสักสามสี่ปี
lewcpe.com, @wasonliw
ถ้านั่งอยู่บนเก้าอี้ก็หงายหลังเลย ถ้ายืนอยู่ก็เหมือนโดนกระโดดทีบขาคู่
เดียวคงรอตั้งตัวได้ก่อนแล้วจะสวนกลับ แต่คงมาแนวๆเดิมแก้ปัญหาลูปหน้าไป ไม่จริงใจ และไม่สนจิตใจคนใช้อยู่ดี เดียวจะต้องมีข่าวอีกหลังจากสวนกลับ
มันก็จริงนะ ถ้าโทรศัพท์มันโทรออกไม่ได้ จะให้เรียกมันว่า โทรศัพท์ ได้ไง
ขำพวกสาวกที่พยายามออกมาแถจริงๆ แต่ก็เป็นเรื่องปกติ อ่านจนชินไปแล้ว
แต่นับถือคุณ mk จริงต่อสู้กับสาวกได้อย่างยอดเยี่ยมมาก 555+ ยกนิ้วให้เลยครับ
ผมเคยเป็นสาวกมาก่อนครับ รู้หมดแหละว่าสาวกคิดยังไง และรู้ว่ามันไม่ดียังไง
ข่าวนี้ผมว่าอ่านกันให้ขำๆจะดีกว่านะ ร้อนแรงเหลือเกิน
ที่เป็นก็ยังเป็นกันต่อไป ไม่รู้จะอะไรนักหนา
น่าจะมองว่าใครสร้างสิ่งที่เรียกว่า นวัตกรรม มากกว่านะ :))
A chemical rush''
นวัตกรรม สร้างกันหลายเจ้าครับ
เจ้าไหนสร้างไว้เยอะครับ?
A chemical rush''
ไม่มีโมโตโรล่าวันนั้น ... ไม่มีไอโฟนวันนี้
วันไหนครับ?
A chemical rush''
ถ้าเอาข้อมูลตาม Wikipedia ก็เป็นสักวันในปี 1973 ครับ
ถ้ายึดตามวันที่โทรออกครั้งแรก ก็ April 3, 1973
ลึกดีครับ ประเด็นที่ผมถามก็แค่ผมไม่รู้ว่าเจ้าแรกที่ผลิตคือ Motorola :) แต่ก็ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
ส่วนนวัตกรรมนี่ถ้าพูดถึงแค่นั้นมันก็คงไม่เกิด Motorola รุ่นถัดไปหรอกครับ
A chemical rush''
ข้อมูลเกือบทั้งหมด หาได้จากกูเกิลหรือวิกิพีเดียครับ ถ้าอยากจะหาจริงๆ ไม่ยากเย็นอะไร
เอางี้ดีกว่าครับคุณเอารายชื่อนวัตกรรมที่เกิดบน iPhone มาโชว์เลยดีกว่าเดี๋ยวผมจะหาข้อมูลต่อเองว่าอะไรเกิดมาจากอะไรของใคร ใครเริ่มก่อนจึงมีตัวนี้
ผมละสงสัยจริงๆ ว่าการสัมผัสหน้าจอเนี่ย ใครเป็นคนคิดกัน ?
http://en.wikipedia.org/wiki/Touchscreen
ตรงที่มีแสง
อ้างจาก wikipedia และ wikipedia
touch screen ถูกคิดค้นขึ้นครั้งแรกช่วงครึ่งหลังของยุค 1940 และได้ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกโดย IBM ในช่วงปลายยุค 1960 จนได้ถูกนำไปใช้บนคอมพิวเตอร์ PLATO IV เมื่อปี 1972 ครับ
ในช่วงแรกนี้ touch screen สามารถรับการสัมผัสได้แค่จุดเดียวบนจอเท่านั้น
จนกระทั่งปี 1977 CERN ได้พัฒนาระบบ multi-touch โดยใช้แนวคิดของหลักการนำไฟฟ้า (หรือก็คือต้นแบบของ capacitive นั่นแหละ) เป็นครั้งแรก และใช้กับเครื่องควมคุมความเร่งอนุภาค
ปี 1983 ที่ Bell Lab ได้ตีพิมพ์แนวคิดของการพัฒนาระบบสัมผัสให้รับข้อมูลได้มากกว่า 1 จุด จนปี 1985 ที่มหาวิทยาลัย Toronto ก็ได้ทำการสร้างโต๊ะ touch screen ขึ้น โดยเป็น multi-touch แบบ capacitive แทนที่แบบใช้กล้องตรวจจับครับ
ปี 2007 Apple นำเอา multi-touch มาใชเใน iPhone ครับ
ดีก็ว่าดี ไม่ดีก็ว่าไม่ดี
ไม่รู้จะไปปกป้องทำไม
คิดให้ออก คุณควรปกป้องผลประโยชน์คุณเอง ผลประโยชน์ของผู้บริโภค
เขาทำของไม่ดีมีปัญหา แต่คุณไปปกป้องท่าทีที่ไม่เข้าท่าของเขา ดูแล้วไม่ค่อยมีเหตุผล
(จริง ๆ แล้วที่เขาตอบแบบแกล้ง ๆ ว่าให้เปลี่ยนวิธีจับบ้าง เขาแค่หวังผลให้เขาไม่ต้องรับผิดชอบ
รุ่นหลัง ๆ เขาแก้ไขแน่ แต่รุ่นที่ออกมาแล้ว เขาไม่อยากให้ยอดตก เขารักษาผลประโยชน์บริษัทเขา)
อย่าโดนสะกดจิต มีคนให้หลงไหลบูชาอีกคน ชีวิตคุณไม่ได้ดีขึ้น
ผมว่าออกมาช่วยกันโวยเยอะ ๆ นี่แหละดี เขาจะได้แก้ไขแล้วเป็นผลประโยชน์ของผู้บริโภคเอง
ส่วนของฝั่งโนเกีย
โนเกีย ยังติดกับคำว่า โทรศัพท์
ความหมายของแท่งสี่เหลี่ยม ที่เราเรียกว่า มือถือ มันเริ่มไม่ตรงกับ perception เดิม ๆ แล้ว
แน่นอนคุณทำ โทรศัพท์ออกมาได้ดี แต่คุณทำ อุปกรณ์สื่อสารแบบพกพาส่วนบุคคล ออกมาได้ยังไม่ดีพอ
ผลงานในตลาดมันสะท้อนออกมาแบบนั้น
+1 คอมเมนต์ที่ถูกใจ ทุกประโยคครับ :)
ผมไม่เห็นด้วย ผมว่าเราควรหยุดซักก้าวนึง แล้วพิจารณาว่า ไอ้ iPhone หรือ Android ในมือเนี่ย มันควรจะเรียกอะไรกันแน่
ผมมองว่ามันเกินคำว่าโทรศัพท์ไปแล้ว และที่น่าเศร้าคือ ถึงกับคิดว่ามันโทรออกแย่ไม่เป็นไร เราใช้ทำอย่างอื่น
ความหมายของแท่งสี่เหลี่ยมที่เรียกว่ามือถือก็ควรให้เป็น โทรศัพท์ (ตราบใดที่มือถือยังย่อมาจากโทรศัพท์มือถือ) อย่างที่โนเกียยึดติดต่อไป
ให้ผมเรียก BB ว่าโทรศัพท์ ผมก็ทำใจเรียกไม่ลงนะ ผมเรียกมันว่าเครื่องแชท
ก็โชคดีที่เราคนไทยเรียกว่ามือถือ ถ้าต่อไปมันเปลี่ยนชื่อเป็นคอมพิวเตอร์มือถือ เราก็ยังเรียกว่ามือถือได้
สำหรับผม ผมอยากได้ Tablet ที่โทรศัพท์ได้ มากกว่า iPhone นะ
ผมว่า โนเกีย จะมาแดกดันใส่ ไอโฟน มันก็ไม่แปลกอะไรนี่ครับ
ตั้งคำถามก่อนซื้อโทรศัพท์มือถือ
ความสามารถที่เราต้องการเป็นอย่างแรกและต้องทำได้และผมก็เชื่อว่าทุกคนต้องการมันที่โทรศัพท์มือถือต้องใช้ได้ คือ "มันต้องโทรออกและรับสายได้อย่างไม่มีปัญหา" ไม่ว่าเราจะโทรยังไง จับยังไง ตีลังกาโทร หรือ กระโดดๆ เหยงๆ โทรไป มันต้องทำได้หมด ซึ่ง
Nokia 5800 ของผมอย่างที่อธิบายมาจากข้างบนทำได้หมด
BB ของน้องผมก็ทำได้เช่นเดียวกัน
แม้แต่ Iphone 3G ของน้าผมมันก็ทำอย่างนั้นได้
แต่ทำไม Iphone 4g ทำได้บ้างไม่ได้บ้างละ ถ้าผมซื้อ 4g ไปแล้วดันมีเหตุการณ์จับขอบแล้วสัญญาณหายละ
ผมต้องทำอย่างไร
1. จ่ายเงินเพื่อซื้อกรอบพลาสติก
2. ทำตามที่jobบอกคุณควรจับด้วยท่านี้เท่านั้นนะ (ผมแนะนำทำคู่มือวิธีจับIphone ที่ถูกวิธีลงไปใน แมนนวลนะครับ)
3. เลียนแบบ L จาก Death note ด้วยท่าจับสุดพึลึก
4. ซื้อ Bluetooth หรือ smalltalk ไปใส่ซะจะได้ไม่มีปัญหา
หรือเราจะควรที่จะ บอก Apple บ้างว่า ในบางครั้ง Apple ควรจะคำนึงถือคนใช้บ้างนะครับบ้างที Apple ท่านเล่นโยนขี้ ใส่คนซื้อแบบนี้มันก็ไม่ไหวนะครับ หวังว่า Apple คงแก้ปัญหาได้ในเร็ววัน
บางทีผมก็รู้สึกแปลกๆที่ว่า ทำไม Microsoft และ Nokia ถึงได้โดนยำเละเทะ ราวกับเป็นศตรูเมื่อชาติปางก่อนกันมาเลย ในขณะที่ google นี่ยังปกติชมบ้างด่าบ้าง แต่ Apple นี่ยาวกันทุกกระทู้เลยนะ
***ความเห็นส่วนตัวผมนะ ผมไม่ได้กระแทกใครนะครับ
ไม่พอใจก็คืนสินค้าครับ :))
A chemical rush''
ผมจึงเลือกที่จะไม่ซื้อสินค้าของ Apple ครับ
ขนาดปัญหาภาษาไทยใน iPod nano ง่ายๆ ใช้เวลาแก้เกือบปี!!! กว่าจะออก update -_-' ผมแทบจะลาขาดแล้ว
ผมไม่เข้าใจคนที่ซื้อไปแล้วมาเรียกร้องสิทธิมากมายนะครับ สิทธิที่จะคืนก็มี แต่ก็ยังโวยวายอะไรมากมาย คืนไป ได้เงินกลับมาก็จบแล้ว ถ้าเค้าไม่ให้คืนนั่นก็ได้เป็นเรื่องใหญ่ไป ;(
A chemical rush''
มันมีอะไรให้คิดมากกว่า การได้ของไม่ดีแล้วคืนได้ = จบเรื่องนะฮะ แบบนั้นมันง่ายไป
อย่างถ้าเป็นคนที่ขายมือถือเครื่องเก่าไปเพื่อมาซื้อ iPhone 4 โดยเฉพาะนี่ ทั้งเสียความรู้สึก และเสียเวลาฮะ
ยิ่งมีสิ่งผูกมัดอย่าง Purchased apps ใน iTunes Account อีก
แล้วการที่เค้าออกมาเรียกร้องสิทธิมันก็เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคพึงกระทำนี่ เหมือนซื้อโน๊ตบุคมา ยังไม่ทันได้ใช้ก็พังซะแล้ว แน่นอนว่าต้องเอาเรื่องศูนย์บริการแน่นอน
การเรียกร้องสิทธิมันมีสถานที่ให้เรียกร้องครับ เว็บบอร์ดไม่น่าจะเป็นสถานที่เรียกร้องสิทธิผู้บริโภคครับ
สิทธิที่ทำได้กับเรื่องเสียความรู้สึกมันคนละประเด็นกัน
A chemical rush''
ซื้อเครื่อง
ซื้อ App
ใช้ไป ไม่พอใจ
คืนเครื่อง
มันคืนเงินค่า App ที่เราซื้อให้มั้ย?
ถ้าคืนค่อยว่ากัน
ผมเข้าใจว่า ข้อตกลงในการซื้อแอพของ Apple App Store ไม่มีการคืนเงินนะครับ :)
คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าไปอ่านกันหรอก เพราะมันเยอะมากจนผมเองก็ไม่อ่าน = ="
A chemical rush''
ก็เพราะมันไม่มีน่ะสิครับ คุณ Blltz ถึงได้พูดว่า "มันไม่ใช่แค่ คืนได้ == จบเรื่อง"
เอาแค่เรื่องว่าเสียเงินซื้อแอพไปแล้ว ไปๆมาๆเลิกใช้เพราะมันกาก เงินที่เสียซื้อแอพไปก็เสียเปล่า แค่นี้ก็เท่ากับเราขาดทุนแล้ว
การเรียกร้องสิทธิผู้บริโภคเป็นการกระทำเพื่อเอาสิทธิ์ในปัจจุบัน
แต่เว็บบอร์ดนี้คือที่เริ่มต้นในการหาหนทางว่าในอนาคตควรจะทำอะไรให้มันดีกว่านี้ เพื่อไม่ให้มันเกิดปัญหาจนต้องเสียเวลาไปเรียกร้องแต่แรก
หนทางนึงที่ทำได้คือ แชร์ประสบการณ์ว่าจริงๆสินค้าหรือบริการของบริษัทนี้มันกากส์ ในอนาคตอย่าหลงคารมมันมาก ก็เป็นหนทางนึงในการบีบผู้ประกอบการให้ทำของดีๆ บริการดีๆ
คุณมาจากไหน มาไล่คนอื่นเขาไปทำโน่นทำนี่?
สาวกก็ยังคงเป็นสาวกจริงๆ
ผมบอกว่า iPhone 4 มันมีสิทธิ์คืนได้ ก็ถูกนี่ครับ ที่ไหนคืนไม่ได้หรอครับ??
อีกอย่างคือผมไม่ได้ไล่ใครไปไหนเลยนะครับ แล้วไม่ต้องมาทำเป็นสอบสวนผมว่าผมเป็นใครมาจากไหน ผมก็แค่สแดงความคิดเห็นแล้วคุณจะมาเดือดร้อนอะไรมากมาย เพราะผมไม่ได้ทำผิดกฏของเว็บนี้? ถ้าผิดกฏ admin ก็มาลบบัญชีผมออกไปเองแหละครับ ไม่จำเป็นต้องมารู้มากมายว่าผมเป็นสาวก??
A chemical rush''
แหม คิดงี้ก็แย่สิ เหมือนใช้เครื่อง PC ซื้อ Windows มาลงเสร็จ ไปซื้อ Winzip มาลง ทีนี้พอไม่ชอบใจ Windows จะเอาเงินคืน แต่จะให้คนขาย Winzip คืนเงินด้วย จบกัน.....
จริง ๆ คุณก็ทดลองใช้ก่อนซื้อสิครับ
ตรงที่มีแสง
เพราะฉะนั้นเขาก็ตั้งประโยคแรกไว้ว่า
ฉะนั้นไอ้การที่พูดว่า ไม่พอใจก็คืนได้นี่
มันเป็นคำพูดพล่อยๆ
ไงครับ
ถ้าหมายถึงผมละก็ ผมพูดถึง iPhone ครับ มันคืนได้แน่นอน ไม่ได้พูดพล่อยๆ ถ้าหมายถึงคนอื่นก็ขอโทษด้วยที่มายุ่งกับคอมเม้นของคุณ
A chemical rush''
เอ่อ ซื้อไอโฟน ถ้าไม่พอใจ ยินดีคืนเงินด้วยหรอครับ
อันนี้ผมไม่รู้จริงๆ - -"
แต่ถ้าไอ้ที่ว่าคืนได้ๆ แต่ไม่ได้เงินคืน ละใครจะคืนอ่ะครับ -*-
สงสัยต้องพูดให้มันชัดๆๆๆๆๆถึงจะเข้าใจ iPhone Apple Retail Store United States Of America ประเทศนั้นเค้ามีเรื่องแปลกๆเยอะครับ ซื้อแล้วไม่พอใจก็ต้องดูว่าไม่พอใจอะไร ไม่ใช่ไปบอกเค้าว่า ไม่พอใจที่มันมีหน้าจอใหญ่เกินไป ไม่พอใจที่มันมีรูปแอปเปิลด้านหลัง อันนั้นฟ้องศาลเค้ายังไม่ให้คืนเลยมั้งครับ :(
A chemical rush''
บ่นก็ส่วนบ่นฮะ เรียกร้องก็ส่วนเรียกร้อง
ผมก็เข้าใจว่าคุณบ่นครับ :]
A chemical rush''
เข้าใจผิดแล้วล่ะฮะ ผมไม่ได้บ่นนะ = ="
ขอโทษครับที่เข้าใจผิด :)
A chemical rush''
ผมว่าผมบ่นทั้งใน Blog ตัวเองและมีผู้ใช้ท่านอื่นไปบ่นแจ้งใน forum ของ Apple เอง และแน่นอน Apple รับรู้ปัญหาก่อนที่ผมจะบ่นใน Blog หรือแม้แต่ ผม Update ตัว iPod Software ตัวล่าสุด (ตอนนั้น) ซึ่งหากระทู้ได้ไม่ยากใน forum ของ Apple เองครับ การบอกให้ไปเรียกร้องร้องเรียน ถ้าไม่มีการ duplicate ผมก็จะไม่ทำ เพราะถือว่ามีคนแจ้งแล้ว และมันเปิดเผยแน่ชัดว่าเป็นจริง จะไม่แจ้งซ้ำหลายรอบ ไม่งั้นปัญหาใหม่ๆ จะโดนดันตกไป (ถ้าเคยแจ้งใน bug report ของ opensource จะทราบแนวคิดนี้ดี) ผมเฝ้ามองการแก้ไขปัญหาและนั่งแก้ไขปัญหาด้วยวิธีที่ยังพอทำได้อยู่ครับ (ซึ่งมันใช่ความผิดผมไหม ก็ไม่ใช่ แต่ก็ต้องทำ ซื้อมาแล้ว หมดระยะเอาเงินคืน 7 วันและ 30 วัน ตามกฎหมายไทย)
ผมซื้อของ ถ้ามันเกิดข้อผิดพลาดมันก็ต้องแก้ไขซิครับ เอะ! หรือผมเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า
แบต ThinkPad Z61t ของผม มันหมดประกันปีแรกไปแล้ว มีประกาศ recall ผมยังได้สิทธิ์การ recall อยู่ ผมยังเปลี่ยนแบตที่ผลิตออกมาผิดพลาดได้เลย
หรือเวลา iPhone ของ Apple แบตเสื่อม ทำไมเคลมเครื่องทั้งเครื่องได้เลย แต่กรณีนี้ผิดพลาดในการออกแบบ ทำไมทำไม่ได้ คำถามนี้ผมว่าเค้าต้องวางแผนแก้ไขได้แล้ว ไม่ได้ตอบแบบปัดความรับผิดชอบครับ
ประเด็นของ Apple คือ ยังไม่มีใครสรุปได้เลยว่า Apple ออกแบบผิดไม่ใช่หรือครับ หรือว่าผมอยู่ในรูมา ผมเลยไม่ทราบข่าวว่าเค้าสรุปกันเป็นทางการไปแล้ว?
A chemical rush''
ถ้ายังไม่สรุปอะไรมา แต่การทดสอบของ user ก็น่าจะสะกิดคนในองค์กรระดับบนได้ว่า อย่าเพิ่งด่วนสรุปอะไรลงไปก่อนออกมาพูดหรือเปล่า ทำไมไม่เร่งตรวจสอบหรือทำหน้าชี้แจ้งว่ากำลังตรวจสอบหล่ะ ผู้บริหารด่วนสรุปหรือปากไวเกินไปหรือเปล่า ตรงนั้นต่างหากคือประเด็นสำคัญต่อมา
การเรียนกร้องการบ่นมันก็เป็นเรื่องปรกติ ประเด็นคือการยกตัวอย่างและการแก้ไขเมื่อมันมีปัญหาจริงๆ และผมเชื่อว่าต้องมีคงส่งอีเมลไปถล่มเพียบแล้วในกรณีนี้ครับ (ไม่งั้นข่าวไม่ใหญ่ขนาดนี้หรอก)
การที่บริษัทจะประสบความสำเร็จหรือไม่มันดูกันที่ตอนแก้ไขปัญหาด้วยนะ ไม่ใช่แค่จะเอาแต่ความสำเร็จครับ และการออกมาหาข้อมูลเชิงรุก ฟังเสียงบ่น ก่นด่าตามบอร์ดชั้นนำถือเป็นหน้าที่ของบริษัทด้วยหรือเปล่านะ ในการทำ CRM สมัยใหม่ การทำ CRM แบบตั้งรับด้วยการทำช่องทางติดต่อโดยการไม่รุกเข้าหาผู้ใช้ เป็นการทำธุรกิจแบบเก่าที่น่าจะได้รับการปรับปรุงกันบ้างแล้วครับ ตัวอย่างชัดเจนดูได้จาก Operater ค่ายมือถือในห้อง MBK เว็บ Pantip ครับ
อันนั้นก็ว่าไปในความล่าช้าในเรื่องการดำเนินการช่วยเหลือลูกค้าครับ Apple ก็อย่างที่คุณว่านั่นแหละครับ เรื่องภาษาไทยนี่ถ้าไม่มี iPhone ในไทยแล้วขายดีซะด้วย เค้าก็คงไม่เห็นหัวลูกค้าที่ไม่มีคีย์บอร์ดไทยใช้แหละครับ :((
A chemical rush''
ส่วนตัวผมรู้สึกว่า Apple เค้าไม่สนใจคำบ่นลูกค้ามาแต่ไหนแต่ไรแล้วอ่ะครับ ทำอะไรก็โดนบ่นตลอดตั้งแต่ไอโฟนปี 2007 แล้ว
แต่ก็ยังทำรายได้ให้บริษัทถล่มทลายอยู่ดี ต่อให้ยังมีปัญหาต่อไป ดูเหมือนคนนับล้านก็ยังพร้อมที่จะซื้ออยู่ดี :)
มันคือความฮาที่ต้องเก็บไว้
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ตอนแรกว่าจะถอยไอโปน(หล่อ) แล้วนะ เพราะชอบดีไซน์รุ่นนี้
แต่พอดีผมถนัดซ้าย อดฮะ T.T
ใช้บีบี(หน้าหม้อ) กับโนเกีย(โง่) กับซัมซุง(บูชาเกาหลี) ต่อไปฮะ :3
บูชาเกาหลีนี่ต้อง LG ด้วยมั้ยครับ เห็นกันบ่อยเหลือเกิน Lollipop Ice-Cream :)))
A chemical rush''
ท้ายปีนี้ผมจะไปอยู่เกาหลีฮะ คาดว่าคงไม่พ้น Lollipop (น่ารักมาก) ไม่ก็ Galaxy S (งามมาก) ฮะ :D
ใช้ Wellcom จะโดนหาว่า"จน" มั้ยนะ T^T
ใครจะมองคุณว่าจน แต่ผมมองว่าคุณ "คุ้ม" กับสิ่งที่มีอยู่ครัฟ
หนังสือการลงทุนเล่มหนึ่งสอนผมไว้ และผมท่องขึ้นใจ
"คนรวยคือคนที่มีรายได้เกินรายจ่าย"
lewcpe.com, @wasonliw
อันนี้จิง ออกแบบมือถือต้องคิดแค่มากกว่าสวยและบาง
รู้สึหลายครั้งที่ไม่รู้ตัวก็ถือเครื่องมือซ้ายทั้งๆ ที่ถนัดมือขวา
+1 ฮ่าๆๆ ถนัดขวา แต่ถือซ้าย
แต่ก่อนผมใช้ iPhone แต่ตอนนี้ใช้ 5230 ที่เป็น touch phone เพราะชอบหน้าจอใหญ่ ๆ ไว้ดูหนัง GPS Twitter แล้วก็เปิดเว็บ ถ้าเทียบกับ iPhone ความรู้สึกในการใช้ iPhone ดีกว่ามาก แต่ถ้าพูดถึงฟังชั่นการใช้งานผมว่า Nokia มันทำได้พอ ๆ กัน บางอย่างดีกว่า บางอย่างด้อยกว่าแต่ถูกกว่า ราคาไม่ถึง 7พันบาท
ตอนนี้ถามผมจริง ๆ ผมไม่ใช้ iPhone 4 แน่นอนเพราะมันยังไม่มีอะไรที่น่าสนใจพอที่ผมจะเปลี่ยนโทรศัพท์ คงต้องรอดู iPhone5 ว่าน่าสนใจหรือเปล่า
ที่ผมแปลกใจคือผมถนัดขวาแต่ใช้โทรศัพท์มือซ้ายตลอด ผมลองใช้โทรศัพท์มือขวาแล้วไม่ถนัดเลยจนผมคิดว่าโทรศัพท์ออกแบบให้ใช้กับมือซ้ายมากกว่า แต่เห็นคนอื่น ๆ ถือโทรศัพท์มือที่ตัวเองถนัดกันทั้งนั้น
ตรงที่มีแสง
ผมถนัดขวาก็ถือโทรศัพท์ข้างซ้ายครับ
もういい
ผมก็ถนัดขวาและโทรศัพท์โดยฟังด้วยหูซ้ายเหมือนกันครับ
เพราะหูข้างขวาผมมีปัญหานิดหน่อย ฟังด้วยหูข้างซ้ายชัดกว่า
ว้าว! รุ่นเดียวกันเลย..
ตอนแรกผมก็วางแผนไว้ว่าจะ ซื้อ iPhone 4 2 เครื่อง น่ะครับ (ให้แฟนเครื่องนึงไว้ Facetime)
ยังไงก็รอเครื่องในประเทศอยู่แล้ว แต่พอมีปัญหาจากการออกแบบทำให้ชะงักเลย..
ว่าแต่ ผมก็นั่งหน้าจอคอมฯ อยู่ทั้งวันอยู่แล้ว.. ผมเลยไม่ค่อยรู้สึกนะว่าต้องใช้ Smart Phone ที่มัน Smart มากๆ..
ผมยินดีอยู่กับบริษัทที่ผลิตสินค้าที่เมื่อเกิดปัญหา
พร้อมยืดอกยอบรับผิดว่ามีปัญหา
และตั้งใจแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าอย่างจริงจัง
ไม่ใช่แถอย่างหน้าด้านๆ ว่าลูกค้าใช้ไม่เป็น
หรือถึงเป็นแบบนี้ก็ขายได้อยู่แล้วใครจะทำไม
ใครอยากทนให้เค้าจิกหัวทั้งที่เราเป็นคนประเคนเงินให้เอาเถอะ
จริงๆเรื่องบริษัทต่างๆเค้าทับถมกันนี้ผมว่าเป็นเรื่องปกติมากเลยนะ ผมเชื่อว่าทุกบริษัทต้องเคยทั้ง "ทำ" และ "ถูกกระทำ" มาแล้วทั้งนั้น ยิ่งเป็นบริษัทที่สู้กันใน red ocean แบบนี้ สำหรับคราวนี้ Apple พลาดเองที่ดีไซน์ผลิตภัณฑ์มาแล้วมีปัญหา (ซึ่งจริงๆทุกบริษัทก็เคย) แต่ที่แย่กว่าคือคำตอบของจ๊อบส์ต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้บริษัทอื่นมีจุดเล่นงาน เรื่องนี้ ต่อให้ไม่ใช่ Nokia ที่แขวะ Apple ก็ต้องมีเจ้าอื่นมาแขวะอยู่ดี :P
ขอบอกตามตรงนะครับผมพออ่านแต่ละ comment ไปผมเห็นด้วยกับคำว่า
ฟีเจอร์สำคัญของมือถือโนเกียคือ "มันโทรออกได้" ดังนั้นเราถึงเรียกมันว่า "โทรศัพท์" 100% แล้วล่ะ เพราะฟีเจอร์สำคัญของ iphone ก็คือการใช้เป็นโทรศัพท์เหมือนกัน แต่ทาง Apple เองกลับไม่ให้ความสำคัญเรื่องนี้ ดันไปให้ความสำคัญเรื่องอื่นจนลืมไปว่าตัวเองกำลังทำโทรศัพท์อยู่ แบบนี้ผมว่า Apple fail 100% ครับ
หรือจะมาอ้างว่า iphone ไม่ใช่แค่โทรศัพท์ก็ไม่ได้ด้วยครับ เพราะถ้า functionในการเป็นโทรศัพท์ไม่ได้เรื่องอย่าตั้งชื่อว่า iphone เลยดีกว่าเรียก ipadmini ดีกว่ามั่ง
ป.ล.ถึง admin ครับผมว่าตรง comment ต้องการ pager ด่วน
มันถึงสร้างความแตกต่างให้นโยบายของแต่ละบริษัทครับ :)
A chemical rush''
โอ้โฮนี้หรือเหตุผลของคุณ
ถ้าเอาคุณกับผมไปโต้วาทีกัน
คุณแพ้ตั้งแต่รอบแรกที่ให้เสนอยันติเลยนะครับ
ความเห็นผม มันก็คือความเห็นผมนะครับ ผมก็ไม่ได้บอกว่าความเห็นคุณมันผิดนะ ผมแค่พูดในสิ่งที่ผมเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง ถ้าคุณไม่คิดเหมือนผมแล้วอยากแย้ง ก็แย้งมาได้ ไม่ใช่ประชด
A chemical rush''
ผมกำลังจะบอกว่าที่คุณ reply ผมมานั้นมันไม่เกี่ยวข้องหรือขัดแย้งอะไรกับ reply ของผมแม้แต่น้อยครับ
และผมไม่ได้ประชดด้วยครับ คำที่ผมใช้นั้นมันเป็นการลดความรุนแรงของสิ่งที่ผมคิดที่สื่อออกไปต่างหาก
ที่จริงผมเป็นคนที่มีความคิดออกแนวรุนแรง แต่ด้วยที่ผมไม่อยากให้เป็นเรื่องยาว
ผมจึงต้องใช้วิธีที่ให้คนอื่นคิดเองว่ามันหมายความว่าอะไรแทนครับ
แต่บางคนรู้ทันนะครับว่าถูกผมว่าอยู่ เขาจึงถามว่าที่จริงผมว่าอะไรไป ผมถึงบอกไปตรงๆได้ครับ เพราะเขายอมให้ว่าเองแล้ว
โอเคครับ ขอโทษครับที่มาอยู่ผิดที่ แต่ผมไม่ได้ว่าคุณประชดนะ ผมหมายถึงผมเองว่าผมไม่ได้ประชดนะ :((
A chemical rush''
ไม่ครับ
ในเมื่อบอกว่ามันเป็น phone มันก็ควรจะโทรได้
อย่างอื่นเป็นของเสริม ถึงแม้เป็นจุดขายหลัก
ถ้าจะมาบอกว่าขาย phone แล้วโทรออกไม่ได้
ให้ออกมาบอกว่ามันเป็น pocket pc(pocket mac)ที่โทรออกได้
แล้วเสารับส่งสัญญาณมันมีปัญหายังจะดีกว่า
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ผมว่าคนส่วนใหญ่ก็ยังโทรได้นะ แค่ท่าจับไม่ถูกต้องตามศาสดาก็จะโดนสาปแช่งให้สายหลุดก็แค่นั้น ;)
A chemical rush''
คุณ iStyle เข้าใจถูกครับว่าผมกำลังบอกอะไร
และขอบคุณที่ช่วยขยายความเพิ่มครับ
ถ้าบูชาเกาหลีเป็น Samsung กับ LG แล้ว HTC เป็นอะไรดีหนอ อิอิอิ
บูชาไต้หวัน ! F4 ก็ไต้หวัน !
เข้ามาดูสาวกดิ้น= ='
อ่านคอมเมนต์ถึงประมาณเรื่องรายได้ละ
เดี๋ยวกลับมาอ่านต่อ นอนก่อนง่วง
แต่ก็พอเห็นแล้วแหละว่าคุณ mk มีข้อมูลจริง
อีกฝั่งมีแต่ลมปาก
May the Force Close be with you. || @nuttyi
อ่านคอมเม้นกว่าจะจบ เยอะมาก
ประเด็นคือผมว่าคำว่า Dumb Phone ไม่ได้รุนแรงอะไรเลยถ้าเป็นภาษาที่พูด ๆ กัน เราไปแปลเป็นภาษาไทยกันเกินไปหรือเปล่าครับ ผมเล่น HON เจอฝรั่งคุยมันก็ใช้คำพวกนี้ทั้งนั้นทั้ง ๆ ที่พวกเขาก็ไม่ได้มีอารมณ์รุนแรงอะไรมากมาย หรือจะลองสังเกตจากหนังก็ได้ครับพวกหนังวัยรุ่นต่าง ๆ
โทรศัพท์ Nokia จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ใช้มาทั้งของตัวเองและของน้องสาว ตัวโทรศัพท์ทำได้หลายอย่างจริงครับไม่ว่าจะเป็น Feature Phone หรือ Smart Phone แต่ก็ต้องพูดอีกอย่างด้วยว่าทำไม่ได้ดีสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Browser, User Experience ทุกอย่างช้าหน่วงอย่างไม่น่าให้อภัย ทำได้ดีอย่างเดียวที่เร็วครับคือโทรออกรับสาย ผมเลยเลิกใช้ Nokia ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้ดีขึ้นหรือยังแต่ทุกวันนี้เวลาเพื่อนใช้ Ovi Maps หรือ GPS ก็ยังบ่นอยู่เลยว่าช้าและ Delay มากบางทีเลยซอยไปแล้วเพิ่งมาบอกให้เลี้ยว
ด้านคุณภาพการผลิตเอง Nokia ก็ใช่ว่าจะดีนะครับ วัสดุก็กิ๊กก๊อกเสียเป็นส่วนใหญ่ทั้ง ๆ ที่ราคาก็หมื่นกว่าถึงสองหมื่นกว่า ยกตัวอย่างเช่น N หรือ E Series ลองไปจับดูก็รู้เลยว่าพลาสติกเมืองจีนเป็นยังไง อย่างนี้ผมก็เรียกว่าไม่คุ้มค่าเหมือนกัน
ประเด็นคือไม่ได้จะบอกว่า Apple ดีเลิศหรืออะไรนะครับ แต่จะบอกว่า Nokia น่ะสำหรับผมเรียกว่าห่วย สำหรับคนอื่นเรียกว่าอะไรไม่รู้ แต่คงไม่ใช่อะไรที่ดีแน่ ๆ โดยเฉพาะรุ่นที่ราคา 2 หมื่นขึ้นไปคุณภาพต่อราคาน้อยจนน่าใจหาย
That is the way things are.
ส่วนตัวผมก็เรียกว่า dump phone เพื่อแยกแยะออกจาก smart phone
ปัญาหาคือเราไม่มีนิยามชัดเจนว่า อะไรคือ smart phone อะไรคือ dump phone นิยามที่ดูเหมือนว่าจะใช้ได้ก็คือ โทรศัพท์มือถือที่ใช้ระบบปฎิบัติการณ์จำพวก Symbian, Windows Mobile, iOS (ที่ไม่ใช่เอาไว้ลงกับ Router), Android, WebOS, และอื่น ๆ อีกนิดหน่อย แต่ก็จะมีคนแย้งอีกว่า Symbian กับ WM มันตกยุคไปแล้ว (ซึ่งส่วนตัวไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่)
ส่วนประเด็นของข่าวนี้คือ Nokia ออกมาติติงฝั่ง Apple ว่า ยังออกแบบโทรศัพท์ออกมา "ใช้ไม่ได้" มากกว่ากระมัง ?
เหมือนกันครับ แต่พอเรียก dump phone กลายเป็นหาว่าคนใช้โง่ซะงั้น (ด้านบน)
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
อ่อ แล้วก็ที่ iPhone 4 จับแล้วสัญญาณ Drop นี่ก็เรียกว่าห่วยเหมือนกันครับ
That is the way things are.
ตาลายแล้ว แป๊บเดียวขึ้น 99 comment เลยแหะ
สุดๆ กับการอ่าน comment
-- ^_^ --
สาวกดิ้นกันพราดๆ เลยนะ 5555
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
เถียงกันได้ปวดตับมากๆ สรุปคือ
iPhone4 มีปัญหาสัญญาณจริงและกำลังรอการแก้ไขอยู่
ส่วนnokia ออกมาบอกว่า มือถือของเขาไม่มีปัญหาเรื่องนี้ ก็แค่นั้นนี่ เหอๆ
ส่วนเรื่องคนโวย มีแน่คับและเยอะด้้วย ต้องรอดูเฮียสตีฟต่อไปว่าจะแก้ไขปัญหานี้ได้ยังไง
ผมใช้ Nokia 5230 มาได้ 7 เดือนแล้วครับ
การเปิดเว็บใช้ Opera Mobile 10 ครับ เพิ่งอัพเดทไปตัวล่าสุดนี่ประทับใจมากครับ.. เปิดเว็บได้เร็วและดีครับ แต่ถ้าเปิดหลายแท็บมากไป ก็จะเกิดอาการ "หน่วยความจำไม่พอ" ครับ
Ovi Maps (3.0)ไม่เคยทำผมหลงครับ แต่ถ้ามันไม่พร้อม ผมยังมี Garmin และ Zygic และ Google Maps (ตัวเลือกสุดท้าย เพราะไม่มี Turn by Turn แถมถ้าไม่เลี้ยวตามที่มันบอก มันไม่ Rerouting ให้ด้วย) อ้อ.. จับสัญญาณเร็วมากๆครับ
Twitter และ Facebook ใช้ Gravity ครับ เร็ว และใช้งานง่าย
Ovi Store ห่วยจริงครับ.. แต่ไม่เป็นไรครับ ผมไม่เคยใช้อยู่แล้ว เพราะผมมีที่พึ่งอื่นอีกมากมาย..
ฯลฯ
เรื่องอื่นให้ติ มีอีกเยอะครับ ทั้ง Interface, Transition, Materials ฯลฯ ครับ
แต่ผมไม่ค่อยติมันครับ เพราะว่า "ผมรู้จักโทรศัพท์เครื่องนี้ดีพอ" ครับ
เรื่องช้า ผมว่ามันก็ไม่ได้ช้ามากนะครับ ถ้ารู้จักรอบ้าง ถึง Transition ไม่ได้หวือหวาก็ตาม
ผมเคยทำมันตกอย่างแรง 2 ครั้งครับ.. มันไม่เป็นอะไรเลย(ใส่ซองซิลิโคนไว้)
ราคาที่ผมซื้อมันมา ผมสามารถซื้อ iPhone ได้ 3 เครื่องครับ
ฯลฯ
ผมว่า โทรศัพท์เครื่องไหน จะเป็น Smart Phone หรือ Dumb Phone นั้น ขึ้นอยู่กับคนใช้มากกว่าครับ..
ผมว่า ที่ประเทศไทยมีปัญหาทุกวันนี้
ไม่ได้เกิดจาก "คนที่ไม่รู้" หรอกครับ แต่เกิดจาก "คนที่รู้..แต่รู้ไม่จริง" มากกว่าครับ
รวมไปถึง "พฤติกรรมเหมารวม" และ "ขาดเหตุผลและหลักฐาน"
นอกจากนั้น ยัง "ไม่ยอมรับความต่าง" และ "ไม่พร้อมจะเห็นด้วยในบางหลักการที่ถูกต้ิอง"
"ไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่า" .. ครับ ..
"ราคาที่ผมซื้อมันมา ผมสามารถซื้อ iPhone ได้ 3 เครื่องครับ"
ซื้อมาแพงนะครับนั่น
ผมก็ใช้รุ่นนี้ลงแค่ sygic กับ gravity
ตรงที่มีแสง
เอิ่ม.. พิมพ์ผิดครับ จริงๆต้องเป็น
ราคาที่ผมซื้อมันมา ต้องซื้อ 3 เครื่องถึงจะมีมูลค่าเท่ากับ iPhone เครื่องนึงครับ..
ด้วยมาตรฐานของผมและรุ่นที่ผมเลือกไป (ราคาหมื่นกว่าถึงสองหมื่นกว่า) การช้าแบบนี้ไม่สามารถเรียกว่าดีพอได้ครับ และถ้าจะบอกให้ผมเปลี่ยนไปใช้เครื่องละ 8 พันมันก็ไม่ใช่ประเด็นอีกเพราะนั่นไม่ใช่รุ่นที่ผมสนใจครับ
That is the way things are.
และนั่นคือประเด็นครับ..
ก่อนที่คุณจะซื้อคุณได้ศึกษามันก่อนหรือไม่ครับ? และได้ทดลองใช้ก่อนหรือไม่ครับ?
แล้วเมื่อคุณไม่พอใจ คุณได้นำไปเปลี่ยนหรือไม่ครับ (ตรงนี้บอกได้เลยว่า คนที่ซื้อ iPhone จาก MBK หรือร้านค้าทั่วไป คุณนำมันไปเปลี่ยนได้รึเปล่าครับ? นั่นก็ไม่ต่างจาก Nokia หรอกครับ)
หลายคนที่จอง iPhone 4 ไปก่อน รวมถึงคนที่ไปต่อคิวซื้อเค้าไม่มีแม้แต่หนูลองยาด้วยซ้ำ
เค้าก็คงไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอปัญหาอย่างนั้นเหมือนกัน.. เช่นเดียวกับคุณ (ผมทึกทักเอาเอง)
(ผมไม่ได้บอกว่า มือถือ Nokia ดีทุกรุ่นครับ.. แต่มันมีหลายรุ่นให้เลือกครับ..
ทุกวันนี้ ขอโทษเถอะ ผมยังสาบแช่งคนคิด Layout ภาษาไทยในเครื่องของผมเลย..)
ถ้ามันมีปัญหา สิ่งที่ควรทำคือแบบ Toyota สิครับ.. หาต้นเหตุของปัญหาที่แท้จริงให้พบ แล้วเรียกคืนเพื่อนำไปแก้ไข
ตอนนี้ปัญหานี้ยังไม่จบครับ ไม่แน่ว่า Update ใหม่ที่ออกมาอาจจะแก้ปัญหาได้ก็ได้ แต่ผมว่า คำตอบไม่ควรจะเป็น "เปลี่ยนวิธีถือ หรือ ใส่ซองให้มัน" แน่นอนครับ
เหมือนจะบอกคนขับรถว่า ถ้าคันเร่งค้าง คุณก็ใช้เท้าของคุณงัดคันเร่งขึ้นมาสิ มันตลกน่ะครับ..
ผมว่าเรื่องคุณภาพของยี่ห้อหรือ Product นี่มันคนละเรื่องกับการยอมรับใน Product นั้น ๆ เลยนะครับ ตอนผมจะซื้อโทรศัพท์มือถือผมต้องลองเล่นก่อนนานขนาดไหนครับ ส่วนตัวแล้วผมเป็นผู้ซื้อที่ไม่ได้ออกแนว Geek หรือเคี้ยวจัด ที่ทำก็แค่อ่าน Spec ดูรูป อ่าน Review บ้างแล้วก็ไปซื้อเลย ตอนซื้อก็ทดสอบแค่คุณภาพของสินค้าที่ได้รับมาว่าได้อุปกรณ์ครบถ้วนหรือไม่ จอมีรอยหรือไม่ มี Dead Pixel หรือไม่ และเวลาผมซื้อผมก็ไม่ได้ซื้อตามร้าน MBK แต่มักจะไปซื้อจากศูนย์เลยโดยตรงมากกว่า เช่น iMobile Jay Mart เป็นต้น ผมว่าแค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วนะครับ
ทีนี้พอผมไปซื้อมาใช้จริงแล้วพบว่าคุณภาพของ Feature ต่าง ๆ นั้นห่วยอย่างมาก คุณจะมาบอกว่าเป็นความผิดของผมที่ไม่ลองใช้ก่อนสัก 2-3 ชั่วโมงแล้วค่อยซื้ออย่างนั้นหรือครับ? ผมว่ามันไม่น่าจะใช่คำโต้แย้งที่ถูกนะครับ ผมเลือกซื้อสินค้าจาก Brand และราคาแล้วผมก็มีความคาดหวังกับตัว Product นั้นพอมันออกมาห่วย ทำไมผมต้องรู้สึกยอมรับด้วยล่ะครับ
ที่ผมจะบอกคือ Nokia ห่วยไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวกับ iPhone ตรงไหน บอกตรง ๆ ว่าโดยส่วนตัวผมยังไม่เคยใช้ iPhone สักรุ่นเลยครับแต่ Nokia นี่ลองมาหลายรุ่นแล้วเหมือนกัน ประเด็นของผมคือ Nokia ก่อนจะออกมาด่าคนอื่นนี่ได้ดูตัวเองบ้างหรือเปล่า ตัว Nokia เองก็ไม่ได้วิเศษมาจากไหนหรอกครับ วัสดุโคตรจะจีนแดงและทุก Feature ก็โคตรช้าจนเกินรับได้ (ด้วยมาตรฐานของผมกับราคาที่ต้องเสียไปนะครับ ถ้าคุณบอกว่ารับได้แปลว่ามาตรฐานกับความคาดหวังต่อราคาของเรานั้นต่างกันครับ)
ถ้าจะถามความคิดเห็นของผมเรื่อง iPhone 4 ผมได้พูดไปแล้วครับว่าห่วยเหมือนกัน ตกแล้วแตกเลยนี่คงไม่เหมาะกับคนเที่ยวผับทุกอาทิตย์แบบผม จับบางส่วนของเสาแล้วสายหลุดเลยนี่ก็รับไม่ได้เหมือนกันครับ อย่าเข้าใจผิดว่าผมเป็นสาวกบูชา Apple ไปเสียขนาดนั้นครับ อันไหนดีก็ว่าดี อันไหนไม่ดีก็ว่าไม่ดี แต่ที่ผมเกลียดที่สุดคือพวกตัวเองก็ไม่ดียังจะมีหน้าไปว่าคนอื่น มันควรจะสำรวจตัวเองก่อนเสียบ้างครับ
That is the way things are.
ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้นนะครับ ผมขอความกรุณาคุณลองไปอ่านความเห็นของผมอีกสักครั้งหนึ่งนะครับ..
ผมต้องการจะชี้ว่า เช่นเดียวกันกับ iPhone 4 ในกรณีนี้แหละครับ
ผู้ซื้อต่างก็หวังไว้ทางด้านคุณภาพ ไม่มีทั้งเวลาลองเล่น (บางคนกล่องส่งถึงที่บ้าน บางเข้าคิวรอรับกล่อง อาจจะเป็นเพราะ Apple บอกว่ามันเปลี่ยนเครื่องได้ถ้ามีปัญหา) ก็คงจะเซ็งล่ะครับ เหมือนกับคุณทุกประการเลยครับ
(แต่ผมขอเห็นต่างนิดนึงตรงที่ Nokia รุ่นล่างๆ ทำ Feature Phone ออกมาได้สมกับการเป็น "โทรศัพท์ธรรมดา" มากๆ)
แต่ถ้าจริงๆแล้ว Nokia จะออกมาทับถมในประเด็นนี้ ผมเห็นว่าไม่ใช่เรื่องแปลกนะครับ.. เพราะว่ามือถือที่เค้าผลิตมา ไม่ได้สร้างความคาดหวังในระดับใหญ่ขนาดนี้ และไม่ได้เจอปัญหาแบบเดียวกันนี้ (เท่าที่ผมทราบ) แต่ถ้า Nokia ออกมาทับถมเรื่องคุณภาพวัสดุหรือคุณภาพการประกอบนี่ไม่แน่ครับ อาจโดนตอกกลับได้ เพราะ อย่างเช่น 5800 รุ่นยอดนิยม เห็นเรียกกัน "น้องอ้า"..
เอ่อ
TOYOTA ไทยบ้านเราวิธีแก้ปัญหา คือ ใช้เงินอุดปากนักข่าวนะ(แค่โฆษณา นี้ก็เพียบแล้ว)
ไหนจะเคยฮั้วประมูลรถกับนักการเมืองอีก
"เบรกทื่อแต่ปลอดภัย" ยังพูดมาแล้ว
:P กลับเข้าเรื่องต่อ
เบิ้ล
+1 ตอนนี้ผมก็ยังมีความสุขกับ Nokia 5800 อยู่เหมือนกัน
รอเปลี่ยนก็อีกซักปีสองปีนู้น แต่เครื่องต่อไปคงเป็น Android แฮะ :P
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
คุณน่าจะให้เกียรติสาวกกันหน่อยนะ... ในเมื่อคุณจะพยายามให้สาวก(สาวกจริงๆ) ลืมหูลืมตาซะบ้าง แต่คุณกลับพยายาม "ดูถูก?"สาวก ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาก็ต้องป้องกันตัวด้วยลมปากที่มีอารมณ์ และอาจจะไม่มีเหตุผล
MK ว่าไว้
" 1. ผลิตภัณฑ์แอปเปิลมีปัญหาได้
2. จ็อบส์ไม่แคร์คนใช้ได้ คำว่า "เพื่อ user experience" เป็นแค่โฆษณา
3. ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล ไม่ใช่ของที่ดีที่สุดในตลาด
4. แอปเปิลลอกคนอื่นอยู่บ่อยครั้ง
5. มีมือถือ 6 ยี่ห้อ (ตัวเลขข้างบน) ที่ขายดีกว่าแอปเปิล
6. เลิกใช้สินค้าแอปเปิล เพื่อสร้างความรู้สึกเหนือกว่าของตน และเหยียดคนที่ใช้ของยี่ห้ออื่นเสียที
"
ผมไม่มั่นใจข้อ 2 แต่ไม่เห็นด้วยข้อ 6
ถ้าเป็นคนที่สร้างความเหนือกว่าของตนด้วยการซื้อสินค้า Apple คุณคิดเหรอว่าเขาจะยอมเลิก?
พวกที่เป็นสาวก อาจจะได้รับประสบการณ์ดีๆ จาก Apple ก็ได้... มีสาวก Apple เยอะขนาดนี้แสดงว่า Apple ต้องมีดีอะไรซักอย่างที่ทำให้ลูกค้าของเขาพอใจ และซื้อผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่ของเขาเรื่อยๆ (คิดดีๆ นะผมว่าคนประเภทนี้ก็มีกับยี่ห้ออื่นๆ เหมือนกันแต่จำนวนไม่เท่ากัน)
สำหรับคนที่ยังไม่เคยลอง คุณก็ลองซักหน่อยก็ได้ถ้ามีโอกาส...
สำหรับคนที่ลองแล้วไม่ติดใจ ก็ไม่เห็นจำเป็นว่าจะต้องให้คนอื่นไม่ติดใจไปกับเราด้วยหนิ? แน่นอนว่าเรามีสิทธิที่จะแนะนำ...
+1
รู้สึกเหมือนกำลังอ่านเว็บบอร์ดการเมือง ที่คิดว่าความเห็นตนเหนือกว่าฝ่ายตรงข้าม
มองกลับกัน .. คนใช้ Apple อาจจะเป็นตัวประหลาดก็ได้นะ :P
ความเห็นที่มีข้อมูลรองรับ กับ ความเห็นที่มีความรู้สึกรองรับ ต่างกันไหม?
แต่ผมว่าที่mkพูดมามันก็ตรงทุกข้อนะ แล้วก็ค่อนข้างจริงด้วย
ผลิตภัณฑ์แอปเปิลมีปัญหาได้ << ก็มีปัญหาอยู่กันเห็นๆ
จ็อบส์ไม่แคร์คนใช้ คำว่า "เพื่อ user experience" เป็นแค่โฆษณา<< ก็ดูคำตอบพี่แกเรื่องสัญญาณสิ
ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล ไม่ใช่ของที่ดีที่สุดในตลาด << ต้องไม่ดีที่สุดอยู่แล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรที่ดีสุด
แอปเปิลลอกคนอื่นอยู่บ่อยครั้ง << ใครๆเค้าก็ลอกกันไม่แปลก
มีมือถือ 6 ยี่ห้อ (ตัวเลขข้างบน) ที่ขายดีกว่าแอปเปิล << ก็จริงอะ
เลือกใช้สินค้าแอปเปิล เพื่อสร้างความรู้สึกเหนือกว่าของตน และเหยียดคนที่ใช้ของยี่ห้ออื่นเสียที <<< จริงๆคงจะพิมว่าเลือก*....ถ้าคุณเข้าถึงคำว่า "สาวก" จริงๆแล้วละก็ ข้อนี้ตรงมากนะ แต่ถ้าคุณบอกว่านิสัยผมไม่ใช่แบบนั้น ก็แปลว่า คุณยังไม่เข้าถึงขั้น"สาวก"อย่างแท้จริงครับ คุณเป็นแค่คนเสพ IT เฉยๆ ผมวัดจากคำว่าสาวกในวงการอื่นๆด้วยนะครับ
แต่ที่คุณคิดว่าคุณโดนดูถูก ผมว่าคุณคงเป็นสาวกแล้วละ เพราะผมในฐานะที่ไม่ใช่สาวก ผมอ่านแล้วรู้สึกเฉยๆมากๆกับไอ้ 6 ข้างบนนี้ แถมคุณยังมีเชียให้ลองแอปเปิ้ลตอนจบด้วย งั้นผมเอามั้งนะ ขำๆนะอย่างเครียด
สำหรับคนที่เคยลองแอปเปิ้ลมาแล้ว คุณก็ลองยี้ห้ออื่นซักหน่อยก็ได้ถ้ามีโอกาส..
และสำหรับคนที่ลองแล้วติดใจ ก็ไม่เห็นจำเป็นว่าจะต้องให้คนอื่นเค้าติดใจไปกับคุณด้วยหนิ?
แน่นอนว่าเรามีสิทธิที่จะแนะนำ..
อาจจะประเมินคำว่า "ดูถูก" ไม่เท่ากันก็ได้ครับ...
อาจจะใช่ก็ได้ครับ
ไม่เกี่ยวครับต้องดูเจตนาผู้พูดครับ
ไม่งั้นผมก็ฟ้องข้อมิ่นประมาทคนที่มาจ้องหน้าผม
เพราะผมประเมินว่าเขาจ้องหน้าผม ด้วยท่าทาง "ดูถูก" ได้น่ะสิครับ
ถ้าอยากรู้ว่าคุณ mk ดูถูกหรือไม่ ผมคิดว่าถามตรงๆได้เลยครับ
เพราะอ่านข้อความคุณ mk มานานเป็นปีพอจะรู้ได้ครับว่าเป็นคนตรงไปตรงมา
พยายามใช้หลักตรรกะในการคิดครับ
ส่วนตัวแล้วผมคิดว่า จัดประโยคใหม่มันจะซอฟท์ลง
คือ
เลิก
- "ใช้สินค้าแอปเปิลเพื่อสร้างความรู้สึกเหนือกว่าของตน" และ
- "เหยียดคนที่ใช้ของยี่ห้ออื่น"
ก็แปลว่า ถ้าคุณไม่ได้ "ใช้สินค้าแอปเปิลเพื่อสร้างความรู้สึกเหนือกว่าของตน" ก็จงใช้ต่อไป ไม่มีใครว่า
ผมเข้าใจว่า อาการของคนที่ "ใช้สินค้าแอปเปิลเพื่อสร้างความรู้สึกเหนือกว่าของตน" มักจะมีเหมือนกัน
คือ จิตสำนึก Zealot
คุณเป็นรึเปล่าล่ะ?
ผมต้องการจะบอกว่าประโยค
อาจจะประเมินคำว่า "ดูถูก" ไม่เท่ากันก็ได้ครับ...
ไม่ถูกถ้องครับ
คุณ Thaina อย่าพาคำพูดผมออกนอกประเด็นนะครับ
เหตุผลที่ผมนำใช้อธิบายมันไม่ได้ใช้แค่กับคำพูดของคุณ mk คนเดียวนะครับ
ผมออกตัวก่อนนะครับ ว่าผมก็วางแผนจะซื้อ ทั้ง iPad (Gen หน้า เพราะคิดว่า Gen นี้ กั๊ก) Macbook Pro และ iPhone 4 (ถ้ามันไม่มีปัญหา)ครับ..
ผมไม่รู้นะครับ ว่าคุณจะเคยได้ยินประโยคเหล่านี้หรือเปล่า?
"อะไรเนี่ย? ยังใช้วินโดวส์อยู่เหรอ?" (ถึงมันจะเป็น Windows 7 ก็ตาม)
"เมื่อไหร่จะเปลี่ยนไปใช้แมค?"
"แมคมันดีกว่าแน่นอนอยู่แล้ว"
"จนอ่ะดิ่ ไม่ยอมซือแมค"
"ไปอยู่ไหนมา เดี๋ยวนี้ถ้าไม่ไอโฟน ก็ต้องบีบีแล้ว"
"ลืมไป มันไม่ได้ใช้ไอโฟน"
ฯลฯ
ผมไม่ได้น้อยใจครับ HP ผมมีสุขภาพดี และทำให้ผมได้เล่น Modern Warfare 2 และ PES 2010
Nokia 5230 ของผมโทรเข้าออกได้ชัดเจน ใส่ Headset BT ได้ เปิดรับสายได้ 2 วัน
ที่ผมจะเปลี่ยนใจไปใช้แมค ก็เพราะว่าแบตเตอรี่ครับ
รุ่นใหม่ๆ อยู่ได้นานขึ้น น่าพอใจกว่าเดิม คุณสมบัติเท่าเดิม หรือเพิ่มขึ้น ผมก็พอใจมากแล้วครับ..
"แมคมันดีกว่าแน่นอนอยู่แล้ว" เคยเจอสาวกหน้าใหม่บอกมาอย่างนี้เหมือนกัน ผมตอบไปว่า "กูฉลาดพอที่จะที่จะเลือกของดีได้ในราคาที่มีสมองกว่าแมคว่ะ" - ไม่ได้ว่าคนซื้อแมคไร้สมองนะ แต่หมั่นไส้ไอ้นี่จริงๆ :P
"ไปอยู่ไหนมา เดี๋ยวนี้ถ้าไม่ไอโฟน ก็ต้องบีบีแล้ว" แนวนี้ก็เคยเจอ ผมเป็นคนใช้ Windows Mobile ผมเลยตอบไปว่า "มึงอ่ะดิ่ไปอยู่ไหนมา โทรศัพท์กูทำได้ก่อนของมึงเป็นชาติ" - แต่อย่าไปสาวประวัติ BB ให้มันแล้วกัน เดี๋ยวเข้าตัว :P
พวกใช้ mac แล้วลง Windows นี่งี่เง่ากว่าครับ ผมเจอเยอะมากเพราะงานที่ผมทำ app ส่วนใหญ่ต้องใช้ Windows ทั้งนั้น
ตรงที่มีแสง
สาวกแบบผมก็ลง Windows ครับ
ไม่รู้ว่างี่เง่ารึเปล่า แต่ผมใช้มันเล่นเกม เพราะมันเป็นเรื่องที่ OS X ให้ผมไม่ได้
และอีกอย่างนึงคือ เอาไว้เทสเว็บบน IE ครับ :)
ที่คุณพูดมาก็ถูกครับ แต่ไม่ถูกทั้งหมดในกรณีนี้ คิดดูสิครับถ้าผมคิดว่า "ดูถูก" แม้เป็นสิ่งที่เล็กน้อยก็ถือ แต่บางคนบอกว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่เด่นชัด ไม่ถือ... อย่างนี้ผลที่ได้ก็ต่างกันแล้วครับ...
ผมถึงบอกไงครับว่าถามตรงๆ ไปเลยครับ ไม่ต้องอ้อมค้อม ไม่ต้องแสดงความรู้สึกอะไรทั้งนั้น ใช้ความคิดที่เป็นเหตุเป็นผลพอ
ถ้าเขาตอบว่าใช้ก็แปลว่าเขาดูถูก คุณพูดถูก ถ้าเขาว่าไม่ก็คือเขาไม่ได้ดูถูก คุณก็เป็นฝ่ายผิดแทนขอโทษเขาไป(จบไม่จบเรื่องว่ากันอีกทีนึง)
อย่าทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก อย่าให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลครับ ผมเชื่อนะครับว่าคนหลายคนในที่นี้ สามารถยอมรับความคิดอีกฝ่ายได้ง่ายๆ เลยครับ ถ้าอีกฝ่ายมีเหตุผลมากพอที่หักล้างความคิดของเขาได้นะครับ
หรือจะให้ผมคิดคำถามหรูๆให้ก็ได้นะ เอาเป็น
เท่านี้ล่ะครับ ผมเชื่อนะครับว่าเขาต้องรับฟัง เพราะเขาก็มีอะไรบางอย่างเหมือนผม เหมือนกับคุณนั้นล่ะ ไม่งั้นคงจะไม่มาอยู่สังคมเดียวกันได้หรอกครับ
ผมไม่ได้หมายถึงคุณ mk ครับ..
ผมไม่มีปัญหากับคนที่ใช้สินค้าของแบรนด์ไหนๆ เพราะชอบคุณภาพของสินค้าแบรนด์นั้นๆ นะครับ ผมเองก็ใช้สินค้าของแอปเปิลหลายตัว ลองค้นดูข่าวเก่าๆ ได้
ผมให้เกียรติผู้อ่าน Blognone ทุกท่านเสมอ แต่ผมจะไม่อดทนกับ "สาวก" ทุกชนิดครับ
ทุกวันนี้บ้านเรามีเว็บแฟนคลับแอปเปิลมากมาย ถ้าชอบอ่านแต่เรื่องดีๆ ของแอปเปิลก็ไปอยู่แถวนั้นแทนได้ ผมไม่เคยว่าอะไร หรือถ้าเห็นว่าเว็บที่มีอยู่ในปัจจุบัน (รวมถึง Blognone ด้วย) ยังไม่ดีพอ ผมก็สนับสนุนให้เปิดเว็บ "ที่ตัวเองคิดว่าดี" ขึ้นมาโชว์ให้ผมเห็นครับ
คำว่า "สาวก" นี้หมายความว่า "หมายถึงคนที่ออกมาพูดแบบลอยๆไม่มีหลักฐาน ใช้ความรู้สึกตัวเองตัดสิน" ถูกมั้ยครับ?
もういい
ถูกครับ ถ้าจะให้ขยายต่ออีกนิด ก็เป็นพวกปกป้องแบบไม่ลืมหูลืมตา และเหยียดคนที่ใช้แบรนด์อื่นๆ ด้วย
ตอนแรกคิดว่า "สาวก" ก็คือคนที่ใช้แบรนด์นั้น และพอใจ ... แสดงว่า "สาวก" เราหน่วยไม่เท่ากัน
แต่แค่บอก want dumb phone buy nokia เป็นสาวกเลยหรอครับ (จาก comment นี้ ที่ยกสิ่งที่สาวกไม่ควรทำและบอกว่าคงยากเพราะมี dumb phone ด้านบน)
ในข่าวนี้ก็มีคนที่เรียก dumb phone แทน feature phone เหมือนกัน และเหตุผลก็มีอยู่ด้านบนหมดว่า Nokia เก่งด้านโทรศัพท์และฟังก์ชั่นพื้นฐานครบครันมากกว่า การจะบอกว่าถ้าอยากได้แบบนั้นให้เลือก Nokia (ก็ iPhone ทำด้านพวกนี้สู้ Nokia ไม่ได้หนิ) มันเข้าข้อไหนใน 6 ข้อนั้นหรอครับ?
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
จริงๆ ผมว่าจะไม่ตอบแล้ว แต่เอ่ยถึงความเห็นของผมโดยตรง คงขอตอบสั้นๆ ว่าผมกำลังเห็นความพยายามจับแพะชนแกะ เอาคอมเมนต์สองอันที่พูดคนละเรื่องกัน (แต่มีคำเดียวกัน) มาปฏิเสธพฤติกรรมแย่ๆ ของฝ่ายตนนะครับ
ผมเตือนแล้วนะครับ
ผมก็เพิ่งรู้จากความเห็นหลังๆ ว่า Dumb Phone = Feature Phone อ่ะครับ
แถมเจ้าตัวคนโพสต์ก็ไม่ได้ออกมาแก้ต่างอีกต่างหาก
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
ข้อ 6 ผมเห็นด้วยนะ mk นะครับ
เพราะว่าถ้าเป็นแบบที่คุณบอกมันคือความพอใจครับ
แต่หลายๆ คนที่ใช้ mac มันจะดูถูกคนอื่น(เครื่องอื่น)
ถ้าใช้ iPhone เพราะว่าเกมมันดีผมก็ไม่ได้ว่าอะไร
แต่ที่คุณ mk จะสื่อก็คือ
จะมีคนบางจำพวกที่ซื้อ iPhone/mac มาเพราะว่า อยากให้รู้ว่ากูมีตัง(สุดท้ายมาบ่นว่าเล่นเกมไม่ได้)
May the Force Close be with you. || @nuttyi
+1 แรงๆ
จะมีคนบางจำพวกที่ซื้อ iPhone/mac มาเพราะว่า อยากให้รู้ว่ากูมีตัง(สุดท้ายมาบ่นว่าเล่นเกมไม่ได้)
คนรอบข้าง และคนที่ผมเจอมาเป็นแบบนี้เยอะมากๆ สงสัยเป็นความซวยส่วนบุคคล
+1
ยังไม่เคยเห็น แฟนบอย Apple มาด่า สาวก Apple ละซิ
Hot จริงๆครับ ข่าวนี้
Hot มาก ผมตกใจกับจำนวนคอมเม้นท์เลย ผ่านไปแค่ครึ่งวัน
เกิน 200+ คอมเมนต์แล้ว แรงจริงๆ
นั่นซิ ขอลงชื่อหน่อย อิอิ
จะได้ลงเว็บดราม่ามั้นนะ ฮ่าๆ
+1
กำลังจะพิมทีเดียว แต่เห็นอันนี้ก่อน
มันส์...
ผมรอ iphone 4 ที่โทรไม่ได้อยู่ ไม่รู้จะมีมาหรือเปล่า (ipod touch) ^^
ผมก็รอครับ อยากรู้ว่าจะทำให้ผมช้ำใจได้เท่าไร
(ปีที่แล้ว ไม่ช้ำใจเลย)
มองว่าโทรศัพท์เป็นเครื่องมือที่เอาไว้ใช้สื่อสารชนิดหนึ่ง ไม่ว่าจะ voice หรือ data
อ่านแล้วเครียดแทน
Want dumb phone, Buy Nokia! ทำซะกระทู้ยาวเลย 55
ตามความเข้าใจของผม คือ Apple พลาดท่า และ Nokia ซ้ำ ก็เท่านั้น
ทั้งคนชอบ Nokia เชียร์ Apple ต่างเอาข้อดี ข้อเสียมาเป็นข้อมูลกัน อ่านๆ แล้ว ก็รวมความตามความคิดผมคือ
มือถือยี่ห้ออะไร ก็ดีทั้งนั้นแหละแต่ก็ไม่ได้ดีทุกรุ่น และเราก็ไม่ได้ชอบทุกยี่ห้อ ทุกรุ่นด้วย บางรุ่นดี บางรุ่นไม่ดี แต่ไม่ได้หมายความว่ายี่ห้อนั้นทั้งหมดดี หรือ ไม่ดี
การที่จะเอา OS ที่ต่างกัน เครื่องที่ต่างกัน วัตถุประสงค์การใช้งานต่างกัน รุ่นต่างกัน มาเปรียบเทียบกัน แล้วแยกแค่ยี่ห้อ แค่ รุ่นนึงของยี่ห้อ A ดีกว่าอีกรุ่นนึงของอีกยี่ห้อ B แล้วรวมว่ายี่ห้อ A ดีกว่ายี่ห้อ B ผมว่ามันก็แปลกๆ
ความคิดเห็นส่วนตัวครับ ยินดีรับความคิดเห็นท่านอื่นๆ
ขอลงชื่อว่าอ่านถึงตรงนี้แล้ว
ไม่เกี่ยวกับหัวข้อข่าว
พอคอมเม้นเยอะๆแล้ว เวลารีเฟชเนี่ยมันโหลดช้าๆนะครับ ไม่แน่ใจว่าเป็นที่คอมผม หรือว่าที่ตัวเว็บ
โอ๊ยยยย ยาวจริง
[Blog ZeroEngine] [@ZeroEngines]
ผมเป็นคนหูไม่เบา และ เชื่อคนยาก
แต่... ความจริงก็คือยังไม่มีใครในที่นี้เคยใด้ ลองใช้ iphone 4 จริงๆ
เพราะฉะนั้น ผมขอแนะนำให้ ใด้มาลองใช้กันจริงๆ ก่อน นะครับ ก่อนที่จะตัดสินอะไร มากไปกว่านี้ นะครับ....
ผมใช้ nokia และ iphone อยู่
คือ nokia e50 นี้ใช้ ดี ทน มาก แต่ ตอนนี้ เปลี่ยนมาใช้ e52 แล้ว ไม่ประทับใจ (ทั้ง software และ hardware) อย่างแรง
ส่วน iphone 2g นี้ เอาใว้ check mail, เล่น net และ forward call to nokia ครับ
จริงๆ เรื่องโทรศัพท์จำเป็นจะต้องใช้งานโทรศัพท์ได้ดีอันนี้ผมก็ไม่ค่อยเห็นด้วยนะครับ คิดว่าขึ้นอยู่กับผู้ใช้ด้วย (แต่ก็ยังเชื่อว่าผู้ใช้ส่วนมากกว่าก็ยังคงคาดหวังให้โทรศัพท์ใช้งานโทรศัพท์ได้ดีที่สุดอยู่)
ผมคิดว่าเดี๋ยวนี้ก็คงมีไม่น้อยจริงๆ แหละครับ (แต่ก็คงไม่มาก) ที่คิดว่าอยากได้มือถือในลักษณะเพื่อเป็น portable computing / internet devices มากกว่าการเป็นโทรศัพท์แบบ traditional อย่างที่ผมเคยบอกไปนานแสนนานแล้วว่า ใช้ iPhone มาก็รู้สึกจริงๆ แหละว่าการเป็นโทรศัพท์ช่างกากส์กว่าสมัยใช้ Nokia N70/E51 สุดๆ แต่ลึกๆ ผมก็รู้สึกดีกว่าในภาพรวมเพราะ happy กับการใช้ Twitter/Safari บน iPhone กว่ามาก (และก็เป็นอะไรที่ใช้เยอะกว่าโทรศัพท์สุดๆ) ถ้าให้เปรียบเหมือนที่เคยเปรียบ ก็คือ Nokia เป็นโทรศัพท์ที่มีฟังก์ชันอินเทอร์เน็ต กับ iPhone เป็นอุปกรณ์อินเทอร์เน็ตที่มีฟังก์ชันโทรศัพท์ ซึ่งของแบบนี้ผมคิดว่ามันแล้วแต่คน (ผมเองก็ไม่รู้สึกเลยสักนิดว่าตัวเองจะเป็น sample space ของ population ที่ดีเท่าไหร่) เพราะฉะนั้นแต่ละคนก็คงมีเหตุผลที่จะเลือกซื้ออะไรเพื่อเอาไว้ใช้งานอะไรแตกต่างกันไปครับ ต่อให้คนจะเลือกซื้อแอปเปิลเพื่อความหรูหราส่วนตัวผมว่าเค้าก็ไม่ผิดครับ ตราบใดที่เค้าชัดว่าเค้าทำอะไรเพื่ออะไร เรื่องแบบนี้ไม่เห็นจะต่างกับคนใช้กระเป๋านาฬิกาเสื้อผ้าหรูๆ เลย เค้าก็ไม่ผิดอะไรตราบที่เค้าก็มีเงินจะจ่าย (แต่ตัวเองหรูแล้วมาข่มชาวบ้านก็ไม่ไหวจริงๆ นะแหละ)
ส่วนไอ้เรื่องหยามกันไปหยามกันมาในวงการธุรกิจก็เฉยๆ ครับ คิดว่าเป็นเรื่องปกติ เห็นมีกันทั่วไป มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ว่าต่อให้ใครห่วยยังไงก็คงไม่ออกมาประกาศว่าของชั้นห่วย อย่างน้อยก็จนกว่าจะหามาตรการที่จะรับมือรับรองอะไรได้ชัดๆ ก่อน เช่นไอ้เรื่องเสาอากาศนี้ผมว่าแอปเปิลก็พลาดจริงๆ น่ะแหละครับ แต่ก็ยังรู้สึกว่าสัปดาห์สองสัปดาห์นี่ยังเป็นเวลาที่รับได้กับการที่ยังไม่มี action อะไรออกมารองรับเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ แต่ถ้าเลยกว่านี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ก็ภาวนาให้จัดการได้เรียบร้อยด้วยดีครับเพราะนอกนั้นหลายๆ อย่างใน iPhone 4 ก็น่าสนใจจริงๆ
ส่วนเถียงกันนี่ก็เห็นด้วยกับคุณ mk/Lew นะครับว่าเถียงไปเถอะตราบเท่าที่มีข้อมูลยืนยันอะไรกันชัดๆ เพราะทุกอย่างก็มีดีมีร้ายในแต่ละแง่มุมที่แตกต่างกัน แล้วแต่ว่าเราจะให้ความสำคัญกับอะไร
"มือถือในลักษณะเพื่อเป็น portable computing / internet devices มากกว่าการเป็นโทรศัพท์แบบ traditional"
โอ๊ะ! ผมคิดออกแล้วครับ.. ผลิตภัณฑ์นั้นคือ iPod 16GB 3G ไม่ก็ iPad 3G Mini
แล้วก็พกโทรศัพท์ไว้ข้างกายอีก 1 เครื่อง -*-
เอาฮานะครับ
ลงชื่อนิสนึง... มันส์และปวดตับจริงๆ = =''
ศรัทธาไม่ต้องการเหตุผล (จริงๆ)
ใครพอใจจะใช้ก็ใช้ ใครพอใจจะซื้อก็ซื้อ คิดแบบนี้น่าจะดี :))
A chemical rush''
Pages