เป็นมุมมองจากงาน OpenStorage Summit เมื่อปลายเดือนที่แล้ว สรุปเลยก็คือด้วยเทคโนโลยีด้านการเก็บข้อมูลที่พัฒนาขึ้นมาก ทำให้ RAID อาจหมดความสำคัญลง
RAID นั้นเกิดขึ้นมาในสมัยฮาร์ดดิสก์ยังมีขนาด 1GB โดยมันถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ (reliability) ของการเก็บข้อมูล และเพิ่มประสิทธิภาพ-ความเร็วในการเข้าถึงข้อมูล แต่ปัจจุบัน ฮาร์ดดิสก์มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นพันเท่า และมีเทคโนโลยีความเร็วสูงอย่าง flash storage, DRAM, PCIe ทำให้ RAID อาจไม่จำเป็น รวมถึงการที่ดิสก์มีขนาดใหญ่มากทำให้การ rebuild ข้อมูลใน RAID ช้าลงมากด้วย
ที่มา - ZDNet
Comments
เห็นด้วยแค่บางส่วน
บน Desktop หรือ Home Use อาจจะไม่จำเป็น
แต่งาน Server หรือ Enterprise ยังไงก็ต้องมีครับ
มันเป็นการรับประกันความเร็วและความปลอดภัยของข้อมูลสำคัญ หรือข้อมูลธุรกิจที่อยู่บนนั้น
Share Storage ถึงมีฮาร์ดดิสก์จำนวนมาก และ Disk Controller/Storage Processor จำนวน 2 ตัวแยกจากกันด้วย
แต่ใน distributed data storage ก็แทบไม่จำเป็นเลยครับ เพราะธรรมดาระบบจะทำ redundancy เก็บไว้อยู่แล้ว และความน่าเชื่อถือก็มีมากกว่า RAID ด้วย เพราะกระจายตัวไปหลายเครื่อง
แต่หากยังใช้ classic RDBMS แน่นอนว่าจำเป็นต้องมี RAID ทว่าตอนนี้ RDBMS กำลังจะเจอเพดานแล้ว และผมเชื่อว่าอีกไม่นานงาน Enterprise จะค่อย ๆ เปลี่ยนจาก RDBMS ไปใช้อย่างอื่นแทน ทำให้ RAID ลดความสำคัญลงไปด้วย
RDBMS เจอเพดานอะไรครับ แล้ว Enterprise ตอนนี้ใช้อะไรหากไม่ใช้ RDBMS
เพดานปริมาณข้อมูลครับ พอข้อมูลมากเข้าถึงจุดนึง WHERE x="foo" ORDER BY y จะใช้เวลาหลายนาที หรือ หลายชั่วโมง หรือหลายวัน ซึ่ง Cluster ช่วยได้ไม่มากครับ มันมีข้อจำกัดของมันอยู่ ยิ่ง ALTER TABLE ... ยิ่งไปกันใหญ่ ใช้เวลานานเข้าไปอีก
ทางเลือกที่จะเข้ามาแทน RDBMS คือ NoSQL ผมคิดว่าช่วงนี้คือช่วงเปลี่ยนผ่าน เพราะตอนนี้หลาย ๆ บริษัท แม้ขนาดจะไม่ใหญ่มาก แต่ก็เริ่มมีปัญหาเรื่องปริมาณข้อมูลกันแล้ว ไม่ใช่ไม่มีที่เก็บครับ แต่เป็นปัญหา performance
raid 1 ยังไงก็อุ่นใจ
เดี๋ยวนี้ Home use ใช้ raid 0 กันไม่น้อยเลยนะครับ เพราะมัน build-in มาใน MB ทั่วๆ ไป แรงขึ้นแบบรู้สึกได้ เพราะ hdd 5400-7200 rpm สำหรับ home user มันเป็นคอขวดมานานมากแล้ว ส่วน SSD เห็นราคาแล้ว...
ผมก็แปลกใจว่าคนยอมใช้ RAID 0 เพื่อประสิทธิภาพโดยยอมเพิ่มความเสี่ยงของข้อมูล หรือปกติก็ต้อง Backup ข้อมูลสำคัญออกไปอยู่แล้ว เลยไม่เป็นปัญหา
ตรงที่มีแสง
เห็นด้วยเลยครับ เคยใช้ raid 0 อยู่ครั้งเดียว
hdd มีปัญหาตัวนึง ข้อมูลไปหมดเลย จำจนวันตายเลย
RAID0 ใช้เป็น cache_dir ของ proxy server สุดยอดครับ ไม่มีอะไรจะเสีย
ส่วนที่เก็บข้อมูลสำคัญทั้ง backup ทั้ง RAID1 ยังไม่รู้สึกพอใจเลย
RAID0 พึ่งหลุดไปเมื่อวาน กว่าจะเอามาได้ น้ำตาแทบร่วง
ใช้เอามันส์ได้ แต่อย่าเก็บหนังสำคัญๆ ล่ะครับ :D
เอา raid มา mix กับ SSD สิ
http://www.youtube.com/watch?v=96dWOEa4Djs
ถึงจะมี Network RAID แต่ขนาด HDD ปัจจุบันมันก็ยังใหญ่ไม่พอสำหรับองค์กรครับ ผมเห็นด้วยว่าน่าจะมี Technology ที่ดีกว่า RAID ได้แล้ว
ตรงที่มีแสง
ส่วนตัวผมว่าความสำคัญของ Raid เรื่องการสนับสนุนเรื่อง Capacity จะน้อยลงครับ
เพราะ HDD ที่มากขึ้นจริง ๆ นั้นแหละ
แต่ส่วนของ Performance และ Security ก็ยังมีอยู่ ยังไงก็ไม่ตายหรอก
เพียงแต่มันเงียบ ๆ เพราะ มันนิ่งแล้วมากกว่า
เพราะ ส่วนตัวยังไม่เคยเจอใครใช้ RAID แบบแปลก ๆ เลย ส่วนใหญ่ก็อยู่แค่
0 - สาย Performance ,
1 - สาย Security
5 - สาย Capacity + Security,
6 - สาย Capacity + Security (ดีกว่า 5 นิดหน่อย)
และก็ 1+0 - สาย Capacity + Security+Performance (ขั้นเทพ...แพงขั้นเทพจริง ๆ)
แต่มันจะไปทางไหนมากกว่าครับ
เพราะ Technology ระดับสูงอย่างหลาย ๆ ตัวที่เป็นสาย performance กับ data security ยังคงมีราคาสูง
เมื่อเที่ยบกัน Raid นะครับ
seeking for New Frontier...
ตอนนี้ Storage ที่ Disk เยอะๆ ต้องใช้ 50 เพราะ 10 มันทำไม่ได้
1 กับ 10 จริงๆ ถ้ามี Disk 4 ก้อนขึ้นไปก็ทำ 1 ไม่ได้ต้องเป็น 10
5 กับ 6 ต่างกันตรงอืดกับอืดมาก (จริงๆ 5 Disk เสียได้ 1 ก้อน 6 เสียได้ 2 ก้อน)
ตรงที่มีแสง
เห็นมี 50 60 และ 100 แล้วครับ
50 60 นี่เห็นอยู่ แต่ 100 นี่ต่างจาก 10 ยังไงเหรอครับ หลังสุดที่เจอก็ 10+1 10+2
ตรงที่มีแสง
ผมมีงานส่วนนึงเกี่ยวกับ ระบบ diskless ร้าน net
งานระบบ diskless ยังไงก็ต้อง raid 0 อยู่ครับ
จนกว่า ssd ราคา ต่ำลงกว่านี้อีกมากๆ และความเร็ว สัก 500 MB read write
ตอนนี้มีพวก pci-x ssd ออกมาแล้ว แต่ ราคา ความนิยมความทน ยังไม่มีใครรู้เพราะมันพึ่งเกิด อีกสัก 2 - 3ปี
ข่าวนี้อาจจะจริงครับ
เพราะยังไงก็ต้องรอ ssd แก้ปัญหา ลบเขียนซ้ำที่เดิมให้ทนๆ กว่านี้หรือมีระบบกระจายการเขียนฝังมาด้วยไม่ต้องลง software หรือ TRIM อะไรช่วยเพื่อให้ทดแทน hdd แบบเดิม กับ os เก่าได้ัทันที
เรื่อง ความปลอดภัยของข้อมูลปกติ จะ backup master ใส่ไว้ hdd ปกติ ถอดเก็บไว้บนหิ้งก่อนอยู่แล้วน่ะครับ
ส่วนถามว่า สนใจความเร็วมากกว่าความสำคัญของข้อมูลเหรอ ถ้าเครื่อง gamer จริงๆ ไม่สนหลอกหะ เอาเร็วไว้ก่อน อีกอย่าง hdd พวกนี้ไม่ไ้ด้มีแค่ 2 ลูกอยู่แล้ว เผลอๆ มี ถอดกองอยู่ข้างนอกอีกเป็นเข่งๆ
Ton-Or
อืม น่าคิดจริงๆด้วย
tape backup device ยังมีซื้อขายกันอยู่เลย เรื่อง RAID คงอีกนานๆๆๆมาก
ผมมองว่ามันไม่เหมือนกันครับ
tape backup นั้นไม่ real-time ไม่มีการ rebuild
และตรงกับประเด็นในบทความต้นฉบับครับ ที่บอกว่า
ให้เอาข้อมูลที่ไม่ค่อยอัพเดท ออกมาทำสำเนาหลายๆชุด
ส่วนข้อมูลที่ใช้บ่อยๆก็ใส่ flash memory ไว้จะได้เร็วๆ
เพราะปัญหาคือการ rebuild จะใช้ทรัพยากรมากและกินเวลานาน
RAID != Backup ท่อให้ขึ้นใจกันทุกๆ คน
RAID = ช่วยเพิ่มเวลา uptime หรือ เพิ่ม performance, capacity แต่ไม่ได้ช่วยเรื่อง Security
Backup = ช่วยเรื่อง Security
ยกตัวอย่าง มี RAID 1 แต่ DBA หลงสั่ง DROP Database หรือ DELETE/UPDATE แต่ระบุ Where ไม่ถูก แบบนี้ RAID ช่วยไม่ได้ แต่ Backup ช่วยได้
ย้ำอีกครั้ง RAID != Backup
+1 เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
ทุกวันนี้มีหลายคนสับสนระหว่าง RAID 1 กับ Backup พอสมควรเลยครับ
จุดประสงค์ของการใช้ RAID ก็คือเพื่อ Availability, Performance and Capacity ครับ
สำหรับผม ผมมอง raid-1 เป็น backup อย่างนึง เพราะมันช่วยลดความเสียงที่ harddisk จะพังไปได้เยอะ เพราะโดยส่วนตัวเจอ harddisk พังบ่อยเลยไม่ค่อยไว้ใจของพวกนี้
ส่วนเรื่อง backup ปกติ ถ้าระบบที่มี admin error ได้ ก็ยังขาดไม่ได้ครับ แต่อย่างการเก็บไฟล์ที่บ้านผมก็ใช้ raid-1 เป็นหลัก เพราะไม่มีใครจะมาทำอะไรได้อยู่แล้วนอกจากผมเอง ถ้าผมโง่เองก็เป็นเรื่องที่ต้องยอมรับเองครับ 555
เคยไหม.... raid 1 กับ hdd 2 ตัว, เจ๊งไปตัวนึง แล้วไปสั่ง rebuild ตัวที่ไม่เจ๊ง... บรรลัย -*-
iPAtS
ซวยสุดๆ lol
ผมใช้ nas ทำ RAID 1 เอาไว้
คราวนี้ HDD1 มันมี Supperblock ครับ ไฟล์เสีย เปิดไม่ขึ้น ลบก็ไม่ออก
เสร็จแล้วผมก็ไปดูข้อมูลของตัว HDD2 เออ มันก็เสียเหมือนกันว่ะ
สรุป. ตอนนี้ไม่กลับไปใช้ RAID 1 อีกแล้วครับ เปลี่ยนมาใช้ rsync แทน
ไหนๆ ก็คุยเรื่อง Back up แล้ว บน Windows มีโปรแกรม Back up แบบ Watched Folder มั้ยครับ?
พอดีมี HDD เหลือใช้อยู่ 1 ลูก จะขายทิ้งก็ไม่ได้ราคา กะว่าจะเอามาต่อทำเป็น Back up device แต่ก็ไม่อยากต้องนั่งลากวางไฟล์ทุกครั้งไปอะครับ
XP: Start > All Programs > Accessories > System Tools > Backup
7: Start > Control Panel > Backup and Restore
นั่นเป็น Human error ครับ
Security ของ RAID1 ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกัน Hardware error ครับ (เช่น Harddisk ถึงคราว)
ดังนั้น ถ้าว่ากันตามเจตนาของ RAID1 แล้ว RAID1 จึง = Backup ครับ (Hardware)
เพราะ Human error นั้น อะไรก็ช่วยไม่ได้ครับ
เนื่องจาก.. การลืม ไม่ได้ทำ Backup ไว้ ก็คือ Human error เช่นกันครับ
ดังนั้น ควรท่องให้ขึ้นใจว่า RAID1 = Hardware redundancy ครับ จึงจะถูกต้องตามเจตนาที่ออกแบบขึ้นมา
ส่วน Reply ของคุณ wichate
Superblock เสีย ก็คือ Software error ครับ RAID1 ไม่ใช่คำตอบ และไม่ใช่ความผิดของนวัตกรรมนี้ครับ
แล้ว sas มันเร็วกว่าไม๊
ผมว่าเขาคงหมายถึง Hardware Raid นะครับ ผมเห็นด้วยทถกวันนี้ไม่ค่อยจำเป็น เพราะ FS สมัยใหม่ ทำ Raid ได้เกือบทุกตัว (Linux นะครับ) ถึงแม้ว่า FS จะไม่รองรับ ก็เอา LVM หรือ Software Raid มาทำได้ ยกตัวอย่าง FS ใหม่ ที่โดนใจผมมากและใช้จริงจังมา 4-5 เดือนคือ BTRFS
# Stripe the metadata without mirroring mkfs.btrfs -m raid0 /dev/sdb /dev/sdc
# Use raid10 for both data and metadata mkfs.btrfs -m raid10 -d raid10 /dev/sdb /dev/sdc /dev/sdd /dev/sde
ถ้าอยาก Backup ออกไปเครืองอื่นก็ผ่าน DRDB ก็ปลอดภัยดี
ผมเองก็ว่าคงอีกนาน...คงต้องรอ SSD เต็มรูปแบบ
วันนั้นน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมากทีเดียว
ถึงเวลาแน่ แต่ยังไม่ใช่ ณ ตอนนี้หรอกครับ เพราะเทคโนโลยีที่องค์กรณ์ขนาดเล็กจับต้องได้คงแค่ Raid Mirror + Storage ยกเว้น SME แต่มี 67000ล้าน :) ก็ว่ากันไป
ผมว่าตอนนี้เทคโนโลยี Virtualization ทำให้ RAID ดูเหมือนไม่จำเป็นเท่าไหร่
ข้อมูลสมัยนี้มันไม่ได้อยู่ที่จุดๆ เดียว เรียกว่ากระจายไปทั่ว อยิ่งมีระบบ Network storage นี้ไม่ต้องพูดถึง NOS อยุ่ชั้น 1 ส่วน data อาจจะไปอยู่ชั้น 10 ก้ได้ เผลอๆ อยู่ข้ามจังหวัด ประเทศ อิอิ :)
RAID สำหรับผม มันก็ไม่ค่อยจำเป็นจริงๆ แหละ ผมก็ Back up ข้อมูล บ่อยๆ เอาไอใส่ในเครื่องอื่นๆ บ้าง เพื่อที่จะกระจายความเสี่ยงด้าน Hardware เคยทำ HDD พังคามือมา 3 ลูกแล้ว ไม่ไว้ใจ HDD เลย
แต่องค์กร มันยังสำคัญอยู่ เพราะข้อมูลสำคัญบางอันเอาไปเสี่ยงกับ HDD ลูกเดียวไม่ได้จริงๆ
อีก 1 เสียงที่ยืนยันว่ายังเร็วไปที่จะกล่าวครับ คงรอให้ server รุ่นใหม่ๆไม่มี raid devices มาให้ก่อนค่อยว่าเรื่องนี้กัน......ผมว่าพวกเทคโนโลยี flash ใหม่ๆ มันคงไม่ได้มาแทนที่ raid แต่มันน่าจะส่งเสริมกันให้ดีขึ้นยิ่งๆขึ้นไปมากกว่านะครับ เช่นว่า raid + flash device แล้วอาจดีกว่า hdd ทุกวันนี้โขก็เป็นได้นะ
rebuild raid 5 ถ้าทำงานหนักๆ แบบพวก vm นี่อืดกันเป็นวันๆ copy เร็วกว่า rebuild เยอะ
ตรงที่มีแสง