บริษัทเดลล์ประกาศท้าชนกับ RIM โดยเริ่มต้นตั้งแต่พุธหน้าเป็นต้นไปพนักงานของบริษัทราว 25,000 คนจะเปลี่ยนจาก BlackBerry ไปเป็น Venue Pro สมาร์ทโฟนรัน Windows Phone 7 แทน
CFO ของบริษัทบอกว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการติดต่อสื่อสารในระยะยาวของบริษัทเองลงได้ถึงร้อยละ 25 ส่วน BlackBerry เครื่องเก่านั้นเดลล์ก็จะนำไปขายบน eBay นอกจากนั้นเดลล์ยังจะให้ความช่วยเหลือบริษัทอื่นเปลี่ยนจาก BlackBerry ไปใช้แพลตฟอร์มอื่นอีกด้วย ซึ่งคาดกันว่าเดลล์จะสนับสนุน Windows Phone 7 อันเนื่องมาจากแพลตฟอร์ม Exchange ได้รับการนำไปใช้อย่างกว้างขวาง มีความเสถียร และมีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าการใช้บริการ BlackBerry
ข่าวนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความตกต่ำของ RIM ในตลาดธุรกิจก็เป็นได้
ที่มา: WSJ ผ่าน Windows Phone Central
Comments
แรง...
จะมีบริษัทไหนตามมาสมทบกับเดลล์มั่งเนี่ย คอยดูต่อไป
"จะมีบริษัทไหนตามมาสมคบกับไมโครซอฟท์มั่งเนี่ย คอยดูต่อไป"
ไม่ได้ชอบ BB นะครับ แต่ไม่ชอบวิธีนี้ของไมโครซอฟท์ (และอินเทล (และแม่โขง)) มาแต่ไหนแต่ไร
แม้ว่ามันอาจจะถูกกฎหมายก็ตาม แต่ไม่แฟร์เอาเสียเลย
วิธีไหนของไมโครซอฟท์ครับ? เดลล์เค้าแค่บอกว่าประหยัดค่าใช้จ่ายก็เลยเปลี่ยน ผมเข้าใจว่าหมายถึงค่า BB Service นะครับ เครื่องก็ผลิตเองอยู่แล้วด้วย
โอ้ววว BB เจอศึกหนัก...
แต่ตอนทำ Android ตัวแรกไม่เห็นแรงอย่างนี้แฮะ
Dell เปิดเลยแฮะ
เผื่อได้ส่วนลดค่าไลเซนต์ Windows 7 สำหรับเครื่องคอมฯ ส่วนบุคคล
นั่งเฝ้า ebay กด F5 ยิกๆ
+1
+f5
+100000 !!!
เตรียมรอสอย BB ราคาถูก
Exchange นี่เวิร์คจริง ๆ อย่างที่เค้าว่ากันแหละ ยังไม่สามารถหาอะไรมาเทียบมันได้ (ในความคิดผม)
Exchange 2010 ที่ใช้อยู่นี่เวิร์คอย่างแรง เสถียรมาก
ชักอยากลอง Windows Phone 7 แล้วแฮะ ว่าจะเจ๋งขนาดไหน สำหรับ Outlook Mobile ใหม่
ที่ใช้อยู่บน Windows Mobile 6.5 ตัว Outlook Mobile 2010 นี่ก็ว่าเจ๋งแล้วนะ
Email Application บน Android 2.1 (Galaxy S) นี่ไม่เวิร์คอย่างแรง
สู้ Email Application บน Bada 1.0 ยังไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าตัว Froyo 2.2 จะเป็นไงมั่งนะ
ที่ใช้งานบ่อย ๆ ก็พวก
- Mail Folder
- Search on server
- Free/Busy Status บน Contact
ฟังก์ชั่นพวกนี้ ถ้าไม่ใช่ Windows Phone อย่าหวังว่าจะได้ใช้
แต่บน Bada 1.0 มี 2 อันแรกนะ อันที่ 3 ไม่มี
Mail Folder บน Galaxy S กากมาก ๆ เลย ใช้ไม่สะดวกสุด ๆ หรือปรับไม่เป็นก็ไม่รู้ ลองแค่แป๊บเดียว (ของผู้จัดการโรงงาน) iPhone (ของเจ้านาย) ไม่ต้องพูดถึง ยิ่งกากกว่าอีก มีแค่อันแรกอันเดียว
Business Phone ที่ยังต้อง Synchronize กับ Microsoft Exchange แบบเต็มรูปแบบ
ยังไงผมก็ยังยืนยันว่า ยังไม่มี Platform ไหนสมบูรณ์แบบเท่า Windows Phone / Windows Mobile นะ
iPhone นี่มัน Search on server ไม่ได้เหรอครับ เคยลองเหมือนมันได้นะ ไม่ได้รอมันหาหรอก แต่เห็นกดหาแล้วมันขึ้นว่าหาบนเซิร์ฟเวอร์
ไม่มีจริง ๆ ครับ หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ให้คนใช้พยายามหาอยู่ 2 วัน ก็หาไม่เจอ
บน iOS4 แล้วนะครับ
มัน Search ได้เฉพาะที่ Sync มา (นึกในใจ แล้วจะ Search ทำแป๊ะอะไรเนี่ย Sync มาแค่ 7 วัน)
+1 โคตรเซ็งเวลาจะหาเมล์อะไรใน iPhone
กดหนึ่งไล้ค์ให้หนึ่งกี๊ฟ
อยากแทง iPhone ให้ทะลุ แทงเรื่อง search mail เลยครับ
ผมขอตายคาดาบท่าน (ที่สุดแห่งความเซ็ง)
สงสัยจะหาไม่ดีมั้งครับ
ผมใช้อยู่ทุกวัน
มันมีครับ ทั้ง Search all inbox
และหากเรา Search ไปแล้วจะมี Menu Search on server ออกมาครับ อยู่ล่างสุดของ Mail ที่หาได้
เพียงแต่
.
.
.
.
พอกดหาแล้ว มันจะบอกว่า Connection failure ตลอดเลย
ท่านแน่ใจว่ามีจริง ๆ ใช่มั้ยครับ
ขอภาพประกอบหน่อยครับ เฉพาะของ Microsoft Exchange ActiveSync นะครับ
ของเมล์ยี่ห้ออื่นไม่เอานะครับ
จะได้เอาไปให้เจ้านายดู รายนั้นบ่นจนน้ำจะท่วมไอโฟนอยู่แล้ว
ทั้งเรื่องแบตอยู่ได้วันเดียว กับหาเมล์ในเซอร์เวอร์ไม่เจอ
อีกเรื่องนึงก็ Free/Busy Status ของ Mail User ใน Exchange ก็ไม่มีติดมากับ Contact เลย
ไม่รู้ต้องใช้ Application อะไรเสริมหรือเปล่า เพราะเวลาจะใช้งานยามจำเป็น จะทำนัดหมาย หรือประชุม บางครั้งชนกันประจำ เนื่องจากมองไม่เห็นสถานะคนนั้นว่าว่างหรือไม่ว่าง (เจ้านายบอกมา)
ของ Windows Mobile 6.5 ที่ผมใช้อยู่ สบายบรื๋อ กดอ่านค่าสถานะจาก Contact ได้เลย
อ้อ...ล่าสุดมีทำ Online Archive บน Exchange 2010 อีก
ตัว Bada 1.0 ที่เคยหาได้ จะหาได้เฉพาะบน Mailbox ปกติเท่านั้น จะหาบน Archive Mailbox ไม่ได้
แต่ของ Outlook Mobile ที่ตอนแรกผมก็นึกว่ามันจะหาไม่ได้ กลับหาได้เฉยเลย แต่หานานกว่าปกติหน่อย กว่าจะมา (สงสัยมันคงไล่ Mailbox ปัจจุบันก่อน แล้วค่อยไปหาใน Archive Mailbox เลยนานเป็นพิเศษ)
@fozarn
>
ล่าสุดผมไปลองหาดูใหม่จากเครื่องของพี่ที่ออฟฟิศ หาเจอแล้วครับ
ต้องเลื่อนลงไปล่างสุดเลย กรณีมันหาเจออันที่ Sync มาก่อน
แต่ถ้ามันหาไม่เจอจากที่ Sync เราจะเห็นมันเลย
สงสัยที่หาไม่เจอเมื่อก่อน เพราะไม่ได้เลื่อนลงมาจนสุดแน่ ๆ เลย
ปิดประเด็นเรื่องนี้ไปจาก Email Application บน iPhone นะครับ
ตัวที่ทดลองคือ iOS 4.0.3 ครับ ไม่ผ่านการ Jailbreak
Exchange ที่เวิร์คนี้ต้นทุนในการบริหารสูงจริงๆนะกว่าจะเซ็ตอัพทุกอย่างให้ลงตัว ไหนจะเรื่อง Backup อีก ไหนจะเปิดสัญญาณผ่าน ISA ให้มือถือซิ้งค์อีก หลังจากที่ Exchange ล่มเมื่อปีที่แล้ว ภายในครึ่งวัน ผมย้ายไปใช้ Google Apps เอ่อ...ที่ว่ามาทั้งหมด Google Apps นี่ใช้คู่กับ iPhone (ผ่าน Active Sync) หรือคู่กับ Android ก็ทำได้เหมือนกันนะครับ
...ตอนนี้เลิกใช้ Exchange แล้ว ขอบอก
*** จริง ๆ ผมไม่ได้อวย Microsoft นะครับ แต่องค์กรธุรกิจบ้านเรา และเหล่าผู้ดูแลระบบทั้งหลาย คงหลีกเลี่ยงยาก ในเมื่อหลีกเลี่ยงยาก เราก็ต้องรักที่จะเรียนรู้และทำงานกับมันให้ได้ (ความจริงควรจะอธิบายก่อน เดี๋ยวก่อนที่จะมีคนหาว่าผมอวยอีก เรื่องที่เอามาเขียนมาจากการใช้งานจริงล้วน ๆ นะครับ)
>
>
@tomyum
>
Exchange ไม่ได้มีต้นทุนบริหารที่สูงนะครับ ความมีเสถียรภาพขึ้นอยู่กับ Hardware และ Server Environment ล้วน ๆ Exchange 2010 ใช้งานบนฮาร์ดดิสก์แบบ SATA ได้ดีแล้ว (ผมใช้อยู่ ก่อนหน้านั้น 2007 ต้องวิ่งกันบน SAS หรือ SAN (HDD Fiber) กันเลย ทำให้ต้นทุนของ Exchange 2010 ลดลงอย่างมาก)
ติดตั้งก็ไม่ยาก มี Best Practice และ Check List ต่าง ๆ ให้ การตั้งค่า ไม่เห็นว่ามันจะยากตรงไหนเลย
ทุกอย่าง Integrate กับ Active Directory หมด
ผมแทบไม่ต้องทำอะไรกับมันเลย ลง Roles ต่าง ๆ ครบ เปิดไว้ให้มันทำงาน
นาน ๆ ถึงจะปิดเช็คระบบครั้ง หรือพวก Security Update / Service Pack ต่าง ๆ
เรื่อง Backup ใน Windows Server 2008 R2 ตัว Backup ฉลาดขึ้นกว่าเดิมมาก ใช้งานได้ง่าย ๆ เลย
หากยังไม่พอใจ Symantec Backup Exec ก็มี Agent สำหรับ Exchange Server เหมือนกัน สามารถ Restore Mail ได้เป็นรายฉบับเลย (เซลล์คุยให้ฟัง ยังไม่เคยลองเหมือนกัน)
Exchange ActiveSync ใช้ผ่านพอร์ต 80/443 ครับ ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย
เปิดพร้อม ๆ กับ OWA นั่นแหละ (เสียดาย OWA ใน Exchange 2010 ตัด Feature อย่าง Direct File Access ออกไป เสียดายมาก สงสัยคงอยากให้ไปใช้ SharePoint แทน แต่นั่น...มันก็คนละฟิลกันเลย)
ถ้าตั้งเป็น Exchange Online Server คือ Relay Mail จากข้างนอกมาด้วย ก็ติดตั้ง EDGE Transport Role เข้าไป พร้อมกับ Forefront Protection แค่นี้ SPAM ก็ไม่มากวนแล้ว
เอ่อ...พูดถึง Forefront มันก็ใช้ Engine ของ Kaspersky กับอีกหลาย ๆ เจ้าในการทำงานนะครับ
อ้อ...เอ้อ...จะหมดทดลองใช้ในเดือนมกราคมปีหน้าแล้ว ยังไม่ได้ทำเรื่องซื้อ License เลย
ถ้าต้องซิงค์กับ Microsoft Exchange เอามาซิงค์กับ Windows Phone ก็คงลงตัวที่สุดจริงๆครับ
ปัญหาคือควมกากของ WinMo
รอดู WP7 ไปอีกสักพัก ว่ามันดีขึ้นกว่าเดิมมั๊ย
แต่กระนั้น รอมันอัพเดทฟีเจอร์เข้ามาให้สมบูรณ์ ผมจะสอยสักเครื่อง
ก็นั่นสิ ถ้าของ Microsoft ด้วยกันเองยังไม่เวิร์คเท่าเจ้าอื่น ก็แย่แล้ว
เป็นหนึ่งในการตลาดโหดๆของ ms ด้วยมั้ยเนี่ย
เดลล์แจกพนักงาน 25,000 เครื่อง ไมโครซอฟท์แจกอีก 89,000 เครื่อง ยังมีบริษัทอื่นที่จะตามมาใช้ WP7 อีก (อาทิ Home Depot ในสหรัฐฯ) ยังไง WP7 ก็รอดแน่ๆ เหอะๆ
แย่แล้ว RIM จะ RIP มั้ยเนี่ย
ว่าจะย้ายไปทางโน้นพอดีเลย แล้วยังไงดีเนี้ย - -"
อันนี้แจกหรือบังคับซื้อครับ
แจกให้ใช้เหมือนรถประจำตำแหน่งอ่ะครับ ถ้าลาออกก็คืนมา
คนใช้BBอ่านข่าวนี้ปรี๊ดแตก
ถามจริง ๆ นะครับ เห่อตามดาราหรือเปล่า
ผมตอบเป็นคำถาม
"คิดว่าพวกนิสัยใช้ BB แบบไม่มีมารยาทนี่มีใครแสดงตัวอย่างให้ดูมั้ย"
คนพอใจจะใช้ ก็ซื้อครับ จะตามใครยังไง แต่ถ้าไม่เดือดร้อนใคร จะไปว่าเค้า จะไปจำผิดเค้าทำไมครับ
ลูกค้าทั่วไปก็ข่าวไม่ดี ลูกคาองค์กรที่เป็นจุดแข็งก็
อ๊ากซ์ เข้า E-bay กด F5 ยิกๆๆๆๆๆ BID กันกระจาย
Samsung ก็เก็บ Super-AMOLED ไว้ให้ WP7 ส่วน DELL ก็เล่นเต็มแรง ผมชักเชื่อจริงๆ ว่ามันจะรุ่งแล้วสิ
วันนี้ไปจับตัวจริงมา ถูกใจอย่างที่คิดไว้เลย ขอให้อนาคตไกลนะ
บริษัทผมจะโดนเหมือนกันไหมเนี๊ย
My life and hobbies blog!
Technology and Gadget blog!
จุดเริ่มต้นของจุดจบจริงๆเลยงานนี้ แต่ยังไง WP7 มันก็ต้องทำงานกับ Exchange ได้ดีอยู่แล้ว
อู้วววว นี่คือขาลงจริง ๆ ละสินะ
อาจไปเร็วกว่าที่คิด ออราเคิล ซิสโก้ เอชพี เตรียมซื้อ
ซิสโก้มีความเป็นไปได้สูงมาก
หรือ Apple จะสอยมาเสริม Push Notification