ซีอีโอร่วมบริษัท RIM คุณ Mike Lazaridis ได้กล่าวตอบโต้ประเด็นที่ BlackBerry โดนแบนใน UAE และซาอุดีอาระเบีย (และอินโดนีเซียอาจแบนด้วยในอนาคต) รวมถึงอินเดียที่ตอนนี้ RIM ยอมที่จะเปิดให้รัฐบาลเข้าตรวจสอบข้อความในระบบนั้นผ่านไปแล้ว โดยเขากล่าวว่า
สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ต และทุกอย่างในอินเทอร์เน็ตล้วนถูกเข้ารหัสไว้ นี่ไม่ใช่เพียงแค่ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ BlackBerry เท่านั้น หากพวกเขาไม่สามารถจัดการกับอินเทอร์เน็ตได้ พวกเขาก็ควรปิดมันซะ
เขายังได้กล่าวต่ออีกว่า RIM กำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่องที่จะทำงานร่วมกับพวกเขาเพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาเข้าใจความเป็นจริงของอินเทอร์เน็ต [เพราะ] ผู้คนเหล่านั้นไม่ได้จบปริญญาเอกมาและพวกเขาก็ไม่ได้จบทางวิทยาการคอมพิวเตอร์มาด้วย
ถึงคุณ Lazaridis จะกล่าวพาดพิงอย่างรุนแรงก็ตาม แต่ดูเหมือนเขายังเชื่อมั่นว่าสถานการณ์เหล่านี้จะดีขึ้น ดังจากคำพูดของเขาที่ว่า "มันจะได้รับการแก้ไข หากมีโอกาสเข้าไปพูดคุยอย่างมีเหตุผล"
ที่มา: Wall Street Journal และ AP ผ่าน Engadget
หมายเหตุ ข้อความใน [] เพิ่มเติมโดยผู้เขียนข่าวลง Blognone
Comments
โอีะ!!! โดนนนนน
ผมเคยวิเคราะห์เรื่องนี้ในคลาสเรียน MIS ที่นิด้า
ว่า RIM ไม่ต้องสนใจเรื่องการโดนบังคับให้ยกเลิก BB
เพราะบริษัทอื่นก็มีส่วนที่ทำไม่ได้เหมือนกัน ทำไมต้องมาลงกับ BB อย่างเดียว
เห็นทีตอนนี้ RIM คงจะโดนในแง่ของอิทธิพลทางการเมืองมากกว่าครับ
ความเป็นจริง การแก้ไขเรื่อง server ให้จัดเก็บข้อมูลได้ ก็คงจะแก้ไขปัญหาแล้วหละ
รัฐบาลของอเมริกาเองทำได้นะครับ รู้สึกว่าจะมีกฎหมายกำหนดเอาไว้ ว่ารัฐบาลจะต้องสามารถถอดรหัสได้ทุกอย่าง
+1 ประเทศจีนจึงไม่ยอมใช้ของเมกามากไงคับ เกาหลีเหนือด้วย
ประเทศจีนกำลังใกล้ถึงเวลาโดนเจาะตลาดการสื่อสาด้วย blackberry ในไม่ช้านี้แหละคับ ถ้าทำสำเร็จ แค่อินเดีย+จีน RIM ก็มียอดผู้ใช้เยอะที่สุดในตลาด Smartphone และก็นำ iPhone Android Symbian ขาดรอย
แรงอะ " ผู้คนเหล่านั้นไม่ได้จบปริญญาเอกมาและพวกเขาก็ไม่ได้จบทางวิทยาการคอมพิวเตอร์มาด้วย"
อันที่จริง ท้ายข่าวจาก Wall Street Journal ก็ได้แซวซีอีโอท่านนี้ด้วยว่า เขาก็ไม่ได้จบเหมือนกัน เพราะลาออกมาเปิดบริษัทที่ปัจจุบันกลายเป็น RIM
อ้าว....ซะงั้นอะ แต่ลาออกมาเปิด บ. จนรวยขนาดนี้ก้ถือว่าคุ้มนะ เหอๆ
แต่มุมมองผม ผมรู้สึกว่า เขาเข้าใจ มากกว่านะ
Jusci - Google Plus - Twitter
" ผู้คนเหล่านั้นไม่ได้จบปริญญาเอกมา และพวกเขาก็ไม่ได้จบทางวิทยาการคอมพิวเตอร์มาด้วย"
" หากพวกเขาไม่สามารถจัดการกับอินเทอร์เน็ตได้ พวกเขาก็ควรปิดมันซะ"
ถ้าจ๊อบเป็นผู้ที่พูดสองประโยคนี้
ผมกล้าเอา... รับประกันว่าคนแถวนี้บางท่านคงรับไม่ด๊ายไม่ได้ หุหุ
+1
That is the way things are.
อาจเห็นบิลเกตต์เอย จ๊อบส์เอย ปากจัดแล้วบริษัทใหญ่โต เป็นตำนาน เลยขอลองปากจัดดูบ้าง
แต่มันเป็น fallacy logic นะ
ฝนตกแล้วถนนเปียก แต่ถนนเปียกไม่จำเป็นที่ฝนจะต้องตก
โมโห้เลย อิอิ
คนเหล่านั้นไม่เห็นจำเป็นต้องจบการศึกษาในระดับ และสาขาอย่างที่บอกหรอกครับ
คนพวกนี้ สามารถหาคนเหล่านี้มาเป็นมือเป็นไม้ได้ เยอะแยะมาก
และการลักลอบดักข่าวสารทางอินเตอร์เน็ต เขาทำเป็นประจำอยู่แล้ว ในกิจกรรมต่อต้านการก่อการร้าย
และสงสัย BB คงจะแกะยากไปมั้ง หรือยังแกะได้ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ และไม่ได้รับความร่วมมือ
เลยต้องออกมากดดันซักหน่อย
สังเกตได้ว่า มีแต่ประเทศอิสลามเท่านั้นที่พยายามจะแบน blackberry (ยกเว้นอินเดีย รายนั้นเค้ากัวฝ่ายต่อต้านรัฐบาลใช้บีบีสื่อสารในการต่อต้านรัฐบาล)
ข่าวล่าสุด อินโดกำลังพิจารณา ตาม UAE ไปอีกราย
*อินโดเป็นลูกค้า blackberry ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
จริงมากๆ เพื่อนผมบอกว่าเด็กอายุ 14-15 ถือบีบีกันให้ควั่ก
ถ้าลูกค้าไม่ยอม ผมว่างานนี้ อินโดกำลังจะฆ่าตัวตาย เพราะในอินโด ประชากรส่วนใหญ่เข้าถึงอินเตอร์เน็ตผ่าน blackberry
เลิกใช้ก็กลับไปเป็นประเทศด้อยพัฒนาไปเลย
BBหันมาใส่ใจตลาดพี่ไทยดีมั้ย รับรองของเรารัฐบาลไม่โวยวายแน่นอน!!!